Honda City 2020
เครื่องยนต์ 3 สูบ 1.0L VTEC Turbo
กำลังสูงสุด 122 แรงม้าที่ 5,500 รอบ
แรงบิด 173 นิวตัน-เมตรที่ 2,000-4,500 รอบ
Honda เคลมว่าแรงกว่าเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรเดิม
เกียร์ CVT ทุกรุ่น ไม่มีเกียร์ธรรมดาอีกต่อไป
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 23.8 กม. / ลิตร ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ 99 กรัม / กม.
ราคาอยู่ที่
รุ่นที่ดูคุ้มที่สุดจาก 4 ตัวเลือกน่าจะเป็นรุ่น SV 665,000
และ Honda น่าจะคาดหวังให้รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ลูกค้ารู้สึกคุ้มมากที่สุด (แต่สุดท้ายแล้วลูกค้าอาจจะเลือกซื้อรุ่น V มากที่สุด)
หากเป็นคนที่ไม่สนใจ option ที่ Almera ให้มา และรู้สึกมั่นใจกับ Honda มากกว่า รุ่นนี้จะเป็นรุ่นที่ทำให้
Honda แย่งลูกค้ามาจาก Almera รุ่น top กับรอง top ได้
ดังนั้นลูกค้าที่มีงบประมาณ 6 แสนขึ้นไปต้องเปรียบเทียบระหว่าง Almera รุ่น VL 639,000 และ V 599,000
กับ City V 609,000 และ SV 665,000
แต่ภายในของ City รุ่น SV ดูดีกว่ารุ่น V อย่างมาก และอาจถูกโฉลกกับลูกค้าส่วนใหญ่มากกว่าภายในของรุ่น RS ด้วยซ้ำ
แถมยังเป็นรุ่นเดียวที่เป็นเบาะหนังล้วน ในขณะที่ RS เป็นเบาะหนังผสมผ้า ราคาของ SV ก็แพงกว่า Almera รุ่น top
เล็กน้อย รุ่น SV จึงอาจเป็นรุ่นที่ดูคุ้มที่สุด ถ้าไม่มองว่าเป็น eco car แต่เป็น City แบบรุ่นที่แล้ว
หากเป็นรุ่น RS รุ่น top ก็จะได้ option ครบในส่วนของ cruise control และ paddle shift แต่ราคาที่ข้ามเกินเลข 7
อาจทำให้ลูกค้ายอมตัดใจ ซึ่งบางคนอาจจะไม่ค่อยได้ใช้สองตัวนี้เลยด้วยซ้ำ จุดที่น่าสนใจของ RS จึงเหลือแค่
ม่านถุงลมที่เพิ่มมาอีก 2 ลูก กับที่เท้าแขนเบาะหลัง ความมืดๆ ทึมๆ กับหลังคาสีดำ และช่องแอร์ที่มีคนล้อว่าเหมือน
Isuzu ก็ยิ่งทำให้ภาย ในของรุ่น RS ดูหมองลงไปอีก รุ่นรอง top อย่าง SV ที่มีของเล่นกำลังพอดีๆ
และมีสีไอวอรีตัดสวยงามจึงน่าสนใจมากกว่า (แต่ถ้างบไม่อั้น รุ่น top RS ย่อมดีที่สุดอยู่แล้ว)
หน้าปัดของรุ่น RS ที่ไม่ได้สวยยั่วยวนขนาดต้องยอมเสียเงินซื้อรุ่น top เลย
ในรุ่น V และรุ่น S นั้น มีภายในที่ดูจืดที่สุด ได้วิทยุธรรมดา เบาผ้าสีดำ และภายในที่ดูออกแบบได้จืดมากไปหน่อย
เหมาะสำหรับเป็นรถ budget จริงๆ หรือรถที่สำหรับเน้นใช้งานเท่านั้น รุ่น S 579,500 มี option ประมาณ Almera รุ่น
เริ่มต้นเท่านั้นซึ่งก็คือรุ่น E 509,000 และภายในที่ของ Almera ออกแบบดูดีกว่าทำให้ Almera ดูดีกว่า แต่ City ก็
จะมีส่วนที่เหนือกว่าเช่น แบรนด์ Honda ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ มีไฟเดย์ไทม์ มีเสาอากาศครีบฉลาม Push start และมี airbag 4 ใบ
รุ่น S ซึ่งเป็นรุ่นเริ่มต้นนั้นได้ล้อกระทะขนาด 15 นิ้วแบบนี้ ซึ่ง Modulo มีล้อแต่งขนาด 15 นิ้วขายให้เช่นกัน
ลายคล้ายของ CR-V รุ่น top ซึ่งผมชอบลายล้อ CR-V นะ
ดูรถรอบคันของรุ่น RS
กรอบไฟตัดหมอกเป็นคนละทรงกับรุ่นปกติ ออกแบบเน้นสปอร์ต
กระจังหน้า RS สีดำ และลิ้นล่างทำเป็นสีดำล้วน
กันชนหลังเหมือนจะเป็นคนละตัวกับรุ่นอื่น หรือแค่มีแผ่น diffuser สีดำแปะทับเพิ่มก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน
พอดีรุ่นธรรมดาไม่มีรูปโชว์ก้นให้เห็นชัดๆ
รุ่น RS เรียกได้ว่าตกแต่งดูโอเค ไม่เยอะจนเลอะเทอะ แต่ต้องเพิ่มตั้ง 74,000 บาท
ส่วนที่ดูเป็นส่วนเกินน่าจะเป็นตูดเป็ดสีดำ ซึ่งไม่โอเคเท่าไหร่
จุดด้อยของ City อยู่ที่ด้านข้าง ตัวรถดูป้อม และมีฐานล้อที่สั้น บางคนบอกว่าเหมือน Amaze รุ่น 2 ที่ขายที่อินเดีย...
นั่นก็พูดเกินไป จริงๆ แล้วก็มีเส้นสายที่ดูดีขึ้น คล้าย Accord G9 ส่วนไฟท้ายก็สวยคล้าย G20 นิดๆ แต่ผมไม่ได้
เป็นแฟน BMW
กระจังหน้าที่มองด้านข้างดูหักๆ จริงๆ ดูคล้าย Accord G10 แต่ดูโดยรวมได้หน้า Accord G9 มาเลย เหมือน
เป็นลูกของ G9 ส่วน Almera เหมือนเป็นลูกของ Accord G10 เพราะได้กระจังหน้าทรง V ขนาดใหญ่เดี่ยวๆ
มีหลายคนที่ไม่แคร์ไฟหน้าบั้งเกล็ดปลา LED ของ Honda และยังคงชอบไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์มากกว่า
ส่วนกระจังหน้าสีโครเมียมก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไร บวกกับภายในทูโทนที่เป็นเบาะหนังล้วนๆ แล้ว เซลส์น่าจะ
ขายรุ่น SV ได้ง่ายกว่ารุ่น RS มาก ส่วนรุ่น V ก็น่าจะเป็นที่นิยมสำหรับลูกค้าตลาดรถ Fleet ลูกค้าที่เน้นใช้งาน
วิเคราะห์ Honda City 2020 แบบเจาะลึก และ City 5 ประตูที่อาจจะมาแทน Jazz
เครื่องยนต์ 3 สูบ 1.0L VTEC Turbo
กำลังสูงสุด 122 แรงม้าที่ 5,500 รอบ
แรงบิด 173 นิวตัน-เมตรที่ 2,000-4,500 รอบ
Honda เคลมว่าแรงกว่าเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรเดิม
เกียร์ CVT ทุกรุ่น ไม่มีเกียร์ธรรมดาอีกต่อไป
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 23.8 กม. / ลิตร ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ 99 กรัม / กม.
ราคาอยู่ที่
รุ่นที่ดูคุ้มที่สุดจาก 4 ตัวเลือกน่าจะเป็นรุ่น SV 665,000
และ Honda น่าจะคาดหวังให้รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ลูกค้ารู้สึกคุ้มมากที่สุด (แต่สุดท้ายแล้วลูกค้าอาจจะเลือกซื้อรุ่น V มากที่สุด)
หากเป็นคนที่ไม่สนใจ option ที่ Almera ให้มา และรู้สึกมั่นใจกับ Honda มากกว่า รุ่นนี้จะเป็นรุ่นที่ทำให้
Honda แย่งลูกค้ามาจาก Almera รุ่น top กับรอง top ได้
ดังนั้นลูกค้าที่มีงบประมาณ 6 แสนขึ้นไปต้องเปรียบเทียบระหว่าง Almera รุ่น VL 639,000 และ V 599,000
กับ City V 609,000 และ SV 665,000
แต่ภายในของ City รุ่น SV ดูดีกว่ารุ่น V อย่างมาก และอาจถูกโฉลกกับลูกค้าส่วนใหญ่มากกว่าภายในของรุ่น RS ด้วยซ้ำ
แถมยังเป็นรุ่นเดียวที่เป็นเบาะหนังล้วน ในขณะที่ RS เป็นเบาะหนังผสมผ้า ราคาของ SV ก็แพงกว่า Almera รุ่น top
เล็กน้อย รุ่น SV จึงอาจเป็นรุ่นที่ดูคุ้มที่สุด ถ้าไม่มองว่าเป็น eco car แต่เป็น City แบบรุ่นที่แล้ว
หากเป็นรุ่น RS รุ่น top ก็จะได้ option ครบในส่วนของ cruise control และ paddle shift แต่ราคาที่ข้ามเกินเลข 7
อาจทำให้ลูกค้ายอมตัดใจ ซึ่งบางคนอาจจะไม่ค่อยได้ใช้สองตัวนี้เลยด้วยซ้ำ จุดที่น่าสนใจของ RS จึงเหลือแค่
ม่านถุงลมที่เพิ่มมาอีก 2 ลูก กับที่เท้าแขนเบาะหลัง ความมืดๆ ทึมๆ กับหลังคาสีดำ และช่องแอร์ที่มีคนล้อว่าเหมือน
Isuzu ก็ยิ่งทำให้ภาย ในของรุ่น RS ดูหมองลงไปอีก รุ่นรอง top อย่าง SV ที่มีของเล่นกำลังพอดีๆ
และมีสีไอวอรีตัดสวยงามจึงน่าสนใจมากกว่า (แต่ถ้างบไม่อั้น รุ่น top RS ย่อมดีที่สุดอยู่แล้ว)
หน้าปัดของรุ่น RS ที่ไม่ได้สวยยั่วยวนขนาดต้องยอมเสียเงินซื้อรุ่น top เลย
ในรุ่น V และรุ่น S นั้น มีภายในที่ดูจืดที่สุด ได้วิทยุธรรมดา เบาผ้าสีดำ และภายในที่ดูออกแบบได้จืดมากไปหน่อย
เหมาะสำหรับเป็นรถ budget จริงๆ หรือรถที่สำหรับเน้นใช้งานเท่านั้น รุ่น S 579,500 มี option ประมาณ Almera รุ่น
เริ่มต้นเท่านั้นซึ่งก็คือรุ่น E 509,000 และภายในที่ของ Almera ออกแบบดูดีกว่าทำให้ Almera ดูดีกว่า แต่ City ก็
จะมีส่วนที่เหนือกว่าเช่น แบรนด์ Honda ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ มีไฟเดย์ไทม์ มีเสาอากาศครีบฉลาม Push start และมี airbag 4 ใบ
รุ่น S ซึ่งเป็นรุ่นเริ่มต้นนั้นได้ล้อกระทะขนาด 15 นิ้วแบบนี้ ซึ่ง Modulo มีล้อแต่งขนาด 15 นิ้วขายให้เช่นกัน
ลายคล้ายของ CR-V รุ่น top ซึ่งผมชอบลายล้อ CR-V นะ
ดูรถรอบคันของรุ่น RS
กรอบไฟตัดหมอกเป็นคนละทรงกับรุ่นปกติ ออกแบบเน้นสปอร์ต
กระจังหน้า RS สีดำ และลิ้นล่างทำเป็นสีดำล้วน
กันชนหลังเหมือนจะเป็นคนละตัวกับรุ่นอื่น หรือแค่มีแผ่น diffuser สีดำแปะทับเพิ่มก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน
พอดีรุ่นธรรมดาไม่มีรูปโชว์ก้นให้เห็นชัดๆ
รุ่น RS เรียกได้ว่าตกแต่งดูโอเค ไม่เยอะจนเลอะเทอะ แต่ต้องเพิ่มตั้ง 74,000 บาท
ส่วนที่ดูเป็นส่วนเกินน่าจะเป็นตูดเป็ดสีดำ ซึ่งไม่โอเคเท่าไหร่
จุดด้อยของ City อยู่ที่ด้านข้าง ตัวรถดูป้อม และมีฐานล้อที่สั้น บางคนบอกว่าเหมือน Amaze รุ่น 2 ที่ขายที่อินเดีย...
นั่นก็พูดเกินไป จริงๆ แล้วก็มีเส้นสายที่ดูดีขึ้น คล้าย Accord G9 ส่วนไฟท้ายก็สวยคล้าย G20 นิดๆ แต่ผมไม่ได้
เป็นแฟน BMW
กระจังหน้าที่มองด้านข้างดูหักๆ จริงๆ ดูคล้าย Accord G10 แต่ดูโดยรวมได้หน้า Accord G9 มาเลย เหมือน
เป็นลูกของ G9 ส่วน Almera เหมือนเป็นลูกของ Accord G10 เพราะได้กระจังหน้าทรง V ขนาดใหญ่เดี่ยวๆ
มีหลายคนที่ไม่แคร์ไฟหน้าบั้งเกล็ดปลา LED ของ Honda และยังคงชอบไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์มากกว่า
ส่วนกระจังหน้าสีโครเมียมก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไร บวกกับภายในทูโทนที่เป็นเบาะหนังล้วนๆ แล้ว เซลส์น่าจะ
ขายรุ่น SV ได้ง่ายกว่ารุ่น RS มาก ส่วนรุ่น V ก็น่าจะเป็นที่นิยมสำหรับลูกค้าตลาดรถ Fleet ลูกค้าที่เน้นใช้งาน