หนี้ 17.2 ล้านบาท!!!

สวัสดีครับ หลังจากห่างหายไปนาน วันนี้ขอมาอัพเดทเรื่องราวการลงทุนของผมสักกระทู้ครับ 
.
เท้าความ ตัวผมเริ่มทำธุรกิจของตัวเองมาเกือบสิบปี ... เริ่มจากกิจการเล็กๆ กิจการก็เจริญเติบโตขยายใหญ่และแตกหน่อขึ้นตามลำดับ ... เริ่มจากร้านกิ๊ฟช๊อปเล็กๆ(ซึ่งเซ๊งมาในราคาสองแสนบาท) ขยายจนขยับไปเป็นร้านเครื่องเขียน ... ทำร้านอาหารร้านส้มตำ ร้านกาแฟแบบซุ้มและซื้อแฟรนไชน์ขึ้นห้าง ... เริ่มทำธุรกิจบ้านเช่าเริ่มจากบ้านหลังเล็กๆ (บ้านหลังแรกที่ซื้อราคาสามแสนห้ายังคิดแล้วคิดอีก ณ สมัยนั้น) จนมีหลายหลัง และเริ่มสร้างบ้านขาย ฯ .... จนถึงจุดหนึ่ง ที่ทุกอย่างพุ่งขึ้นไปอย่างรวดเร็ว แต่เป็น "ผมเอง" ที่ไม่เก่งพอที่จะคุมมันได้ ดังนั้นทุกอย่างก็พังครืนลง!!!
.
ในปี 2560 ซึ่งเป็นปีที่ลำบากมากสำหรับผม เพระา ผมปิดกิจการไป 1 ร้าน เซ้งร้านไป 1 ร้าน ขายหุ้นใหญ่ของตัวเองไปอีก 1 ร้าน บางกิจการผมอยู่กับมันมา 7-8 ปี แต่เมื่อถึงเวลามันก็ต้องจบลง มันเกินกว่าที่จะแบกไว้!!! ... และทำให้การลงทุนอื่นๆล้มระเนระนาดจากการขาดกระแสเงินสด!!! ... ซึ่งในส่วนนี้ผมเคยเขียนแชร์ไว้แล้วในพันทิป ในบทความที่ชื่อว่า 
.
5 บทเรียนชีวิต ใน 1 ปี!!!
https://bit.ly/2rj0kRC
.
ภาพถ่าย ณ ปัจจุบันของที่แปลงหนึ่งที่ผม ตั้งขาย ณ ขณะนั้น

.
ปกติในทุกๆสิ้นปี ผมจะกลับมานั่งทบทวนเรื่องราวในปีนั้นๆ รวมถึงการประเมินเรื่องราวทั้งหมดที่มี เริ่มจากการอ่านเรื่องราวๆเก่าๆที่ผมบันทึกไว้ในสมุดโน๊ต เพื่อที่จะวางแผนต่อยอดงานในปีหน้า และ ในอนาคตต่อไป!!!
.
วันก่อนในขณะที่ผมเริ่มทบทวนในส่วนของ "หนี้สินส่วนตัว" จากบันทึก ปี 2560 ปรากฎว่าในช่วงที่กิจการขาดทุนหลายกิจการ การลงทุนอื่นๆล้มระเนระนาดจากการขาดกระแสเงินสด ณ เวลานั้น ต้องใช้เงินกู้ยืมเป็นจำนวนมากเพื่อเข้ามาพยุงสถานะการให้ผ่านพ้นวิกฤต ผมจดบันทึกไว้ว่า ผมมีหนี้สินส่วนตัว(ไม่นับรวมหนี้ของกิจการนะครับ) ยอดหนี้เป็นตัวเลขสูงถึง 17.2 ล้านบาท !!!
.
และ จากข้อมูลที่บันทึกเจอตัวเลขที่น่าสนใจคือ ใน 17.2 ล้านนั้นเป็นเงินกู้ยืมระยะสั้นเกือบ 10 ล้านบาท หรือ เกือบ 60% ของหนี้ทั้งหมด อีก 40% เป็นหนี้ระยะยาวและระยะกลางอย่างละครึ่ง ... สมมติว่าหนี้ระยะสั้นต้องชำระ 24 เดือน นั่นหมายความว่า ผมตั้องคืนเงินต้นรวมดอกประมาณ 500,000 บาทต่อเดือน นี่ยังไม่นับรวมหนี้ดอกและต้นของหนี้ระยะยาวและระยะกลางด้วยซ้ำ!!!
.
ณ ขณะนั้น ผมไม่สามารถหาเงินมาใช้หนี้ได้ครบตามจำนวนแน่นอน เพราะเงินสดหมดหน้าตักไปนานแล้ว เห็นตัวเลขแล้วภาพเก่าๆของชีวิตเมื่อสองปีก่อนผุดขึ้นมาเป็นฉากๆ ... แผนของผม ณ ตอนนั้น คือ หยุด ปิด เลิก ขายกิจการทั้งหมดที่ไม่ก่อให้เกิดกำไร เพื่อหยุดการไหลออกของเงิน และ ตัดขายทรัพย์สินที่มีเพื่อใช้หนี้และประคองสถาณการณ์!!! ... ณ จุดนั้นถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุด แต่เมื่อมองย้อนกลับไปในสถานการณ์ ณ วันนั้นจากมุมมองในวันนี้ ผมคิดว่าผมทำดีที่สุดแล้ว!!!
.
2 ปีผ่านไป วันนี้ผมสรุปตัวเลขหนี้ส่วนตัวเสร็จแล้ว ยอดหนี้จาก 17.2 ล้านบาท(ของปี 2560) เหลือไม่ถึง 7 ล้านบาท (ใน 2562) และเป็นหนี้ระยะสั้นไม่ถึง 15 % ของยอดดังกล่าว จากตัวเลข เรียกได้ว่า ณ วันนี้ผมสามารถกลับมาหายใจหายคอได้เต็มปอดอีกครั้ง เพราะ จากตัวเลขรายได้ที่ผมมีน่าจะชำระได้ไม่ยากนัก ... ก็โล่งใจไปเปราะหนึ่งครับ เพราะ ณ ตอนนี้ จากตัวเลขหนี้สินที่ลดลงแล้ว ตัวเลขรายได้ผมก็ค่อยๆขยับขึ้นในอีกทางหนึ่งด้วย และยังพอมีทรัพย์สินเหลือไว้ต่อยอดอยู่บ้าง  ...
.
จากวิกฤตเรื่องราวที่ผ่านมาเห็นได้ชัดว่า ผมเล่นเกมที่ใหญ่ในขณะที่ตัวเองยังมือไม่ถึง และ ไม่มีประสบการณ์ที่มากเพียงพอ ผลออกมาก็คือ ความผิดพลาดและความล้มเหลว ... ความผิดพลาดขนาดใหญ่เมื่อเกิดขึ้นแล้วมันจะตามมาด้วยค่าเสียหายที่ใหญ่ขึ้นตาม นอกจากนั้นมันยังผมใช้เวลา นานในการแก้ไขสถานการณ์ ตัวผมใช้เวลา กว่า 2 ปี กว่าเรื่องราวถึงจะเริ่มนิ่งจนเริ่มคิดว่าเราพร้อมไปต่อ ... แน่นอนครับว่าจากความเจ็บและบทเรียนครั้งใหญ่นี้ มันจะทำให้ผมแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ... ไปครับ ไปกันต่อ ผมพร้อมแล้ว!!!!
.
ลงชื่อ มาม่ากับปลากระป๋อง
.
...[^_^]...
.
ปล. บทความเก่าๆที่น่าจะเกี่ยวข้องครับ
5 แนวทางการทำธุรกิจให้เจ๊ง ... ผมลองมาแล้วสรุปว่า “เจ๊ง” จริง!!! https://ppantip.com/topic/36849611

หรือ ติดตามอ่านบทความเก่าๆ เล่าสารพัดเรื่องคลิ๊กที่ อมยิ้มได้เลยครับ
หรือสามารถติดตามได้ในเพจนี้นะครับ พูดคุยเรื่อยเปื่อย https://www.facebook.com/creativeshooter/
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่