[CR] บันทึกการเดินทางตะลุยญี่ปุ่นแบบกึ่ง unseen 6 เมือง 14 วัน งบไม่ถึงแสน "ทริปวอร์มอัพที่นาโงย่า พากินข้าวหน้าปลาไหล"

ติดตามตอนอื่นๆได้ที่นี่ครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

บันทึกการเดินทางตะลุยญี่ปุ่นแบบกึ่ง unseen 6 เมือง 14 วัน งบไม่ถึงแสน
ตอนที่ 1 "ทริปวอร์มอัพที่นาโงย่า พากินข้าวหน้าปลาไหล"

     สวัสดีครับเพื่อนๆชาวพันทิปทุกท่าน กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่ผมอยากจะมาเล่าบันทึกการเดินทางเที่ยวญี่ปุ่นแบบกึ่ง unseen 6 เมือง 14 วัน พร้อมรายละเอียดของการเดินทาง รวมถึงสรุปค่าใช้จ่ายที่ทั้งทริปนี้ใช้งบไม่ถึงแสนต่อคน (ผมไปกัน 2 คน) หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆไม่มากก็น้อยนะครับ เนื่องจากรายละเอียดกับรูปมันเยอะมาก ผมจะขอทยอยลงแล้วกัน ผิดพลาดประการใดขออภัยล่วงหน้านะครับ

ช่วงเวลาการเดินทางของผม คือ 2-16 พฤศจิกายน 2562

แพลนเดินทางตามนี้ครับ 
นาโงย่า 2 คืน > โอคายามะ 2 คืน > ทตโตริ(โยนาโกะ) 2 คืน > โอคายามะ 1 คืน > 
คุมาโมโตะ 2 คืน > ฮิโรชิมะ 2 คืน > โอซาก้า 2 คืน > นาโงย่า 1 คืน > กลับกทม.
อาจจะดูโหดครับ แต่ไม่ชะโงกทัวร์แน่นอน 
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความมินิมอลของกระเป๋าเดินทางที่คุณแบกไป และความใกล้-ไกลระหว่างที่พักกับสถานีรถไฟด้วย



ทริปนี้ผมเดินทางข้ามจังหวัดโดยใช้ JR All Pass รุ่น Ordinary 14 วัน ซึ่งคำนวณดูแล้วมันช่างคุ้มค่ามากๆ
ผมได้จองผ่านเว็บไซต์ kkday ในราคา 12,730 บาท (ราคาขึ้นอยู่กับเรทค่าเงิน ณ ขณะนั้น) แล้วเลือกมารับใบแทนแลกพาสตัวจริง หรือที่เรียกกันว่า exchange order ที่สนามบินสุวรรณภูมิครับ ข้อควรระวัง ควรจองเอาไว้ล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 1 สัปดาห์ก่อนเดินทาง แต่ไม่ควรจองล่วงหน้านานเกิน 3 เดือน เพราะ exchange order มีอายุแค่ 3 เดือนครับ ถ้าหมดอายุแล้วจะไม่สามารถไปใช้แลกพาสตัวจริงที่ญี่ปุ่นได้นะครับ

อินเทอร์เน็ต ของทริปนี้ผมใช้ Sim2fly ของค่ายเขียว มันจะไปจับสัญญาณมือถือของโลคอล (Softbank) เน็ตแรงดีและแทบไม่มีหลุด (ยกเว้นตอนนั่งชินคันเซนผ่านหุบเขาอับสัญญาณ หรือขับรถบนเขาบางจุด) เน็ตกับกูเกิลแมพสำคัญมากสำหรับทริปนี้ ช่วยชีวิตผมได้หลายครั้งเลย
 
การจองเช่ารถขับ สิ่งที่คุณต้องติดตัวไปเวลารับรถคือ ใบขับขี่สากล (International Driving License) ,พาสปอร์ต, บัตรประชาชนหรือใบขับขี่ ผมแนะนำเว็บไซต์สำหรับจองรถเที่ยวเป็นภาษาอังกฤษ ชื่อเว็บทาบิไร https://en.tabirai.net  จองแล้วไปชำระเงินหน้างาน ส่วนผมจองจากที่เว็บ https://www.jalan.net/rentacar ครับ (ภาษาญีปุ่น) คิดว่าราคาไม่น่าต่างกันมากเท่าไร รับ-ส่งรถที่จุดรับรถตามใกล้ๆสถานีรถไฟ สะดวกมากและไม่แพงอย่างที่คิด (เส้นทางที่ผมขับไม่ใช้ทางด่วนเลย)

เรื่องการขับรถที่ญี่ปุ่นผมจะมาลงรายละเอียดให้อีกที ถ้าคุณขับเมืองไทยได้ ก็ขับที่ญี่ปุ่นได้แบบสบายๆ เพียงแค่รักษากฎอย่างเคร่งครัดและมีสติ โดยเฉพาะเรื่องป้ายจราจร สัญญาณไฟ และความเร็วในการขับ
 
พร้อมหรือยังครับ พร้อมแล้วก็เก็บกระเป๋าแล้วไปกันเลย!

DAY 1 ||| 2 พ.ย. 62 ||| Moving Day
10.45น. ผมบินตรงด้วยสายการบินคุณม่วงจากสนามบินสุวรรณภูมิ เครื่องขึ้นสักพักแอร์ก็เดินมาเสิร์ฟอาหาร แกงเขียวหวานเนื้อ ผักต้ม โซบะ สัมตำแซลมอนรมควัน ไอศกรีมมะม่วง ขนมปังทาเนย รสชาติถือว่าอร่อยเลยครับสำหรับอาหารบนเครื่องบิน

ผมจองตั๋วคุณม่วงไว้ล่วงหน้าประมาณ 4 เดือน ได้ตั๋วไปกลับพร้อมประกันการเดินทางมาในราคา 16,800 บาท คิดว่ามีถูกกว่านี้แต่จองไม่ทัน เที่ยวบินมีแต่คนญี่ปุ่นและที่นั่งก็ว่างสุดๆ เครื่องออกจากสุวรรณภูมิ 10.45 น. มาถึงที่สนามบินนาโงย่า (Nagoya Chubu Centrair International Airport) ประมาณ 18.20 ที่สนามบินคนน้อยมากๆ อาจเพราะไม่ใช่ฤดูเที่ยว สามารถผ่าน ตม. เสร็จเรียบร้อยในเวลาไม่ถึง 20 นาที

ตม.สอบถามข้อมูลนิดหน่อย ว่ามากับใคร มาทำอะไร มากี่วัน และพักที่ไหนบ้าง เตรียมคำตอบเผื่อไว้หน่อยนะครับ สำหรับที่พัก ตอบให้ตรงกับที่เราเขียนไว้ในใบเข้าเมือง ถ้าพักหลายที่ หลายเมืองไม่จำเป็นต้องเขียนหมด เขียนแค่หลักๆ ก็พอ แล้วบอกเขาไปว่า ที่พักนี้อยู่ในเมืองนี้อะไรแบบนี้

เมื่อออกมารับกระเป๋าเสร็จแล้วก็จะเดินทางเข้าเมืองกัน สำหรับพาส JR ผมตัดสินใจเข้าไปแลกในสถานีตัวเมืองแทน เพราะตอนนี้อยากรีบเช็คอินไปพักผ่อนก่อน ท่านที่มีเวลา สามารถแลกพาส JR ตัวจริงที่สนามบินได้เลยนะครับถ้าคิวไม่เยอะ 


เราจะเดินทางเข้าตัวเมือง ไปที่สถานีเมเท็ทสึนาโงย่า (Meitetsu Nagoya Station NH36) โดยรถไฟแบบด่วนพิเศษ Limited express (รถไฟที่จะจอดแค่บางสถานี) ของบริษัท Meitetsu ตรงนี้จึงยังไม่สามารถใช้พาส JR ที่ซื้อมาได้ ภายในสนามบินจะเห็นป้ายบอกทางชัดเจนว่าทางขึ้นรถไฟไปทางไหน เดินตามป้ายไปแล้วเราจะเจอที่ซื้อตั๋วแบบนี้ครับ ราคาตั๋วจากสนามบินลงสถานีนาโงย่า 890 เยน


การซื้อตั๋วก็ไม่ยาก กดจากตู้ได้เลย หรือซื้อกับพนักงานข้างๆก็ได้ ตู้ขายตั๋วจะมีภาษาอังกฤษให้เลือก โดยให้เรากดเลือกจำนวนคนก่อน ว่าจะซื้อกี่ใบ จากนั้นกดเลือกราคา และจ่ายเงิน หากลงสถานีนาโงย่า ตั๋วไปปลายทางคือราคา 890 เยน ก็กดที่ 890 เยนแล้วจ่ายเงิน ตรงนี้ใครที่มีบัตรเติมเงิน IC Card เช่น Suica ICOCA Pasmo PiTaPa manaca ฯลฯ ก็สามารถติ๊ดบัตรเข้าได้เลย ไม่ต้องไปเสียเวลาซื้อตั๋ว หากเงินหมดก็สามารถเติมเงินบัตรได้ที่ตู้ขายตั๋วนั่นแหล่ะ 
 
จากนั้นก็จะเดินไปรอรถที่ชานชาลาตามที่ระบุบนบอร์ดป้ายไฟ 
รถด่วน Limited Express สีแดงนี้ใช้เวลาเดินทางประมาณ 37 นาที รูปร่างหน้าตารถไฟเข้าเมืองแต่ละแบบตามนี้ครับ

*เพิ่มเติมสำหรับคนที่จะเดินทางเข้าเมืองนาโงย่าด้วยรถไฟ มีอีกทางเลือกที่แนะนำคือรถด่วนมิวสกาย μ-SKY หรือน้องมิว วิ่งตรงจากสนามบินและจอดน้อยสถานีกว่า Limited Express ซึ่งเราต้องซื้อตั๋วหลักราคา 890 เยนก่อน จากนั้นไปซื้อเพิ่มอีก 360 เยน ในตู้กดตั๋ว First Class เพื่อเอาตั๋วระบุที่นั่ง โดยเราจะมีตั๋วทั้งหมดสองใบ ใบเล็กไว้สอดที่ทางเข้า ใบใหญ่เก็บไว้ดูที่นั่ง ซึ่งขบวนน้องมิวจะเดินทางถึงเมืองเร็วกว่า Limited Express ประมาณ 10 นาที แต่ที่นั่งสะดวกสบาย มีที่วางกระเป๋าสัมภาระ

ผมเลือกที่พักที่ราคาไม่แพงมากเนื่องจากต้องจำกัดงบประมาณ โรงแรมอยู่ห่างจากสถานีนาโงย่าประมาณ 750 เมตร (เดิน 10-15 นาที) โรงแรม Meitetsu Inn Nagoya Ekimae จองผ่านบุคกิ้ง ตกคืนละประมาณ 2,300 บาทพร้อมอาหารเช้า (ถ้าหาที่พักได้ใกล้สถานีกว่านั้นก็จะดี เพราะหากใครสัมภาระเยอะก็ค่อนข้างทุลักทุเลพอสมควร) 

สภาพห้องด้านใน ห้องไม่กว้างครับ ตามสไตล์บิซิเนสโฮเทลของญี่ปุ่น กระเป๋าเดินทางใบกลาง 2 ใบก็เต็มห้อง อยู่กัน 2 คนได้พอดีๆ ถ้าคนตัวใหญ่ก็อาจจะอึดอัดไปนะผมว่า แต่ถึงห้องจะเล็กแต่อุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายครบครัน ไปแต่ตัวได้เลย ภายในห้องมีหน้าต่าง ผมได้ห้องที่เห็นวิวถนนพอดี ด้านล่างที่ห้องทานข้าวมีเครื่องดื่มร้อนเย็น บริการฟรีตั้งแต่เช้าจนถึงเที่ยงคืน อาหารเช้าของโรงแรมเป็นบุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่นและฝรั่งปนๆกัน (ผมไม่ได้ถ่ายรูปมา) หักคะแนน 1 จุดของโรงแรมที่แรกนี้ คือ ตรงฝารองนั่งชักโครกไม่มีฮีทเตอร์

เสียใจครับ ฝารองนั่งไม่มีฮีทเตอร์ ตื่นเช้ามาแอบทรมาน

21.00น. เช็คอินแล้วก็เดินไปหาอะไรกินแถวที่พัก ค่อนข้างเงียบสงบ มีร้านให้เลือกไม่มาก ร้านอาหารส่วนใหญ่จะกระจุกอยู่แถวๆสถานี แต่เนื่องจากผมขี้เกียจเดินเลยตัดสินใจสุ่มเดินแถวโรงแรม 100เมตร ไปเจอร้านเล็กๆชื่อ GABURICHICKEN ร้านเขาเด่นเรื่องไก่ทอดคาราอาเกะ ซึ่งผมไม่ได้สั่ง ฮ่าๆ

เวลาเข้าร้านอาหารที่ญี่ปุ่น ร้านเกือบ 95% เราไม่สามารถเดินสุ่มสี่สุ่มห้าเข้าไปเลือกที่นั่งเองได้ ก่อนอื่น เมื่อเดินเข้าไปให้เราแจ้งกับพนักงานว่า มากี่คน จากนั้นพนักงานจะพาเราไปยังที่นั่งเอง ประสบการณ์นี้ผมเคยเจอมากับตัว คืออยู่ๆเดินเข้าร้าน แล้วขึ้นไปจะไปนั่งที่ชั้นสอง พนักงานมองหน้ากันแบบงงๆ จากนั้นก็รีบเข้ามาถามเราว่ามากี่คน และจัดให้เรานั่งที่โต๊ะว่างชั้นล่าง 


รอบที่ผมมาเที่ยว นี่เพิ่งจะขึ้น VAT10% มาหมาดๆกันเลยทีเดียว ร้านอาหารต่างๆ ถ้านั่งทานที่ร้านคิด VAT10% ถ้าห่อกลับไปทานบ้านคิด 8% ใครที่ประสงค์จะนำกลับไปทานที่ห้องหรือโรงแรม สามารถแจ้งเขาได้ ว่า お持ち帰りです。omochikaeridesu ”โอโมจิคาเอริเดส” หรือพูดว่า Take home ก็น่าจะเข้าใจ (ในบางพื้นที่) แต่บางร้านถ้าไม่มีบริการห่อกลับ เขาจะเขียนแปะหน้าร้านว่า "お持ち帰りはお断りしております/ Omochikaeri wa okotowari shite orimasu" แปลง่ายๆ ว่าไม่มีบริการห่อกลับครับ

มากันต่อกับกาบูริชิกเก้น ร้านนี้เมนูกุ้งชีสของเขาเด็ดมาก กุ้งกระทะเด้งกรุบ ชีสเยิ้มๆ หอมนมละมุนละลายในปาก ส่วนอีกเมนูคือ “ซังเซไดโอยาโกะด้ง” 3 sedai oyakodon ข้าวหน้าไก่ไข่สามเจเนอเรชั่น 490 เยน ... สามเจนยังไงล่ะ? มันประกอบด้วยแม่ไก่ ลูกไก่ และไข่ไก่ในชามเดียวนั่นเอง อันนี้ก็อร่อยครับ ปิดวันแรกของทริปและมื้อแรกในญี่ปุ่นด้วยอาหารร้านนี้เลยครับ ร้านเล็กๆแต่ประทับใจ

อิ่มแล้ว ฝันดีราตรีสวัสดิ์ครับ

สรุปค่าใช้จ่ายวันแรก(โรงแรมหาร2คน)
ค่าตั๋วเครื่องบิน+ประกันการเดินทาง 16800 บาท
ค่า JR All Pass Ordinary 14 วัน 12730 บาท
ค่าที่พักนาโงย่า 2คืน + อาหารเช้า 8019 เยน
ค่ารถไฟเข้าเมือง 890 เยน
ค่าข้าวและขนม 1180 เยน
รวมใช้เงินไป 32,455 บาท
ชื่อสินค้า:   เที่ยวญี่ปุ่น
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่