เมื่อรู้ว่าจะต้องไปขึ้นภูกระดึง
ฉันเครียดมากว่า “ฉันจะขนอะไรไปได้บ้าง”
ลูกหาบต้องด่าแม่ตลอดทางแน่ๆ
“อีนี่ขนอะไรมาเยอะแยะ”
ชีวิตที่ไม่มีไดร์เป่าผม ฉันจะอยู่ได้อย่างไร
นี่เป็นทริปการเดินป่าครั้งแรกในชีวิต ปกติไม่ได้เที่ยวสายเดินป่าอะไรแบบนี้
คิดว่าสักครั้งนึงเราควรไปเที่ยวอะไรแบบนี้บ้าง ลองอะไรที่ออกนอกกรอบชีวิตปกติประจำวัน
ทริปนี้ไปกันทั้งหมด 8 คน อยู่บนภูกระดึง 3 วัน 2 คืน
12-14 ตุลาคม 2562
เดินทางคืนวันที่ 11 ตุลาคม 2562
โดยรถทัวร์ ของซันบัส ที่นั่ง VIP แบบนอนยาวๆ เพราะคิดว่าเก็บแรงพักผ่อนนอนบนรถทัวร์
ตื่นเช้ามาก็เดินขึ้นเขาได้เลย น่าจะโอเคกว่านั่งเครื่อง หรือขับรถ อีกอย่างประหยัดค่าใช้จ่ายได้ด้วย
เราใช้เวลาในการเดินขึ้นยอดภูกระดึงประมาณ 5 ชั่วโมง 24 นาที
เริ่มขึ้นตั้งแต่ 06.35 น. เดินๆ พักๆ เรื่อยๆ ของกินอร่อยทุกซำ โดยเฉพาะแตงโม ชื่นใจมาก
พอขึ้นมาถึงข้างบน
เออ เราไม่พูดคำว่า “ฉันมาทำอะไรที่นี่” เลย
เดินเรื่อยๆ คุยกับใครก็ไม่รู้ที่เดินผ่าน ลูกหาบก็ชวนคุย
เหนื่อยนะ แต่เหมือนมีเป้าหมายว่า ฉันต้องไปที่นั่น
อีกนิดจะถึงละ ให้กำลังใจกันเอง
ในส่วนของการถ่ายรูปกับป้าย “ครั้งหนึ่งในชีวิต เราคือภูพิชิตภูกระดึง”
ฉันรู้สึกเขินมาก เพราะข้างหลังคนถ่ายคือ คนต่อคิวรอถ่ายกับป้ายนี้อีกแสนกว่าคน
นี่คือแคมเปญนึงที่มาขึ้นภูกระดึง คือ ถ่ายรูปกับทุกป้ายทุกซำ
แม้ว่าจะเป็นการเดินป่า
เราก็ต้องมอบความบันเทิงให้กับเจ้าป่าเจ้าเขา
ด้วยการโพสท่าถ่ายรูปกับทุก “ซำ” หรือจุดพักแต่ละชั้น
แรกๆ แรงดีโพสท่าเยอะ หลังๆ แบบถ่ายเหอะอยากถึงแล้ว
ถ้ารูปไหนยืนเฉยๆ คือ ไม่เขินคน ก็เหนื่อย
จุดบนสุดกับป้าย “ผู้พิชิตภูกระดึง”
แม้คนที่มาต่อคิวถ่ายรูปกับป้ายจะเรือนแสน
แต่มาถึงแล้วจะให้ฉันยืนถ่ายธรรมดา
เหมือนถ่ายบัตรประชาชนก็คงไม่ใช่
จึงหยิบแว่นกันแดด บังความเขิน
แล้วลงไปฉีกขาให้โลกจำ
ทางขึ้นภูกระดึงมีทั้งหมด 11 ชั้น ไม่รวมจุดเริ่มต้นที่ตีนภู
แต่เราเก็บภาพมาได้แค่ 10 ป้าย ส่วนอีกป้ายลืมถ่าย
ระยะทาง 5.4 กม. แล้วเดินต่อบนพื้นที่ราบด้านบนไปจุดกางเต็นท์ อีก 3.6 กม.
[CR] ภูกระดึง : เดินป่าก็แซ่บได้
ฉันเครียดมากว่า “ฉันจะขนอะไรไปได้บ้าง”
ลูกหาบต้องด่าแม่ตลอดทางแน่ๆ
“อีนี่ขนอะไรมาเยอะแยะ”
ชีวิตที่ไม่มีไดร์เป่าผม ฉันจะอยู่ได้อย่างไร
นี่เป็นทริปการเดินป่าครั้งแรกในชีวิต ปกติไม่ได้เที่ยวสายเดินป่าอะไรแบบนี้
คิดว่าสักครั้งนึงเราควรไปเที่ยวอะไรแบบนี้บ้าง ลองอะไรที่ออกนอกกรอบชีวิตปกติประจำวัน
ทริปนี้ไปกันทั้งหมด 8 คน อยู่บนภูกระดึง 3 วัน 2 คืน
12-14 ตุลาคม 2562
เดินทางคืนวันที่ 11 ตุลาคม 2562
โดยรถทัวร์ ของซันบัส ที่นั่ง VIP แบบนอนยาวๆ เพราะคิดว่าเก็บแรงพักผ่อนนอนบนรถทัวร์
ตื่นเช้ามาก็เดินขึ้นเขาได้เลย น่าจะโอเคกว่านั่งเครื่อง หรือขับรถ อีกอย่างประหยัดค่าใช้จ่ายได้ด้วย
เราใช้เวลาในการเดินขึ้นยอดภูกระดึงประมาณ 5 ชั่วโมง 24 นาที
เริ่มขึ้นตั้งแต่ 06.35 น. เดินๆ พักๆ เรื่อยๆ ของกินอร่อยทุกซำ โดยเฉพาะแตงโม ชื่นใจมาก
พอขึ้นมาถึงข้างบน
เออ เราไม่พูดคำว่า “ฉันมาทำอะไรที่นี่” เลย
เดินเรื่อยๆ คุยกับใครก็ไม่รู้ที่เดินผ่าน ลูกหาบก็ชวนคุย
เหนื่อยนะ แต่เหมือนมีเป้าหมายว่า ฉันต้องไปที่นั่น
อีกนิดจะถึงละ ให้กำลังใจกันเอง
ในส่วนของการถ่ายรูปกับป้าย “ครั้งหนึ่งในชีวิต เราคือภูพิชิตภูกระดึง”
ฉันรู้สึกเขินมาก เพราะข้างหลังคนถ่ายคือ คนต่อคิวรอถ่ายกับป้ายนี้อีกแสนกว่าคน
นี่คือแคมเปญนึงที่มาขึ้นภูกระดึง คือ ถ่ายรูปกับทุกป้ายทุกซำ
แม้ว่าจะเป็นการเดินป่า
เราก็ต้องมอบความบันเทิงให้กับเจ้าป่าเจ้าเขา
ด้วยการโพสท่าถ่ายรูปกับทุก “ซำ” หรือจุดพักแต่ละชั้น
แรกๆ แรงดีโพสท่าเยอะ หลังๆ แบบถ่ายเหอะอยากถึงแล้ว
ถ้ารูปไหนยืนเฉยๆ คือ ไม่เขินคน ก็เหนื่อย
จุดบนสุดกับป้าย “ผู้พิชิตภูกระดึง”
แม้คนที่มาต่อคิวถ่ายรูปกับป้ายจะเรือนแสน
แต่มาถึงแล้วจะให้ฉันยืนถ่ายธรรมดา
เหมือนถ่ายบัตรประชาชนก็คงไม่ใช่
จึงหยิบแว่นกันแดด บังความเขิน
แล้วลงไปฉีกขาให้โลกจำ
ทางขึ้นภูกระดึงมีทั้งหมด 11 ชั้น ไม่รวมจุดเริ่มต้นที่ตีนภู
แต่เราเก็บภาพมาได้แค่ 10 ป้าย ส่วนอีกป้ายลืมถ่าย
ระยะทาง 5.4 กม. แล้วเดินต่อบนพื้นที่ราบด้านบนไปจุดกางเต็นท์ อีก 3.6 กม.
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้