เมื่อวันก่อนเราได้คุยกับเพื่อนปกติธรรมดา แต่เรื่องที่ไม่ธรรมดาก็คือ เพื่อนให้ออกความคิดเห็นเรื่องการเป็นเมียน้อย เราก็สอบถามถึงประวัติของผู้ชายคนนั้น ผู้ชายคนนั้นมีอายุแล้วพอสมควร มีลูกและมีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว เราเองก็ถอนหายใจพักใหญ่ แล้วอธิบายเรื่องจริยธรรม ศีลธรรม ให้ฟังแล้วปิดประโยคสนทนานี้ด้วยประโยคที่ว่า บุญใครกรรมมันแล้วกัน ไม่ยุ่งนะ แล้วก็จะไม่ก้าวก่าย แต่มันก็อดใจไม่ไหวที่จะถามต่อมาถึงการตั้งคำถามต่อมาคือ แล้วทำไมถึงอยากอยู่จุดนี้ เพื่อนได้ตอบว่าอยากมีลูก เพราะรู้ว่าลูกเกิดกับคนนี้ต้องไม่ลำบาก แล้วเพื่อนจะอยู่ในที่ของเพื่อน ไม่ไปยุ่งกับครอบครัวผู้ชาย จะปิดทุกอย่างให้เป็นความลับ เราก็บอกว่าแล้วลูกเกิดมาจะไม่มีปัญหาหรอ...? เพื่อนตอบว่าไม่มีปัญหาหรอก เราก็ย้อนว่าไม่มีปัญหาได้ไงนานๆเจอพ่อที พร้อมกับพูดว่าทำไมไม่หาคนที่เพื่อนรักแล้วมีลูก แล้วถ้าวันนึงเพื่อนเจอคนที่ใช่แต่ เพราะเค้ารับไม่ได้เรื่องมีเพื่อนเป็นเมียน้อยแล้วทีลูกแล้วจะทำยังไง เหตุผลแค่อยากมีลูก แล้วไม่คิดถึงผลที่ตามมาในอนาคตเลยหรอ...? เราก็ย้อยเพื่อนอีกว่า เรารู้ว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องมีลูกแน่ๆ แต่เพราะเค้ารวยด้วยตัวเพื่อนเองก็อยากให้เค้าดูแล เราเพียงแต่พูดตักเตือนบนพื้นฐานแห่งความจริงล้วนๆ ถามถึงขนาดว่า เพื่อนกล้าสู้หน้าสังคมหรอ...? ยอมแรกขนาดนี้หรอ...? เพื่อนก็ไม่ได้ให้คำตอบใดๆ เราบอกว่าเราเตือนได้แค่นี้ ถ้าเจ็บก็ตัวเพื่อนเองที่เจ็บ ไม่ใช่เรา แล้วเพื่อนไม่ได้อยู่ในฐานะที่ให้ใครต้องมาดูแล มีพร้อมทั้งฐานะ การศึกษาที่สูง ทำอะไรคิดเยอะๆ เพราะในโลกนี้ไม่มีความลับ ตอนนี้ยังไม่มีลูก แล้วก็ยังไม่ถึงจุดที่เป็นเมียน้อย ได้แค่เจอกันนิดหน่อยๆ ทานข้าว ซื้อของให้ คุยโทรศัพท์กัน เราได้คิดในใจว่าขออยากให่ไปถึงจุดนั้นเลย ไม่อยากให้เพื่อนยกอยู่ในสถานะนั้น ไม่อยากให้เพื่อนเล่นกับไฟ ไม่รู้ว่าที่เราเตือนไป เค้าจะรับฟังรับรู้มั้ย ก็อยู่ที่กรรมใครกรรมมันแล้วกัน
เพื่อนมาปรึกษา เรื่องกำลังจะเป็นเมียน้อย