สมัยผมเด็กๆ concept สามสาวมาแรงมาก
นอกจากวง สาว สาว สาว แล้ว
ยังมีสามสาวฝั่งตะวันตก กับ สามสาวในวงการหนังไทย
สามสาวฝั่งตะวันตกคือทีวีซีรีส์ "นางฟ้าชาลี"
สามสาวในวงการหนังไทยก็คือหนังเรื่องสามใบเถา
ทั้งวงสาว สาว สาว ทีวีซีรีส์ นางฟ้าชาลี และหนังเรื่องสามใบเถา
ต่างโด่งดังตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ถือว่าดังมากๆในเมืองไทย
แบบคู่คี่กันมาเลยทีเดียว

เรามาเริ่มจากทีวีซีรีส์ นางฟ้าชาลี กันก่อนดีกว่าครับ

เว็บที่แนะนำทีวีซีรีส์ชุดนี้ได้ดีที่สุดคือ https://www.beartai.com/buzz/382162
เราแวะไปอ่านกันก่อนดีกว่าครับ

ถ้าวัดกันที่ความสำเร็จก็ต้องบอกว่า Charlie’s Angels เวอร์ชันเปิดตัว ในรูปแบบทีวีซีรีส์ปี 1976 นั้น เป็นครั้งที่ประสบความสำเร็จที่สุด ด้วยไอเดียที่แปลกใหม่ในวงการหนังสายลับ ที่มีแต่เพศชายมาโดยตลอด การพลิกโฉมด้วยการนำเสนอสายลับที่มาในมาด 3 สาวสวยและเซ็กซี่นั้นดึงดูดความสนใจได้เป็นอย่างดี บวกกับการคัดเลือก 3 สาว ที่สวยสะดุดตา

3 สาวรุ่นแรกในวันนั้นประกอบด้วย ฟาราห์ ฟอว์เซ็ตต์, เคต แจ็กสัน, แจ็คเกอลีน สมิต ผลจาก Charlie’s Angels ส่งให้ทั้ง 3 คน ดังเปรี้ยงปร้าง พอดังเข้าก็ต้องแยกวง ฟาราห์ ฟอว์เซ็ตต์ เป็นรายที่ประสบความสำเร็จที่สุด ด้วยภาพลักษณ์ผมบลอนด์ฟูฟ่องผู้นำเทรนด์ฮิตในยุคนั้น เธอเป็นรายแรกที่โบกมือลาซีรีส์ไปหลังจบซีซันแรก แล้วก็ตามด้วยแคต แจ็กสัน จึงมีนางฟ้าคนใหม่ ๆ เข้ามาแทนที่ในซีซันต่อ ๆ มา คือ เชอรีล แลดด์, ธันยา โรเบิร์ต และเชลลี แฮกค์ ซึ่งทุกคนก็ล้วนมีชื่อเสียงจากบทนางฟ้าชาร์ลีเช่นกัน

ซีรีส์เปิดตัวในซีซันแรก ได้รับความนิยมสูงสุด แล้วเรตติ้งก็เริ่มลดน้อยถอยลงในซีซันต่อ ๆ มา อาจจะด้วยนางฟ้าที่เปลี่ยนนักแสดงบ่อยขึ้น ทางผู้สร้างก็พยายามหากลเม็ดเด็ดพรายต่าง ๆ มาดึงความสนใจผู้ชม ทั้งการเชิญนักแสดงชื่อดังมาเป็นแขกรับเชิญในแต่ละตอน การให้นางฟ้าไปโผล่ในทีวีซีรีส์เรื่องอื่น ๆ ที่เรียกว่า Crossover และถึงกับมีความพยายามสร้างซีรีส์ภาคแยก Spin-Off แต่ก็ล้วนเป็นความล้มเหลว พอถึงซีซันที่ 4 เรตติ้งหล่นฮวบ แล้วก็ตัดสินใจยุติแพร่ภาพในซีซันที่ 5 แค่ตอนที่ 17 เท่านั้น ในขณะที่ซีซันก่อนหน้านั้นยาวถึง 24-26 ตอน

ที่อ่านกันจบไปแล้วนั้นคือภาพรวมที่ดีมากๆเลยครับ
ที่เคยนำมาฉายในทีวีเมืองไทยจะเป็นซีซันแรก
ตอนนั้นดังมากๆ โดยเฉพาะคนกลางชุดแดงในรูปบน - ฟาราห์ ฟอว์เซ็ตต์
ดังจน ฟาราห์ ฟอว์เซ็ตต์ กลายเป็นหญิงสาวในอุดมคติของหนุ่มๆยุคนั้น
ส่วนสาวๆก็นิยมทำผมทรงฟาราห์ จนร้ายเสริมสวยทุกร้านต้องฝึกเด็กของตัวเอง
ให้ทำผมทรงฟาราห์ให้ได้ ไม่งั้นตายสถานเดียว เพราะถ้าทำไม่ได้ จะไม่มีใครเข้าร้าน


ความดังของ ฟาราห์ ฟอว์เซ็ตต์ ดังจนไปปรากฏในเพลงของคุณดาวใจ ไพจิตร
ที่ชื่อว่าเพลง "นางฟ้าที่ถูกลืม"



เพลง นางฟ้าที่ถูกลืม 
ขับร้องโดย : ดาวใจ ไพจิตร 
คำร้อง/ทำนอง : สาโรจน์ เสมทรัพย์ 

เธอจำได้ไหม คนที่ไว้ผมยาวเคลียบ่า ไว้ผมทรงฟาร่าห์ เธอชมว่าทันสมัย 
เคยเรียกฉันว่า ฟาร่าห์ ฟอร์เซทเมืองไทย เสกสรรถ้อยคำไว้ให้ ยังจำได้ไหมคนดี 

เธอเคยเปรียบฉัน งามเหมือนจันทร์ ช่างสรรพมาอ้าง 
เมื่อสมใจทุกอย่าง ก็เลยเปลี่ยนทางหน่ายหนี 
เธอลืมฉันได้ ลืมสิ้นเยื่อใยไมตรี 
เมื่อเห็นทีวีทุกที นางฟ้าชาลี ปวดใจ

เปิดทีวีครั้งใดหัวใจยิ่งแป้ว โธ่เอ๋ยเขาลืมเราแล้ว เหมือนแก้วที่ไร้แววใส
เมื่อเธอดูหนังทีวีเรื่องนี้วันใด อยากรู้เธอคิดหรือไม่ เคยทำใครให้ช้ำอุรา

เธอไปจากฉัน เธอทิ้งฉัน ไปฝันรักใหม่
ทิ้งฉันนอนร้องไห้ เศร้าใจปวดใจหนักหนา
เมื่อยามฉันส่อง กระจกเพื่อดูหน้าตา
ได้เห็นทรงผมทุกครา ยิ่งช้ำอุราทุกที

เปิดทีวีครั้งใดหัวใจยิ่งแป้ว โธ่เอ๋ยเขาลืมเราแล้ว เหมือนแก้วที่ไร้แววใส
เมื่อเธอดูหนังทีวีเรื่องนี้วันใด อยากรู้เธอคิดหรือไม่ เคยทำใครให้ช้ำอุรา

เธอไปจากฉัน เธอทิ้งฉัน ไปฝันรักใหม่
ทิ้งฉันนอนร้องไห้ เศร้าใจปวดใจหนักหนา
เมื่อยามฉันส่อง กระจกเพื่อดูหน้าตา
ได้เห็นทรงผมทุกครา ยิ่งช้ำอุราทุกที.





......................................................................................................................................

สำหรับหนังเรื่องสามใบเถานั้น ผมเคยเขียนไว้ในพันทิปเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2555
ประมาณ 12 ปีมาแล้วนะครับ ตอนนั้นผมใช้นามแฝงว่า "ภคสิต"
วันนี้จะนำมาปัดฝุ่นใหม่ แต่ระวังนะครับ อาจมีสปอยด์ ใครที่อยากดูหนังก่อน ต้องหยุดอ่านก่อนเลยครับ



ถ้าจะให้นึกถึงหนังดังในอดีตสักเรื่องที่รวมนักแสดงฝ่ายหญิงที่กำลังโด่งดังในยุคนั้น สามใบเถาจะต้องเป็นหนังเรื่องแรกๆที่คนนึกถึง แค่นักแสดงนำหญิงสามคนก็กินขาดแล้วครับ ท่านแรกคือเนาวรัตน์ ยุกตะนันท์ นักแสดงหญิงที่กำลังอยู่ในระดับที่เรียกได้ว่าเป็นซุปเปอร์สตาร์ของเมืองไทย ก่อนรับเล่นสามใบเถา คุณเนาวรัตน์มีผลงานมาแล้วหลายเรื่อง อาทิ แผ่นดินของเรา (2519)  โอ้มาดา (2520) อย่าลืมฉัน (2520) แหกค่ายนรกเดียนเบียนฟู (2520) รักแรกรุ่น (2520) รักเอย (2521) มนต์รักอสูร (2521) รักครั้งสุดท้าย (2524) หมอซ้ง (2522) ละอองดาว (2523) ฯลฯ รวมแล้วจริงๆผลงานก่อนหน้าสามใบเถาน่าจะประมาณ 100 กว่าเรื่อง

ท่านที่สองได้แก่คุณอำภา ภูษิต นางเอกที่ดังมาจากฟ้าหลังฝน (2521) และมีการแสดงมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ หัวใจวิปริต (2522) รอยลิขิต (2522) หมอซ้ง (2522) ฯลฯ การที่คุณอำภารับเล่นหนังเรื่องนี้ถือว่าฉลาดมาก เพราะยังไงเสีย ก็นับว่าเป็นหนังที่มีนางเอกสามคน บทของนางเอกแต่ละคนมีความสำคัญไม่ได้ยิ่งหย่อนกันเลย และเมื่อพิจารณาจากบทแล้ว บทของคุณอำภาก็ถือว่ามีเสน่ห์มากในหนังไทยเรื่องนี้

มาถึงท่านที่สามบ้าง คุณสุพรรษา เนื่องภิรมย์ นางเอกที่ดังมาจากหนังเรื่องเตือนใจและไผ่สีทอง คุณสุพรรษาก็ฉลาดมากที่รับเล่นหนังเรื่องนี้ เพราะถือว่าได้รับบทเด่นไม่แพ้นางเอกทั้งสอง โดยรับบทเป็นน้องนุชสุดท้องที่มีความน่ารัก สดใส เป็นธรรมชาติมาก และถ่ายทอดอารมณ์ของการแสดงในแนวสดใสได้ดี ไม่มากไปน้อยไป

คงต้องชื่นชมคนที่คัดเลือกนักแสดงนำสามคนว่าคัดเลือกได้ลงตัวมาก เพราะสมัยนั้นตัวเลือกที่โดดเด่นจริงๆมีไม่มาก แต่ตัวเลือกที่กำลังก้าวขึ้นมาในฐานะนักแสดงหน้าใหม่ถือว่ามีมากอยู่เหมือนกัน การที่นางเอกทั้งสามรับแสดงหนังเรื่องนี้ ทำให้คนไทยเรียกชื่อของพวกเธอติดปากอยู่ระยะหนึ่งว่า เนาวรัตน์ อำภา สุพรรษา การเรียกแบบนี้ไม่ได้เรียกตามลำดับความดังแต่อย่างไร แต่เรียกตามลำดับอาวุโสของตัวละครในเรื่อง เพราะเนาวรัตน์เป็นพี่ใหญ่ อำภาเป็นพี่สาวคนกลาง และสุพรรษาเป็นน้องเล็ก ทั้งสามน่ารักสดใส ตามบท และเล่นแบบเสริมส่งซึ่งกันและกัน โดยไม่ได้แย่งซีนกันเลย

สามใบเถา เป็นหนังในปี พ.ศ. 2523 เป็นหนังรักวัยรุ่นที่กำกับโดย ศุภักษร ผู้กำกับหนังวัยรุ่นชื่อดังแห่งยุค โครงเรื่องสามารถแบ่งได้เป็น 4 ส่วน ได้แก่
1. เปิดตัวนางเอกทั้งสาม
2. เปิดตัวพระเอกทั้งสาม
3. วางเหตุการณ์ให้ทั้งหกไปเที่ยวกันก่อนเกิดอุบัติเหตุ
4. เหตุการณ์ดราม่าหนักๆ หลังจากเกิดอุบัติเหตุแล้ว

เรามาว่ากันถึงช่วงแรกกันก่อน ช่วงแรกนี้ถือเป็นการเปิดตัวนางเอกแบบไม่รีรอ เพราะพอเปิดหนัง นางเอกทั้งสามก็ออกมาเลย ทั้งสามน่ารักมาก ถึงแม้บทของทั้งสามจะดูผิดธรรมชาติในบางซีน แต่ก็ถือว่าเป็นสมัยนิยม เพราะความเป็น comedy นี้บางครั้งมันมีคำว่ายุคสมัยมากำกับ ในช่วงแรกนี้เหมือนเป็นการปู character ที่ทำให้ผู้ชมเห็นกันชัดๆว่า ใครเป็นอย่างไรและทั้งสามสนิทกันมากแค่ไหน

ถึงจะเป็นช่วงต้นที่ดูสดใสไม่มีอะไร แต่นับว่ามีความสำคัญมากของเรื่อง เพราะหนังแอบซ่อนช่วงที่ 4 ไว้ ไม่บอกใครเลย หนังพยายาม present ตัวเองว่าเป็นหนังรักวัยรุ่นทั่วไปที่มีจุดเด่นคือสามารถดึงนางเอกทั้งสามคนมาแสดงด้วยกันได้ แต่หนังไม่เคยโชว์เลยว่ามันจะจบอย่างไร ทำให้สมัยนั้นถ้าจะให้มีการคาดเดาว่าสามใบเถาจะจบอย่างไร ถือว่าเดายากมาก ไม่รู้ว่าลักษณะแบบนี้เราจะจัดว่าสามใบเถาเป็นหนังหักมุมได้ไหม


ช่วงที่สองน่าจะกลายเป็นขนบของหนังรักวัยรุ่นในสมัยนั้นไปแล้ว คือเมื่อมีการเปิดตัวนางเอกก็ต้องมีการเปิดตัวพระเอก เพื่อให้เห็นภาพว่านางเอกของเราแต่ละคนมีคุณค่านะ มีหนุ่มๆมารุมจีบ แต่หนังไม่เสียเวลาเลยที่จจับคู่ว่าพระเอกสามคนกับนางเอกสามคนนั้น ใครคู่กับใคร ถ้าเรามาดูสมัยนี้อาจจะรู้สึกเชยกับวิธีการแบบนี้ แต่ว่าสมัยนั้นเหมือนมันเป็นธรรมเนียมนิยมของหนังรักวัยรุ่นไปแล้ว เพราะหนังรักวัยรุ่นสมัยนั้นมักจะมีรูปแบบในการปล่อยตัวละครหรือการสร้าง character ไม่ต่างกันมาก ที่เป็นแบบนี้อาจเป็นเพราะคนดูสมัยนั้นชอบแบบนี้ ดูไม่วุ่นวายดีและชัดดีว่าใครคู่กับใคร ตรงนี้ถือว่าหนังทำได้ดีในระดับที่น่าพอใจของคนดูในยุคนั้น

ที่ผมชอบอย่างหนึ่งคือการเปิดตัวของพระเอกสามคนนี้ ดูง่ายๆ แต่ไม่เชย และการเลือกพระเอก อาจเป็นคนละกรอบกับการเลือกนางเอกเลยคือ พระเอกทั้งสามไม่ได้โด่งดังในสมัยนั้น จริงๆแล้วการทำแบบนี้บางตำราจะบอกว่า "เสี่ยงเกินไป" คนดูจะรับได้เหรอ แต่คงเป็นเพราะความฉลาดของคนคัดเลือกนักแสดง (อีกแล้ว) เพราะพระเอกแต่ละคนดูเหมาะกับนางเอกแต่ละคนเหลือเกิน และที่สำคัญไปกว่านั้น พระเอกแต่ละคนไม่ได้หล่อเหลาอะไรมาก เพียงแต่ดูแมนๆหน่อย และมีอะไรบางอย่างที่ทำให้เห็นได้ว่า นางเอกระดับซุปเปอร์สตาร์ทั้งสามจะมาหลงรักได้

ผมว่าการเลือกพระเอกที่ไม่ดัง แต่มีเสน่ห์นั้น นอกจากจะช่วยเสริมส่งนางเอกแต่ละคนแล้ว เมื่อส่งกันหมดแล้ว พระเอกแต่ละคนก็ได้รับอานิสงค์จากการวางลักษณะการคัดเลือกตัวละครแบบนี้ไปเต็มๆ จนทำให้พระเอกบางคนอย่างคุณพล พลากร มาดังสุดขีดตอนเป็นพระเอกเรื่องดาวพระศุกร์คู่กับคุณมนฤดี ยมาภัย ใครเป็นฟนคุณพล ไม่ควรพลาดการชมภาพยนตร์เรื่องสามใบเถานะครับ