ขอบคุณเพลง(คนของใจ) เพลงเพราะๆของ แจ็ค ลูกอีสานนะคะ
เจ้าคือคนที่ฮัก ฮักคนเดียวในใจ
เจ้าคือคนสุดท้าย ที่อ้ายสิให้แม้ชีวิตที่มี
กะเจ้าคือคนที่ฮัก ฮักที่แสนดี
ถึงแม้ว่ามื้อนี้บ่มีเจ้าอยู่ข้างกาย
ให้เจ้ารับเจ้ารู้ฮู้เอาไว้เด้อน้อง..
สิบปีล้ำซาวปีล้ำ กะบ่ได้หย่ำดอกนาซำ
วาสนา น้อกล้าบั้ง พอได้ฮักแล้วบ่สม
คือจั่งตอกมัดกล้าวาสนาคู่ขี้ตม
พัดเจ้าไปตามลม...
สาธุแม้น้อซาติหน้า ให้เฮาเกิดมาได้คู่กัน
อย่าได้มีแนวขวางกั้น คือจั่งในซาตินี่
5 ปีผ่านไป
ต้าใช้ชีวิตคนเดียวเรื่อยมา ตั้งแต่หมิวจากไปด้วยอุบัติเหตุในครั้งนั้น เขาทำงานเลี้ยงลูกตัวคนเดียวมาตลอด ไม่คิดจะมีคนอื่น ไม่คิดจะเอาผู้หญิงคนอื่นเข้ามาแทนหมิว ต้ารักหมิว และจะรักตลอดไป จนกว่าจะได้ไปเจอกันอีกครั้งในอีกโลกหนึ่ง
ปัจจุบันลูกของต้าอายุแปดขวบ ต้าพาลูกมาอยู่บ้านกับพ่อแม่ของตน ฝากพ่อแม่เลี้ยงส่วนเขาก็กลับมาทำงานที่เมืองกรุงเช่นเคย แต่ไม่มีหมิวอีกต่อไป ข้าวของทุกอย่างยังอยู่เหมือนเดิม อยู่เหมือนเดิมเสมือนว่ามีหมิวอยู่ด้วย การทำแบบนี้มันทำให้เขามีชีวิตทำงานหาเงินเลี้ยงลูกได้ในทุกๆวัน ส่วนเงินชดเชยที่ได้จากคู่กรณีต้าเก็บไว้เป็นทุนการศึกษาให้กับลูกได้เรียนสูงๆ
ส่วนคดีของหมิวคู่กรณีเขาจะเป็นอย่างไรไม่สนใจ ยังไงหมิวก็ไม่มีวันกลับมาอีกแล้ว อีกอย่างไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่สำหรับเงินชดเชยต้าต้องรับไว้เพื่อเป็นทุนให้ลูกในอนาคต
“ต้าๆมาๆบ่ต้องเศร้าหรอกเพื่อน จังใดเมริงกะมีพวกกูอยู่ข้างๆเด้อ” เพื่อนๆชวนต้าออกมาดื่มสังสรรค์เช่นปกติ แต่ความหมายไม่เหมือนเดิม พวกเพื่อนๆอยากให้ต้ายิ้ม หัวเราะเหมือนเดิม อยากให้ต้าคนเดิมกลับมา ตั้งแต่หมิวจากไปต้าก็ไม่ค่อยยิ้มหัวเราะอีกเลย
“บ่ๆ เดี๋ยวหมิวสิด่ากู หมิวรออยู่ห้อง”
ต้าตอบกลับแบบนี้เพื่อนๆไม่มีใครกล้าพูดอะไรต่อ ไม่ได้กลัวกับสิ่งที่ต้าพูด ไม่ได้คิดว่าต้าเป็นบ้าไปแล้ว แต่พวกเขาเข้าใจ เข้าใจต้าและสงสารที่สุด เมื่อได้รับคำตอบแบบนี้เพื่อนก็ไม่เซ้าซี้อีกต่อไป
ทุกๆวันเขาทำเหมือนว่ามีหมิวอยู่ข้างๆตลอดเวลา ทำงานกลับห้อง ไม่เที่ยว ไม่ดื่ม เปลี่ยนไปเป็นคนละคน เงินเดือนออกส่งเงินกลับบ้านให้ลูก จากที่เมื่อก่อนที่ยังมีหมิวเขาไม่เคยส่งให้ลูกสักบาท มีแต่หมิว พอหมิวบอกให้โอน ต้าก็บอกจ่ายค่าเหล้าเบียร์ หักค่าผ่อนรถค่าห้องก็หมดแล้ว สุดท้ายก็เป็นเงินเดือนของหมิวที่ให้ลูกเสมอ
“ต้าเอาเมียใหม่สะลูก เอาเมียมาเลี้ยงลูกซ่อย” พ่อกับแม่ของต้าแนะนำลูกชายด้วยเห็นว่าอยู่คนเดียวมานานแล้ว และรับรู้ถึงพฤติกรรมของลูกชาย
“บ่เอาแม่ ต้าเลี้ยงลูกคนเดียวได้ หมิวสิคิดจังใดขั้นหมิวรู้”
“หมิวบ่ว่าหรอกลูกหล่า มีคนมาดูแลลูกซ่อยหมิวแฮงดีใจ”
“บ่หรอกแม่ ต้าฮักหมิว”
ต้าไม่คิดที่จะเอาคนอื่นมาแทนหมิว ต้ารู้ตัวเองดี เขาไม่ได้บ้า เขามีสติสัมปชัญญะครบถ้วนสมบูรณ์ทุกอย่าง ต้ารู้ว่าตัวเองทำอะไร เป็นแบบไหน
ในทุกๆวันเขาใช้ชีวิตปกติเหมือนทุกๆคนบนโลกใบนี้ เพียงแค่เขาไม่เที่ยวใช้เงินฟุ่มเฟือยอีกต่อไป เลิกเหล้า เลิกบุหรี่
เลิกงานกลับห้องกลับมามันเคว้งคว้าง เงียบเหงา ยังไม่ชิน! ห้าปีผ่านมาแล้วเขายังไม่ชิน มองไปมุมไหนก็เห็นหมิว เห็นสิ่งที่หมิวเคยทำ เห็นภาพที่เคยคุยกันหัวเราะ ร้องไห้ แม้กระทั่งทะเลาะกัน เห็นทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้นครั้งที่หมิวยังอยู่ สุดท้ายต้าต้องนอนกอดเสื้อผ้าหมิวร้องไห้ทุกคืน โชคดีบางคืนที่ฝันถึงหมิว มันยังพอยาใจของเขาให้มีชีวิตต่อได้
เพื่อนๆและครอบครัวเคยบอกให้ต้าย้ายห้อง เขาก็ไม่ยอมย้าย ด้วยความที่กลัวว่าหมิวจะเหงาถ้ากลับมาไม่เห็นต้า หมิวจะอยู่ยังไง หมิวคงคิดถึงเขาแย่
“หมิวเป็นจังใด สำบายดีบ่ อ้ายสินอนแล้วมาหาอ้ายในฝันแน่เด้อ” ต้าพูดกับรูปหมิวที่ถ่ายคู่กันกับเขาครั้งไปเที่ยวต่างจังหวัด จากนั้นเขาก็นอนหลับกอดเสื้อหมิวเป็นแบบนี้ทุกคืนวันจนห้าปีเขาก็ยังทำแบบนี้
“หมิวขั้นชาติหน้ามีจริงเฮาเกิดมาฮักกันอีกน้อ เกิดมาเป็นพ่อกับแม่ของน้ำนิ่งอีก อ้ายสิบ่ทำตัวคือเก่าอ้ายสัญญา”
“สาธุเด้อเกิดชาติหน้าอย่าสิพรากหมิวไปจากผมเร็วคักปานนี้เด้อ ให้ผมกับหมิวเกิดมาคู่กันอีก”
“หมิวเงินเดือนอ้ายออกอ้ายส่งให้โต๋ทอนี้ ส่งให้น้ำนิ่งทอนี้เด้อ ส่วนนี้เงินฝากธนาคารให้ลูก ที่เหลือกะค่าห้องกับค่ากินอ้าย”
ทุกๆวันที่กลับมาห้องอยู่คนเดียว เขาจะคุยกับหมิวแบบนี้ทุกวัน และทุกๆสิ้นเดือนต้าจะแบ่งเงินไปทำบุญให้หมิว เขียนรายจ่ายที่ต้องจ่ายให้หมิวได้รับรู้ แจกแจงทุกอย่าง ตามด้วยน้ำตาทุกครั้ง ทั้งพูดทั้งร้องไห้ประจำ
ถึงเขาจะเป็นแบบนี้แต่ชีวิตประจำวันเขาปรับตัวได้ การทำงานปกติ เข้ากับเพื่อนๆได้อย่างเคยเป็น สดใส พวกเพื่อนที่ทำงานเข้าใจ และสงสาร แต่ด้วยความสงสารก็มีคนแนะนำสาวๆ นิสัยดี จริงใจ รับประกันได้ให้ต้าหลายคน ก็ต้องโดนปฏิเสธไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขารักหมิว และเขาจะรักตลอดไป
“ต้าพี่ว่าหมิวจากไปก็นานแล้วนะ ต้าน่าจะเปิดใจรับคนอื่นเข้ามาบ้าง ไม่สงสารตัวเองเหรอ พี่รักต้านะพี่เห็นเราเป็นน้องคนหนึ่ง”
“ถ้าพี่อิงเห็นผมเป็นน้องชายคนหนึ่งพี่อิงจะไม่พูดแบบนี้กับผมครับ แต่ผมเข้าใจผมขอบคุณสำหรับความห่วงใยนะครับพี่อิง ผมรักหมิวครับ”
“ต้าพี่เข้าใจนะ พี่เข้าใจ” รุ่นพี่ตบบ่าเขาเบาๆแล้วเดินจากไป
มีผู้หญิงรุ่นน้องคนหนึ่งแอบรักแอบห่วงใยเขาอยู่ห่างๆ เธอคนนี้รู้ประวัติความเป็นมาของต้าทุกอย่าง เธอยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือต้าแบบเนียนๆตลอด แต่ก็ไม่เนียนสำหรับเพื่อนร่วมงานบางคน
เธอคนนี้ได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนๆของต้า ไม่ใช่ว่าพวกเขาอยากให้ต้านอกใจหมิว แต่พวกเขาอยากให้ต้ามีความสุข ไม่อยากให้ต้าจมอยู่กับอดีตกับความทุกข์ พวกเขาเชื่อว่าหมิวก็เข้าใจในสิ่งที่พวกเขาทำ
“ต้ากูว่าถ้าหมิวรับรู้กูว่าหมิวบ่อยากให้เมริงเป็นแบบนี้หรอก”
“แม่นความบักกอล์ฟต้า กูว่าหมิวอยากเห็นเมริงสดใสมีความสุข”
“น้องอันนั่นกะงามเด้เมริง เขาสนใจเมริง เขากะดีอยู่เด้เมริง เขารู้เรื่องของเมริงทุกอย่าง เขามักเมริงนะ”
“นั่นกูว่าตั้วเป็นพวกเมริงนี่เองที่ไปเป่าหูน้องเขา กูฮักหมิว คนของใจกูคือหมิว ขั้นเมริงฮักกู เห็นกูเป็นหมู่เมริงจะรู้ว่ากูฮักหมิวคนเดียว”
“พวกกูเข้าใจเมริงต้า”
จากนั้นก็ไม่มีใครกล้าพูดเรื่องนี้กับต้าอีกเลย เขายังคงใช้ชีวิตประจำวันเป็นปกติ ไม่ใช่เขาจะเพ้อเจ้อพูดคนเดียวให้คนอื่นกลัว เขามองไม่เห็นหมิว เขาไม่ได้มีสัมผัสวิเศษอะไร แต่เขามีแค่ความรักและความมั่นคงให้กับหมิวแค่นั้น หมิวจะอยู่กับเขาตลอดไป จนกว่าจะได้ไปเจอกันอีกครั้ง
“น้องวาพี่รู้ว่าน้องวาคิดยังไงกับพี่แต่พี่คิดกับน้องวาแค่น้องสาวคนหนึ่งนะครับ” ระหว่างนั่งทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ทั้งสองคนออกมาทำงานข้างนอกด้วยกัน
“วาเข้าใจค่ะพี่ต้า”
“พี่รักภรรยาของพี่ครับ ถึงเธอจะไม่อยู่แล้วแต่เธอก็ทิ้งตัวแทนไว้ให้พี่ คือน้ำนิ่ง ดูสิเหมือนแม่มั้ยน้องวาว่า นี่ไงหมิว”
วาววาตกใจนิดหน่อยที่ลูกสาวของต้าหน้าเหมือนแม่มาก นี่หรือเปล่าที่เขาว่าตัวตายตัวแทน ความเชื่อของเธอ เหมือนกันแทบแยกไม่ออก แตกต่างกันเพียงอายุเท่านั่น
“คนของใจพี่มีคนเดียว คือหมิวนะน้องวา เราเป็นเพื่อนร่วมงานกันดีกว่าเนอะ”
“วาเข้าใจค่ะพี่ต้า” และทั้งสองคนก็รับประทานข้าวต่อ ไม่พูดเรื่องนี้อีกต่อไป
.....
“น้ำนิ่งไปทำบุญหาแม่หมิวกัน”
“อีพ่อแม่หมิวบอกว่ายามใดพ่อต้าจะหาแม่ใหม่ให้น้ำนิ่ง” ต้าตกใจกับคำพูดของลูก อายุแค่นี้ทำไมพูดแบบนี้ออกมาได้ เขาหันไปมองแม่ที่นั่งอยู่ข้างๆระหว่างรอพระฉันท์เพล
“มาแนมหน้ากูหยัง กูบ่ได้สอนมันเว้าเด้อ มันเว้าเอง”
“เจ้านั่นล่ะแม่บอกมันเว้า”
“ให้แม่หมิวมาบอกพ่อเองก่อนเด้อ ระหว่างหนิอีหล่ากะมีพ่อคนเดียวไปก่อน”
“อิหลิบ่”
“ครับ” เขายิ้มให้กับลูกสาวตนเอง ซึ่งยิ่งโตหน้ายิ่งเหมือนหมิวมากๆ นี่ไงหมิว หมิวไม่ได้ทิ้งเขาไปไหนเลย
..
“หมิวบ่ต้องห่วงเด้ออ้ายจะดูแลลูกให้ดีที่สุด อ้ายจะฮักหมิวคนเดียว และตลอดไป” เขาพูดกับหมิวในใจ จากนั้นเขาก็จับมือประครองมือลูกสาวค่อยๆกรวดน้ำลงบนแก้วน้ำ ระหว่างที่พระกำลังเทศนาให้พรอยู่
“คนของใจอ้ายคือโต๋คนเดียวเด้อหมิว”
จบบริบูรณ์...
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ขออนุญาตหากินกับเรื่องของมีค่าที่เสียไปอีกหนึ่งเรื่องนะคะ อิอิ
เรื่องสั้น คนของใจ
เจ้าคือคนที่ฮัก ฮักคนเดียวในใจ
เจ้าคือคนสุดท้าย ที่อ้ายสิให้แม้ชีวิตที่มี
กะเจ้าคือคนที่ฮัก ฮักที่แสนดี
ถึงแม้ว่ามื้อนี้บ่มีเจ้าอยู่ข้างกาย
ให้เจ้ารับเจ้ารู้ฮู้เอาไว้เด้อน้อง..
สิบปีล้ำซาวปีล้ำ กะบ่ได้หย่ำดอกนาซำ
วาสนา น้อกล้าบั้ง พอได้ฮักแล้วบ่สม
คือจั่งตอกมัดกล้าวาสนาคู่ขี้ตม
พัดเจ้าไปตามลม...
สาธุแม้น้อซาติหน้า ให้เฮาเกิดมาได้คู่กัน
อย่าได้มีแนวขวางกั้น คือจั่งในซาตินี่
5 ปีผ่านไป
ต้าใช้ชีวิตคนเดียวเรื่อยมา ตั้งแต่หมิวจากไปด้วยอุบัติเหตุในครั้งนั้น เขาทำงานเลี้ยงลูกตัวคนเดียวมาตลอด ไม่คิดจะมีคนอื่น ไม่คิดจะเอาผู้หญิงคนอื่นเข้ามาแทนหมิว ต้ารักหมิว และจะรักตลอดไป จนกว่าจะได้ไปเจอกันอีกครั้งในอีกโลกหนึ่ง
ปัจจุบันลูกของต้าอายุแปดขวบ ต้าพาลูกมาอยู่บ้านกับพ่อแม่ของตน ฝากพ่อแม่เลี้ยงส่วนเขาก็กลับมาทำงานที่เมืองกรุงเช่นเคย แต่ไม่มีหมิวอีกต่อไป ข้าวของทุกอย่างยังอยู่เหมือนเดิม อยู่เหมือนเดิมเสมือนว่ามีหมิวอยู่ด้วย การทำแบบนี้มันทำให้เขามีชีวิตทำงานหาเงินเลี้ยงลูกได้ในทุกๆวัน ส่วนเงินชดเชยที่ได้จากคู่กรณีต้าเก็บไว้เป็นทุนการศึกษาให้กับลูกได้เรียนสูงๆ
ส่วนคดีของหมิวคู่กรณีเขาจะเป็นอย่างไรไม่สนใจ ยังไงหมิวก็ไม่มีวันกลับมาอีกแล้ว อีกอย่างไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่สำหรับเงินชดเชยต้าต้องรับไว้เพื่อเป็นทุนให้ลูกในอนาคต
“ต้าๆมาๆบ่ต้องเศร้าหรอกเพื่อน จังใดเมริงกะมีพวกกูอยู่ข้างๆเด้อ” เพื่อนๆชวนต้าออกมาดื่มสังสรรค์เช่นปกติ แต่ความหมายไม่เหมือนเดิม พวกเพื่อนๆอยากให้ต้ายิ้ม หัวเราะเหมือนเดิม อยากให้ต้าคนเดิมกลับมา ตั้งแต่หมิวจากไปต้าก็ไม่ค่อยยิ้มหัวเราะอีกเลย
“บ่ๆ เดี๋ยวหมิวสิด่ากู หมิวรออยู่ห้อง”
ต้าตอบกลับแบบนี้เพื่อนๆไม่มีใครกล้าพูดอะไรต่อ ไม่ได้กลัวกับสิ่งที่ต้าพูด ไม่ได้คิดว่าต้าเป็นบ้าไปแล้ว แต่พวกเขาเข้าใจ เข้าใจต้าและสงสารที่สุด เมื่อได้รับคำตอบแบบนี้เพื่อนก็ไม่เซ้าซี้อีกต่อไป
ทุกๆวันเขาทำเหมือนว่ามีหมิวอยู่ข้างๆตลอดเวลา ทำงานกลับห้อง ไม่เที่ยว ไม่ดื่ม เปลี่ยนไปเป็นคนละคน เงินเดือนออกส่งเงินกลับบ้านให้ลูก จากที่เมื่อก่อนที่ยังมีหมิวเขาไม่เคยส่งให้ลูกสักบาท มีแต่หมิว พอหมิวบอกให้โอน ต้าก็บอกจ่ายค่าเหล้าเบียร์ หักค่าผ่อนรถค่าห้องก็หมดแล้ว สุดท้ายก็เป็นเงินเดือนของหมิวที่ให้ลูกเสมอ
“ต้าเอาเมียใหม่สะลูก เอาเมียมาเลี้ยงลูกซ่อย” พ่อกับแม่ของต้าแนะนำลูกชายด้วยเห็นว่าอยู่คนเดียวมานานแล้ว และรับรู้ถึงพฤติกรรมของลูกชาย
“บ่เอาแม่ ต้าเลี้ยงลูกคนเดียวได้ หมิวสิคิดจังใดขั้นหมิวรู้”
“หมิวบ่ว่าหรอกลูกหล่า มีคนมาดูแลลูกซ่อยหมิวแฮงดีใจ”
“บ่หรอกแม่ ต้าฮักหมิว”
ต้าไม่คิดที่จะเอาคนอื่นมาแทนหมิว ต้ารู้ตัวเองดี เขาไม่ได้บ้า เขามีสติสัมปชัญญะครบถ้วนสมบูรณ์ทุกอย่าง ต้ารู้ว่าตัวเองทำอะไร เป็นแบบไหน
ในทุกๆวันเขาใช้ชีวิตปกติเหมือนทุกๆคนบนโลกใบนี้ เพียงแค่เขาไม่เที่ยวใช้เงินฟุ่มเฟือยอีกต่อไป เลิกเหล้า เลิกบุหรี่
เลิกงานกลับห้องกลับมามันเคว้งคว้าง เงียบเหงา ยังไม่ชิน! ห้าปีผ่านมาแล้วเขายังไม่ชิน มองไปมุมไหนก็เห็นหมิว เห็นสิ่งที่หมิวเคยทำ เห็นภาพที่เคยคุยกันหัวเราะ ร้องไห้ แม้กระทั่งทะเลาะกัน เห็นทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้นครั้งที่หมิวยังอยู่ สุดท้ายต้าต้องนอนกอดเสื้อผ้าหมิวร้องไห้ทุกคืน โชคดีบางคืนที่ฝันถึงหมิว มันยังพอยาใจของเขาให้มีชีวิตต่อได้
เพื่อนๆและครอบครัวเคยบอกให้ต้าย้ายห้อง เขาก็ไม่ยอมย้าย ด้วยความที่กลัวว่าหมิวจะเหงาถ้ากลับมาไม่เห็นต้า หมิวจะอยู่ยังไง หมิวคงคิดถึงเขาแย่
“หมิวเป็นจังใด สำบายดีบ่ อ้ายสินอนแล้วมาหาอ้ายในฝันแน่เด้อ” ต้าพูดกับรูปหมิวที่ถ่ายคู่กันกับเขาครั้งไปเที่ยวต่างจังหวัด จากนั้นเขาก็นอนหลับกอดเสื้อหมิวเป็นแบบนี้ทุกคืนวันจนห้าปีเขาก็ยังทำแบบนี้
“หมิวขั้นชาติหน้ามีจริงเฮาเกิดมาฮักกันอีกน้อ เกิดมาเป็นพ่อกับแม่ของน้ำนิ่งอีก อ้ายสิบ่ทำตัวคือเก่าอ้ายสัญญา”
“สาธุเด้อเกิดชาติหน้าอย่าสิพรากหมิวไปจากผมเร็วคักปานนี้เด้อ ให้ผมกับหมิวเกิดมาคู่กันอีก”
“หมิวเงินเดือนอ้ายออกอ้ายส่งให้โต๋ทอนี้ ส่งให้น้ำนิ่งทอนี้เด้อ ส่วนนี้เงินฝากธนาคารให้ลูก ที่เหลือกะค่าห้องกับค่ากินอ้าย”
ทุกๆวันที่กลับมาห้องอยู่คนเดียว เขาจะคุยกับหมิวแบบนี้ทุกวัน และทุกๆสิ้นเดือนต้าจะแบ่งเงินไปทำบุญให้หมิว เขียนรายจ่ายที่ต้องจ่ายให้หมิวได้รับรู้ แจกแจงทุกอย่าง ตามด้วยน้ำตาทุกครั้ง ทั้งพูดทั้งร้องไห้ประจำ
ถึงเขาจะเป็นแบบนี้แต่ชีวิตประจำวันเขาปรับตัวได้ การทำงานปกติ เข้ากับเพื่อนๆได้อย่างเคยเป็น สดใส พวกเพื่อนที่ทำงานเข้าใจ และสงสาร แต่ด้วยความสงสารก็มีคนแนะนำสาวๆ นิสัยดี จริงใจ รับประกันได้ให้ต้าหลายคน ก็ต้องโดนปฏิเสธไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขารักหมิว และเขาจะรักตลอดไป
“ต้าพี่ว่าหมิวจากไปก็นานแล้วนะ ต้าน่าจะเปิดใจรับคนอื่นเข้ามาบ้าง ไม่สงสารตัวเองเหรอ พี่รักต้านะพี่เห็นเราเป็นน้องคนหนึ่ง”
“ถ้าพี่อิงเห็นผมเป็นน้องชายคนหนึ่งพี่อิงจะไม่พูดแบบนี้กับผมครับ แต่ผมเข้าใจผมขอบคุณสำหรับความห่วงใยนะครับพี่อิง ผมรักหมิวครับ”
“ต้าพี่เข้าใจนะ พี่เข้าใจ” รุ่นพี่ตบบ่าเขาเบาๆแล้วเดินจากไป
มีผู้หญิงรุ่นน้องคนหนึ่งแอบรักแอบห่วงใยเขาอยู่ห่างๆ เธอคนนี้รู้ประวัติความเป็นมาของต้าทุกอย่าง เธอยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือต้าแบบเนียนๆตลอด แต่ก็ไม่เนียนสำหรับเพื่อนร่วมงานบางคน
เธอคนนี้ได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนๆของต้า ไม่ใช่ว่าพวกเขาอยากให้ต้านอกใจหมิว แต่พวกเขาอยากให้ต้ามีความสุข ไม่อยากให้ต้าจมอยู่กับอดีตกับความทุกข์ พวกเขาเชื่อว่าหมิวก็เข้าใจในสิ่งที่พวกเขาทำ
“ต้ากูว่าถ้าหมิวรับรู้กูว่าหมิวบ่อยากให้เมริงเป็นแบบนี้หรอก”
“แม่นความบักกอล์ฟต้า กูว่าหมิวอยากเห็นเมริงสดใสมีความสุข”
“น้องอันนั่นกะงามเด้เมริง เขาสนใจเมริง เขากะดีอยู่เด้เมริง เขารู้เรื่องของเมริงทุกอย่าง เขามักเมริงนะ”
“นั่นกูว่าตั้วเป็นพวกเมริงนี่เองที่ไปเป่าหูน้องเขา กูฮักหมิว คนของใจกูคือหมิว ขั้นเมริงฮักกู เห็นกูเป็นหมู่เมริงจะรู้ว่ากูฮักหมิวคนเดียว”
“พวกกูเข้าใจเมริงต้า”
จากนั้นก็ไม่มีใครกล้าพูดเรื่องนี้กับต้าอีกเลย เขายังคงใช้ชีวิตประจำวันเป็นปกติ ไม่ใช่เขาจะเพ้อเจ้อพูดคนเดียวให้คนอื่นกลัว เขามองไม่เห็นหมิว เขาไม่ได้มีสัมผัสวิเศษอะไร แต่เขามีแค่ความรักและความมั่นคงให้กับหมิวแค่นั้น หมิวจะอยู่กับเขาตลอดไป จนกว่าจะได้ไปเจอกันอีกครั้ง
“น้องวาพี่รู้ว่าน้องวาคิดยังไงกับพี่แต่พี่คิดกับน้องวาแค่น้องสาวคนหนึ่งนะครับ” ระหว่างนั่งทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ทั้งสองคนออกมาทำงานข้างนอกด้วยกัน
“วาเข้าใจค่ะพี่ต้า”
“พี่รักภรรยาของพี่ครับ ถึงเธอจะไม่อยู่แล้วแต่เธอก็ทิ้งตัวแทนไว้ให้พี่ คือน้ำนิ่ง ดูสิเหมือนแม่มั้ยน้องวาว่า นี่ไงหมิว”
วาววาตกใจนิดหน่อยที่ลูกสาวของต้าหน้าเหมือนแม่มาก นี่หรือเปล่าที่เขาว่าตัวตายตัวแทน ความเชื่อของเธอ เหมือนกันแทบแยกไม่ออก แตกต่างกันเพียงอายุเท่านั่น
“คนของใจพี่มีคนเดียว คือหมิวนะน้องวา เราเป็นเพื่อนร่วมงานกันดีกว่าเนอะ”
“วาเข้าใจค่ะพี่ต้า” และทั้งสองคนก็รับประทานข้าวต่อ ไม่พูดเรื่องนี้อีกต่อไป
.....
“น้ำนิ่งไปทำบุญหาแม่หมิวกัน”
“อีพ่อแม่หมิวบอกว่ายามใดพ่อต้าจะหาแม่ใหม่ให้น้ำนิ่ง” ต้าตกใจกับคำพูดของลูก อายุแค่นี้ทำไมพูดแบบนี้ออกมาได้ เขาหันไปมองแม่ที่นั่งอยู่ข้างๆระหว่างรอพระฉันท์เพล
“มาแนมหน้ากูหยัง กูบ่ได้สอนมันเว้าเด้อ มันเว้าเอง”
“เจ้านั่นล่ะแม่บอกมันเว้า”
“ให้แม่หมิวมาบอกพ่อเองก่อนเด้อ ระหว่างหนิอีหล่ากะมีพ่อคนเดียวไปก่อน”
“อิหลิบ่”
“ครับ” เขายิ้มให้กับลูกสาวตนเอง ซึ่งยิ่งโตหน้ายิ่งเหมือนหมิวมากๆ นี่ไงหมิว หมิวไม่ได้ทิ้งเขาไปไหนเลย
..
“หมิวบ่ต้องห่วงเด้ออ้ายจะดูแลลูกให้ดีที่สุด อ้ายจะฮักหมิวคนเดียว และตลอดไป” เขาพูดกับหมิวในใจ จากนั้นเขาก็จับมือประครองมือลูกสาวค่อยๆกรวดน้ำลงบนแก้วน้ำ ระหว่างที่พระกำลังเทศนาให้พรอยู่
“คนของใจอ้ายคือโต๋คนเดียวเด้อหมิว”
จบบริบูรณ์...
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้