สวัสดีค่า วันนี้เราจะมาพาทุกคนไปรู้จักกับแหล่งดำน้ำของทะเลภาคใต้ที่เราและเพื่อนๆ เพิ่งไปกันมานะคะ
ขอแนะนำตัวก่อนว่าเราชื่อมิ้นท์ กำลังเป็นนิสิตปีสุดท้ายแล้วค่ะ เริ่มแรกเดิมทีเนี่ยอยากไปเที่ยวกับเพื่อน
เป็นทริปเสาร์อาทิตย์สั้นๆ แล้วคุยกันว่าอยากดำน้ำ แต่พวกเราเนี่ยไม่ชอบไปที่ๆ คนเยอะ
เลยลองหาเกาะที่ไม่ค่อยมีคนไปกัน ก็เลยได้เจอกับที่นี่ค่ะ ฝากติดตามและลองไปกันดูนะคะ
ทริปครั้งนี้เราลงเอยกันที่ จังหวัดชุมพรค่ะ หนึ่งในจังหวัดทางภาคใต้ที่ไม่ค่อยมีใครนึกถึง
แต่สวยงามและน่าตื่นเต้นไม่แพ้ภูเก็ต กระบี่หรือพังงาเลยล่ะค่ะ แถมราคาถูกกว่ามากๆ เลย
หลังจากได้ลองหาข้อมูลจนเจอกระทู้แนะนำทะเลชุมพร เราก็ยังต้องทำการบ้านเกี่ยวกับการดำน้ำต่อค่ะ
เลยไปเจอเข้ากับเพจ จอยทัวร์ ดำน้ำ ซึ่งเป็นทัวร์ที่จะพาเราไปดำน้ำเชิงอนุรักษ์
และมีรีวิวจากกรุ๊ปอื่นๆ ว่าได้เจอน้องฉลามวาฬอยู่บ่อยๆ มิ้นท์เลยตัดสินใจซื้อทริปดำน้ำกับเขาค่ะ
.
.
มาดูรายละเอียดของโปรแกรมดำน้ำกันนะคะ
One day trip ราคาคนละ 1,350 บาท
สามารถเหมาลำได้ตั้งแต่ 6 คนขึ้นไป
หรือถ้ามีคนไม่เยอะ สามารถมาจอยกรุ๊ปกับคนอื่นๆในเรือได้ทุกวัน
คนเดียวก็มาได้นะคะทุกคน มันเริ่ดตรงนี้
ขึ้นเกาะยอธนาคารปูมีค่าใช้จ่ายให้ธนาคารคนละ 60 บาท
ค่า Speed boat คนละ 1,600 บาทตั้งแต่ 20ท่านขึ้นไปเหมาเรือเท่านั้น
เข้าเรื่องการเดินทางฉบับเต็มของเรากันดีกว่าค่ะ
เราเลือกวิธีการเดินทางไปจังหวัดชุมพรด้วยสายการบินนกแอร์ค่ะ อันนี้ไม่ได้สปอนเซอร์นะคะ 5555 แต่เวลามันได้พอดีทั้งไปและกลับค่ะ
เรานั่ง DD7610 ออกจากดอนเมืองเช้าตรู่วันเสาร์ 06.30 น. และถึงชุมพรตอน 07.35 น. เลยมีเวลาไปเที่ยวต่อได้ทั้งวันเลยค่ะ
มาถึงมิ้นท์กับเพื่อนก็ต้องไปรับรถที่เช่าล่วงหน้ามาก่อนแล้ว เพื่อที่จะไปออฟฟิศของพี่จอยค่ะ เป็นจุดนัดหมายแรก
เพราะเราจะต้องมาชำระเงินมัดจำที่เหลือ และรับเสื้อชูชีพ ซึ่งทัวร์พี่จอยมีให้ทุกไซส์ตั้งแต่ตัวเล็กม้ากกกก ไปจนถึงขนาดบิ๊กไซส์ก็มีรองรับทุกคนแน่นอนค่ะ ทีมงานของพี่จอยช่วยเราเลือกใช้เสื้อและช่วยใส่เสื้อให้ถูกวิธีเพื่อความปลอดภัยอีกด้วยค่ะ
หลังจากได้เสื้อชูชีพกันครบทุกคนแล้วพี่จอยก็จะพาเราออกเดินทางไปยังหาดที่เป็นจุดขึ้นเรือค่ะ เรือที่เรานั่งไปเป็นเรือโทง นั่งกันได้ประมาณ 20 คน
มิ้นท์มี tips มาให้คนที่เมาเรือแบบนี้นะคะ คือให้มองออกไปข้างนอกเรือ มองทะเล มองท้องฟ้า จะทำให้ไม่ค่อยเมาเรือเท่ากับเวลาเรามองสิ่งรอบๆบนเรือค่ะ
จุดหมายที่เราจะไปกันในวันนี้ก็คือ เกาะร้านเป็ด เกาะร้านไก่ และเกาะยอ ซึ่งทั้งสามเกาะนี้ตั้งอยู่ในเขตอำเภอปะทิว เกาะร้านเป็ดและร้านไก่จะไม่มีชายหาดและไม่คนอาศัยอยู่ แต่เกาะยอที่เป็นธนาคารปูมีชายหาดและมีคนอาศัยตามปกติค่ะ
หลังจากนั่งเรือโทงมาได้สัก 30 นาที เราก็มาถึงเกาะร้านเป็ดกัน เป็นจุดแรกที่เราจะได้ลงไปดำน้ำ น้ำทะเลใสมากกก ทำให้พอมิ้นท์มองลงไปใต้ทะเลก็สามารถเห็นปะการังได้มากมายหลายชนิดเลย ไม่ว่าจะเป็นปะการังสีเหลืองอ่อน ปะการังสีขาว ปะการังสีทอง ปะการังครก ปะการังถ้วยส้ม รวมถึงฝูงปลาน้อยใหญ่มากมายหลายชนิดที่แหวกว่ายท่ามกลางปะการัง ทั้งปลากล้วยแถบเหลือง ปลาข้างเหลือง ปลานกแก้ว ปลานกขุนทอง
และอีกมากมายให้รูปเล่าเรื่องแล้วกันนะคะ
พอชมวิวใต้ทะเลได้สมใจแล้วเราก็จะนั่งเรือต่อไปที่เกาะร้านไก่ค่ะ อยู่ไม่ไกลจากเกาะร้านเป็ดเลย นั่งเรือแค่ 5-10 นาทีเท่านั้นเอง
และสิ่งที่เป็นไฮไลท์สำหรับทริปดำน้ำในครั้งนี้ก็คือ เจ้าฉลามวาฬลายจุดเจ้าถิ่นนั่นเองงง ถ้าใครโชคดีก็จะมีโอกาสได้เห็นน้อง แต่ถ้าไม่มีโชค ก็จะอดเห็นน้อง เหมือนมิ้นท์ T_T เพราะช่วงที่มิ้นท์ไปสภาพอากาศช่วงนั้นเป็นหน้าฝน ทำให้เจ้าฉลามวาฬไม่ออกมาทักทายพวกเราเลย เลยไม่มีโอกาสได้เห็นพี่เบิ้มเจ้าถิ่นตัวนี้ซักที
แต่มิ้นท์ก็ได้นำภาพเจ้าฉลามวาฬจากทริปอื่น ๆ ของทัวร์พี่จอยดำน้ำมาฝากทุกๆคนนะคะ ถ้าใครมีโอกาสได้ไปแล้วโชคดีเจอเจ้าตัว
ก็ถ่ายรูปมาฝากกันบ้างนะคะ
*ข้อห้ามในการดำน้ำกับเจ้าถิ่นตัวยักษ์ คือ ห้ามสัมผัสตัว ลูบหัว เพราะอาจทำให้เขาบาดเจ็บ หรือติดเชื้อแปลกปลอมจากเราได้
แต่สามารถว่ายดูอยู่ใกล้ๆ ในระยะ 1 เมตรได้ค่ะ
หลังจากดำน้ำกันได้ครึ่งวัน ท้องเราก็หิวกันแล้วค่ะ ซึ่งทางทัวร์พี่จอยก็รู้ใจมิ้นท์สุดๆ เพราะเขาพาทานอาหารเที่ยงที่ร้านอาหารบนเกาะยอ เสิร์ฟด้วยอาหารอาหารทะเลสด ๆ จากชาวประมงแท้ ๆ และปูม้านึ่งจากธนาคารปู มิ้นท์บอกตรงนี้เลยว่า อร่อยมากกกก (อร่อยส่วนหนึ่งอาจจะมาจากท้องที่หิว 5555555)
ส่วนใครที่แกะปูไม่เป็นนะคะ ไม่ต้องห่วงว่าจะกินได้ไม่หนำใจ เพราะทัวร์พี่จอยมีบริการพิเศษสำหรับลูกทัวร์ทุกคนก็คือ การสอนแกะปูแบบตัวต่อตัว สเต็ปบายสเต็ป มีขั้นตอนที่เราสามารถทำตามได้ง่ายๆ แต่ถ้าจะให้แกะได้โปรเท่าพี่จอยก็อาจจะยากหน่อยนะคะ นักท่องเที่ยวอย่างเราจะไปแกะปูสู้พี่จอยที่แกะมาเกือบทั้งชีวิตได้ล่ะคะ5555555555 มิ้นท์ขอยอมแพ้ ไม่สู้เรื่องนี้จริงๆค่ะ แต่ถ้าเรื่องกินมิ้นท์รับรองว่ามิ้นท์ไม่แพ้ใครแน่นอนค่ะ
หลังจากอิ่มท้องกันแล้วมิ้นก็ขอลุกไปเดินให้อาหารย่อยกันสักนิดนะคะ ต้องบอกก่อนว่าบนเกาะยอเนี่ยเปิดให้นักท่องเที่ยวไปเดินเล่นรอบเกาะได้นะคะ
จากจุดชมวิวบนเกาะเราจะสามารถเห็นทะเลรอบ ๆ ได้เลยค่ะ สวยมากกก ทริปหลักพัน แต่ได้วิวหลักล้าน ดูจากรูปได้เลยค่าา
สำหรับการเดินทางมายังจังหวัดชุมพร มิ้นท์หาวิธีมาให้เพื่อนๆแล้วค่ะ
รถยนต์ : จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางถนนเพชรเกษม (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4) ผ่านพุทธมณฑล นครปฐม – เพชรบุรี
หรือ เส้นทางสายธนบุรี – ปากท่อ (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 35) แล้วแยกที่อำเภอปากท่อ เข้าสู่ถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4)
ผ่านจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ จนถึงสี่แยกปฐมพร จากนั้นแยกซ้ายเข้าตัวเมืองชุมพร ตามทางหลวงหมายเลข 4001 อีกประมาณ 8 กิโลเมตร
รวมระยะทางประมาณ 463 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 7 ชั่วโมง
รถโดยสาร : มีรถโดยสารธรรมดาและรถโดยสารปรับอากาศ ออกจากสถานีขนส่งสายใต้ทุกวัน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง
รถไฟ : มีรถไฟออกจากสถานีหัวลำโพง มีทั้งรถเร็ว และรถด่วนไปจังหวัดชุมพรทุกวัน
เครื่องบิน : เที่ยวบินในประเทศบินตรงจากกรุงเทพฯ – ชุมพร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
การเดินทางภายในจังหวัดชุมพร : ส่วนตัวแล้วมิ้นแนะนำว่าเช่ารถยนต์ส่วนตัวขับเที่ยวเองจะสะดวกที่สุดค่ะ มิ้นท์ได้ลองไปสอบถามข้อมูลจากคนพื้นที่แล้ว
ปรากฏว่าในตัวจังหวัดไม่ค่อยมีรถโดยสารประจำทาง อนิดาจจะลำบากหน่อยนะคะทุกคน แต่มิ้นท์รับรองว่าไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังแน่นอนค่ะ
ใครออยากดูรูปเพิ่มเติม สามารถไปติดตามต่อได้ที่เพจนี้เลยนะคะ
The Journey Squad
[CR] ดำน้ำทะเลชุมพร 2 วัน 1 คืน - ว่ายน้ำกับฉลามวาฬ กินปูห้อยขา
สวัสดีค่า วันนี้เราจะมาพาทุกคนไปรู้จักกับแหล่งดำน้ำของทะเลภาคใต้ที่เราและเพื่อนๆ เพิ่งไปกันมานะคะ
ขอแนะนำตัวก่อนว่าเราชื่อมิ้นท์ กำลังเป็นนิสิตปีสุดท้ายแล้วค่ะ เริ่มแรกเดิมทีเนี่ยอยากไปเที่ยวกับเพื่อน
เป็นทริปเสาร์อาทิตย์สั้นๆ แล้วคุยกันว่าอยากดำน้ำ แต่พวกเราเนี่ยไม่ชอบไปที่ๆ คนเยอะ
เลยลองหาเกาะที่ไม่ค่อยมีคนไปกัน ก็เลยได้เจอกับที่นี่ค่ะ ฝากติดตามและลองไปกันดูนะคะ
ทริปครั้งนี้เราลงเอยกันที่ จังหวัดชุมพรค่ะ หนึ่งในจังหวัดทางภาคใต้ที่ไม่ค่อยมีใครนึกถึง
แต่สวยงามและน่าตื่นเต้นไม่แพ้ภูเก็ต กระบี่หรือพังงาเลยล่ะค่ะ แถมราคาถูกกว่ามากๆ เลย
หลังจากได้ลองหาข้อมูลจนเจอกระทู้แนะนำทะเลชุมพร เราก็ยังต้องทำการบ้านเกี่ยวกับการดำน้ำต่อค่ะ
เลยไปเจอเข้ากับเพจ จอยทัวร์ ดำน้ำ ซึ่งเป็นทัวร์ที่จะพาเราไปดำน้ำเชิงอนุรักษ์
และมีรีวิวจากกรุ๊ปอื่นๆ ว่าได้เจอน้องฉลามวาฬอยู่บ่อยๆ มิ้นท์เลยตัดสินใจซื้อทริปดำน้ำกับเขาค่ะ
.
.
มาดูรายละเอียดของโปรแกรมดำน้ำกันนะคะ
One day trip ราคาคนละ 1,350 บาท
สามารถเหมาลำได้ตั้งแต่ 6 คนขึ้นไป
หรือถ้ามีคนไม่เยอะ สามารถมาจอยกรุ๊ปกับคนอื่นๆในเรือได้ทุกวัน
คนเดียวก็มาได้นะคะทุกคน มันเริ่ดตรงนี้
ขึ้นเกาะยอธนาคารปูมีค่าใช้จ่ายให้ธนาคารคนละ 60 บาท
ค่า Speed boat คนละ 1,600 บาทตั้งแต่ 20ท่านขึ้นไปเหมาเรือเท่านั้น
เข้าเรื่องการเดินทางฉบับเต็มของเรากันดีกว่าค่ะ
เราเลือกวิธีการเดินทางไปจังหวัดชุมพรด้วยสายการบินนกแอร์ค่ะ อันนี้ไม่ได้สปอนเซอร์นะคะ 5555 แต่เวลามันได้พอดีทั้งไปและกลับค่ะ
เรานั่ง DD7610 ออกจากดอนเมืองเช้าตรู่วันเสาร์ 06.30 น. และถึงชุมพรตอน 07.35 น. เลยมีเวลาไปเที่ยวต่อได้ทั้งวันเลยค่ะ
มาถึงมิ้นท์กับเพื่อนก็ต้องไปรับรถที่เช่าล่วงหน้ามาก่อนแล้ว เพื่อที่จะไปออฟฟิศของพี่จอยค่ะ เป็นจุดนัดหมายแรก
เพราะเราจะต้องมาชำระเงินมัดจำที่เหลือ และรับเสื้อชูชีพ ซึ่งทัวร์พี่จอยมีให้ทุกไซส์ตั้งแต่ตัวเล็กม้ากกกก ไปจนถึงขนาดบิ๊กไซส์ก็มีรองรับทุกคนแน่นอนค่ะ ทีมงานของพี่จอยช่วยเราเลือกใช้เสื้อและช่วยใส่เสื้อให้ถูกวิธีเพื่อความปลอดภัยอีกด้วยค่ะ
หลังจากได้เสื้อชูชีพกันครบทุกคนแล้วพี่จอยก็จะพาเราออกเดินทางไปยังหาดที่เป็นจุดขึ้นเรือค่ะ เรือที่เรานั่งไปเป็นเรือโทง นั่งกันได้ประมาณ 20 คน
มิ้นท์มี tips มาให้คนที่เมาเรือแบบนี้นะคะ คือให้มองออกไปข้างนอกเรือ มองทะเล มองท้องฟ้า จะทำให้ไม่ค่อยเมาเรือเท่ากับเวลาเรามองสิ่งรอบๆบนเรือค่ะ
จุดหมายที่เราจะไปกันในวันนี้ก็คือ เกาะร้านเป็ด เกาะร้านไก่ และเกาะยอ ซึ่งทั้งสามเกาะนี้ตั้งอยู่ในเขตอำเภอปะทิว เกาะร้านเป็ดและร้านไก่จะไม่มีชายหาดและไม่คนอาศัยอยู่ แต่เกาะยอที่เป็นธนาคารปูมีชายหาดและมีคนอาศัยตามปกติค่ะ
หลังจากนั่งเรือโทงมาได้สัก 30 นาที เราก็มาถึงเกาะร้านเป็ดกัน เป็นจุดแรกที่เราจะได้ลงไปดำน้ำ น้ำทะเลใสมากกก ทำให้พอมิ้นท์มองลงไปใต้ทะเลก็สามารถเห็นปะการังได้มากมายหลายชนิดเลย ไม่ว่าจะเป็นปะการังสีเหลืองอ่อน ปะการังสีขาว ปะการังสีทอง ปะการังครก ปะการังถ้วยส้ม รวมถึงฝูงปลาน้อยใหญ่มากมายหลายชนิดที่แหวกว่ายท่ามกลางปะการัง ทั้งปลากล้วยแถบเหลือง ปลาข้างเหลือง ปลานกแก้ว ปลานกขุนทอง
และอีกมากมายให้รูปเล่าเรื่องแล้วกันนะคะ
พอชมวิวใต้ทะเลได้สมใจแล้วเราก็จะนั่งเรือต่อไปที่เกาะร้านไก่ค่ะ อยู่ไม่ไกลจากเกาะร้านเป็ดเลย นั่งเรือแค่ 5-10 นาทีเท่านั้นเอง
และสิ่งที่เป็นไฮไลท์สำหรับทริปดำน้ำในครั้งนี้ก็คือ เจ้าฉลามวาฬลายจุดเจ้าถิ่นนั่นเองงง ถ้าใครโชคดีก็จะมีโอกาสได้เห็นน้อง แต่ถ้าไม่มีโชค ก็จะอดเห็นน้อง เหมือนมิ้นท์ T_T เพราะช่วงที่มิ้นท์ไปสภาพอากาศช่วงนั้นเป็นหน้าฝน ทำให้เจ้าฉลามวาฬไม่ออกมาทักทายพวกเราเลย เลยไม่มีโอกาสได้เห็นพี่เบิ้มเจ้าถิ่นตัวนี้ซักที
แต่มิ้นท์ก็ได้นำภาพเจ้าฉลามวาฬจากทริปอื่น ๆ ของทัวร์พี่จอยดำน้ำมาฝากทุกๆคนนะคะ ถ้าใครมีโอกาสได้ไปแล้วโชคดีเจอเจ้าตัว
ก็ถ่ายรูปมาฝากกันบ้างนะคะ
*ข้อห้ามในการดำน้ำกับเจ้าถิ่นตัวยักษ์ คือ ห้ามสัมผัสตัว ลูบหัว เพราะอาจทำให้เขาบาดเจ็บ หรือติดเชื้อแปลกปลอมจากเราได้
แต่สามารถว่ายดูอยู่ใกล้ๆ ในระยะ 1 เมตรได้ค่ะ
หลังจากดำน้ำกันได้ครึ่งวัน ท้องเราก็หิวกันแล้วค่ะ ซึ่งทางทัวร์พี่จอยก็รู้ใจมิ้นท์สุดๆ เพราะเขาพาทานอาหารเที่ยงที่ร้านอาหารบนเกาะยอ เสิร์ฟด้วยอาหารอาหารทะเลสด ๆ จากชาวประมงแท้ ๆ และปูม้านึ่งจากธนาคารปู มิ้นท์บอกตรงนี้เลยว่า อร่อยมากกกก (อร่อยส่วนหนึ่งอาจจะมาจากท้องที่หิว 5555555)
ส่วนใครที่แกะปูไม่เป็นนะคะ ไม่ต้องห่วงว่าจะกินได้ไม่หนำใจ เพราะทัวร์พี่จอยมีบริการพิเศษสำหรับลูกทัวร์ทุกคนก็คือ การสอนแกะปูแบบตัวต่อตัว สเต็ปบายสเต็ป มีขั้นตอนที่เราสามารถทำตามได้ง่ายๆ แต่ถ้าจะให้แกะได้โปรเท่าพี่จอยก็อาจจะยากหน่อยนะคะ นักท่องเที่ยวอย่างเราจะไปแกะปูสู้พี่จอยที่แกะมาเกือบทั้งชีวิตได้ล่ะคะ5555555555 มิ้นท์ขอยอมแพ้ ไม่สู้เรื่องนี้จริงๆค่ะ แต่ถ้าเรื่องกินมิ้นท์รับรองว่ามิ้นท์ไม่แพ้ใครแน่นอนค่ะ
หลังจากอิ่มท้องกันแล้วมิ้นก็ขอลุกไปเดินให้อาหารย่อยกันสักนิดนะคะ ต้องบอกก่อนว่าบนเกาะยอเนี่ยเปิดให้นักท่องเที่ยวไปเดินเล่นรอบเกาะได้นะคะ
จากจุดชมวิวบนเกาะเราจะสามารถเห็นทะเลรอบ ๆ ได้เลยค่ะ สวยมากกก ทริปหลักพัน แต่ได้วิวหลักล้าน ดูจากรูปได้เลยค่าา
สำหรับการเดินทางมายังจังหวัดชุมพร มิ้นท์หาวิธีมาให้เพื่อนๆแล้วค่ะ
รถยนต์ : จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางถนนเพชรเกษม (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4) ผ่านพุทธมณฑล นครปฐม – เพชรบุรี
หรือ เส้นทางสายธนบุรี – ปากท่อ (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 35) แล้วแยกที่อำเภอปากท่อ เข้าสู่ถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4)
ผ่านจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ จนถึงสี่แยกปฐมพร จากนั้นแยกซ้ายเข้าตัวเมืองชุมพร ตามทางหลวงหมายเลข 4001 อีกประมาณ 8 กิโลเมตร
รวมระยะทางประมาณ 463 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 7 ชั่วโมง
รถโดยสาร : มีรถโดยสารธรรมดาและรถโดยสารปรับอากาศ ออกจากสถานีขนส่งสายใต้ทุกวัน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง
รถไฟ : มีรถไฟออกจากสถานีหัวลำโพง มีทั้งรถเร็ว และรถด่วนไปจังหวัดชุมพรทุกวัน
เครื่องบิน : เที่ยวบินในประเทศบินตรงจากกรุงเทพฯ – ชุมพร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
การเดินทางภายในจังหวัดชุมพร : ส่วนตัวแล้วมิ้นแนะนำว่าเช่ารถยนต์ส่วนตัวขับเที่ยวเองจะสะดวกที่สุดค่ะ มิ้นท์ได้ลองไปสอบถามข้อมูลจากคนพื้นที่แล้ว
ปรากฏว่าในตัวจังหวัดไม่ค่อยมีรถโดยสารประจำทาง อนิดาจจะลำบากหน่อยนะคะทุกคน แต่มิ้นท์รับรองว่าไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังแน่นอนค่ะ
ใครออยากดูรูปเพิ่มเติม สามารถไปติดตามต่อได้ที่เพจนี้เลยนะคะ
The Journey Squad
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้