เนื่องมาจากคุณสามีของจขกท. เป็นคนไทยทำงานที่ญี่ปุ่น ถือวีซ่าทำงานของญี่ปุ่นและต้องทำงานที่นั่นระยาวไม่มีกำหนดกลับ เราก็เลยคิดว่าควรย้ายตามไปอยู่ที่นั่นด้วยกันดีกว่า สามีของจขกท.ถือว่าซ่าทำงานประเภท Engineer/ Specialist in Humanities/ Int’1Serivices ต่อวีซ่าทุก 3 ปี ก่อนที่เราจะทำเรื่องขอวีซ่าคุณสามีทำงานที่ญี่ปุ่นได้ปีครึ่งแล้วค่ะ
วันนี้ก็เลยจะมาแชร์ประสบการณ์การขอวีซ่าครอบครัวญี่ปุ่นสำหรับคู่สมรสชาวไทยทั้งคู่เพื่อเป็นแนวทางนะคะ เพราะว่าเราหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่เจอเลย (เจอแต่กรณีที่คู่สมรสเป็นชาวญีปุ่นกับชาวไทย)
สำหรับการขอวีซ่าครอบครัวและ Certificate of Eligibility (COE) ทางบริษัทคุณสามีที่ญี่ปุ่นเป็นฝ่ายสมัครจัดการให้ทุกอย่างนะคะ กระทู้นี้เราเขียนจากประสบการณ์ส่วนตัวนะ แต่ละคนอาจถูกเรียกเอกสารไม่เหมือนกันค่ะ
เอกสารที่ทางบริษัทขอในส่วนของเรามี
1. รูปถ่ายขนาด 4x3 cm
2. ใบสำคัญการสมรส Certificate of Marriage ตัวจริงที่เป็นรูปดอกกุหลาบ คร.3 และฉบับแปลเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งต้องได้รับการรับรองจากกงสุล ด้วย ฉบับแปลให้ไปติดต่อที่กงศุลได้เลยค่ะ แปลให้ฟรีพร้อมประทับตรา เสียแต่ค่าธรรมเนียมประทับรับรองฉบับละ 200 บาท (เราไปที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ)
3. ใบทะเบียนสมรส Registration of Marriage คร.2 ข้างหลังจะมีบันทึกว่าอยู่กินกันมากี่ปีก่อนจดทะเบียน ใช้ทั้งฉบับจริงและฉบับแปลซึ่งต้องได้รับการรับรองจากกงสุลด้วยเหมือนกัน อันนี้ถือว่าเป็นเอกสาร 2 ชุด คือทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เสียค่าธรรมเนียมประทับรับรองฉบับละ 2x200 = 400 บาท
*** ทั้งคร2 และ คร3 ไม่ต้องเสียเงินแปลเองนะคะ ไปที่กงสุลได้เลยหลวงบริการแปลให้ฟรีค่ะ ที่อำเภอก็สามารถออกฉบับภาษาอังกฤษให้ได้ค่ะแต่ความหมายอาจไม่ครบสมบูรณ์นักและเราต้องไปประทับตราที่กงสุลอยู่ดี
*** ทั้งคร2 และ คร3 เมื่อยื่นเอกสารให้ทางญี่ปุ่นไปแล้วจะไม่ได้คืนนะ เวลาไปขอเอกสารที่อำเภอหากต้องการเก็บฉบับจริงไว้ ก็ต้องขอมาเผื่อนะคะ (เราขอมาอย่างละ 2 ชุดค่ะ)
4. สำเนาพาสปอร์ต
5. Resume หรือ CV ของเราเป็นภาษาอังกฤษ ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน
เอกสารของเราใช้เท่านี้ ก็รวบรวมส่งไปรษณีน์ตรงไปให้ทางคุณเลขาที่บริษัทคุณสามีที่ญี่ปุ่นเลย
สำหรับเอกสารที่ทางสามีต้องใช้นะคะ
1. History to marriage เป็นจดหมายเล่าเหตุการณ์ความรักของเรา ประมาณว่าพบรักกันที่ไหน คบกันนานกี่ปี แต่งงานกันเมื่อไหร่ เหตุผลที่ทำไมต้องย้ายมาอยู่ด้วยกัน
2. Life plan in Japan เป็นจดหมายเล่าแผนการในการใช้ชีวิตที่ญีปุ่นของคุณภรรยา เช่นเราจะไปเป็นแม่บ้านดูแลสามีอย่างเดียว จะหางานทำ หรือว่าจะทำงานพิเศษ จขกท.วางแผนจะไปเรียนต่อในระดับปริญญาเอก ก็เขียนไปว่าแผนแรกคือตั้งใจจะเรียนต่อปริญญาเอก แต่ถ้ายังเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ แผนสองคือจะไปเรียนภาษาก่อน จากนั้นจะหางานทำในสายที่เราเรียนมา (จกท.จบตรี / โท วิศวกรรมโยธา)
3. เป็นเอกสารการเสียภาษีให้กับเทศบาลเรียกว่า 課税証明書(Nouzei Shomeisho)” Tax declaration certificate กับ 納税 証明書(Kazei Shoumeisho)" " Municipal Tax declaration certificate อันนี้คุณสามีต้องไปติดต่อที่เทศบาล ที่เราอยู่ที่ญี่ปุ่นค่ะ
4. ตอบคำถามเล็กๆน้อยๆ ตามที่เจ้าหน้าที่ต้องการทราบ ตัวอย่างของเราที่เจ้าหน้าที่ถามนะคะ ตอบไปตามความเป็นจริงค่ะ
- จริงหรือไม่ที่คุณไม่มีเบอร์โทรศัพท์ของญี่ปุ่น - > เราไม่ใช้เบอร์โทรศัพท์ญี่ปุ่น แต่เราลงทะเบียนใช้แพคเกจอินเตอร์เน็ตรายเดือนของญี่ปุ่น
- ภรรยาของคุณมาญี่ปุ่นกี่ครั้งแล้ว ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ --> ก่อนหน้าทำวีซ่า จขกท.ไปญี่ปุ่น 8 รอบ แรกๆไปเที่ยว หลังๆไปหาสามี เฉลี่ย 3 เดือนไปที บ่อยจนเจ้าหน้าที่ตม.กับศุลกากรทัก ก็บอกไปว่าสามีทำงานที่นี่ค่ะ ไปคนเดียวตลอดก็ไม่เคยมีปัญหาใดๆ ไม่โดนเปิดประเป๋าด้วย (เพราะว่าไขกุญแจให้เห็นตั้งแต่รอในแถวแล้ว) อีกอย่างคือคนที่นี่เขาให้ความสำคัญกับสถาบันครอบครัวค่ะ เจ้าหน้าที่คงเห็นใจ
- ครั้งหน้าภรรยาของคุณจะเดินทางเข้าญี่ปุ่นสนามบินไหน --> ทางตม.จะออก Resident Card ให้เราที่สนามบินที่เราตอบค่ะ จขกท.เลือกนาริตะ (ตอบแล้วห้ามเปลี่ยน)
- ภรรยาของคุณมีญาติคนอื่นที่ญี่ปุ่นอีกหรือไม่ --> ไม่มี
ของสามีใช้เอกสารที่ต้องเตรียมเองเท่านี้ค่ะส่วนเอกสารรายได้ทั้งหลายบริษัทคงเตรียมให้
แชร์ประสบการณ์ขอวีซ่าครอบครัวญี่ปุ่น กรณีคู่สมรสเป็นคนไทยทั้งคู่ค่ะ
วันนี้ก็เลยจะมาแชร์ประสบการณ์การขอวีซ่าครอบครัวญี่ปุ่นสำหรับคู่สมรสชาวไทยทั้งคู่เพื่อเป็นแนวทางนะคะ เพราะว่าเราหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่เจอเลย (เจอแต่กรณีที่คู่สมรสเป็นชาวญีปุ่นกับชาวไทย)
สำหรับการขอวีซ่าครอบครัวและ Certificate of Eligibility (COE) ทางบริษัทคุณสามีที่ญี่ปุ่นเป็นฝ่ายสมัครจัดการให้ทุกอย่างนะคะ กระทู้นี้เราเขียนจากประสบการณ์ส่วนตัวนะ แต่ละคนอาจถูกเรียกเอกสารไม่เหมือนกันค่ะ
เอกสารที่ทางบริษัทขอในส่วนของเรามี
1. รูปถ่ายขนาด 4x3 cm
2. ใบสำคัญการสมรส Certificate of Marriage ตัวจริงที่เป็นรูปดอกกุหลาบ คร.3 และฉบับแปลเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งต้องได้รับการรับรองจากกงสุล ด้วย ฉบับแปลให้ไปติดต่อที่กงศุลได้เลยค่ะ แปลให้ฟรีพร้อมประทับตรา เสียแต่ค่าธรรมเนียมประทับรับรองฉบับละ 200 บาท (เราไปที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ)
3. ใบทะเบียนสมรส Registration of Marriage คร.2 ข้างหลังจะมีบันทึกว่าอยู่กินกันมากี่ปีก่อนจดทะเบียน ใช้ทั้งฉบับจริงและฉบับแปลซึ่งต้องได้รับการรับรองจากกงสุลด้วยเหมือนกัน อันนี้ถือว่าเป็นเอกสาร 2 ชุด คือทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เสียค่าธรรมเนียมประทับรับรองฉบับละ 2x200 = 400 บาท
*** ทั้งคร2 และ คร3 ไม่ต้องเสียเงินแปลเองนะคะ ไปที่กงสุลได้เลยหลวงบริการแปลให้ฟรีค่ะ ที่อำเภอก็สามารถออกฉบับภาษาอังกฤษให้ได้ค่ะแต่ความหมายอาจไม่ครบสมบูรณ์นักและเราต้องไปประทับตราที่กงสุลอยู่ดี
*** ทั้งคร2 และ คร3 เมื่อยื่นเอกสารให้ทางญี่ปุ่นไปแล้วจะไม่ได้คืนนะ เวลาไปขอเอกสารที่อำเภอหากต้องการเก็บฉบับจริงไว้ ก็ต้องขอมาเผื่อนะคะ (เราขอมาอย่างละ 2 ชุดค่ะ)
4. สำเนาพาสปอร์ต
5. Resume หรือ CV ของเราเป็นภาษาอังกฤษ ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน
เอกสารของเราใช้เท่านี้ ก็รวบรวมส่งไปรษณีน์ตรงไปให้ทางคุณเลขาที่บริษัทคุณสามีที่ญี่ปุ่นเลย
สำหรับเอกสารที่ทางสามีต้องใช้นะคะ
1. History to marriage เป็นจดหมายเล่าเหตุการณ์ความรักของเรา ประมาณว่าพบรักกันที่ไหน คบกันนานกี่ปี แต่งงานกันเมื่อไหร่ เหตุผลที่ทำไมต้องย้ายมาอยู่ด้วยกัน
2. Life plan in Japan เป็นจดหมายเล่าแผนการในการใช้ชีวิตที่ญีปุ่นของคุณภรรยา เช่นเราจะไปเป็นแม่บ้านดูแลสามีอย่างเดียว จะหางานทำ หรือว่าจะทำงานพิเศษ จขกท.วางแผนจะไปเรียนต่อในระดับปริญญาเอก ก็เขียนไปว่าแผนแรกคือตั้งใจจะเรียนต่อปริญญาเอก แต่ถ้ายังเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ แผนสองคือจะไปเรียนภาษาก่อน จากนั้นจะหางานทำในสายที่เราเรียนมา (จกท.จบตรี / โท วิศวกรรมโยธา)
3. เป็นเอกสารการเสียภาษีให้กับเทศบาลเรียกว่า 課税証明書(Nouzei Shomeisho)” Tax declaration certificate กับ 納税 証明書(Kazei Shoumeisho)" " Municipal Tax declaration certificate อันนี้คุณสามีต้องไปติดต่อที่เทศบาล ที่เราอยู่ที่ญี่ปุ่นค่ะ
4. ตอบคำถามเล็กๆน้อยๆ ตามที่เจ้าหน้าที่ต้องการทราบ ตัวอย่างของเราที่เจ้าหน้าที่ถามนะคะ ตอบไปตามความเป็นจริงค่ะ
- จริงหรือไม่ที่คุณไม่มีเบอร์โทรศัพท์ของญี่ปุ่น - > เราไม่ใช้เบอร์โทรศัพท์ญี่ปุ่น แต่เราลงทะเบียนใช้แพคเกจอินเตอร์เน็ตรายเดือนของญี่ปุ่น
- ภรรยาของคุณมาญี่ปุ่นกี่ครั้งแล้ว ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ --> ก่อนหน้าทำวีซ่า จขกท.ไปญี่ปุ่น 8 รอบ แรกๆไปเที่ยว หลังๆไปหาสามี เฉลี่ย 3 เดือนไปที บ่อยจนเจ้าหน้าที่ตม.กับศุลกากรทัก ก็บอกไปว่าสามีทำงานที่นี่ค่ะ ไปคนเดียวตลอดก็ไม่เคยมีปัญหาใดๆ ไม่โดนเปิดประเป๋าด้วย (เพราะว่าไขกุญแจให้เห็นตั้งแต่รอในแถวแล้ว) อีกอย่างคือคนที่นี่เขาให้ความสำคัญกับสถาบันครอบครัวค่ะ เจ้าหน้าที่คงเห็นใจ
- ครั้งหน้าภรรยาของคุณจะเดินทางเข้าญี่ปุ่นสนามบินไหน --> ทางตม.จะออก Resident Card ให้เราที่สนามบินที่เราตอบค่ะ จขกท.เลือกนาริตะ (ตอบแล้วห้ามเปลี่ยน)
- ภรรยาของคุณมีญาติคนอื่นที่ญี่ปุ่นอีกหรือไม่ --> ไม่มี
ของสามีใช้เอกสารที่ต้องเตรียมเองเท่านี้ค่ะส่วนเอกสารรายได้ทั้งหลายบริษัทคงเตรียมให้