(เพิ่มเติม : ช่วงหน้า Civic ยาวกว่านิดๆ และมีฐานล้อยาวกว่าชัดเจน ช่วงห้องโดยสารเหมือนเท่ากัน! แต่จะแตกต่างเรื่องความกว้างที่
Civic กว้างกว่า 5 เซน บานประตูหลัง City กลับกว้างกว่า ส่วนประตูด้านหน้าก็เท่าๆ กัน สำหรับคนที่เน้นความคุ้มในเรื่องขนาดรถ
กับห้องโดยสาร รู้สึกรถทรงหรูภูมิฐานดูมีความเย้ายวล แต่ไม่แคร์เรื่องอื่นๆ เกี่ยวกับพื้นฐานตัวรถที่ต่างกันคนละระดับชั้น
ทำให้ City รุ่นนี้น่าเอามาพิจารณามากขึ้นกว่าแต่ก่อน ที่แข่งกันอยู่ในรถขนาด sub-compact ในเรื่องขนาดห้องโดยสารใน)
จอดข้างๆ กันแทบจะเท่ากันเลย
ต่างกันอยู่แค่ 7.7 เซนติเมตร (4,553 mm vs 4,630 mm)
ส่วนความกว้างต่างกันอยู่ 5.1 เซนติเมตร (1,748 mm vs 1,799 mm)
ห้องโดยสารอารมณ์ก็กว้างเหมือนๆ กัน
Honda คงคิดว่า City ใหญ่ขนาดนี้ มุมข้างเบาะหลังบุนุ่มมาให้ด้วย (ดีกว่า Civic)
เครื่องยนต์เทอร์โบด้วย อาจแรงกว่าเครื่อง 1.8 อีก
ประหยัดก็ประหยัดกว่า
เส้นบ่าด้านข้างก็ของ Accord (แต่ถ้าจะด่าก็ให้บอกว่าของ Amaze)
รถออกมาภายนอกเป็นแนวหรู (รุ่น SV) เป็นคนละทรงกับ Civic ที่เป็นทรงสปอร์ต
ราคาก็ถูกกว่า Civic รุ่นล่าง 874,000 บาท City รุ่น top ก็ 739,000 บาท ต่างกันอยู่ 135,000 บาท
แต่ถ้าคนมองแค่รุ่น SV 665,000 เพราะรุ่น RS แต่งสปอร์ตมามันดูไม่เข้า
ส่วนต่างราคากับ Civic ก็ถ่างออกไปอีกเป็น 209,000 บาท! อย่างเยอะ
ถ้าใจไม่ต้องเน้นสปอร์ตมาก กับยอมแคบลงมาอีกนิดแค่ 5 เซน รุ่น SV ก็เหลือๆ เลย
ถ้าคนซื้อไม่คิดมาก ซื้อ City รุ่นกลางๆ ล่างๆ เพราะเศรษฐกิจไม่ดี ไม่อยากออกรถแพง
ยอด Civic ก็อาจจะกระทบ
จริงๆ มันแทนกันได้เลย ไม่คิดเรื่องภาพล้งภาพลักษณ์ไร้สาระ (มันก็รถบ้านทั้งคู่)
(*เพิ่มเติม หรือถ้าไม่คิดในเรื่องสมรรถนะของการข้าม segment ที่แตกต่างกันมากอย่างมีนัยสำคัญ)
ภายในของ City ถึงได้ถูกกดลงให้ตกต่ำขนาดนั้น
sensing ห้ามมา เพราะจะยิ่งกระทบ Civic
Honda ไม่ได้มอง Almera ว่าน่ากลัวขนาดนั้น เขากลัวผลิตภัณฑ์ตัวเองกระทบมากกว่า
แต่อย่างว่าตอนที่วางแผนออกแบบมา ตอนนั้นยังไม่มี Almera
ถ้า Almera มันเจ๋งจริง จน City ขายลำบากขึ้น ก็คงมีการปรับ และนึกถึง Civic น้อยลง
เปรียบเทียบขนาดของ City กับ Civic แล้วเลยเข้าใจเลยว่าทำไม Honda ทำภายในแบบนั้น
(เพิ่มเติม : ช่วงหน้า Civic ยาวกว่านิดๆ และมีฐานล้อยาวกว่าชัดเจน ช่วงห้องโดยสารเหมือนเท่ากัน! แต่จะแตกต่างเรื่องความกว้างที่
Civic กว้างกว่า 5 เซน บานประตูหลัง City กลับกว้างกว่า ส่วนประตูด้านหน้าก็เท่าๆ กัน สำหรับคนที่เน้นความคุ้มในเรื่องขนาดรถ
กับห้องโดยสาร รู้สึกรถทรงหรูภูมิฐานดูมีความเย้ายวล แต่ไม่แคร์เรื่องอื่นๆ เกี่ยวกับพื้นฐานตัวรถที่ต่างกันคนละระดับชั้น
ทำให้ City รุ่นนี้น่าเอามาพิจารณามากขึ้นกว่าแต่ก่อน ที่แข่งกันอยู่ในรถขนาด sub-compact ในเรื่องขนาดห้องโดยสารใน)
จอดข้างๆ กันแทบจะเท่ากันเลย
ต่างกันอยู่แค่ 7.7 เซนติเมตร (4,553 mm vs 4,630 mm)
ส่วนความกว้างต่างกันอยู่ 5.1 เซนติเมตร (1,748 mm vs 1,799 mm)
ห้องโดยสารอารมณ์ก็กว้างเหมือนๆ กัน
Honda คงคิดว่า City ใหญ่ขนาดนี้ มุมข้างเบาะหลังบุนุ่มมาให้ด้วย (ดีกว่า Civic)
เครื่องยนต์เทอร์โบด้วย อาจแรงกว่าเครื่อง 1.8 อีก
ประหยัดก็ประหยัดกว่า
เส้นบ่าด้านข้างก็ของ Accord (แต่ถ้าจะด่าก็ให้บอกว่าของ Amaze)
รถออกมาภายนอกเป็นแนวหรู (รุ่น SV) เป็นคนละทรงกับ Civic ที่เป็นทรงสปอร์ต
ราคาก็ถูกกว่า Civic รุ่นล่าง 874,000 บาท City รุ่น top ก็ 739,000 บาท ต่างกันอยู่ 135,000 บาท
แต่ถ้าคนมองแค่รุ่น SV 665,000 เพราะรุ่น RS แต่งสปอร์ตมามันดูไม่เข้า
ส่วนต่างราคากับ Civic ก็ถ่างออกไปอีกเป็น 209,000 บาท! อย่างเยอะ
ถ้าใจไม่ต้องเน้นสปอร์ตมาก กับยอมแคบลงมาอีกนิดแค่ 5 เซน รุ่น SV ก็เหลือๆ เลย
ถ้าคนซื้อไม่คิดมาก ซื้อ City รุ่นกลางๆ ล่างๆ เพราะเศรษฐกิจไม่ดี ไม่อยากออกรถแพง
ยอด Civic ก็อาจจะกระทบ
จริงๆ มันแทนกันได้เลย ไม่คิดเรื่องภาพล้งภาพลักษณ์ไร้สาระ (มันก็รถบ้านทั้งคู่)
(*เพิ่มเติม หรือถ้าไม่คิดในเรื่องสมรรถนะของการข้าม segment ที่แตกต่างกันมากอย่างมีนัยสำคัญ)
ภายในของ City ถึงได้ถูกกดลงให้ตกต่ำขนาดนั้น
sensing ห้ามมา เพราะจะยิ่งกระทบ Civic
Honda ไม่ได้มอง Almera ว่าน่ากลัวขนาดนั้น เขากลัวผลิตภัณฑ์ตัวเองกระทบมากกว่า
แต่อย่างว่าตอนที่วางแผนออกแบบมา ตอนนั้นยังไม่มี Almera
ถ้า Almera มันเจ๋งจริง จน City ขายลำบากขึ้น ก็คงมีการปรับ และนึกถึง Civic น้อยลง