ทำไมศาสนาอิสลามจึงห้ามกินเนื้อหมู การที่อัลลอฮ์ห้ามมุสลิมกินหมูในชีวิตประจำวันในภาวะปกตินั้น มีเหตุผลเพียงอย่างเดียวเท่านั้นคือ
เนื่องจากว่า เนื้อหมูเป็นเนื้อสัตว์ที่โสมม สกปรก น่ารังเกียจ (abomination/رِجْسٌ)
قُلْ لَا أَجِدُ فِي مَا أُوحِيَ إِلَيَّ مُحَرَّمًا عَلَىٰ طَاعِمٍ يَطْعَمُهُ إِلَّا أَنْ يَكُونَ مَيْتَةً أَوْ دَمًا مَسْفُوحًا أَوْ لَحْمَ خِنْزِيرٍ فَإِنَّهُ رِجْسٌ أَوْ فِسْقًا أُهِلَّ لِغَيْرِ اللَّهِ بِهِ ۚ فَمَنِ اضْطُرَّ غَيْرَ بَاغٍ وَلَا عَادٍ فَإِنَّ رَبَّكَ غَفُورٌ رَحِيمٌ
{6:145} จงกล่าวเถิดว่า "ฉันไม่พบว่าในสิ่งที่ถูกเปิดเผยสำแดงแก่ฉันนั้น มีสิ่งต้องห้ามแก่ผู้บริโภคที่จะบริโภคมัน นอกจากสิ่งนั้นเป็นสัตว์ที่ตายเอง หรือโลหิตที่ไหลออก หรือ "เนื้อสุกร แท้จริงมันเป็นสิ่งโสมม" หรือเป็นสิ่งละเมิด ซึ่งถูกเปล่งนามอื่นจากอัลลอฮฺใน(ยามที่เชือด)มัน ถ้าผู้ใดได้รับความคับขัน
โดยไม่ใช่เป็นผู้แสวงหา และไม่ใช่ผู้ละเมิดแล้วไซร้ แท้จริงพระเจ้าของเธอนั้น เป็นพระผู้ทรงอภัยโทษ พระผู้ทรงปรานี"
ส่วนที่ว่าความสกปรกจะเป็นผลเสียอย่างไร หรือโรคภัยไข้เจ็บที่เกิดจากการกินเนื้อหมูนั้น จะเกิดขึ้นในระยะสั้นหรือในระยะยาวนั้น
วิทยาศาสตร์การแพทย์ในปัจจุบันได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วในหลายกรณี ว่าเนื้อหมูมีผลเสียต่อสุขภาพ ถ้าจะอ้างว่าการเลี้ยงหมูในปัจจุ
บัน ถูกวิธีการสุขาภิบาลเนื้อหมูสอาดและปลอดภัยจากพยาธิต่างๆแล้วก็ตาม แต่ผลร้ายของการกินเนื้อหมูในระยะยาวนั้นยังคงอยู่
การห้ามกินเนื้อหมูในยามปกตินั้น เป็นผลดีต่อสุขภาพ เนื่องจากการกินหรือปรุง อาหารด้วยเนื้อหมู ครึ่งสุกครึ่งดิบนั้นยังคงมีอยู่ ใน
ทุกๆสังคมของมนุษย์ ดังนั้นการห้ามการกินเนื้อหมูในชีวิตประจำวันจึงเป็นผลดีต่อชีวิตมนุษย์
อัลกุรอานไม่ห้ามการกินเนื้อหมูหรือผลิตภันฑ์ของหมูในสภาวะที่อดอยาก ไม่อาจจะ หาอาหารอื่นๆได้นอกจากเนื้อหมู
เท่านั้น
นอกจากการห้ามกินเนื้อหมูเนื่องจากความสกปรกของมันแล้ว ยังมีเนื้อสัตว์ที่ต้องห้ามอีกบางชนิดที่มุสลิมไม่อาจจะกินได้ ท้งหมด
นั้นมีบัญญัติไว้ในอัลกุรอาน อย่างชัดเจน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
{2:173} อันที่จริงที่อัลลอฮฺได้ทรงห้ามพวกเธอก็คือสัตว์ที่ตายเอง โลหิต เนื้อสุกร สัตว์ที่ถูกเปล่งเสียงยามเชือดให้แก่สิ่งอื่นนอกเหนือจากอัลลอฮฺ แต่ถ้าหากผู้ใดตกอยู่ในภาวะคับขัน โดยไม่ใช่เป็นผู้เสาะหาและไม่ได้ละเมิด มันก็ไม่เป็นความบาปแก่เขา เพราะอัลลอฮฺคือพระผู้ทรงอภัย พระผู้ทรงปรานีเสมอ
{5:3} ได้ถูกห้ามแก่พวกเธอแล้ว ซึ่งสัตว์ที่ตายเอง และโลหิต และเนื้อสุกร และสัตว์ที่ถูกเปล่งนามอื่นจากอัลลอฮฺ ยามที่(เชือด)มัน และสัตว์ที่ถูกรัดคอตาย และสัตว์ที่ถูกตีตาย และสัตว์ที่ตกเหวตาย และสัตว์ที่ถูกขวิดตาย และสัตว์ที่ถูกสัตว์ร้ายกัดกิน นอกจากที่พวกเธอเชือด และสัตว์ที่ถูกเชือดบนแท่นหินบูชา และการที่พวกเธอเสี่ยงทายด้วยไม้ติ้ว เหล่านั้นเป็นการละเมิด วันนี้บรรดาผู้ปฏิเสธการศรัทธา หมดหวังในศาสนาของพวกเธอแล้ว ดังนั้นพวกเธอจงอย่ากลัวพวกเขา และจงกลัวฉันเถิด วันนี้ฉันได้ทำให้ศาสนาของพวกเธอสมบูรณ์เพื่อพวกเธอ และฉันได้ทำให้ความโปรดปรานของฉันที่มีต่อพวกเธอนั้นบริบูรณ์ และฉันได้เลือกให้อิสลามเป็นศาสนาของพวกเธอ ผู้ใดได้รับความคับขันในความหิวโหย โดยไม่ใช่เป็นผู้จงใจกระทำบาปแล้วไซร้ แน่นอนอัลลอฮฺคือพระผู้ทรงอภัยโทษ พระผู้ทรงปรานีเสมอ
{6:145} จงกล่าวเถิดว่า "ฉันไม่พบว่าในสิ่งที่ถูกเปิดเผยสำแดงแก่ฉันนั้น มีสิ่งต้องห้ามแก่ผู้บริโภคที่จะบริโภคมัน นอกจากสิ่งนั้นเป็นสัตว์ที่ตายเอง หรือโลหิตที่ไหลออก หรือ "เนื้อสุกร แท้จริงมันเป็นสิ่งโสมม" หรือเป็นสิ่งละเมิด ซึ่งถูกเปล่งนามอื่นจากอัลลอฮฺใน(ยามที่เชือด)มัน ถ้าผู้ใดได้รับความคับขัน โดยไม่ใช่เป็นผู้แสวงหา และไม่ใช่ผู้ละเมิดแล้วไซร้ แท้จริงพระเจ้าของเธอนั้น เป็นพระผู้ทรงอภัยโทษ พระผู้ทรงปรานี"
{16:115} อันที่จริง ต่อพวกเธอพระองค์ทรงเพียงแต่บัญญัติห้ามสัตว์ที่ตายเอง และโลหิต และเนื้อสุกร และสัตว์ที่ถูกเปล่งเสียง(ยามเชือด)เพื่ออื่นจาก อัลลอฮฺ ดังนั้นผู้ใดที่อยู่ในสภาพคับขัน โดยไม่ได้เป็นผู้ฝ่าฝืน และก็ไม่ได้เป็นผู้ละเมิดแล้ว แท้จริงอัลลอฮฺเป็นพระผู้ทรงอภัยยิ่ง พระผู้ทรงปราณีเสมอ
นอกจากศาสนาอิสลามห้ามการกินเนื้อหมูแล้ว ศาสนาจูดาย ชาวยิว และ ศาสนาคริสต์ ชาวคริสเตียน ก็ห้ามการกินเนื้อหมูเช่นกัน
ข้อห้ามนี้บัญญัติไว้ ใน ไบเบิล
จากคัมภึร์ไบเบิล ในหนังสือของ เลวีนิติ [Leviticus 11:7-8]
7 หมูเพราะมันเป็นสัตว์แยกกีบและมีกีบผ่าแต่ไม่เคี้ยวเอื้อง จึงเป็นสัตว์มลทินแก่เจ้า
8. อย่ารับประทานเนื้อของสัตว์เหล่านี้เลย และเจ้าอย่าแตะต้องซากของมัน มันเป็นของมลทินแก่เจ้า
และ ในหนังสือของ พระราชบัญญัติ [Deuteronomy 14:8]
8 และหมูด้วยเพราะหมูมีกีบผ่าแต่ไม่เคี้ยวเอื้อง จึงเป็นสัตว์มลทินแก่ท่าน ท่านอย่ารับประทานเนื้อของมัน และซากของมันท่านก็อย่า
แตะต้อง
เหตุผลที่ ศาสนาอิสลาม ห้ามกินเนื้อหมู
เนื่องจากว่า เนื้อหมูเป็นเนื้อสัตว์ที่โสมม สกปรก น่ารังเกียจ (abomination/رِجْسٌ)
قُلْ لَا أَجِدُ فِي مَا أُوحِيَ إِلَيَّ مُحَرَّمًا عَلَىٰ طَاعِمٍ يَطْعَمُهُ إِلَّا أَنْ يَكُونَ مَيْتَةً أَوْ دَمًا مَسْفُوحًا أَوْ لَحْمَ خِنْزِيرٍ فَإِنَّهُ رِجْسٌ أَوْ فِسْقًا أُهِلَّ لِغَيْرِ اللَّهِ بِهِ ۚ فَمَنِ اضْطُرَّ غَيْرَ بَاغٍ وَلَا عَادٍ فَإِنَّ رَبَّكَ غَفُورٌ رَحِيمٌ
วิทยาศาสตร์การแพทย์ในปัจจุบันได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วในหลายกรณี ว่าเนื้อหมูมีผลเสียต่อสุขภาพ ถ้าจะอ้างว่าการเลี้ยงหมูในปัจจุ
บัน ถูกวิธีการสุขาภิบาลเนื้อหมูสอาดและปลอดภัยจากพยาธิต่างๆแล้วก็ตาม แต่ผลร้ายของการกินเนื้อหมูในระยะยาวนั้นยังคงอยู่
การห้ามกินเนื้อหมูในยามปกตินั้น เป็นผลดีต่อสุขภาพ เนื่องจากการกินหรือปรุง อาหารด้วยเนื้อหมู ครึ่งสุกครึ่งดิบนั้นยังคงมีอยู่ ใน
ทุกๆสังคมของมนุษย์ ดังนั้นการห้ามการกินเนื้อหมูในชีวิตประจำวันจึงเป็นผลดีต่อชีวิตมนุษย์
อัลกุรอานไม่ห้ามการกินเนื้อหมูหรือผลิตภันฑ์ของหมูในสภาวะที่อดอยาก ไม่อาจจะ หาอาหารอื่นๆได้นอกจากเนื้อหมู
เท่านั้น
นอกจากการห้ามกินเนื้อหมูเนื่องจากความสกปรกของมันแล้ว ยังมีเนื้อสัตว์ที่ต้องห้ามอีกบางชนิดที่มุสลิมไม่อาจจะกินได้ ท้งหมด
นั้นมีบัญญัติไว้ในอัลกุรอาน อย่างชัดเจน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
นอกจากศาสนาอิสลามห้ามการกินเนื้อหมูแล้ว ศาสนาจูดาย ชาวยิว และ ศาสนาคริสต์ ชาวคริสเตียน ก็ห้ามการกินเนื้อหมูเช่นกัน
ข้อห้ามนี้บัญญัติไว้ ใน ไบเบิล
จากคัมภึร์ไบเบิล ในหนังสือของ เลวีนิติ [Leviticus 11:7-8]
7 หมูเพราะมันเป็นสัตว์แยกกีบและมีกีบผ่าแต่ไม่เคี้ยวเอื้อง จึงเป็นสัตว์มลทินแก่เจ้า
8. อย่ารับประทานเนื้อของสัตว์เหล่านี้เลย และเจ้าอย่าแตะต้องซากของมัน มันเป็นของมลทินแก่เจ้า
และ ในหนังสือของ พระราชบัญญัติ [Deuteronomy 14:8]
8 และหมูด้วยเพราะหมูมีกีบผ่าแต่ไม่เคี้ยวเอื้อง จึงเป็นสัตว์มลทินแก่ท่าน ท่านอย่ารับประทานเนื้อของมัน และซากของมันท่านก็อย่า
แตะต้อง