ผมรู้แค่เทวดา ตอนหมดอายุขัย จะมีสัญญาณคือ มีเหงื่อไหลจากรักแร้ ดอกไม้ในอุทยานจะเหี่ยว ผิวหนังเหี่ยวย่น ไม่มีแสงออกจากกาย และที่นั่ง/อาสนะ จะร้อน ซึ่งด้วยเหตุปัจจัยนี้เทวดาก่อนตายจิตมักจะเศร้าหมอง เป็นเหตุให้หลังตายแล้วไปเกิดในอบายภูมิซะส่วนใหญ่
แต่พวกพรหมที่ ไม่มีรูป มีแต่จิตอย่างเดียว หรือพรหมบางประเภท ไม่มีทั้งรูป ไม่มีทั้งจิต หรือพรหมที่มีทั้งรูป มีทั้งจิต ซึ่งพรหมพวกนี้ขณะมีอายุขัยจะอยู่ในฌาณตลอด(เสพความสุขจากสมาธิ)
ซึ่งต่างจากเทวดาที่เสพความสุข ในรูป รส กลื่น เสียง สัมผัส (เสพความสุขจากกามารมณ์) แล้วพวกพรหมก่อนตายจะมีสัญณาณตือนอะไรบ้างครับ เช่นเข้าสมาธิ(ไม่ได้) หรืออะไรพวกนี้ ลองแจกแจงสัญญาณการหมดอายุขัยของพรหมแต่ละประเภทให้ดูหน่อยได้มั้ยครับ เพราะหาข้อมูลใน google แล้วไม่เจอเลย
1.พรหม ที่มีรูป +จิต เหมือนเทวดา (ไม่รู้มีพรหมประเภทนี้รึป่าว เพราะหลังๆเริ่มงงเกี่ยวกับระบบของ รูปภพ อรูปภพ ว่ามันต่างจากกามภพยังไง)
2.พรหม ที่ไม่มีรูป แต่มีจิต (น่าจะใช่อรูปภพ ปะ)
3.พรหม ที่ไม่มีทั้งรูป ไม่มีทั้งจิต (น่าจะรูปอรูปภพ) **พรหมประเภทที่3เกิดจากพวกฤาษี/โยคีที่เข้าใจผิดว่าความทุกข์เกิดจากจิต แล้วตอนนั่งสมาธิเพ่งว่าจิตไม่มี จิตไม่มี จึงทำให้ขณะตายสามารถสำรอกจิตออกมาได้ชั่วขณะนึง แล้วไปเกิดเป็นพรหมประเภทนี้ แต่เนื่องจากมีอวิชาอยู่ สุดท้ายพอหมดอายุขัย จิตก็กลับมาเหมือนเดิม
#คำถามแรก พรหมประเภทที่ 1 มีจริงหรือป่าว หรือคำว่าพรหมในศาสนาพุทธ มีแค่ประเภทที่ 2,3 เท่านั้น
#คำถามสอง พรหมประเทภที่ 1,2,3 ก่อนตายจะมีสัญญาณเตือนว่าใกล้หมดอายุขัยแล้วยังไงบ้างครับ ซึ่งสัญญาณเตือนเหล่านี้จะทำให้จิตเศร้าหมอง เป็นเหตุที่หลังตายจากพรหมโลกแล้วไปเกิดในนรก เดียรัจฉานและเปรตวิสัยซะส่วนใหญ่
//(ผมเดาว่าสัญญาเตือนอาจจะอย่างเช่น เข้าฌาณ/สมาธิไม่ได้ เลยทำให้ร้อนรน เพราะที่มีอายุขัยมาเป็นหมื่นๆกัป เลยเข้าใจว่าตนเองเป็นอมตะ แล้วอยู่ในฌาณ ได้ตลอดหมื่นกัป แล้วอยู่ดีๆวันนึงเกิดเข้าฌาณไม่ได้/ฌาณเสื่อม เลยรู้สึกตกใจและร้อนรนหนักมากเพราะคิดว่าตัวเองเที่ยง ไม่น่าเป็นแบบนี้ได้ เพราะคิดแบบนี้ทำให้จิตเศร้าหมองก่อนหมดอายุไข พอหลังหมดอายุไขแล้วจึงไปเกิดในอบาย) ไม่แน่ใจว่าผมเข้าใจแบบนี้ถูกรึป่าว ถ้าถูกแล้วทำไมฌาณจึงเสื่อมได้ละ แล้วตลอดการเวียนไหว้ในวัฎสงสาร พวกเราทุกคนเคยเกิดเป็นพรหมชั้นนี้กันมั้ย แต่แค่ฌาณ/สมาธิเสื่อมไปแล้ว ทุกวันนี้เลยต้องเริ่มจาก0 ใหม่ //
#คำถามสาม ยังงงเกี่ยวกับพรหมประเภทที่3 อยู่ครับ คือ ถ้าไม่มีทั้งรูป ไม่มีทั้งจิต มันก็คล้ายๆกับถูกdelete อย่างสมบูรณ์จากจักรวาลนี้ แล้วจะมีความรู้สึกได้ยังไง ถ้าไม่มีจิต และเพราะไม่มีจิต+ความรู้สึก พวกตัณหา/กิเลสที่ทำให้สัตว์ต้องไปเกิด ก็ไม่น่าจะมีด้วย(อวิชชาก็น่าจะดับเช่นกัน เพราะปฎิจจสมุปบาทสายล่างๆสำหรับพรหมชั้นนี้ไม่มีแล้ว อวิชชา/ปฎิจจสมุปบาทสายบนๆก็ควรจะดับไปด้วย) แล้วทำไมพรหมชั้นนี้ยังมีอายุขัยและยังต้องไปเกิดอยู่อีกล่ะ ในเมื่อกิเลสตัณหาไม่มีแล้ว เพราะไม่มีจิต ##พูดให้เข้าใจง่ายๆคือว่า ทำไมจิต(เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) ดับไปแล้ว แต่ทำไมอวิชชาถึงไม่ดับ แบบว่ากลไกการทำงานการหมดอายุไขและการได้จิตกลับมาเหมือนเดิมของพรหมชั้นนี้ เป็นยังไงกันแน่ครับ แล้วก่อนตายของพรหมชั้นนี้สัญญาณเตือนอะไรบ้าง แล้วจะมีจิตเศร้าหมองเหมือนพรหมชั้นอื่นๆได้ยังไง เพราะในเมื่อพรหมชั้นนี้ ไม่มีจิตตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
#คำถามสี่ การอุบัติขึ้นแห่งภพย่อมมีความทุกข์เกิดขึ้น(สำหรับผู้ที่ไม่ได้อริยบุคคล) อย่างเช่น ความทุกข์ของเทวดา ก็เกิดจากการเบียดเบียน อิจฉา ตระหนี่ และการเกิดเป็นลูกน้องของเทวดาที่มีบุญมากกว่าแล้วโดนใช้งาน ไรงี้ แล้วพวกพรหม ทั้งประเภทที่ 1,2,3 จะมีความทุกข์มั้ยครับ (ถ้าไม่นับตอนใกล้หมดอายุไข)
พวกพรหมเวลาใกล้หมดอายุไขจากพรหมโลกจะมีสัญญาณเตือนอะไรบ้างครับ ? ว่าใกล้จะหมดอายุไขแล้ว
แต่พวกพรหมที่ ไม่มีรูป มีแต่จิตอย่างเดียว หรือพรหมบางประเภท ไม่มีทั้งรูป ไม่มีทั้งจิต หรือพรหมที่มีทั้งรูป มีทั้งจิต ซึ่งพรหมพวกนี้ขณะมีอายุขัยจะอยู่ในฌาณตลอด(เสพความสุขจากสมาธิ)
ซึ่งต่างจากเทวดาที่เสพความสุข ในรูป รส กลื่น เสียง สัมผัส (เสพความสุขจากกามารมณ์) แล้วพวกพรหมก่อนตายจะมีสัญณาณตือนอะไรบ้างครับ เช่นเข้าสมาธิ(ไม่ได้) หรืออะไรพวกนี้ ลองแจกแจงสัญญาณการหมดอายุขัยของพรหมแต่ละประเภทให้ดูหน่อยได้มั้ยครับ เพราะหาข้อมูลใน google แล้วไม่เจอเลย
1.พรหม ที่มีรูป +จิต เหมือนเทวดา (ไม่รู้มีพรหมประเภทนี้รึป่าว เพราะหลังๆเริ่มงงเกี่ยวกับระบบของ รูปภพ อรูปภพ ว่ามันต่างจากกามภพยังไง)
2.พรหม ที่ไม่มีรูป แต่มีจิต (น่าจะใช่อรูปภพ ปะ)
3.พรหม ที่ไม่มีทั้งรูป ไม่มีทั้งจิต (น่าจะรูปอรูปภพ) **พรหมประเภทที่3เกิดจากพวกฤาษี/โยคีที่เข้าใจผิดว่าความทุกข์เกิดจากจิต แล้วตอนนั่งสมาธิเพ่งว่าจิตไม่มี จิตไม่มี จึงทำให้ขณะตายสามารถสำรอกจิตออกมาได้ชั่วขณะนึง แล้วไปเกิดเป็นพรหมประเภทนี้ แต่เนื่องจากมีอวิชาอยู่ สุดท้ายพอหมดอายุขัย จิตก็กลับมาเหมือนเดิม
#คำถามแรก พรหมประเภทที่ 1 มีจริงหรือป่าว หรือคำว่าพรหมในศาสนาพุทธ มีแค่ประเภทที่ 2,3 เท่านั้น
#คำถามสอง พรหมประเทภที่ 1,2,3 ก่อนตายจะมีสัญญาณเตือนว่าใกล้หมดอายุขัยแล้วยังไงบ้างครับ ซึ่งสัญญาณเตือนเหล่านี้จะทำให้จิตเศร้าหมอง เป็นเหตุที่หลังตายจากพรหมโลกแล้วไปเกิดในนรก เดียรัจฉานและเปรตวิสัยซะส่วนใหญ่
//(ผมเดาว่าสัญญาเตือนอาจจะอย่างเช่น เข้าฌาณ/สมาธิไม่ได้ เลยทำให้ร้อนรน เพราะที่มีอายุขัยมาเป็นหมื่นๆกัป เลยเข้าใจว่าตนเองเป็นอมตะ แล้วอยู่ในฌาณ ได้ตลอดหมื่นกัป แล้วอยู่ดีๆวันนึงเกิดเข้าฌาณไม่ได้/ฌาณเสื่อม เลยรู้สึกตกใจและร้อนรนหนักมากเพราะคิดว่าตัวเองเที่ยง ไม่น่าเป็นแบบนี้ได้ เพราะคิดแบบนี้ทำให้จิตเศร้าหมองก่อนหมดอายุไข พอหลังหมดอายุไขแล้วจึงไปเกิดในอบาย) ไม่แน่ใจว่าผมเข้าใจแบบนี้ถูกรึป่าว ถ้าถูกแล้วทำไมฌาณจึงเสื่อมได้ละ แล้วตลอดการเวียนไหว้ในวัฎสงสาร พวกเราทุกคนเคยเกิดเป็นพรหมชั้นนี้กันมั้ย แต่แค่ฌาณ/สมาธิเสื่อมไปแล้ว ทุกวันนี้เลยต้องเริ่มจาก0 ใหม่ //
#คำถามสาม ยังงงเกี่ยวกับพรหมประเภทที่3 อยู่ครับ คือ ถ้าไม่มีทั้งรูป ไม่มีทั้งจิต มันก็คล้ายๆกับถูกdelete อย่างสมบูรณ์จากจักรวาลนี้ แล้วจะมีความรู้สึกได้ยังไง ถ้าไม่มีจิต และเพราะไม่มีจิต+ความรู้สึก พวกตัณหา/กิเลสที่ทำให้สัตว์ต้องไปเกิด ก็ไม่น่าจะมีด้วย(อวิชชาก็น่าจะดับเช่นกัน เพราะปฎิจจสมุปบาทสายล่างๆสำหรับพรหมชั้นนี้ไม่มีแล้ว อวิชชา/ปฎิจจสมุปบาทสายบนๆก็ควรจะดับไปด้วย) แล้วทำไมพรหมชั้นนี้ยังมีอายุขัยและยังต้องไปเกิดอยู่อีกล่ะ ในเมื่อกิเลสตัณหาไม่มีแล้ว เพราะไม่มีจิต ##พูดให้เข้าใจง่ายๆคือว่า ทำไมจิต(เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) ดับไปแล้ว แต่ทำไมอวิชชาถึงไม่ดับ แบบว่ากลไกการทำงานการหมดอายุไขและการได้จิตกลับมาเหมือนเดิมของพรหมชั้นนี้ เป็นยังไงกันแน่ครับ แล้วก่อนตายของพรหมชั้นนี้สัญญาณเตือนอะไรบ้าง แล้วจะมีจิตเศร้าหมองเหมือนพรหมชั้นอื่นๆได้ยังไง เพราะในเมื่อพรหมชั้นนี้ ไม่มีจิตตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
#คำถามสี่ การอุบัติขึ้นแห่งภพย่อมมีความทุกข์เกิดขึ้น(สำหรับผู้ที่ไม่ได้อริยบุคคล) อย่างเช่น ความทุกข์ของเทวดา ก็เกิดจากการเบียดเบียน อิจฉา ตระหนี่ และการเกิดเป็นลูกน้องของเทวดาที่มีบุญมากกว่าแล้วโดนใช้งาน ไรงี้ แล้วพวกพรหม ทั้งประเภทที่ 1,2,3 จะมีความทุกข์มั้ยครับ (ถ้าไม่นับตอนใกล้หมดอายุไข)