ทำไมบางคนถึงชอบยัดเยียดว่าต้องทำฌานสมาบัติแบบโลกิยะฌานจากการเพ่งอารมณ์​บัญญัติ​เดียวก่อนค่อยเจริญสติปัฏฐาน​4???

ทำไมบางคนถึงชอบยัดเยียดว่าต้องทำฌานสมาบัติแบบโลกิยะฌานจากการเพ่งอารมณ์​บัญญัติ​เดียวก่อนค่อยเจริญสติปัฏฐาน​4???
คือจขกทสงสัยว่าทำไมชาวพุทธบางคนถึงชอบตีความและยัดเยียดคนที่ฝึกภาวนาว่าต้องทำฌานสมาบัติประเภทโลกิยะ(ประกอบด้วยรูปฌาน4และอรูปฌาน8)​จากการเพ่งอารมณ์​บัญญัติ​เดียวแบบที่ฤาษีเคยทำมาก่อน​ ทั้งที่ตามพุทธวจนะ​ของพระพุทธ​องค์​ในพระสูตรก็ไม่บังคับตรงกันข้ามกลับทรงตรัสว่าสัมมาสมาธิที่องค์​ประกอบแบบฌานนี่ต้องเกิดจากการเจริญสติปัฏฐาน​4เป็นเบื้องต้นก่อน​ เยอะแยะครับ​
ปล.แม้แต่ในภาวนาสูตรที่ให้พระสาวกทรงปฏิบัติภาวนาก็บอกให้เริ่มต้นด้วย​ สติปัฏฐาน​4​เลย​ จขกทว่าเรื่องฌานสมาบัติแบบเพ่งกดทับเนี่ยมันมาจากที่พระสาวกเดิมเป็นฤาษี​ดาบสเดิมมากกว่า​ จนิงๆมีได้ก็โอเค​ แต่ไม่มีเจ้าโลกียฌานก็ไม่ได้คอขาดบาดตาย​ไม่ได้จำเป็นขนาดนะ้น​ มีก็พักจิตได้หนุนการภาวนาได้
ตามนี้ครับพระสูตรที่ทรงตรัสในเรื่องนี้
http://www.polyboon.com/dhumma/14_017.php
http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=23&A=2593&Z=2628
หรือแม้แต่สมาธิสัมโพชฌงค์​ก็ต้องมีสติในสติปัฏฐาน​4มาก่อนเสมอ
http://www.buddhawajana-cri.com/article-detail.php?id=7551
แม้แต่อันนี้ก็บอกว่าสัมมาสมาธิคือสมาธิที่เกิดจากมรรค7ข้อก่อนเป็นบริขารคือเกิดตอนมรรคครบองค์และเตรียมพร้อมจะบรรลุธรรม​ หาใช่ฌานแบบโลกิยที่ต้องเพ่งจุดๆเดียวเพื่อทำให้เกิดแบบเข้าๆออกๆ​ ไม่จำเป็นขนาดนั้น
http://etipitaka.com/compare/thai/thaimc/19/20/?keywords=
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=5398.0;wap2
ปล.2เพราะฉะนั้นสมารถสรุปได้ว่าตัวสมาบัติ8จากการเพ่งอารมณ์​กรรมฐาน​เดียว(หรือที่เราเรียกว่าโลกียฌานหรือจะเรียกภาษาตามอรรถกถา​ที่คุ้นๆกันก็ได้)​ไม่จำเป็นขนาดนั้นทำได้ก็โอเค​ คือพระพุทธ​องค์ทรงเปิดรับแหละให้คนที่ของเก่าตรงนี้เอามาสอนไว้เพื่อพักจิตก็ได้​ บวกกับพระสาวกเป็นฤาษี​เดิมมาบวชก็ทรงเปิดกว้างใจกว้างรับไว้​ แต่ถ้าถามทรงบังคับหรือทรงบรรจุในหลักสูตร​บังคับหรือไม่ตอบเลยว่า.. ไม่!!​ ตอบแบบนี้บางคนอาจผิดหวังที่ตัวเองเข้าใจผิด​ แต่ต้องพูดตรงๆมันไม่ใช่สิ่งที่พระพุทธ​องค์​ทรงสอนและแนะนำให้ปฏิบัติ​ในอริยสัจ4, มรรคมีองค์8  มันคือของนอกที่รับเข้ามาเพื่อใช้พักจิต​ เพราะฉะนั้นรู้แบบนี้ก็เลิกเถอะเลิกยัดเยียดให้คนที่จะภาวนาเพ่งบัญญัติ​เดียวเพื่อเอาสมาบัติหรือโลกิยฌานแล้วไปด่าพระรูปที่สอนข้ามสมาบัติ​8ไปเจริญสติ​ปัฏฐาน4โดยตรง มันไร้สาระ​ อย่างที่บอกจขกทเข้าใจบางคนชินกับการที่หลายท่านชินกับจารีตพุทธแบบไทยเราบ้านเราที่ชอบสอนให้ภาวนาแนวสมาบัติ8(ซึ่งจะไม่รวมอรูปฌานก็ได้ถ้าใครไม่เอาขนาดนั้น)​ที่เรารับเข้ามาจากพระสาวกทึ่เป็นฤาษี​ดาบสหรือนักบวชพราหมณ์​  ซึ่งลิงค์​พุทธ​พจน์​ในพระสูตรก็ชัดเจนแสนจะชัดสุดๆแล้วครับว่าไม่จำเป็นต้องทำสมาบัติ​8

ปล.3​ เพิ่มเติมอีกคือภาวนาสูตรที่จขกทยกมาขอย้ำอีกว่าไม่มีตรงไหนที่ทรงบอกให้เพ่งเอาสมาบัติ​8หรือโลกิยฌานเลยมีแต่ทรงแนะนำให้เริ่มต้นที่สติปัฏฐาน​4​ พระสูตรนี่ชัดเจนสุดในเรื่องแนวทางข้อบังคับและวิธีการในการภาวนาในภาคปฏิบัติ​  แม้แต่เรื่องสัมมาสมาธิที่บางท่านว่าต้องหนุนกับสัมมาสติแบบต้องมาก่อนสัมมาสติหรือสติปัฏฐาน​4จึงจะมีได้คือต้องทำสมาบัติ8ซึ่งเป๋นสัมมาสมาธิ​ก่อนถึงเกิดสัมมาสติ​ได้​ แต่พระธรรมจากพระโอษฐ์​ของพระบรมศาสดากลับทรงตรัสว่าสัมมาสมาธิจะเกิดได้ต้องมรรค7ข้อก่อนเป็นองค์บริขารโดยเฉพาะสัมมาสติหรือ​สติปัฏฐาน​4​นั่นเอง!!!! 
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่