Ford V Ferrari [9/10]
กระหึ่ม สะใจ ครึ่งชั่วโมงสุดท้ายโคตรคลั่ง
เรื่องย่อ
เมื่อบริษัท Ford Motor ยักษ์ใหญ่ด้านยานยนต์จากอเมริกาถึงคราวต้องตกอับจนเกือบถึงขั้นต้องยกเลิกกิจการ เนื่องจากโดนบริษัทจากเเดนมะกะโรนีอย่าง Ferrari กระโดดปาดหน้าขึ้นมาเป็นเจ้าตลาดเเทน ดังนั้น Ford จึงหวังที่จะใช้สนามเเข่งเเนสคาร์สุดโหดอย่าง 'เลอ มังส์' เป็นตัวชี้ชะตา เพราะหากพวกเขาสามารถสร้างรถเเข่งที่เอาชนะเฟอร์รารี่ได้ ทิศทางความนิยมทั้งหมดจะวกกลับมาหา Ford อีกครั้ง
ทางฟอร์ดได้ติดต่อไปยัง เเคร์โรล เชลบีย์ (แมตต์ เดม่อน) อดีตนักแข่งชาวอเมริกันหนึ่งเดียวที่เคยเอาชนะสนามเลอ มังส์ ที่ปัจจุบันผันตัวมาเป็นเซลล์และช่างออกเเบบรถเเข่ง พ่วงด้วย เคน ไมลส์ (คริสเตียน เบล) ช่างซ่อมรถเเละนักแข่งรถฝีปากกล้าผู้ที่ต้องการเงินเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว
จนกระทั่งทั้งคู่ได้มารู้ว่า คู่เเข่งที่เเท้จริงหาใช่เฟอร์รารี่ไม่ หากแต่เป็นเหล่าผู้บริหารของฟอร์ดเองนี่เเหละที่คอยเสียบตัดขาพวกเขาอยู่เสมอ
รีวิว
ช่วงเเรกของหนังมีบทสนทนาเยอะเเยะยุ่บยั่บไปหมด มีศัพท์เทคนิคเกี่ยวกับรถเเข่งพอประมาณ แต่สำหรับคนที่ชอบฟังตัวละครต่อบทกันน่าจะชอบใจเพราะทำได้อย่างลื่นไหล ผมชอบที่ไดอะล็อคมันดูเเมนๆแบบลูกผู้ชายคุยกัน พบได้ตั้งเเต่ตั้งแต่ช่วงที่เชลบี้พบว่าตัวเองเป็นโรคร้ายเเละช่วงที่ทั้งเคนเเละเชลบี้ต้องฝ่าฟันกับเหล่าผู้บริหารที่สนใจเเต่เรื่องภาพลักษณ์
หนังพาผู้ชมไปสัมผัสกับความผันผวนด้านอารมณ์ของ เคน ไมลส์ ที่ตอนแรกจะมีเเต่ฉากที่เขาพูดจาโผงผาง ทำตัวเป็นนักเลงหาเรื่องไปทั่ว เเต่จริงๆเเล้วเคนก็คือคนหนึ่งที่เนิร์ดเเละรักรถสุดหัวใจ จนกระทั่งเขาค่อยๆยอมอ่อนข้อลงและเปิดเผยความเป็นมนุษย์ออกมามากขึ้น ในจุดนี้คริสเตียน เบล ทำได้ดีมากครับ ผนวกกับสำเนีบงบริติชที่กวนๆของเขาทำให้ตัวละครนี้ออกมาสมบูรณ์ทีเดียว
ในส่วนของเชลบี้ ที่เเสดงโดยเเมตต์ เดม่อนส่วนตัวผมคิดว่าไม่ค่อยมีโอกาสโชว์ของมากนัก จริงๆเอาใครมาเล่นก็ได้นะ แต่อย่างน้อยเขาก็ทำให้ผู้ชมสัมผัสถึงความอบอุ่นเเละความเชื่อใจที่มอบให้กับเคนได้
อีกตัวละครที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ คือ เหล่าผู้บริหารของฟอร์ดอย่าง ลี เอียค็อกกา เเละ บีบี ที่คอยขัดขาเหล่าตัวเอก นับว่าเป็นสีสันอย่างหนึ่งของเรื่อง จนอดคิดไม่ได้ว่า ชื่อเรื่องที่เเท้จริงของหนังเรื่องนี้ น่าจะเป็น Shelby & Ken V Ford มากกว่า
ช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายของเรื่องคือความระห่ำอย่างเเท้จริง ฉากเเข่งรถที่สนามเลอมังส์ นับว่าเป็นหนึ่งในฉากเเข่งรถที่ดีที่สุดของปีนี้เลยทีเดียวครับ ทั้งด้านมุมมองการถ่ายทำเเละการมิกซ์เสียง โดยเฉพาะในเรื่องเสียงผมคิดว่าน่าจะเข้าชิงออสการ์ได้เลยนะ และในฐานะของคนที่ไม่ได้มีความรู้พื้นฐานในเรื่องนี้มาก่อน ผมคิดว่าตอนจบค่อนข้างสะเทือนใจเลยล่ะ
จุดเด่นของหนัง
- การมิกซ์เสียงขั้นเทพ ใครที่ชอบเสพย์เสียงคำรามของเครื่องยนต์ ห้ามพลาด
- หนังให้ความบันเทิงพอสมควร สองชั่วโมงกว่าของหนังผ่านไปอย่างรวดเร็ว
- ฉากเเข่งรถที่รวดเร็ว ดุดัน
- การเเสดงของคริสเตียน เบล
สรุป
Ford V Ferrari เป็นหนัง Based on true story อีกเรื่องที่ห้ามพลาดครับ สำหรับผม ให้ 9/10 เลย หักนิดหนึ่งตรงตัวละครเชลบี้และครอบคัวของเคน น่าจะเล่นอะไรได้มากกว่านี้
ปล. หากมีข้อผิดพลาดประการใดก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ เพราะผมรีวิวไม่ค่อยเก่ง แหะๆ
[CR] Mini Review: Ford V Ferrari ศึกยักษ์ชนยักษ์ ที่ไม่ได้มีดีเเค่ฉากเเข่งรถ
เมื่อบริษัท Ford Motor ยักษ์ใหญ่ด้านยานยนต์จากอเมริกาถึงคราวต้องตกอับจนเกือบถึงขั้นต้องยกเลิกกิจการ เนื่องจากโดนบริษัทจากเเดนมะกะโรนีอย่าง Ferrari กระโดดปาดหน้าขึ้นมาเป็นเจ้าตลาดเเทน ดังนั้น Ford จึงหวังที่จะใช้สนามเเข่งเเนสคาร์สุดโหดอย่าง 'เลอ มังส์' เป็นตัวชี้ชะตา เพราะหากพวกเขาสามารถสร้างรถเเข่งที่เอาชนะเฟอร์รารี่ได้ ทิศทางความนิยมทั้งหมดจะวกกลับมาหา Ford อีกครั้ง
ทางฟอร์ดได้ติดต่อไปยัง เเคร์โรล เชลบีย์ (แมตต์ เดม่อน) อดีตนักแข่งชาวอเมริกันหนึ่งเดียวที่เคยเอาชนะสนามเลอ มังส์ ที่ปัจจุบันผันตัวมาเป็นเซลล์และช่างออกเเบบรถเเข่ง พ่วงด้วย เคน ไมลส์ (คริสเตียน เบล) ช่างซ่อมรถเเละนักแข่งรถฝีปากกล้าผู้ที่ต้องการเงินเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว
จนกระทั่งทั้งคู่ได้มารู้ว่า คู่เเข่งที่เเท้จริงหาใช่เฟอร์รารี่ไม่ หากแต่เป็นเหล่าผู้บริหารของฟอร์ดเองนี่เเหละที่คอยเสียบตัดขาพวกเขาอยู่เสมอ
รีวิว
ช่วงเเรกของหนังมีบทสนทนาเยอะเเยะยุ่บยั่บไปหมด มีศัพท์เทคนิคเกี่ยวกับรถเเข่งพอประมาณ แต่สำหรับคนที่ชอบฟังตัวละครต่อบทกันน่าจะชอบใจเพราะทำได้อย่างลื่นไหล ผมชอบที่ไดอะล็อคมันดูเเมนๆแบบลูกผู้ชายคุยกัน พบได้ตั้งเเต่ตั้งแต่ช่วงที่เชลบี้พบว่าตัวเองเป็นโรคร้ายเเละช่วงที่ทั้งเคนเเละเชลบี้ต้องฝ่าฟันกับเหล่าผู้บริหารที่สนใจเเต่เรื่องภาพลักษณ์
หนังพาผู้ชมไปสัมผัสกับความผันผวนด้านอารมณ์ของ เคน ไมลส์ ที่ตอนแรกจะมีเเต่ฉากที่เขาพูดจาโผงผาง ทำตัวเป็นนักเลงหาเรื่องไปทั่ว เเต่จริงๆเเล้วเคนก็คือคนหนึ่งที่เนิร์ดเเละรักรถสุดหัวใจ จนกระทั่งเขาค่อยๆยอมอ่อนข้อลงและเปิดเผยความเป็นมนุษย์ออกมามากขึ้น ในจุดนี้คริสเตียน เบล ทำได้ดีมากครับ ผนวกกับสำเนีบงบริติชที่กวนๆของเขาทำให้ตัวละครนี้ออกมาสมบูรณ์ทีเดียว
ในส่วนของเชลบี้ ที่เเสดงโดยเเมตต์ เดม่อนส่วนตัวผมคิดว่าไม่ค่อยมีโอกาสโชว์ของมากนัก จริงๆเอาใครมาเล่นก็ได้นะ แต่อย่างน้อยเขาก็ทำให้ผู้ชมสัมผัสถึงความอบอุ่นเเละความเชื่อใจที่มอบให้กับเคนได้
อีกตัวละครที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ คือ เหล่าผู้บริหารของฟอร์ดอย่าง ลี เอียค็อกกา เเละ บีบี ที่คอยขัดขาเหล่าตัวเอก นับว่าเป็นสีสันอย่างหนึ่งของเรื่อง จนอดคิดไม่ได้ว่า ชื่อเรื่องที่เเท้จริงของหนังเรื่องนี้ น่าจะเป็น Shelby & Ken V Ford มากกว่า
ช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายของเรื่องคือความระห่ำอย่างเเท้จริง ฉากเเข่งรถที่สนามเลอมังส์ นับว่าเป็นหนึ่งในฉากเเข่งรถที่ดีที่สุดของปีนี้เลยทีเดียวครับ ทั้งด้านมุมมองการถ่ายทำเเละการมิกซ์เสียง โดยเฉพาะในเรื่องเสียงผมคิดว่าน่าจะเข้าชิงออสการ์ได้เลยนะ และในฐานะของคนที่ไม่ได้มีความรู้พื้นฐานในเรื่องนี้มาก่อน ผมคิดว่าตอนจบค่อนข้างสะเทือนใจเลยล่ะ
จุดเด่นของหนัง
- การมิกซ์เสียงขั้นเทพ ใครที่ชอบเสพย์เสียงคำรามของเครื่องยนต์ ห้ามพลาด
- หนังให้ความบันเทิงพอสมควร สองชั่วโมงกว่าของหนังผ่านไปอย่างรวดเร็ว
- ฉากเเข่งรถที่รวดเร็ว ดุดัน
- การเเสดงของคริสเตียน เบล
สรุป
Ford V Ferrari เป็นหนัง Based on true story อีกเรื่องที่ห้ามพลาดครับ สำหรับผม ให้ 9/10 เลย หักนิดหนึ่งตรงตัวละครเชลบี้และครอบคัวของเคน น่าจะเล่นอะไรได้มากกว่านี้
ปล. หากมีข้อผิดพลาดประการใดก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ เพราะผมรีวิวไม่ค่อยเก่ง แหะๆ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้