สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
นับว่าคุณโชคดีที่เขาแค่อายว่าคุณเป็นแม่ค้า ถ้าเขาไม่อาย แต่กลายร่างเป็นแมลงปีกแข็ง เกาะคุณกินถาวรละก็.. หนักกว่านี้
ขอแสดงความยินดีที่หลุดพ้นไปเสียได้ แต่ขอฝากไว้อย่างหนึ่งว่า จะคบกับผู้ชายคนไหน อย่ารีบร้อนถึงขั้นย้ายเข้าไปอยู่ด้วยกัน ผู้หญิงจำนวนมากเป็นแบบคุณ คือยอมอดให้เขาอิ่ม แต่มันไม่ใช่... คนละลงเรือลำเดียวกัน มันต้องแชร์สุขทุกข์ร่วมกัน ไม่ใช่รับหรือให้เพียงฝ่ายเดียว
ขอแสดงความยินดีที่หลุดพ้นไปเสียได้ แต่ขอฝากไว้อย่างหนึ่งว่า จะคบกับผู้ชายคนไหน อย่ารีบร้อนถึงขั้นย้ายเข้าไปอยู่ด้วยกัน ผู้หญิงจำนวนมากเป็นแบบคุณ คือยอมอดให้เขาอิ่ม แต่มันไม่ใช่... คนละลงเรือลำเดียวกัน มันต้องแชร์สุขทุกข์ร่วมกัน ไม่ใช่รับหรือให้เพียงฝ่ายเดียว
ความคิดเห็นที่ 73
ขอบคุณทุกๆความคิดเห็นทุกๆกำลังใจมากๆนะคะ ตอนนี้สภาพจิตใจดีขึ้นมากเลยอาจจะมีเหงาบ้างก็โทรหาแม่ตลอด ยังขายของเหมือนเดิมนะแต่ช่วงนี้หยุดเป็นไข้หวัดเลยหมอบอกให้หยุดไปก่อนค่ะ
..จะมาตอบคำถามเรื่องเงินที่ส่งให้ที่บ้านค่ะ
ก่อนจะขายของส่งเดือนล่ะ 3500 จริงๆที่บ้านยังมีน้องสาวอายุ 13 อีกคน เงินที่ส่งแบ่งเป็นค่าใช้จ่ายส่วนต่างๆ
1.ค่ารถรับส่งน้องไป รร ขึ้น ม1 เดือนละ 500
2.ค่าขนมน้องไป รร วันละ 40 ข้าว25 ขนม15เดือนละประมาณ 800
3.ข้าวสาร 2 ถังต่อเดือน ประมาณ 1200
เผื่อน้องหมา น้องแมวที่บ้านด้วย
4.หัวอาหารไก่ไข่ 10 ประมาณ 400
แม่จะเหลือใช้จิปถะค่ากับข้าวค่ายาเวลามีใครไม่สบาย 600 บาท
พ่อแม่ไปรับจ้างวันละ 200-250 ซึ่งไม่ได้มีทุกวันแต่ก็ไม่ได้ลำบากอะไรมากนะคะยังพออยู่กันได้มีไข่ไก่กินทุกวันพ่อเป็นคนขยันถ้าไม่มีงานจ้างพ่อจะไปหาปลาหาของต่างๆมาใว้ให้ครอบครัวกินตอนเด็กๆเคยจำได้ว่าที่บ้านไม่มีเงินเลยมีมาม่า 1 ห่อแม่ต้มรวมกับผักบุ้งนาที่เก็บมาพ่อไม่ยอมกินเพราะรู้เลยว่ากลัวลูกไม่อิ่มเราถึงจะเป็นเด็กแต่รู้เลยว่าพ่อไม่กินเพราะอะไรตอนนั้นสงสารพ่อมากจึงแกล้งเอาพริกมาเติมลงไปในมาม่าแล้วแกล้งว่าเผ็ดกินไม่ได้พ่อกินต่อให้หน่อยพ่อก็พยามจะเอาน้ำมาเติมให้เผ็ดน้อยลงเราก็แบบไม่กินแล้วเผ็ดๆแล้วพ่อก็กินเราก็ดีใจหลังจากวันนั้นบอกกับตัวเองจะทำให้พ่อแม่สบายให้ได้ไม่อยากให้น้องต้องลำบากเหมือนตัวเองตอนนี้ส่งเงินให้แม่ 5000 ให้แม่พาน้องไปเปิดบัญชีฝากให้เดือนล่ะ 500 เป็นค่าใช้จ่ายใว้เรียนในอนาคตก็จะบอกจะสอนน้องตลอดให้ตั้งใจเรียนให้ช่วยงานพ่อแม่เค้าก็ฟังนะคอยช่วยงานบ้านพ่อแม่เราก็เบาใจ พ่อกับแม่ยังไม่ได้เบี้ยยังชีพนะคะอายุเพิ่ง 58 ค่ะแต่พ่อแม่แก่ลงไปมากเลยเพราะต้องทำงานหนักตากแดดตากฝน ส่วนเรานั่งทำงานก็ในห้องแอร์ถึงจะไปยืนขายของก็ไม่ได้ตากแดดพ่อแม่ลำบากกว่าเราเยอะ
เราคนเป็นลูกอยากให้พ่อแม่น้องกินอิ่มได้กินของดีๆอยากให้เค้าสบายไม่อยากให้ทำงานหนักเราถึงเลือกที่จะส่งเงินให้เยอะๆ เราได้ใช้น้อยก็ไม่เป็นไรตัวเองยังมีแรงยังมีเวลาหาได้อีกเยอะแต่พ่อแม่แก่ลงทุกวันอยากให้เค้าสบาย
มีโอกาสกลับไปบ้านเล่าให้พ่อแม่ฟังว่าขายกับข้าวเค้าก็เป็นห่วงกลัวเหนื่อยให้ส่งเงินให้ 3500 เหมือนเดิมก็ได้ เราก็แอบโกหกไปว่าช่วยกันขายกับเพื่อนไม่เหนื่อยเลยที่นี้ล่ะพ่อถึงกับลงแรกทำแปลงปลูกผักเพิ่มบอกว่าถ้าผักโตเมื่อไหร่จะส่งไปให้ทำขายจะได้ไม่ต้องซื้อ ในความลำบากเราว่าเรายังโชคดีนะถึงจะไม่ได้ร่ำรวยอะไรแต่ก็มีบ้านมีครอบครัวที่อบอุ่น
#พ่อเป็นผู้ชายที่น่ารักที่สุดในโลกไม่กินเหล้าไม่สูบบุหรี่ไม่เล่นการพนัน
# ขอตอบเพิ่มเติมคำถามที่ว่า 2500 ใช้ยังใงพอกับแฟน 2 คน จริงแล้วมันก็พอนะเราประหยัดมากข้าวเช้าไม่กินอาศัยกินม 1 กล่องก็ 12 บาทเที่ยงก็มาม่ากับข้าวเปล่าแต่บางวันก็กินอย่างอื่นนะคะแต่ว่าน้อย เย็นบางวันก็กินบางวันก็ไม่ได้กินแต่จะซื้อข้าวใว้ให้แฟนตลอดตัวเองคิดซ่ะว่าลดหุ่น55 แอบสงสารตัวเองเหมือนกัน เดือนไหนไม่พอจริงๆจะขอยืมแฟนเค้าก็ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ อย่างมากก็ขอยืมแค่ 500 บาทก็พอถึงสิ้นเดือนค่ะ
แฟนเคยยื่นขอเสนอว่าถ้าอยากขายของให้ไลฟ์สดขายเสื้อผ้าไปยืนขายข้าวแกงอายคนอื่นเค้า นี่คือเหตุผลที่เค้าบอกเรา แต่เราไม่ถนัดขายแบบนั้นเราว่าต้นทุนไปรับเสื้อผ้ามันสูงกว่า เราทำแบบนี้ถนัดกว่าเพราะเราพูดไม่เก่ง เค้าก็โกรธมาก
..จะมาตอบคำถามเรื่องเงินที่ส่งให้ที่บ้านค่ะ
ก่อนจะขายของส่งเดือนล่ะ 3500 จริงๆที่บ้านยังมีน้องสาวอายุ 13 อีกคน เงินที่ส่งแบ่งเป็นค่าใช้จ่ายส่วนต่างๆ
1.ค่ารถรับส่งน้องไป รร ขึ้น ม1 เดือนละ 500
2.ค่าขนมน้องไป รร วันละ 40 ข้าว25 ขนม15เดือนละประมาณ 800
3.ข้าวสาร 2 ถังต่อเดือน ประมาณ 1200
เผื่อน้องหมา น้องแมวที่บ้านด้วย
4.หัวอาหารไก่ไข่ 10 ประมาณ 400
แม่จะเหลือใช้จิปถะค่ากับข้าวค่ายาเวลามีใครไม่สบาย 600 บาท
พ่อแม่ไปรับจ้างวันละ 200-250 ซึ่งไม่ได้มีทุกวันแต่ก็ไม่ได้ลำบากอะไรมากนะคะยังพออยู่กันได้มีไข่ไก่กินทุกวันพ่อเป็นคนขยันถ้าไม่มีงานจ้างพ่อจะไปหาปลาหาของต่างๆมาใว้ให้ครอบครัวกินตอนเด็กๆเคยจำได้ว่าที่บ้านไม่มีเงินเลยมีมาม่า 1 ห่อแม่ต้มรวมกับผักบุ้งนาที่เก็บมาพ่อไม่ยอมกินเพราะรู้เลยว่ากลัวลูกไม่อิ่มเราถึงจะเป็นเด็กแต่รู้เลยว่าพ่อไม่กินเพราะอะไรตอนนั้นสงสารพ่อมากจึงแกล้งเอาพริกมาเติมลงไปในมาม่าแล้วแกล้งว่าเผ็ดกินไม่ได้พ่อกินต่อให้หน่อยพ่อก็พยามจะเอาน้ำมาเติมให้เผ็ดน้อยลงเราก็แบบไม่กินแล้วเผ็ดๆแล้วพ่อก็กินเราก็ดีใจหลังจากวันนั้นบอกกับตัวเองจะทำให้พ่อแม่สบายให้ได้ไม่อยากให้น้องต้องลำบากเหมือนตัวเองตอนนี้ส่งเงินให้แม่ 5000 ให้แม่พาน้องไปเปิดบัญชีฝากให้เดือนล่ะ 500 เป็นค่าใช้จ่ายใว้เรียนในอนาคตก็จะบอกจะสอนน้องตลอดให้ตั้งใจเรียนให้ช่วยงานพ่อแม่เค้าก็ฟังนะคอยช่วยงานบ้านพ่อแม่เราก็เบาใจ พ่อกับแม่ยังไม่ได้เบี้ยยังชีพนะคะอายุเพิ่ง 58 ค่ะแต่พ่อแม่แก่ลงไปมากเลยเพราะต้องทำงานหนักตากแดดตากฝน ส่วนเรานั่งทำงานก็ในห้องแอร์ถึงจะไปยืนขายของก็ไม่ได้ตากแดดพ่อแม่ลำบากกว่าเราเยอะ
เราคนเป็นลูกอยากให้พ่อแม่น้องกินอิ่มได้กินของดีๆอยากให้เค้าสบายไม่อยากให้ทำงานหนักเราถึงเลือกที่จะส่งเงินให้เยอะๆ เราได้ใช้น้อยก็ไม่เป็นไรตัวเองยังมีแรงยังมีเวลาหาได้อีกเยอะแต่พ่อแม่แก่ลงทุกวันอยากให้เค้าสบาย
มีโอกาสกลับไปบ้านเล่าให้พ่อแม่ฟังว่าขายกับข้าวเค้าก็เป็นห่วงกลัวเหนื่อยให้ส่งเงินให้ 3500 เหมือนเดิมก็ได้ เราก็แอบโกหกไปว่าช่วยกันขายกับเพื่อนไม่เหนื่อยเลยที่นี้ล่ะพ่อถึงกับลงแรกทำแปลงปลูกผักเพิ่มบอกว่าถ้าผักโตเมื่อไหร่จะส่งไปให้ทำขายจะได้ไม่ต้องซื้อ ในความลำบากเราว่าเรายังโชคดีนะถึงจะไม่ได้ร่ำรวยอะไรแต่ก็มีบ้านมีครอบครัวที่อบอุ่น
#พ่อเป็นผู้ชายที่น่ารักที่สุดในโลกไม่กินเหล้าไม่สูบบุหรี่ไม่เล่นการพนัน
# ขอตอบเพิ่มเติมคำถามที่ว่า 2500 ใช้ยังใงพอกับแฟน 2 คน จริงแล้วมันก็พอนะเราประหยัดมากข้าวเช้าไม่กินอาศัยกินม 1 กล่องก็ 12 บาทเที่ยงก็มาม่ากับข้าวเปล่าแต่บางวันก็กินอย่างอื่นนะคะแต่ว่าน้อย เย็นบางวันก็กินบางวันก็ไม่ได้กินแต่จะซื้อข้าวใว้ให้แฟนตลอดตัวเองคิดซ่ะว่าลดหุ่น55 แอบสงสารตัวเองเหมือนกัน เดือนไหนไม่พอจริงๆจะขอยืมแฟนเค้าก็ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ อย่างมากก็ขอยืมแค่ 500 บาทก็พอถึงสิ้นเดือนค่ะ
แฟนเคยยื่นขอเสนอว่าถ้าอยากขายของให้ไลฟ์สดขายเสื้อผ้าไปยืนขายข้าวแกงอายคนอื่นเค้า นี่คือเหตุผลที่เค้าบอกเรา แต่เราไม่ถนัดขายแบบนั้นเราว่าต้นทุนไปรับเสื้อผ้ามันสูงกว่า เราทำแบบนี้ถนัดกว่าเพราะเราพูดไม่เก่ง เค้าก็โกรธมาก
แสดงความคิดเห็น
อายมากมั๊ยมีแฟนเป็นแม่ค้า
เราขอใช้นามสมมุติว่า เอย ล่ะกัน ขอยืมไอดีพี่ที่รู้จักกันมา ขอใช้พื้นที่ตรงนี้ระบายนะคะ..
เอยอายุ 23 ปี ทำงานเป็นพนักงานธุรการที่บริษัทแห่งหนึ่งแถวนนทบุรี เราทำงานที่นี่มา 3 ปีแล้วค่ะเงินเดือน 11500 บาท เอยเพิ่งเรียนจบค่ะ
ก่อนหน้านี้ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย พ่อแม่อยู่บ้านที่ต่างจังหวัดครอบครัวเราไม่ได้มีฐานะอะไรพ่อแม่เป็นชาวไร่ชาวสวน ก็ส่งเราเรียนไหวแค่
ปวส ซึ่งค่าเทอมก็หนักเอาการ พอเรียนจบก็ขอพ่อแม่มาหางานทำและตั้งใจว่าจะเรียนต่อให้จบ ปตรี ด้วย มาได้งานที่บริษัทนี้ก็ทำไปเรียนไป
ต้องบอกว่าเหนื่อยสุดๆแต่ก็สู้เพราะอยากเรียนให้จบอยากทำงานดีๆเงินเดือนเยอะพ่อแม่จะได้สบาย
ไม่นานก็มีแฟนค่ะรู้จักเพราะเป็นเพื่อนของแฟนเพื่อนอีกที สมมุติชื่อว่า วิน นะคะ อายุ 30 ปี คบกันก็เหมือนคู่อื่นทั่วไปมีย้ายมาอยู่ด้วยกันเค้าเองก็ทำงาน
อยู่อีกที่ไม่ไกลกันมากค่ะ ช่วงที่คบกันก็มีจับได้บ้างว่าเค้าแอบมีคนอื่น เจอข้อความในเฟสบุ๊กบ้าง ในไลน์บ้าง ก็ร้องไห้เสียใจเค้าเองก็ขอโทษเราก็
ใจอ่อนยอมให้อภัยตลอดก็เป็นแบบนี้มาประมาณ 2 ปี แต่เรื่องนี้ยังไม่ทำให้เราเสียใจเท่าเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ค่ะ
อย่างที่บอกเอยทำงานเงินเดือน 11500 หักประกันสังคมแล้วเหลือ ประมาณ 11000
ส่งเงินให้แม่ 3500
ค่าหอ + น้ำไฟ ประมาณ 3000
ค่าเทอมที่ขอทางมหาลัยทยอยจ่าย 2500
เหลือ 2500 ใช้จิปาถะ
2500 ที่เหลือเราต้องประหยัดมากๆทำกับข้าวกินเองมีห่อไปด้วย แฟนเราไม่ได้ออกอะไรเลย จะมีแค่ค่าอินเตอร์เน็ตเท่านั้นที่เค้าจะจ่ายเอง
ค่ากับข้าวของใช้ทุกอย่างเราจ่ายเองทั้งหมดเดือนไหนเราไม่พอจริงๆเพราะต้องมีค่าใช้จ่ายในส่วนที่เรียนด้วย เราก็จะขอยืมแฟน ย้ำว่ายืมนะคะ
แล้วต้องคืนด้วย เค้าก็บ่นๆว่าเราใช้เงินเปลือง เราก็แอบน้อยใจนะ เพราะค่าอาหารของใช้ทุกอย่างเราจะนึกถึงเค้าตลอดซื้อแต่สิ่งที่เค้าชอบกิน
เราไม่เคยคิดถึงตัวเองเลย เวลาเจอสิ่งที่ตัวเองอยากกินอยากได้เราจะบอกตัวเองตลอดว่าไม่จำเป็น แต่พอเจอสิ่งที่แฟนชอบเราซื้อโดยที่ไม่คิดอะไรมากเลย
แค่เห็นเค้ามีความสุข ทั้งๆที่เค้าไม่เคยคิดถึงเราเลย เงินเราไม่พอใช้เค้าก็บ่นว่าเราส่งเงินให้ที่บ้านเยอะเกินไปส่งแค่เดือนละ 1 พันก็พอคนต่างจังหวัดเค้า
ไม่ได้ใช้อะไรมากอยู่แล้ว เราได้ยินคำพูดนี้ก็จุกนะแต่ก็ทำใจ ยังไงพ่อแม่ก็มาก่อนเรายังไงก็ได้จะอดจะไม่มี
จนวันหนึ่งเรานั่งคิดว่าเราต้องหาอะไรทำเสริมก็คุยกับพี่ที่ทำงานเค้าก็แนะนว่าลองทำกับข้าวขายสิ เคยทำกับข้าวให้เค้าทานกันมีคนชมว่าอร่อยมาก
เราก็เห็นด้วยนะจึงเอาเรื่องนี้มาปรึกษาแฟน ผลปรากฏว่าเค้าโมโหมากเค้าบอกว่าจะไปขายทำไมไม่อายคนอื่นเหรอไปยืนขายของเราก็ตอบกลับ
ไปว่ามันน่าอายตรงไหน เราไม่ได้ขอให้เค้ามาช่วยเค้าเลยบอกว่าถ้าอยากทำก็ทำเองไม่ยุ่ง เราเองก็ไม่ได้ล้มเลิกความคิดนะไปขอเช่าที่หน้าหอวางโต๊ะเล็กๆขายเค้าก็ใจดีไม่คิดค่าเช่านให้ขายฟรี วันแรกลองทำ อย่าง 3 อย่าง พะโล้ แกงเขียวหวาน ผัดผักรวมมิต มัดเป็นถุงๆแล้วเอาลงมาขายหน้าหอตอนแรกกลัวขายไม่ได้โดนแฟนสบประมาทมองด้วยสายตาดูถูกด้วย แต่ผลตอบรับดีเกินคาดพี่เจ้าของหอช่วยซื้อเค้าก็ชมว่าอร่อยและช่วยโปรโมทด้วย
เลยขายดี เราขายแค่ถุงล่ะ 20 บาทไม่มากไม่น้อยเกินไปอย่างพะโล้ไข่ 3 ฟองหมู 2 ชิ้น ลืมบอกไปว่าวันแรกที่ทำขายเป็นวันอาทิตย์ทำขายตอนเย็นไม่มีเรียนเลยมีเวลาทำ วันต่อๆมาก็อาศัยเลิกงานกลับมารีบทำบางอย่างที่ใช้เวลากลับมาทำตอนเที่ยง จาก 3 อย่างเพิ่มเป็น 5 อย่าง ขายหมดทุกวันเลยค่ะ
แต่ต้องยอมรับว่าเหนื่อยมากขายของถึง 3 ทุ่มเตรียมหั่นผักหั่นหมูใว้ทำพรุ่งนี้กว่าจะได้นอนเกือยเที่ยงคืนทุกวัน แฟนไม่เคยช่วยเลยเรา
ต้องถือของขึ้นลงหอชั้น 5 กลับไปเจอเค้านอนดูกราตูนข้างเล่นเกมส์บ้างแอบร้องไห้คนเดียวบ่อยๆบางครั้งก็น้อยใจว่าทำไมไม่เจอความรักดีๆเหมือนคนอื่นบ้างแต่ก็ได้แต่ทำใจถ้าพูดก็จะทะเลาะกันเลยเลือกที่จะเงียบ ถึงจะเหนื่อยแต่ก็มีความสุขเวาลาคิดถึงคนที่บ้านอย่างพ่อแม่นะ
เราส่งเงินให้แม่จาก 3500 เป็น 5000 ทุกเดือนถึงจะไม่มากมายอะไรแต่มันก็ทำให้เราหายเหนื่อยไปเลย ถึงแม้ว่าจะไปได้ยินข่าวจากพี่ที่รู้จักกันว่าแฟนเอยไปบ่นให้ฟังเรื่องที่เอยไปทำอาหารขายว่าเค้าอาย เรางงว่ามันอายมากเลยเหรอที่มีแฟนเป็นแม่ค้า ยิ่งเค้ามารู้ว่าเราส่งเงินให้ที่บ้านเพิ่มเค้าโกรธมาก
บอกว่าตัวเองยังไม่มีจะกินให้คนื่นทำไมเยอะแยะ พ่อแม่คือคนอื่นเหรอเราถามแฟนกลับเค้าด่าว่าเราโง่ วันนั้นโกรธมากเดินออกจากห้องไปนั่งร้องไห้อยากเลิกมากไม่ไหวแล้วคือถามตัวเองว่าเราผิดอะไร ก่อนจะตั้งสติกลับเข้าห้องไปเตรียมของใว้ทำขายใครจะคิดยังไงช่างมันเราจะหยุดไม่ได้ถ้าพ่อแม่ยังไม่สบาย
..ตอนนี้เราเลิกกับแฟนแล้วนะจริงๆเค้ามีคนอื่นด้วยก็ตัดสินใจเลิกตอนนี้ก็สบายใจขึ้นยังทำงานขายอาหารเหมือนเดิม ตอนนี้ก็เรียนจบแล้วก็สบายขึ้นมานิดหน่อยก็ตัดภาระเรื่องเรียนไปทุกวันนี้ก็ขายอาหารวันอาทิตย์ถึงวันพฤหัสบดี วันที่ไม่ได้ขายอะไรเลิกงานก็ไปเดินเล่นที่ห้างบ้างซื้อของที่ตัวเองชอบบ้างแต่ก็ยังต้องประหยัดนะคะเพราะอะไรก็ไม่แน่นอน ตอนนี้มีเงินเก็บแบ่งเป็นสัดส่วนคิดว่าจะไม่เลิกขายนะเพราะทำแล้วมีความสุขดีที่สำคัญมีรายได้เพิ่มด้วย
ฝากถึงคุณแฟนที่เลิกรากันไป คุณอายที่เราเป็นแม่ค้า เราลืมบอกไปว่าเราก็อายเหมือนกันที่มีแฟนที่มีความคิดแย่ๆดูถูกแม้กระทั่งงานที่สุจริต