คงมีแฟนบอลหลายคนยังไม่รู้ หรือรู้แล้วแต่ยังไม่ค่อยกระจ่าง เลยขอตั้งกระทู้คุยกัน ถือว่าแลกเปลี่ยนความเข้าใจกันครับ
เมื่อสองวันก่อนบริษัท Silver Lake ของอเมริกาได้ตกลงซื้อหุ้นมากกว่า 10% เล็กน้อยจากชีคอาบู ดาบีในมูลค่า $500m
ก็เลยทำให้มูลค่าประเมินของทั้งเครือขึ้นมาเป็น 4.8 พันล้าน
ทำให้บางสื่อจัดสโมสรซิตี้ให้มาอยู่อันดับ 2 ของทุกประเภทกีฬาไปเรียบร้อย
ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่กี่เดือนนิตยสารฟอร์บส์ยังจัดซิตี้อยู่อันดับ 25 ของทุกประเภทกีฬา มูลค่าอยู่ที่ 3 พันล้าน
ขอทำความเข้าใจเรื่องการจัดอันดับ และมูลค่าประเมิน คือเค้าจะพยายามยึดตัวเลขจากธุรกรรมล่าสุด
ปี 2015 ชีคขาย 13% ให้กลุ่มทุนจีนไป $400m ทำให้มูลค่าประเมินทั้งเครืออยู่ที่ 3 พันล้าน
แต่นิตยสารฟอร์บส์ประเมินสโมสรซิตี้ปีนั้นแค่ 2 พันล้านเท่านั้น
หมายความว่าดีล Silver Lake จะทำให้มูลค่าซิตี้เพิ่มขึ้นก็จริงแต่คงไม่ถึง 4.8 พันล้านอย่างที่บางสื่อลงกันครับ
เหตุที่นิตยสารฟอร์บส์ลดมูลค่าซิตี้ลงมาเพราะท้งเครือมีสโมสรอยู่เยอะ
ประกอบด้วยทีมเล็กทีมน้อยหลายทีมในทุกทวีป บางทีมก็แค่เข้าไปหุ้นด้วยไม่ได้ถือครองทั้ง 1700 ไร่อย่างที่เป็นข่าว
มีนิวยอร์ค ซิตี้ที่มีมูลค่ามากที่สุดอยู่ที่ประมาณ $275m ที่เหลือทุกทีมรวมกันคงไม่ถึง $200m
เมื่อวานนี้หลังจากได้เงินจาก Silver Lake ไม่ทันไรก็เจียดไปซื้อทีมในอินเดียมาเพิ่มอีกทีม โดยซื้อแค่ 65% ของหุ้นทั้งหมด
ก็ยังเป็นข้อสงสัยกันว่าการเข้าไปหุ้นซื้อทีมต่างๆเหล่านี้เกิดประโยชน์อะไรบ้าง
ส่วนตัวคิดว่าไม่ได้กำไรอะไรจากทีมเหล่านั้น นอกจากจะขยายฐานแฟนบอล คือเชียร์ทีมท้องถิ่นแล้วก็อาจพลอยมาเชียร์ทีมแม่ด้วยเท่านั้น
ส่วนสโมสรอื่นๆที่โดยมากจะไม่มีธุรกรรมการขายหุ้นตรงๆกันแบบนี้ เค้าก็อาจยึดจากรายงานผลประจำปีของสโมสรก็ได้
เพียงแต่คงเชื่อถือไม่ได้มากนัก เพราะเป็นการอ้างตัวเลขลอยๆ เช่นอ้างว่ามีมูลค่าแบรนด์เป็นตัวเลขสูงๆเป็นต้น
แถมอีกเล็กน้อย สำหรับทีมแมนยูที่การประเมินหลายเดือนก่อนอยู่ที่ 3.8 พันล้าน
ถ้ามีการประเมินใหม่อาจได้ตัวเลขแค่ประมาณ 3 พันล้านต้นๆ จากการประเมินคร่าวๆของผม (แล้วคอยมาดูกันครับ)
คือหุ้นทั้งหมด 100% แบ่งเป็นหุ้นได้ประมาณ 163 ล้านหุ้น
ตอนนี้ตลาดหุ้นนิวยอร์คมีอยู่ประมาณ 20% ของทั้งหมด ราคาตอนนี้หุ้นละ $18
เอา 18 คูณหุ้นทั้งหมด 163 ล้านหุ้นก็อยู่ที่ประมาณ 3 พันล้านคร่าวๆ
อย่าไปซีเรียสครับ คงมีหลักประเมินหลายๆด้านมาประกอบ
แต่จากตอนนี้และแนวโน้มฤดูกาลต่อไปไม่ได้ไป CL อันดับอยู่กลางๆตาราง ผลประกอบการลดลง
มีแนวโน้มว่ามูลค่าประเมินคงลดลงไปอีก จากตอนนี้ที่ลดลงไป 8% จากปีที่แล้ว
ส่วนแฟนบอลซิตี้นอกจากช่วงนี้จะดูบอลแบบลุ้นๆทุกนัดแล้ว ก็ยังต้องมาลุ้นผล Financial Fair Play กันอีก ผลจะออกมาเร็วๆนี้
ไม่ว่าจะออกมาอย่างไร VAR จะทำพิษแค่ไหนก็ขอให้ดูบอลชิวๆกันต่อไปครับ
ข่าวว่าเงินกว่า $500m ชีคไม่เอาเข้ากระเป่าเลย จะเอามาพัฒนาทีมในเครือต่อไป
ขอเซนเตอร์ตัวใหม่ กองหลังแทบต้องยกแผง กลางก็เริ่มมีอายุ
ส่วนกองหน้าก็เริ่มแก่เจ็บออดๆแอดๆสลับกันลงกับกองหน้าเด็กที่ชอบออฟไซด์
ควรต้องเล็งตัวใหม่ๆกันอีกหลายตำแหน่งเป็นการด่วนครับ ฤดูกาลนี้ไม่ทันก็ขอให้จัดเต็มๆฤดูกาลหน้าก็ได้ครับ
ทำความเข้าใจแบบง่ายๆ แมน ซิตี้กลายเป็นทีมที่มีมูลค่าสูงสุดของทีมฟุตบอล คืออะไร ยังไง
เมื่อสองวันก่อนบริษัท Silver Lake ของอเมริกาได้ตกลงซื้อหุ้นมากกว่า 10% เล็กน้อยจากชีคอาบู ดาบีในมูลค่า $500m
ก็เลยทำให้มูลค่าประเมินของทั้งเครือขึ้นมาเป็น 4.8 พันล้าน
ทำให้บางสื่อจัดสโมสรซิตี้ให้มาอยู่อันดับ 2 ของทุกประเภทกีฬาไปเรียบร้อย
ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่กี่เดือนนิตยสารฟอร์บส์ยังจัดซิตี้อยู่อันดับ 25 ของทุกประเภทกีฬา มูลค่าอยู่ที่ 3 พันล้าน
ขอทำความเข้าใจเรื่องการจัดอันดับ และมูลค่าประเมิน คือเค้าจะพยายามยึดตัวเลขจากธุรกรรมล่าสุด
ปี 2015 ชีคขาย 13% ให้กลุ่มทุนจีนไป $400m ทำให้มูลค่าประเมินทั้งเครืออยู่ที่ 3 พันล้าน
แต่นิตยสารฟอร์บส์ประเมินสโมสรซิตี้ปีนั้นแค่ 2 พันล้านเท่านั้น
หมายความว่าดีล Silver Lake จะทำให้มูลค่าซิตี้เพิ่มขึ้นก็จริงแต่คงไม่ถึง 4.8 พันล้านอย่างที่บางสื่อลงกันครับ
เหตุที่นิตยสารฟอร์บส์ลดมูลค่าซิตี้ลงมาเพราะท้งเครือมีสโมสรอยู่เยอะ
ประกอบด้วยทีมเล็กทีมน้อยหลายทีมในทุกทวีป บางทีมก็แค่เข้าไปหุ้นด้วยไม่ได้ถือครองทั้ง 1700 ไร่อย่างที่เป็นข่าว
มีนิวยอร์ค ซิตี้ที่มีมูลค่ามากที่สุดอยู่ที่ประมาณ $275m ที่เหลือทุกทีมรวมกันคงไม่ถึง $200m
เมื่อวานนี้หลังจากได้เงินจาก Silver Lake ไม่ทันไรก็เจียดไปซื้อทีมในอินเดียมาเพิ่มอีกทีม โดยซื้อแค่ 65% ของหุ้นทั้งหมด
ก็ยังเป็นข้อสงสัยกันว่าการเข้าไปหุ้นซื้อทีมต่างๆเหล่านี้เกิดประโยชน์อะไรบ้าง
ส่วนตัวคิดว่าไม่ได้กำไรอะไรจากทีมเหล่านั้น นอกจากจะขยายฐานแฟนบอล คือเชียร์ทีมท้องถิ่นแล้วก็อาจพลอยมาเชียร์ทีมแม่ด้วยเท่านั้น
ส่วนสโมสรอื่นๆที่โดยมากจะไม่มีธุรกรรมการขายหุ้นตรงๆกันแบบนี้ เค้าก็อาจยึดจากรายงานผลประจำปีของสโมสรก็ได้
เพียงแต่คงเชื่อถือไม่ได้มากนัก เพราะเป็นการอ้างตัวเลขลอยๆ เช่นอ้างว่ามีมูลค่าแบรนด์เป็นตัวเลขสูงๆเป็นต้น
แถมอีกเล็กน้อย สำหรับทีมแมนยูที่การประเมินหลายเดือนก่อนอยู่ที่ 3.8 พันล้าน
ถ้ามีการประเมินใหม่อาจได้ตัวเลขแค่ประมาณ 3 พันล้านต้นๆ จากการประเมินคร่าวๆของผม (แล้วคอยมาดูกันครับ)
คือหุ้นทั้งหมด 100% แบ่งเป็นหุ้นได้ประมาณ 163 ล้านหุ้น
ตอนนี้ตลาดหุ้นนิวยอร์คมีอยู่ประมาณ 20% ของทั้งหมด ราคาตอนนี้หุ้นละ $18
เอา 18 คูณหุ้นทั้งหมด 163 ล้านหุ้นก็อยู่ที่ประมาณ 3 พันล้านคร่าวๆ
อย่าไปซีเรียสครับ คงมีหลักประเมินหลายๆด้านมาประกอบ
แต่จากตอนนี้และแนวโน้มฤดูกาลต่อไปไม่ได้ไป CL อันดับอยู่กลางๆตาราง ผลประกอบการลดลง
มีแนวโน้มว่ามูลค่าประเมินคงลดลงไปอีก จากตอนนี้ที่ลดลงไป 8% จากปีที่แล้ว
ส่วนแฟนบอลซิตี้นอกจากช่วงนี้จะดูบอลแบบลุ้นๆทุกนัดแล้ว ก็ยังต้องมาลุ้นผล Financial Fair Play กันอีก ผลจะออกมาเร็วๆนี้
ไม่ว่าจะออกมาอย่างไร VAR จะทำพิษแค่ไหนก็ขอให้ดูบอลชิวๆกันต่อไปครับ
ข่าวว่าเงินกว่า $500m ชีคไม่เอาเข้ากระเป่าเลย จะเอามาพัฒนาทีมในเครือต่อไป
ขอเซนเตอร์ตัวใหม่ กองหลังแทบต้องยกแผง กลางก็เริ่มมีอายุ
ส่วนกองหน้าก็เริ่มแก่เจ็บออดๆแอดๆสลับกันลงกับกองหน้าเด็กที่ชอบออฟไซด์
ควรต้องเล็งตัวใหม่ๆกันอีกหลายตำแหน่งเป็นการด่วนครับ ฤดูกาลนี้ไม่ทันก็ขอให้จัดเต็มๆฤดูกาลหน้าก็ได้ครับ