สวัสดีครับ
...................
วันนี้ จะขออนุญาตมานำเสนอเรื่องที่น่าสนใจ 2 เรื่อง จากการมีเวลาสั้น 4 วัน 3 คืน ที่นครเซี่ยงไฮ้เมื่อเดือนที่ผ่านมาครับ หนนี้เป็นการไปธุระปะปัง ไม่ได้ไปเที่ยวโดยตรง ดังนั้น แม้ว่าเรื่องร้านอาหารที่จะต้องรีวิวแน่ ๆ แล้ว แต่การนำเสนอก็จะแตกต่างออกไป เพราะวันนี้ตั้งใจจะพาไปชิมร้านอาหารสองดาวมิชลินที่ถูกขนานนามว่าราคาถูกที่สุดในโลก ตอนแรกก็ไม่แน่ใจว่าจะถูกเพียงใด ก็เลยตัดสินใจชวนรุ่นน้องที่ต้องเดินทางไปเซี่ยงไฮ้ด้วยกัน และรุ่นน้องที่เรียนหนังสืออยู่ด้วยกันที่มหาวิทยาลัยฟูตั้นแห่งเซี่ยงไฮ้มาร่วมโต๊ะมื้อเที่ยงด้วยกันเสียเลยครับ
.......................
Canton 8 ร้านอาหาร 2 ดาวมิชลินที่ราคาถูกที่สุดในโลก
จากการอ่านรีวิวหลายสำนักซึ่งมีภาษาอังกฤษอยู่น้อยนิด รีวิวร้านนี้เสียงแตกมากคือมีทั้งที่ชอบไปเลย และที่วิจารณ์รุนแรง แต่เพราะความเห็นแก่ของราคาไม่แพง ดังนั้นผมจึงตัดสินใจต้องมาลองสักครั้ง ไม่ดีก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าดีก็ถือว่ากำไรครับ เอาจริง ๆ ผมว่าร้านจองยาก เพราะผมต้องขอความอนุเคราะห์รุ่นน้องจองในวันที่ผมต้องการด้วยเวลาล่วงหน้าพอควร พนักงานยังบอกว่าถ้ามาเที่ยงโต๊ะจะเต็ม แต่ถ้ามาเวลาสิบเอ็ดโมงจะพอมีโต๊ะอยู่บ้าง ผมก็ต้องยอม ๆ หยวน ๆ ไปพร้อมจัดตารางตัวเองใหม่ครับ
...............
ตัดกลับมาที่ร้าน ผมมาถึงร้านเวลา 11.15 น. ในย่านห่างเมืองมาหน่อยแถว Runan Street ใกล้สถานีเอ็กซ์โป รุ่นน้องของผมแจ้งที่ร้านว่าขอเปลี่ยนเป็น 3 คน เพราะมีน้องที่ทำงานผมมาเพิ่ม นับว่าโชคดีมาก เพราะได้โต๊ะกลมใหญ่ขึ้นในทำเลด้านในของร้าน เริ่มต้นผมสั่งชาก่อน วันนี้ขอชาเก๊กฮวยร้อน ในราคาคนละ 5 หยวนเติมได้ไม่อั้น รสชาติดีหลังทิ้งเวลาให้ใบชาเก๊กฮวยอินฟิวส์เต็มที่กับน้ำร้อยน ผมมาทราบทีหลังว่าราคาชาถูกมาก เพราะร้านอื่น ๆ ขายเป็นกาและกาไม่ต่ำกว่าหนึ่งร้อยหยวนครับ
.....................
เนื่องจากผมรับประทานอาหารมื้อก่อนหน้าตอนตีหนึ่งบนเครื่องบิน และขณะนี้เป็นเวลา 11.30 น. ความหิวเทียบชั้นกล่องข้าวน้อยฆ่าแม่ เปิดเมนูแล้วข้ามอาหารแบบเทสติ้งเมนูไป เพราะมาหลายคนสั่งแบบรับประทานด้วยกันดีกว่า ผมจิ้มนั่น เลือกนี่ จนได้อาหารจำนวนทั้งสิ้นสิบอย่าง สำหรับคนสามคน แบ่งเป็นติ่มซำจำนวน 6 อย่าง และอาหารจานหลักจำนวน 4 อย่างครับ
..................
ผมขออนุญาตไม่เล่าตามลำดับการเสิร์ฟ แต่เล่าตามหมวดหมู่อาหารเพราะการเสิร์ฟจริงหมูแดงมาก่อน จากนั้นติ่มซำบางส่วนตามมา ก่อนจานหลักทั้งสามจานที่เหลือจะมาแทรก และปิดท้ายด้วยซาลาเปาสองแบบที่มาท้ายสุดครับ ถ้าหากพูดถึงบริการ ผมว่าดีตามมาตรฐาน ไม่ได้อลังการอะไร แต่ก็ส่งออเดอร์ถูก เก็บจานในอัตราเร็วที่เหมาะสม และก็น่ารักทั้งรินชาเก๊กฮวยให้ตลอดเมื่อพร่อง รับอาสาถ่ายภาพให้ เรียกว่าตรงกันข้ามกับที่หลายคนวิจารณ์แรง ๆ ไว้เลยครับ
...............
ติ่มซำเข่งแรก ฮะเก๋า อร่อย กุ้งเด้ง เกินกว่ามาตรฐาน แต่ยังไม่ว้าว รสชาติแบบนี้ หากินได้ในร้านหรู ๆ ที่กรุงเทพฯ ครับ มีข้อตินิดหน่อยคือแป้งตั้งหมิ่นหนาไปนิด ผมชอบแป้งฮะเก๋าแบบคริสตัลใส ๆ หนึบ ๆ มากกว่า ถ้าแป้งหนาอีกนิดเดียวก็จะเหมือนเส้นใหญ่หรือก๋วยเตี๋ยวหลอดแล้วครับ
.................
เข่งสอง ขนมจีบหมูไข่ปู ขนมจีบมีกุ้งผสมมาด้วย แต่หนักหมูมากกว่า โรยหน้าด้วยไข่ปู (ที่ก็แอบเหมือนไข่กุ้ง) รสชาติดีเกินกว่าค่าเฉลี่ยมาก ๆ แต่ก็ไม่ว้าวและแน่นอนว่าหากินได้ตามร้านติ่มซำชั้นดีในกรุงเทพฯ ครับ
.................
เข่งสาม ก๋วยเตี๋ยวหลอดตับหมู แป้งก๋วยเตี๋ยวหลอดอร่อยมาก ส่วนตับผมหวังจะได้ชิ้นใหญ่กว่านี้ อันนี้ออกแนวสับเกือบละเอียด แล้วก็มีกลิ่นเครื่องเทศสไตล์มิ้นท์ไม่ก็ชิโสะแซมมาหน่อย อร่ยไหม ก็ใช้ได้ แต่กิน ๆ เคี้ยว ๆ นาน ๆ กลิ่นที่ขึ้นจมูกทำเอาคิดว่ากำลังกินตับหวานแบบอีสานอยูแทนครับ
..........
จานสี่ก๋วยเตี๋ยวหลอดเปาะเปี๊ยะกุ้งทอด ถ้าร้านจีนธรรมดาหน่อย อาจจะยัดไส้เปาะเปี๊ยะไก่ไม่ก็ปาท่องโก๋ นัยว่าหนักแป้ง แต่ที่นี่เทพกว่า คือเปาะเปี๊ยะเป็นแบบตาข่าย เนื้อสัมผัสจึงสลับกันกับก๋วยเตี๋ยวหลอดได้ดี อันนึงนึ่งเต็มแผ่น อีกอันกรอบ ๆ และไม่เรียบนัก กุ้งที่ใส่มาก็อวบใหญ่และเด้ง สั้น ๆ คือจานนี้ห้ามพลาดเลยนะครับ อร่อยสุด ๆ
..................
จานถัดมาเป็นซาลาเปาหมูแดง อารมณ์แบบขนมปังสับปะรด (คือหน้าด้านบนซาลาเปาแตกออกมา ไม่ใช่ว่ามีสับปะรดเป็นส่วนผสมแต่อย่างใด) ไส้ไม่แน่นกำลังดี หมูแดงชิ้นกลาง ๆ อร่อยชุ่มฉ่ำและกลมกล่อม แป้งดีกว่าร้านหนึ่งดาวทิมโฮวานที่มีสาขาที่เมืองไทยอยู่หลายช่วงตัวครับ จานนี้ให้ว้าวได้อีกแล้ว
................
เข่งที่หก สุดท้ายของติ่มซำ เป็นซาลาเปาลาวาไข่เค็ม สั้น ๆ แป้งนุ่มมาก กินไม่หมดห่อกลับอีกสามวันเอาออกมากินจากตู้เย็น แป้งก็ยังรอด ไส้รสชาติพอดีคือลาวาไข่เค็มไหลเยิ้ม มีความสมดุลระหว่างเค็มกับหวานไม่โดดไปด้านในด้านหนึ่ง ฟังดูเหมือนจะไม่ว้าว แต่จริง ๆ คือว้าวมากนะครับ
................
จานหลักสี่จาน จานแรกเป็นหมูแดงมา 6 ชิ้นหนา ๆ ติดชั้นไขมัน หมูนุ่มจนเกือบละลายในปาก น้ำที่เคลือบหมูแดงริชวายป่วงและอร่อยมาก เหมือนโดนระเบิดรสชาติกระแทกไปที่ลิ้นและปากเต็มแรงครับ รสชาติให้เต็ม ความว้าวให้เต็ม นี่ถ้ามากินวันสุดท้าย ผมซื้อกลับบ้านอย่างไม่ลังเลครับ
..........................
จานที่แปดแล้ว คราวนี้เป็นหมูกรอบ ตายกันไปเลยจานนี้ หนังกรอบมาก แต่ไม่ถึงกับแข็ง ชั้นไขมันมันชุ่มฉ่ำ ชั้นเนื้อไม่แห้งมีน้ำมันหล่อเลี้ยง กินแล้วเหมือนจะซ้อนเนื้อสัมผัสห้าชั้นมากกว่าสามชั้น อร่อยกว่าเชฟแมนหรืออายัตเมืองไทยอย่างแน่นอนครับ มันชุ่มฉ่ำและอบอวลทั่วปาก ถ้าใครอยากเติมรส มีมัสตาร์ด (ปกติ)ให้ และมีของประหลาดคือน้ำตาลทรายมาให้รับประทานคู่เพิ่มเติมครับ
.....................
จานที่เก้า ผัดเปรี้ยวหวานแบบจีน ของแท้ต้องมีกลิ่นแบบน้ำส้มสายชูหมักติดมาด้วย ร้านนี้ทำได้กลมกล่อม และเลือกใช้ผลไม้เพื่อมาเสริมรสเปรี้ยวหวานได้ดี ทั้งองุ่น ลิ้นจี้ สับปะรดและสตรอว์เบอร์รี่ครับ ส่วนหมูเป็นสันนอกไม่ก็สันคอเพราะติดมันที่ขอบ เอามาชุมแป้งทอดแล้วผัด ยังมีเนื้อสัมผัสอยู่แต่น้ำเปรี้ยวหวานเข้าเนื้อมาก ๆ ครับ
...............
จานสุดท้าย เนื้อผัดคะน้า อาหารแสนธรรมดา แต่คะน้ากรอบสุด ๆ ส่วนเนื้อก็นุ่มสุด ๆ แบบละลายในปากเช่นกัน วัตถุดิบจานนี้คือดีมาก การปรุงรสออกมาก็เทพ แบบที่กินเปล่า ๆ และผมหยุดคีบต่อไม่ได้ครับ
...................
ผมใช้เวลาราวชั่วโมงครึ่งที่นี่ พนักงานไม่มีไล่หรือชักสีหน้า และมาถึงเวลาสำคัญคือตอนจ่ายเงิน พนักงานยกเครื่องรูดมารอเลย สมเป็นสังคมไร้เงินสด ตอนแรกผมกันเงินไว้เลี้ยงทั้งสองท่านที่รวม ๆ แล้ว 1,000 หยวน แต่ของจริงจ่ายไปแค่ 403 หยวนถ้วน ไม่มีอะไรต้องบวกบวกเพิ่มอีกแล้ว อยากทราบเท่าไรก็คูณ 4.28 เอาแล้วกัน ถูกสะใจจนผมตื่นตะลึงจริง ๆ ครับ
.....................
Verdict ถ้าจองได้ต้องมา ถ้าวอล์กอินได้ก็ควรต้องมาและอดทนรอ มันถูก รสชาติดีงาม อาจจะไม่ว้าว ไม่มีลูกเล่นหวือหวา แต่อร่อยจริงจังด้วยวัตถุดิบและรสมือที่เทพสุดขีดครับ และผมคิดว่าถ้าต้องไปเซี่ยงไฮ้อีกหลาย ๆ รอบ ก็จะเจียดเวลาสักเที่ยงไว้สำหรับร้านติ่มซำแห่งนี้อย่างแน่นอนครับ
[CR] Unseen Shanghai ในร้าน 2 ดาวมิชลินที่ถูกที่สุด X หมู่บ้านชาวนาที่คุณภาพชีวิตดีที่สุดครับ
...................
วันนี้ จะขออนุญาตมานำเสนอเรื่องที่น่าสนใจ 2 เรื่อง จากการมีเวลาสั้น 4 วัน 3 คืน ที่นครเซี่ยงไฮ้เมื่อเดือนที่ผ่านมาครับ หนนี้เป็นการไปธุระปะปัง ไม่ได้ไปเที่ยวโดยตรง ดังนั้น แม้ว่าเรื่องร้านอาหารที่จะต้องรีวิวแน่ ๆ แล้ว แต่การนำเสนอก็จะแตกต่างออกไป เพราะวันนี้ตั้งใจจะพาไปชิมร้านอาหารสองดาวมิชลินที่ถูกขนานนามว่าราคาถูกที่สุดในโลก ตอนแรกก็ไม่แน่ใจว่าจะถูกเพียงใด ก็เลยตัดสินใจชวนรุ่นน้องที่ต้องเดินทางไปเซี่ยงไฮ้ด้วยกัน และรุ่นน้องที่เรียนหนังสืออยู่ด้วยกันที่มหาวิทยาลัยฟูตั้นแห่งเซี่ยงไฮ้มาร่วมโต๊ะมื้อเที่ยงด้วยกันเสียเลยครับ
.......................
Canton 8 ร้านอาหาร 2 ดาวมิชลินที่ราคาถูกที่สุดในโลก
จากการอ่านรีวิวหลายสำนักซึ่งมีภาษาอังกฤษอยู่น้อยนิด รีวิวร้านนี้เสียงแตกมากคือมีทั้งที่ชอบไปเลย และที่วิจารณ์รุนแรง แต่เพราะความเห็นแก่ของราคาไม่แพง ดังนั้นผมจึงตัดสินใจต้องมาลองสักครั้ง ไม่ดีก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าดีก็ถือว่ากำไรครับ เอาจริง ๆ ผมว่าร้านจองยาก เพราะผมต้องขอความอนุเคราะห์รุ่นน้องจองในวันที่ผมต้องการด้วยเวลาล่วงหน้าพอควร พนักงานยังบอกว่าถ้ามาเที่ยงโต๊ะจะเต็ม แต่ถ้ามาเวลาสิบเอ็ดโมงจะพอมีโต๊ะอยู่บ้าง ผมก็ต้องยอม ๆ หยวน ๆ ไปพร้อมจัดตารางตัวเองใหม่ครับ
...............
ตัดกลับมาที่ร้าน ผมมาถึงร้านเวลา 11.15 น. ในย่านห่างเมืองมาหน่อยแถว Runan Street ใกล้สถานีเอ็กซ์โป รุ่นน้องของผมแจ้งที่ร้านว่าขอเปลี่ยนเป็น 3 คน เพราะมีน้องที่ทำงานผมมาเพิ่ม นับว่าโชคดีมาก เพราะได้โต๊ะกลมใหญ่ขึ้นในทำเลด้านในของร้าน เริ่มต้นผมสั่งชาก่อน วันนี้ขอชาเก๊กฮวยร้อน ในราคาคนละ 5 หยวนเติมได้ไม่อั้น รสชาติดีหลังทิ้งเวลาให้ใบชาเก๊กฮวยอินฟิวส์เต็มที่กับน้ำร้อยน ผมมาทราบทีหลังว่าราคาชาถูกมาก เพราะร้านอื่น ๆ ขายเป็นกาและกาไม่ต่ำกว่าหนึ่งร้อยหยวนครับ
.....................
เนื่องจากผมรับประทานอาหารมื้อก่อนหน้าตอนตีหนึ่งบนเครื่องบิน และขณะนี้เป็นเวลา 11.30 น. ความหิวเทียบชั้นกล่องข้าวน้อยฆ่าแม่ เปิดเมนูแล้วข้ามอาหารแบบเทสติ้งเมนูไป เพราะมาหลายคนสั่งแบบรับประทานด้วยกันดีกว่า ผมจิ้มนั่น เลือกนี่ จนได้อาหารจำนวนทั้งสิ้นสิบอย่าง สำหรับคนสามคน แบ่งเป็นติ่มซำจำนวน 6 อย่าง และอาหารจานหลักจำนวน 4 อย่างครับ
..................
ผมขออนุญาตไม่เล่าตามลำดับการเสิร์ฟ แต่เล่าตามหมวดหมู่อาหารเพราะการเสิร์ฟจริงหมูแดงมาก่อน จากนั้นติ่มซำบางส่วนตามมา ก่อนจานหลักทั้งสามจานที่เหลือจะมาแทรก และปิดท้ายด้วยซาลาเปาสองแบบที่มาท้ายสุดครับ ถ้าหากพูดถึงบริการ ผมว่าดีตามมาตรฐาน ไม่ได้อลังการอะไร แต่ก็ส่งออเดอร์ถูก เก็บจานในอัตราเร็วที่เหมาะสม และก็น่ารักทั้งรินชาเก๊กฮวยให้ตลอดเมื่อพร่อง รับอาสาถ่ายภาพให้ เรียกว่าตรงกันข้ามกับที่หลายคนวิจารณ์แรง ๆ ไว้เลยครับ
...............
ติ่มซำเข่งแรก ฮะเก๋า อร่อย กุ้งเด้ง เกินกว่ามาตรฐาน แต่ยังไม่ว้าว รสชาติแบบนี้ หากินได้ในร้านหรู ๆ ที่กรุงเทพฯ ครับ มีข้อตินิดหน่อยคือแป้งตั้งหมิ่นหนาไปนิด ผมชอบแป้งฮะเก๋าแบบคริสตัลใส ๆ หนึบ ๆ มากกว่า ถ้าแป้งหนาอีกนิดเดียวก็จะเหมือนเส้นใหญ่หรือก๋วยเตี๋ยวหลอดแล้วครับ
.................
เข่งสอง ขนมจีบหมูไข่ปู ขนมจีบมีกุ้งผสมมาด้วย แต่หนักหมูมากกว่า โรยหน้าด้วยไข่ปู (ที่ก็แอบเหมือนไข่กุ้ง) รสชาติดีเกินกว่าค่าเฉลี่ยมาก ๆ แต่ก็ไม่ว้าวและแน่นอนว่าหากินได้ตามร้านติ่มซำชั้นดีในกรุงเทพฯ ครับ
.................
เข่งสาม ก๋วยเตี๋ยวหลอดตับหมู แป้งก๋วยเตี๋ยวหลอดอร่อยมาก ส่วนตับผมหวังจะได้ชิ้นใหญ่กว่านี้ อันนี้ออกแนวสับเกือบละเอียด แล้วก็มีกลิ่นเครื่องเทศสไตล์มิ้นท์ไม่ก็ชิโสะแซมมาหน่อย อร่ยไหม ก็ใช้ได้ แต่กิน ๆ เคี้ยว ๆ นาน ๆ กลิ่นที่ขึ้นจมูกทำเอาคิดว่ากำลังกินตับหวานแบบอีสานอยูแทนครับ
..........
จานสี่ก๋วยเตี๋ยวหลอดเปาะเปี๊ยะกุ้งทอด ถ้าร้านจีนธรรมดาหน่อย อาจจะยัดไส้เปาะเปี๊ยะไก่ไม่ก็ปาท่องโก๋ นัยว่าหนักแป้ง แต่ที่นี่เทพกว่า คือเปาะเปี๊ยะเป็นแบบตาข่าย เนื้อสัมผัสจึงสลับกันกับก๋วยเตี๋ยวหลอดได้ดี อันนึงนึ่งเต็มแผ่น อีกอันกรอบ ๆ และไม่เรียบนัก กุ้งที่ใส่มาก็อวบใหญ่และเด้ง สั้น ๆ คือจานนี้ห้ามพลาดเลยนะครับ อร่อยสุด ๆ
..................
จานถัดมาเป็นซาลาเปาหมูแดง อารมณ์แบบขนมปังสับปะรด (คือหน้าด้านบนซาลาเปาแตกออกมา ไม่ใช่ว่ามีสับปะรดเป็นส่วนผสมแต่อย่างใด) ไส้ไม่แน่นกำลังดี หมูแดงชิ้นกลาง ๆ อร่อยชุ่มฉ่ำและกลมกล่อม แป้งดีกว่าร้านหนึ่งดาวทิมโฮวานที่มีสาขาที่เมืองไทยอยู่หลายช่วงตัวครับ จานนี้ให้ว้าวได้อีกแล้ว
................
เข่งที่หก สุดท้ายของติ่มซำ เป็นซาลาเปาลาวาไข่เค็ม สั้น ๆ แป้งนุ่มมาก กินไม่หมดห่อกลับอีกสามวันเอาออกมากินจากตู้เย็น แป้งก็ยังรอด ไส้รสชาติพอดีคือลาวาไข่เค็มไหลเยิ้ม มีความสมดุลระหว่างเค็มกับหวานไม่โดดไปด้านในด้านหนึ่ง ฟังดูเหมือนจะไม่ว้าว แต่จริง ๆ คือว้าวมากนะครับ
................
จานหลักสี่จาน จานแรกเป็นหมูแดงมา 6 ชิ้นหนา ๆ ติดชั้นไขมัน หมูนุ่มจนเกือบละลายในปาก น้ำที่เคลือบหมูแดงริชวายป่วงและอร่อยมาก เหมือนโดนระเบิดรสชาติกระแทกไปที่ลิ้นและปากเต็มแรงครับ รสชาติให้เต็ม ความว้าวให้เต็ม นี่ถ้ามากินวันสุดท้าย ผมซื้อกลับบ้านอย่างไม่ลังเลครับ
..........................
จานที่แปดแล้ว คราวนี้เป็นหมูกรอบ ตายกันไปเลยจานนี้ หนังกรอบมาก แต่ไม่ถึงกับแข็ง ชั้นไขมันมันชุ่มฉ่ำ ชั้นเนื้อไม่แห้งมีน้ำมันหล่อเลี้ยง กินแล้วเหมือนจะซ้อนเนื้อสัมผัสห้าชั้นมากกว่าสามชั้น อร่อยกว่าเชฟแมนหรืออายัตเมืองไทยอย่างแน่นอนครับ มันชุ่มฉ่ำและอบอวลทั่วปาก ถ้าใครอยากเติมรส มีมัสตาร์ด (ปกติ)ให้ และมีของประหลาดคือน้ำตาลทรายมาให้รับประทานคู่เพิ่มเติมครับ
.....................
จานที่เก้า ผัดเปรี้ยวหวานแบบจีน ของแท้ต้องมีกลิ่นแบบน้ำส้มสายชูหมักติดมาด้วย ร้านนี้ทำได้กลมกล่อม และเลือกใช้ผลไม้เพื่อมาเสริมรสเปรี้ยวหวานได้ดี ทั้งองุ่น ลิ้นจี้ สับปะรดและสตรอว์เบอร์รี่ครับ ส่วนหมูเป็นสันนอกไม่ก็สันคอเพราะติดมันที่ขอบ เอามาชุมแป้งทอดแล้วผัด ยังมีเนื้อสัมผัสอยู่แต่น้ำเปรี้ยวหวานเข้าเนื้อมาก ๆ ครับ
...............
จานสุดท้าย เนื้อผัดคะน้า อาหารแสนธรรมดา แต่คะน้ากรอบสุด ๆ ส่วนเนื้อก็นุ่มสุด ๆ แบบละลายในปากเช่นกัน วัตถุดิบจานนี้คือดีมาก การปรุงรสออกมาก็เทพ แบบที่กินเปล่า ๆ และผมหยุดคีบต่อไม่ได้ครับ
...................
ผมใช้เวลาราวชั่วโมงครึ่งที่นี่ พนักงานไม่มีไล่หรือชักสีหน้า และมาถึงเวลาสำคัญคือตอนจ่ายเงิน พนักงานยกเครื่องรูดมารอเลย สมเป็นสังคมไร้เงินสด ตอนแรกผมกันเงินไว้เลี้ยงทั้งสองท่านที่รวม ๆ แล้ว 1,000 หยวน แต่ของจริงจ่ายไปแค่ 403 หยวนถ้วน ไม่มีอะไรต้องบวกบวกเพิ่มอีกแล้ว อยากทราบเท่าไรก็คูณ 4.28 เอาแล้วกัน ถูกสะใจจนผมตื่นตะลึงจริง ๆ ครับ
.....................
Verdict ถ้าจองได้ต้องมา ถ้าวอล์กอินได้ก็ควรต้องมาและอดทนรอ มันถูก รสชาติดีงาม อาจจะไม่ว้าว ไม่มีลูกเล่นหวือหวา แต่อร่อยจริงจังด้วยวัตถุดิบและรสมือที่เทพสุดขีดครับ และผมคิดว่าถ้าต้องไปเซี่ยงไฮ้อีกหลาย ๆ รอบ ก็จะเจียดเวลาสักเที่ยงไว้สำหรับร้านติ่มซำแห่งนี้อย่างแน่นอนครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้