"มันเหมือนหนังสายลับที่มีการทำมาแล้ว แอ็คชั่นพอดูเพลินๆ ไม่ว้าว เคมีทีมสาวๆ...ได้ อารมณ์ขันดี แต่ที่ดีหน่อยคือเพลงที่ติดหู"
เกริ่น..
พอพูดถึงนางฟ้าชาร์ลี หรือ Charlie's Angel แน่นอน คนไทยเราย่อมนึกถึงความเซ็กซี่ และพลังตัวแม่อย่าง.. คาเมรอน ดิแอซ, ดรูว์ แบร์รี่มอร์ และลูซี่ หลุย
แต่แท้จริงแล้วมันเป็นภาพยนตร์ที่สานต่อความสำเร็จรุ่นเดอะที่เก่าแก่กว่านั้น อย่างฉบับซีรี่ส์ทีวียุค 70
บอกกันก่อน ที่ตัดสินใจตีตั๋วมาดูเวอร์ชั่นใหม่นี้ ก็เพราะ นาโอมิ สก็อตต์ เจ้าหญิงจัสมิน ล้วนๆครับ
ส่วนตัวผมเคยดูแค่..รุ่นยุค2000ต้นๆ เจ๊คาเมรอนเท่านั้นแหละ แล้วจำเนื้อเรื่องอะไรไม่ได้แล้วด้วย และไม่ได้ปลื้มหนังไรมาก แค่มาดูความสวยเซ็กรุ่นเจ๊ๆ ตามประสาเด็กใจแตก😜
ดังนั้นผมจะขอรีวิวแบบไม่เปรียบเทียบอะไรเวอร์ชั่นก่อนหน้าทั้งนั้น เพราะจำเรื่องอะไรไม่ได้แล้ว
เรื่องย่อ...
เรื่องราวของทีมนางฟ้า ซาบินา (คริสเตน สจ๊วต), เอเลน่า (นาโอมิ สก็อตต์) และ เจน (เอลล่า บาลินสกา)
ทำงานให้องค์กรลับของ "ชาร์ลส์ ทาวน์เซนด์" เพื่อขจัดปัญหาต่าง ๆ ที่มันแผ่ขยายวงกว้างไปทั่วโลก
ความกล้าหาญ บวกกับมันสมองอันชาญฉลาด และทักษะการต่อสู้ พวกเธอได้กลายมาเป็นทีมนางฟ้าเจเนอเรชั่นใหม่ที่จะต้องมาร่วมมือกันพิชิตภารกิจสุดหินภายใต้การนำทางของบอสลีย์หลายชีวิต
ความรู้สึกหลังดู
รู้สึกเขิน...เขินตัวเองเว้ยย ว่าทำไมถึงไปดูหนังเรื่องนี้ (นาโอมิ สก็อตต์)
แบบดูจบออกมาหน้าโรง ผมดันไปได้ยินเด็กผู้หญิงกับกลุ่มเพื่อนเดินออกมาหน้าโรง...(เหมือนโดดเรียนมาดูหนัง) แล้วถามเพื่อนประมาณว่า
" แก.....หนังอะไรอ่ะ เราดูเรื่องอะไรนะ อะไรว่ะ ชวนฉ้านนดูอะไร?"
หนังมีความเป็นFeminist เน้นพลังหญิง ความเป็นสตรีมากก..
เข้าใจนะยุคนี้เขานิยมกัน ที่จะให้ตัวละครนำเป็นพลังหญิงอย่าง อลิตา แบทเทิลแองเจิ้ล, บัมเบิลบี ที่มี เฮลีย์ สแตนฟิลด์ไรงี้
ซึ่งเออก็โอเค ไม่ติดใจอะไร แต่...
ไม่ต้องขยี้เป็นคำพูดได้มั้ย แล้วไม่ต้องเอาผู้ร้ายที่เป็นชายอ่ะ มาพูดขยี้ หรือเหยียดสิทธิสตรีก็ได้ แสดงให้เห็นพอ
บางทีมันก็เกินความพอดี ขยี้ตั้งแต่ซีนเปิดอ่ะ (ชอบอินโทเปิด)
ส่วนตัวคิดว่าตัวละครชายๆ ในเรื่องอ่ะ ไม่จำเป็นเลยก็ได้อ่ะ นอกจากผู้ร้าย คือมีก็เหมือนไม่มี
แล้วผู้ร้ายเรื่องนี้ เป็นอะไรที่เชยมาก เชยแบบหลุดจากยุค90
ร้าย นิ่ง เลือดเย็น แบบT-1000ใน Judgement Day อ่ะ (หน้าเหมือนด้วย)
พอพูดถึงความเชย หนังเรื่องนี้ มันเหมือนหนังสายลับที่มีการทำมาแล้ว ร้อยรอบ...
แบบ..เจมส์บอนด์, มิสชั่น อิมพอสซิเบิ้ล, Salt , Anna, Kingsman ไรงี้
แอ็คชั่นดูได้เพลินๆ ไม่ได้ว้าววอะไร
เราเคยเห็นแอ็คชั่นแบบนี้มาแล้วโคตรบ่อย
ขอยกตัวอย่าง...Red ที่บรู๊ซ วิลลิสเล่น หรือเก่ากว่านั้น พวกหนังฮ่องกงของโจวเหวินฟะเลยมั้ย โหดเลวดี สไลด์ตัวยิงกระสุน
ทั้งการเดินเรื่องที่เคยเห็นมาแล้วววว
เข้าใจว่ามันหาความออริจินัลอะไรได้ยากแล้วในหนังแอ็คชั่นยุคนี้
มันไม่ได้สดใหม่ และผมก็ไม่ได้คาดหวังตั้งแต่เห็นทีเซอร์ล่ะ เราตีตั๋วเข้าไปนิก็เพื่อเสพ..ความบันเทิงอย่างเดียว (นาโอมิ สก็อตต์)
พอมองแง่รวมๆ ด้านเอนเตอร์เทน มันก็พอดูได้เพลินๆ ไม่ถึงขั้นแย่ หรือดูไม่ได้เลย
แต่..ถ้าถามว่าหนังเรื่องนี้ ตอบโจทย์คอแอ็คชั่นมั้ย ตอบได้เลยว่า... ไม่แน่ใจว่ะ 555555656
มันเป็นหนังสายลับที่มีเทคโนโลยีไฮเทค และพูดอะไรก็ไม่รู้ บลาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แบบที่หนังสายลับชอบทำกัน คือไม่ต้องถกกันเยอะก็ได้ จัดแอ็คชั่นมาบ้างก็พอ..
หนังมีพลิกแพลงหักเหลี่ยม หักมุมหลอกคนดูไปหลอกคนดูมา แต่เชื่อมั้ย เดาไม่ยากเลย
แบบเหมือนเราดูโคนันอ่ะ เราสงสัยใคร มันมักจะไม่ใช่คนร้าย มันมักจะเป็นคนที่เราคาดไม่ถึงเสมอ นี่คือสูตรการทำหนังสายลับ หรือนักสืบชัดๆ
ที่เดาไม่ยากก็เพราะ บางที...อย่างที่แอนด์แมนเคยกล่าวกับโทนี่ไว้ใน Avengers : Endgame "ดูไม่ออกเหรอ นี่มันหน้าโหมวเฮ้งตัวโกงชัดๆ"
หนังสูตรสำเร็จมาก..
เคมีความเป็นทีม ที่เห็นได้จากหนังส่วนใหญ่ มักจะมีตัวละครประมาณว่า...
-คนนึงจะแกร่งเย็นชา แต่ลึกๆซ่อนเจ็บ
-อีกคนนึงจะเป็นตัวแสบ ตัวฮา สร้างสีสรรค์
-ส่วนอีกคน เนิร์ด เด็กวิทย์ เซ่อซ่า
คุ้นมั้ยล่ะ นินจาเต่าไงเมิง
ซึ่งเคมีสูตรสำเร็จะที่ว่า ของตัวละครทั้งสามสาวมันก็เวิร์คดี แต่ก็แอบรู้สึกว่ามันก็ยังแปลกๆอยู่
อย่างน้อยมันก็สร้างอารมณ์ขันให้หนัง
ส่วนตัว อย่างที่บอกไปก่อนหน้าว่า...มาดู เจ้าหญิงจัสมิน แต่กลายเป็นว่า..ชอบตัวละครทุกตัวเลยเว้ย ทั้ง'คริสเตน สจ๊วต' ทั้ง'นาโอมิ สก็อตต์' ทั้ง'เอลล่า'
คือเมื่อไหร่ที่สามตัวละครนี้อยู่รวมกัน ผมยิ่งชอบซีนนั้นโดยไม่มีเหตุผล ชอบดูต่อบทต่อกลอน รู้สึกว่ามันตรึงเราไว้ให้อยู่หน้าจอ เพลินดี
เพลงประกอบเรื่องนี้ น่าจะเป็นอะไรที่ดีงามสำหรับเรื่องนี้ ติดหูดี เข้ากับตัวหนัง แสดงความเป็นพลังหญิง เชื่อมั้ย ออกมาจากโรง จนถึงตอนนี้ เพลงยังหลอนในหัว
เรื่องนี้มีอีสเตอร์เอ้กเยอะมาก ทั้งพร็อพ ทั้งนักแสดง คือถ้าไม่ค่อยรู้จักนักแสดง หรือไม่เคยผ่านการดู ชาร์ลีแองเจิ้ลมา ก็จะเฉยๆครับ
5/10 สำหรับเรา มันดูได้เพลินๆ ไม่ได้รู้สึกว่าแย่ แต่ก็ไม่ได้ว้าว มันเหมือนหนังดูยามว่าง
เหมือนหนังสายลับทั่วไป แต่ขอชมเรื่องเพลงประกอบ หลอนหูดี
ผมพอเข้าใจนะว่ายุคนี้ คนสร้างเขาน่าจะคิดว่า ...2019 แล้ว....
มันไม่จำเป็นต้องเอาผู้หญิงโชว์เอ็กซ์ เต้นร่อน ยั่ว หรือเป็นรางวัลผู้ชายในหนังแบบไมเคิล เบย์แล้วอ่ะ เขาก็เลยเพลาๆ ลง..แล้วไปโฟกัสความเป็นหนังสายลับหญิงเต็มๆแทน (แต่เชยยย,-_-555)
สุดท้ายนี้ อย่าให้รีวิวผมหรือใคร เป็นตัวตัดสินใจการดูหนังแทนคุณ คือ..ถ้าคุณอยากดู ก็ไปดูเลยครับ สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น
รีวิวนี้มีความคิดเห็นส่วนตัวอยู่ในองค์ประกอบ หากไม่ตรงกับความคิดเห็นท่านใดก็ขออภัย..ครับ
ถ้าชอบรีวิว ฝากเพจแถวCตีตั๋ว ด้วยครับ นานๆผมจะมารีวิวในนี้ ส่วนใหญ่เน้นเพจครับ
https://m.facebook.com/teawCteetua/
รีวิว Charlie's Angel (2019) "สูตรสำเร็จหนังสายลับ ที่ทำมาแล้ว100รอบ"
"มันเหมือนหนังสายลับที่มีการทำมาแล้ว แอ็คชั่นพอดูเพลินๆ ไม่ว้าว เคมีทีมสาวๆ...ได้ อารมณ์ขันดี แต่ที่ดีหน่อยคือเพลงที่ติดหู"
เกริ่น..
พอพูดถึงนางฟ้าชาร์ลี หรือ Charlie's Angel แน่นอน คนไทยเราย่อมนึกถึงความเซ็กซี่ และพลังตัวแม่อย่าง.. คาเมรอน ดิแอซ, ดรูว์ แบร์รี่มอร์ และลูซี่ หลุย
แต่แท้จริงแล้วมันเป็นภาพยนตร์ที่สานต่อความสำเร็จรุ่นเดอะที่เก่าแก่กว่านั้น อย่างฉบับซีรี่ส์ทีวียุค 70
บอกกันก่อน ที่ตัดสินใจตีตั๋วมาดูเวอร์ชั่นใหม่นี้ ก็เพราะ นาโอมิ สก็อตต์ เจ้าหญิงจัสมิน ล้วนๆครับ
ส่วนตัวผมเคยดูแค่..รุ่นยุค2000ต้นๆ เจ๊คาเมรอนเท่านั้นแหละ แล้วจำเนื้อเรื่องอะไรไม่ได้แล้วด้วย และไม่ได้ปลื้มหนังไรมาก แค่มาดูความสวยเซ็กรุ่นเจ๊ๆ ตามประสาเด็กใจแตก😜
ดังนั้นผมจะขอรีวิวแบบไม่เปรียบเทียบอะไรเวอร์ชั่นก่อนหน้าทั้งนั้น เพราะจำเรื่องอะไรไม่ได้แล้ว
เรื่องย่อ...
เรื่องราวของทีมนางฟ้า ซาบินา (คริสเตน สจ๊วต), เอเลน่า (นาโอมิ สก็อตต์) และ เจน (เอลล่า บาลินสกา)
ทำงานให้องค์กรลับของ "ชาร์ลส์ ทาวน์เซนด์" เพื่อขจัดปัญหาต่าง ๆ ที่มันแผ่ขยายวงกว้างไปทั่วโลก
ความกล้าหาญ บวกกับมันสมองอันชาญฉลาด และทักษะการต่อสู้ พวกเธอได้กลายมาเป็นทีมนางฟ้าเจเนอเรชั่นใหม่ที่จะต้องมาร่วมมือกันพิชิตภารกิจสุดหินภายใต้การนำทางของบอสลีย์หลายชีวิต
ความรู้สึกหลังดู
รู้สึกเขิน...เขินตัวเองเว้ยย ว่าทำไมถึงไปดูหนังเรื่องนี้ (นาโอมิ สก็อตต์)
แบบดูจบออกมาหน้าโรง ผมดันไปได้ยินเด็กผู้หญิงกับกลุ่มเพื่อนเดินออกมาหน้าโรง...(เหมือนโดดเรียนมาดูหนัง) แล้วถามเพื่อนประมาณว่า
" แก.....หนังอะไรอ่ะ เราดูเรื่องอะไรนะ อะไรว่ะ ชวนฉ้านนดูอะไร?"
หนังมีความเป็นFeminist เน้นพลังหญิง ความเป็นสตรีมากก..
เข้าใจนะยุคนี้เขานิยมกัน ที่จะให้ตัวละครนำเป็นพลังหญิงอย่าง อลิตา แบทเทิลแองเจิ้ล, บัมเบิลบี ที่มี เฮลีย์ สแตนฟิลด์ไรงี้
ซึ่งเออก็โอเค ไม่ติดใจอะไร แต่...
ไม่ต้องขยี้เป็นคำพูดได้มั้ย แล้วไม่ต้องเอาผู้ร้ายที่เป็นชายอ่ะ มาพูดขยี้ หรือเหยียดสิทธิสตรีก็ได้ แสดงให้เห็นพอ
บางทีมันก็เกินความพอดี ขยี้ตั้งแต่ซีนเปิดอ่ะ (ชอบอินโทเปิด)
ส่วนตัวคิดว่าตัวละครชายๆ ในเรื่องอ่ะ ไม่จำเป็นเลยก็ได้อ่ะ นอกจากผู้ร้าย คือมีก็เหมือนไม่มี
แล้วผู้ร้ายเรื่องนี้ เป็นอะไรที่เชยมาก เชยแบบหลุดจากยุค90
ร้าย นิ่ง เลือดเย็น แบบT-1000ใน Judgement Day อ่ะ (หน้าเหมือนด้วย)
พอพูดถึงความเชย หนังเรื่องนี้ มันเหมือนหนังสายลับที่มีการทำมาแล้ว ร้อยรอบ...
แบบ..เจมส์บอนด์, มิสชั่น อิมพอสซิเบิ้ล, Salt , Anna, Kingsman ไรงี้
แอ็คชั่นดูได้เพลินๆ ไม่ได้ว้าววอะไร
เราเคยเห็นแอ็คชั่นแบบนี้มาแล้วโคตรบ่อย
ขอยกตัวอย่าง...Red ที่บรู๊ซ วิลลิสเล่น หรือเก่ากว่านั้น พวกหนังฮ่องกงของโจวเหวินฟะเลยมั้ย โหดเลวดี สไลด์ตัวยิงกระสุน
ทั้งการเดินเรื่องที่เคยเห็นมาแล้วววว
เข้าใจว่ามันหาความออริจินัลอะไรได้ยากแล้วในหนังแอ็คชั่นยุคนี้
มันไม่ได้สดใหม่ และผมก็ไม่ได้คาดหวังตั้งแต่เห็นทีเซอร์ล่ะ เราตีตั๋วเข้าไปนิก็เพื่อเสพ..ความบันเทิงอย่างเดียว (นาโอมิ สก็อตต์)
พอมองแง่รวมๆ ด้านเอนเตอร์เทน มันก็พอดูได้เพลินๆ ไม่ถึงขั้นแย่ หรือดูไม่ได้เลย
แต่..ถ้าถามว่าหนังเรื่องนี้ ตอบโจทย์คอแอ็คชั่นมั้ย ตอบได้เลยว่า... ไม่แน่ใจว่ะ 555555656
มันเป็นหนังสายลับที่มีเทคโนโลยีไฮเทค และพูดอะไรก็ไม่รู้ บลาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แบบที่หนังสายลับชอบทำกัน คือไม่ต้องถกกันเยอะก็ได้ จัดแอ็คชั่นมาบ้างก็พอ..
หนังมีพลิกแพลงหักเหลี่ยม หักมุมหลอกคนดูไปหลอกคนดูมา แต่เชื่อมั้ย เดาไม่ยากเลย
แบบเหมือนเราดูโคนันอ่ะ เราสงสัยใคร มันมักจะไม่ใช่คนร้าย มันมักจะเป็นคนที่เราคาดไม่ถึงเสมอ นี่คือสูตรการทำหนังสายลับ หรือนักสืบชัดๆ
ที่เดาไม่ยากก็เพราะ บางที...อย่างที่แอนด์แมนเคยกล่าวกับโทนี่ไว้ใน Avengers : Endgame "ดูไม่ออกเหรอ นี่มันหน้าโหมวเฮ้งตัวโกงชัดๆ"
หนังสูตรสำเร็จมาก..
เคมีความเป็นทีม ที่เห็นได้จากหนังส่วนใหญ่ มักจะมีตัวละครประมาณว่า...
-คนนึงจะแกร่งเย็นชา แต่ลึกๆซ่อนเจ็บ
-อีกคนนึงจะเป็นตัวแสบ ตัวฮา สร้างสีสรรค์
-ส่วนอีกคน เนิร์ด เด็กวิทย์ เซ่อซ่า
คุ้นมั้ยล่ะ นินจาเต่าไงเมิง
ซึ่งเคมีสูตรสำเร็จะที่ว่า ของตัวละครทั้งสามสาวมันก็เวิร์คดี แต่ก็แอบรู้สึกว่ามันก็ยังแปลกๆอยู่
อย่างน้อยมันก็สร้างอารมณ์ขันให้หนัง
ส่วนตัว อย่างที่บอกไปก่อนหน้าว่า...มาดู เจ้าหญิงจัสมิน แต่กลายเป็นว่า..ชอบตัวละครทุกตัวเลยเว้ย ทั้ง'คริสเตน สจ๊วต' ทั้ง'นาโอมิ สก็อตต์' ทั้ง'เอลล่า'
คือเมื่อไหร่ที่สามตัวละครนี้อยู่รวมกัน ผมยิ่งชอบซีนนั้นโดยไม่มีเหตุผล ชอบดูต่อบทต่อกลอน รู้สึกว่ามันตรึงเราไว้ให้อยู่หน้าจอ เพลินดี
เพลงประกอบเรื่องนี้ น่าจะเป็นอะไรที่ดีงามสำหรับเรื่องนี้ ติดหูดี เข้ากับตัวหนัง แสดงความเป็นพลังหญิง เชื่อมั้ย ออกมาจากโรง จนถึงตอนนี้ เพลงยังหลอนในหัว
เรื่องนี้มีอีสเตอร์เอ้กเยอะมาก ทั้งพร็อพ ทั้งนักแสดง คือถ้าไม่ค่อยรู้จักนักแสดง หรือไม่เคยผ่านการดู ชาร์ลีแองเจิ้ลมา ก็จะเฉยๆครับ
5/10 สำหรับเรา มันดูได้เพลินๆ ไม่ได้รู้สึกว่าแย่ แต่ก็ไม่ได้ว้าว มันเหมือนหนังดูยามว่าง
เหมือนหนังสายลับทั่วไป แต่ขอชมเรื่องเพลงประกอบ หลอนหูดี
ผมพอเข้าใจนะว่ายุคนี้ คนสร้างเขาน่าจะคิดว่า ...2019 แล้ว....
มันไม่จำเป็นต้องเอาผู้หญิงโชว์เอ็กซ์ เต้นร่อน ยั่ว หรือเป็นรางวัลผู้ชายในหนังแบบไมเคิล เบย์แล้วอ่ะ เขาก็เลยเพลาๆ ลง..แล้วไปโฟกัสความเป็นหนังสายลับหญิงเต็มๆแทน (แต่เชยยย,-_-555)
สุดท้ายนี้ อย่าให้รีวิวผมหรือใคร เป็นตัวตัดสินใจการดูหนังแทนคุณ คือ..ถ้าคุณอยากดู ก็ไปดูเลยครับ สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น
รีวิวนี้มีความคิดเห็นส่วนตัวอยู่ในองค์ประกอบ หากไม่ตรงกับความคิดเห็นท่านใดก็ขออภัย..ครับ
ถ้าชอบรีวิว ฝากเพจแถวCตีตั๋ว ด้วยครับ นานๆผมจะมารีวิวในนี้ ส่วนใหญ่เน้นเพจครับ
https://m.facebook.com/teawCteetua/