The King
แผ่นดินกษัตริย์นองเลือด

ในช่วงศตวรรษที่ 15 อังกฤษเผชิญทั้งศึกในและศึกนอก โดยเฉพาะกับสงครามที่แสนยืดเยื้อกับฝรั่งเศส พระเจ้าเฮนรี่ที่ 4 ผู้ซึ่งเป็นกษัตริย์ในขณะนั้นไม่พึงพอใจในตัวลูกชายคนโตของตัวเองนัก และไม่คิดว่าจะให้เขาได้ขึ้นครองราชย์ แต่จนแล้วจนรอดลูกชายคนโตคนนี้ก็ได้ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์ในที่สุดในชื่อ พระเจ้าเฮนรีที่ 5 มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่ได้เป็นกษัตริย์ในยามที่บ้านเมืองมีศึกสงครามรออยู่ ความไม่ไว้วางใจกันระหว่างอังกฤษและฝรั่งเศสสองประเทศที่มีความเกี่ยวดองกันทางสายเลือดราชบัลลังก์นำมาซึ่งสงครามที่ไม่มีทางจบสิ้นได้โดยง่าย เลือดล้างเลือดจึงเป็นคำตอบที่ง่ายที่สุดของการไม่ไว้เนื้อเชื่อใจกัน

บอกเลยว่าใครที่ชอบแนวประวัติศาสตร์ของอังกฤษกับฝรั่งเศสต้องไม่พลาดหนังเรื่องนี้ แม้หนังจะไม่ได้เน้นความถูกต้องทางประวัติศาสตร์มากก็ตามเพราะหนังใช้งานเขียนของเชคสเปียร์เป็นวัตถุดิบหลักในการสร้างเรื่องราวขึ้นมา โดยเนื้อเรื่องเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างอังกฤษกับฝรั่งเศสนี้เป็นส่วนหนึ่งของ สงครามร้อยปี ที่เราคุ้นหูกัน ใครที่ไม่ค่อยสนใจประวัติศาสตร์นักอาจจะมึนบ้างตอนดูเพราะหนังให้ความสำคัญกับรายละเอียดเยอะพอสมควร แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเนื่องจากขนาดคนที่ว่าสนใจประวัติศาสตร์อย่างเราก็ยังแอบมีเหวอบ้างเลย ดีว่าหนังทำออกมาเข้าใจไม่ยาก เนื้อเรื่องไม่ซับซ้อน แต่ทำออกมาได้สนุก บทก็คมคายกำลังดี

งานโปรดักชัน เสื้อผ้าหน้าผม จัดว่าดีงามไม่เสียชื่อหนังแนวประวัติศาสตร์เลย การถ่ายภาพก็ทำได้ดีเกินคาด เน้นความสมจริงให้ออกมาดูดิบเถื่อนน่าสะใจมาก โดยเฉพาะกับฉากลองเทคในการปะทะกันที่แสนจะเละเทะเลอะเทอะสุดเหี้ยม 

ทิโมธี ชาลาเมต์ ในบทบาทของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 5 เล่นดีแบบที่ไม่รู้จะติตรงไหนเลย เรียกว่าเก็บงานได้หมดทุกจังหวะอารมณ์จริงๆ ส่วน โรเบิร์ต แพททินสัน ก็โผล่มาในบทบาทของเจ้าชายฝรั่งเศสที่แย่งซีนได้ทุกครั้งที่ออกจอเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมี ลิลี่ โรสเดพพ์ และ โจเอล เอ็ดเกอร์ตัน มาร่วมแสดงอีกด้วย คนหลังนี่ก็เล่นได้ดีและก็โดดเด่นมากด้วย

ขบเคี้ยวหนัง