สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นเลยเราขอแนะนำบัตร d POINT CLUB ก่อนค่ะ
บัตร d POINT CLUB คืออะไร
ตอนนี้ทางบริษัทสื่อสารโทรคมนาคมชั้นนำแห่งประเทศญี่ปุ่น NTT DOCOMO ได้รับสมัครลงทะเบียนเป็นสมาชิก d POINT CLUB
สำหรับคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ไม่ใช่คนญี่ปุ่น โดยลักษณะบัตรเป็นบัตรสะสมแต้มที่ไม่เสียค่าธรรมเนียมรายปีหรือค่าสมัครสมาชิก
แถมเค้าบอกว่าขั้นตอนสมัครการสมัครสมาชิกก็ง่ายใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้นเอง
※ ขออนุญาตใช้รูปจากทางเน็ต
นี่เป็นหน้าตาบัตรค่ะ น่ารักมากกกก เพิ่งรู้ว่าเจ้าตัวสีเหลืองๆนี้เป็นสินค้าคาแร็คเตอร์ของ DOCOMO เค้าล่ะ
แถมมีชื่อกับเค้าด้วย ชื่อว่า POiNCO BROTHERS ปกติเราเป็นคนชอบสะสมบัตรอะไรพวกนี้อยู่แล้ว
ว่าแล้วก็ลองสมัครกันดูค่ะว่าบัตรใบนี้ใช้ทำอะไรได้บ้าง
ขั้นตอนการสมัครลงทะเบียนออนไลน์
อันดับแรก เราเข้าไปเว็บไซต์สำหรับลงทะเบียนง่ายๆ ใครที่อยากลองสมัครก็
คลิกที่นี่เลยค่า!
จากนั้นกรอกพร้อมยืนยันอีเมล์ จากนั้นใส่ข้อมูลชื่อ-นามสกุล วันเดือนปีเกิด และประเทศที่อาศัยอยู่ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
พอสมัครเสร็จออนไลน์เสร็จ ขั้นตอนต่อไปเราก็ไปรับบัตรจริงกันที่ญี่ปุ่นค่ะ ซึ่งเราได้เดินทางไปญี่ปุ่นช่วงใกล้ๆพอดีเลย
เพื่อนๆ สามารถไปรับบัตร d POINT CARD ของจริงและเชื่อมโยงกับบัญชีของคุณได้อย่างง่ายดายเลยค่ะ
เพียงแค่รับกระเป๋าที่สนามบินเสร็จแล้วก็ตรงไปเคาน์เตอร์ DOCOMO
เดินดุ่มๆเข้าไปในร้าน ยิ้มสวยๆให้พนักงานแล้วบอกว่า "ต้องการบัตร d POINT CARD" (ภาษาญี่ปุ่นหรืออังกฤษก็ได้ค่ะ)
เท่านี้พนักงานก็จะดำเนินเรื่องให้เรา โดยเราจะได้รับทั้งบัตรแข็งของจริง พร้อมกับขั้นตอนการลงทะเบียนสำหรับ d POINT CARD
และคำอธิบายเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ของสมาชิกค่ะ
อันนี้เป็นหน้าตาบัตรแข็งของจริง น่ารักมากกกกก แต่หลังจากนั้นยังไม่เสร็จนะคะ เราต้องผูกบัตรของเรากับหน้าเว็บที่ลงทะเบียนไว้ซะก่อน
โดยข้อมูลสำคัญในการลงทะเบียนจำเป็นต้องใช้หมายเลข d POINT CARD Number และ Security Code ที่อยู่ด้านหลังบัตรค่ะ
ตอนนั้นพนักงานแสนน่ารักก็ได้บอกกับเราอีกด้วยว่า หากคุณสแกน QR Code จากกระดาษที่คุณได้รับไปยังหน้าเว็บไซต์แคมเปญล่ะก็
คุณจะได้รับไปเลย 300 แต้มแบบฟรีๆ! สายชอบของฟรีแบบอิชั้นมีเหรอจะพลาด รีบสแกน QR Code กันอย่างเร่งด่วนเลยจ้า
ได้แต้มมาแล้ว 300 คะแนน เย้! สำหรับคะแนน d POINT นั้น สามารถใช้คะแนนจ่ายแทนเงินสดได้ตามร้านค้าต่างๆที่เข้าร่วมเครือข่าย
เช่น คะแนน 1 คะแนนเท่ากับเงินสด 1 เยน เมื่อเวลาที่มาท่องเที่ยวญี่ปุ่นและได้มีการช้อปปิ้งก็สามารถสะสมคะแนนในบัตรได้
และคะแนนที่สะสมก็นำมาใช้ได้ทันที เหมือนใช้แทนเงินสด
หน้าตาเมนูของเว็บไซต์ก็จะเป็นประมาณนี้ค่ะ ด้วยความที่เป็นเมนูภาษาอังกฤษเลยใช้งานง่ายมาก
จะเห็นได้ว่ามีเมนูที่น่าสนใจมากมายเลยค่ะ เราจะอธิบายให้เพื่อนๆฟังว่าสิทธิพิเศษของบัตร d POINT CLUB นี้มีอะไรกันบ้าง ไปดูกันดีกว่า!
สิทธิพิเศษของบัตร d POINT CLUB
1. หลังจากลงทะเบียนสมาชิก จะได้รับบัตรd POINT CARD พร้อมคะแนน 300 เยนมอบให้ทันที (ตามที่กล่าวมาข้างต้นนี้ค่ะ)
2. รับสิทธิ์ใช้บริการ Wi-Fi ฟรี 1 วัน (ราคาประมาณ 400 เยน) อันนี้เราชอบมากๆ สำหรับสายโซเชียลอย่างเราค่ะ
และของขวัญหากใครที่เปิดใช้บริการโรมมิ่งต่างประเทศผ่านทางระบบของ DOCOMO ก็จะได้รับคะแนน d POINT ไปเลย 200 คะแนน
3. ได้รับส่วนลดประมาณ 750 เยนบริการส่งพัสดุจากสนามบิน สำหรับร้านที่เข้าร่วมรายการให้ส่วนลด เช่น JAL ABC หรือ QL Liner
โดยบริการเหล่านี้รับส่งพัสดุสัมภาระจากสนามบินไปยังโรงแรมในภูมิภาคคันโต และเพียงแค่แสดงบัตร ก็จะได้รับส่วนลดค่าบริการ 15%
(คำนวณแล้วก็ลดไปได้ประมาณ 750 เยนค่ะ) คุ้มมากๆเลย
4. ส่วนลดสำหรับร้านค้าปลอดภาษี LOTTE สาขาโตเกียวกินซ่า (ห้างโตคิวพลาซ่ากินซ่าชั้น 8 และ 9) มูลค่า 500 เยนค่ะ
แล้วก็ยังมีรายชื่อร้านค้าอื่นๆที่ร่วมรายการอีกเพียบที่สามารถสะสมแต้มได้ เช่น TOKYU HANDS
5. สายมุ้งมิ้งน่าจะชอบข้อนี้นะคะ เพราะเราจะได้รับสินค้าคาแร็คเตอร์เป็นของขวัญพิเศษฟรี 1 ชิ้นทันทีที่ไปรับบัตร!
สินค้าที่แจกประกอบไปด้วย ตุ๊กตาที่แขวนโทรศัพท์ ปากกา 3 สี แผ่นชีทเอนกประสงค์ และสมุดโน้ต A5
สำหรับสถานที่ที่รับสินค้าพิเศษและไปดำเนินการแลกบัตรในสนามบิน มีตามนี้เลยค่ะ
- อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศสนามบินนาริตะ อาคาร 1 (ล็อบบี้ผู้โดยสารขาออก)
- อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศสนามบินนาริตะ อาคาร 2 (ล็อบบี้ผู้โดยสารขาออก)
- อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศสนามบินฮาเนดะ (ล็อบบี้ผู้โดยสารขาออก)
- อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศสนามบินคันไซ อาคาร 1 (ล็อบบี้ผู้โดยสารขาออก)
- อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศสนามบินจูบุ (ล็อบบี้ผู้โดยสารขาออก)
※ นอกจากสนามบินแล้วยังสามารถแลกบัตรได้ที่ช็อป DOCOMO ทุกสาขาทั่วญี่ปุ่นเลยค่ะ
หลังจากที่สะสมแต้มไปได้ซักพัก เราได้ลองเอาแต้มไปใช้จริงกับร้าน COLD STONE CREAMERY มาด้วยค่ะ
ปกติแล้วราคาไอศกรีมแต่ละเมนูจะมีขั้นต่ำอยู่ที่ 510 เยนขึ้นไป แต่พอลองใช้แต้มเป็นส่วนลดก็ได้ไอศกรีมอร่อยมาแบบฟรีๆเลย
เรียกได้ว่างานนี้อิ่มจังตังค์อยู่ครบ 55555
จากความเห็นส่วนตัว เราว่าบัตร d POINT CLUB เป็นอีกใบหนึ่งที่เพื่อนๆควรลองสมัครกันดูนะคะ
เพราะไม่เสียค่าธรรมเนียม มีติดตัวไว้ก็ไม่เสียหาย แถมยังสะสมแต้มไปเรื่อยๆ เอาแต้มนั้นไปแลกสิทธิพิเศษได้มากมายหลายอย่างอีกด้วย
โดยเฉพาะใครที่เดินทางมาท่องเที่ยวญี่ปุ่นบ่อยๆล่ะก็ เรียกได้ว่ามีแต่คุ้มกับคุ้มค่ะ
ถ้าใครอยากลองลงทะเบียนดูล่ะก็
คลิกที่นี่ได้เลยค่า!
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจาก https://www.fun-japan.jp/th/articles/10882
[CR] แนะนำสำหรับใครที่จะไปเที่ยวญี่ปุ่น มารู้จักบัตร d POINT CLUB จาก NTT DOCOMO กันค่ะ
บัตร d POINT CLUB คืออะไร
ตอนนี้ทางบริษัทสื่อสารโทรคมนาคมชั้นนำแห่งประเทศญี่ปุ่น NTT DOCOMO ได้รับสมัครลงทะเบียนเป็นสมาชิก d POINT CLUB
สำหรับคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ไม่ใช่คนญี่ปุ่น โดยลักษณะบัตรเป็นบัตรสะสมแต้มที่ไม่เสียค่าธรรมเนียมรายปีหรือค่าสมัครสมาชิก
แถมเค้าบอกว่าขั้นตอนสมัครการสมัครสมาชิกก็ง่ายใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้นเอง
※ ขออนุญาตใช้รูปจากทางเน็ต
นี่เป็นหน้าตาบัตรค่ะ น่ารักมากกกก เพิ่งรู้ว่าเจ้าตัวสีเหลืองๆนี้เป็นสินค้าคาแร็คเตอร์ของ DOCOMO เค้าล่ะ
แถมมีชื่อกับเค้าด้วย ชื่อว่า POiNCO BROTHERS ปกติเราเป็นคนชอบสะสมบัตรอะไรพวกนี้อยู่แล้ว
ว่าแล้วก็ลองสมัครกันดูค่ะว่าบัตรใบนี้ใช้ทำอะไรได้บ้าง
ขั้นตอนการสมัครลงทะเบียนออนไลน์
อันดับแรก เราเข้าไปเว็บไซต์สำหรับลงทะเบียนง่ายๆ ใครที่อยากลองสมัครก็ คลิกที่นี่เลยค่า!
จากนั้นกรอกพร้อมยืนยันอีเมล์ จากนั้นใส่ข้อมูลชื่อ-นามสกุล วันเดือนปีเกิด และประเทศที่อาศัยอยู่ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
พอสมัครเสร็จออนไลน์เสร็จ ขั้นตอนต่อไปเราก็ไปรับบัตรจริงกันที่ญี่ปุ่นค่ะ ซึ่งเราได้เดินทางไปญี่ปุ่นช่วงใกล้ๆพอดีเลย
เพื่อนๆ สามารถไปรับบัตร d POINT CARD ของจริงและเชื่อมโยงกับบัญชีของคุณได้อย่างง่ายดายเลยค่ะ
เพียงแค่รับกระเป๋าที่สนามบินเสร็จแล้วก็ตรงไปเคาน์เตอร์ DOCOMO
เดินดุ่มๆเข้าไปในร้าน ยิ้มสวยๆให้พนักงานแล้วบอกว่า "ต้องการบัตร d POINT CARD" (ภาษาญี่ปุ่นหรืออังกฤษก็ได้ค่ะ)
เท่านี้พนักงานก็จะดำเนินเรื่องให้เรา โดยเราจะได้รับทั้งบัตรแข็งของจริง พร้อมกับขั้นตอนการลงทะเบียนสำหรับ d POINT CARD
และคำอธิบายเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ของสมาชิกค่ะ
อันนี้เป็นหน้าตาบัตรแข็งของจริง น่ารักมากกกกก แต่หลังจากนั้นยังไม่เสร็จนะคะ เราต้องผูกบัตรของเรากับหน้าเว็บที่ลงทะเบียนไว้ซะก่อน
โดยข้อมูลสำคัญในการลงทะเบียนจำเป็นต้องใช้หมายเลข d POINT CARD Number และ Security Code ที่อยู่ด้านหลังบัตรค่ะ
ตอนนั้นพนักงานแสนน่ารักก็ได้บอกกับเราอีกด้วยว่า หากคุณสแกน QR Code จากกระดาษที่คุณได้รับไปยังหน้าเว็บไซต์แคมเปญล่ะก็
คุณจะได้รับไปเลย 300 แต้มแบบฟรีๆ! สายชอบของฟรีแบบอิชั้นมีเหรอจะพลาด รีบสแกน QR Code กันอย่างเร่งด่วนเลยจ้า
ได้แต้มมาแล้ว 300 คะแนน เย้! สำหรับคะแนน d POINT นั้น สามารถใช้คะแนนจ่ายแทนเงินสดได้ตามร้านค้าต่างๆที่เข้าร่วมเครือข่าย
เช่น คะแนน 1 คะแนนเท่ากับเงินสด 1 เยน เมื่อเวลาที่มาท่องเที่ยวญี่ปุ่นและได้มีการช้อปปิ้งก็สามารถสะสมคะแนนในบัตรได้
และคะแนนที่สะสมก็นำมาใช้ได้ทันที เหมือนใช้แทนเงินสด
หน้าตาเมนูของเว็บไซต์ก็จะเป็นประมาณนี้ค่ะ ด้วยความที่เป็นเมนูภาษาอังกฤษเลยใช้งานง่ายมาก
จะเห็นได้ว่ามีเมนูที่น่าสนใจมากมายเลยค่ะ เราจะอธิบายให้เพื่อนๆฟังว่าสิทธิพิเศษของบัตร d POINT CLUB นี้มีอะไรกันบ้าง ไปดูกันดีกว่า!
สิทธิพิเศษของบัตร d POINT CLUB
1. หลังจากลงทะเบียนสมาชิก จะได้รับบัตรd POINT CARD พร้อมคะแนน 300 เยนมอบให้ทันที (ตามที่กล่าวมาข้างต้นนี้ค่ะ)
2. รับสิทธิ์ใช้บริการ Wi-Fi ฟรี 1 วัน (ราคาประมาณ 400 เยน) อันนี้เราชอบมากๆ สำหรับสายโซเชียลอย่างเราค่ะ
และของขวัญหากใครที่เปิดใช้บริการโรมมิ่งต่างประเทศผ่านทางระบบของ DOCOMO ก็จะได้รับคะแนน d POINT ไปเลย 200 คะแนน
3. ได้รับส่วนลดประมาณ 750 เยนบริการส่งพัสดุจากสนามบิน สำหรับร้านที่เข้าร่วมรายการให้ส่วนลด เช่น JAL ABC หรือ QL Liner
โดยบริการเหล่านี้รับส่งพัสดุสัมภาระจากสนามบินไปยังโรงแรมในภูมิภาคคันโต และเพียงแค่แสดงบัตร ก็จะได้รับส่วนลดค่าบริการ 15%
(คำนวณแล้วก็ลดไปได้ประมาณ 750 เยนค่ะ) คุ้มมากๆเลย
4. ส่วนลดสำหรับร้านค้าปลอดภาษี LOTTE สาขาโตเกียวกินซ่า (ห้างโตคิวพลาซ่ากินซ่าชั้น 8 และ 9) มูลค่า 500 เยนค่ะ
แล้วก็ยังมีรายชื่อร้านค้าอื่นๆที่ร่วมรายการอีกเพียบที่สามารถสะสมแต้มได้ เช่น TOKYU HANDS
5. สายมุ้งมิ้งน่าจะชอบข้อนี้นะคะ เพราะเราจะได้รับสินค้าคาแร็คเตอร์เป็นของขวัญพิเศษฟรี 1 ชิ้นทันทีที่ไปรับบัตร!
สินค้าที่แจกประกอบไปด้วย ตุ๊กตาที่แขวนโทรศัพท์ ปากกา 3 สี แผ่นชีทเอนกประสงค์ และสมุดโน้ต A5
สำหรับสถานที่ที่รับสินค้าพิเศษและไปดำเนินการแลกบัตรในสนามบิน มีตามนี้เลยค่ะ
- อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศสนามบินนาริตะ อาคาร 1 (ล็อบบี้ผู้โดยสารขาออก)
- อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศสนามบินนาริตะ อาคาร 2 (ล็อบบี้ผู้โดยสารขาออก)
- อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศสนามบินฮาเนดะ (ล็อบบี้ผู้โดยสารขาออก)
- อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศสนามบินคันไซ อาคาร 1 (ล็อบบี้ผู้โดยสารขาออก)
- อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศสนามบินจูบุ (ล็อบบี้ผู้โดยสารขาออก)
※ นอกจากสนามบินแล้วยังสามารถแลกบัตรได้ที่ช็อป DOCOMO ทุกสาขาทั่วญี่ปุ่นเลยค่ะ
หลังจากที่สะสมแต้มไปได้ซักพัก เราได้ลองเอาแต้มไปใช้จริงกับร้าน COLD STONE CREAMERY มาด้วยค่ะ
ปกติแล้วราคาไอศกรีมแต่ละเมนูจะมีขั้นต่ำอยู่ที่ 510 เยนขึ้นไป แต่พอลองใช้แต้มเป็นส่วนลดก็ได้ไอศกรีมอร่อยมาแบบฟรีๆเลย
เรียกได้ว่างานนี้อิ่มจังตังค์อยู่ครบ 55555
จากความเห็นส่วนตัว เราว่าบัตร d POINT CLUB เป็นอีกใบหนึ่งที่เพื่อนๆควรลองสมัครกันดูนะคะ
เพราะไม่เสียค่าธรรมเนียม มีติดตัวไว้ก็ไม่เสียหาย แถมยังสะสมแต้มไปเรื่อยๆ เอาแต้มนั้นไปแลกสิทธิพิเศษได้มากมายหลายอย่างอีกด้วย
โดยเฉพาะใครที่เดินทางมาท่องเที่ยวญี่ปุ่นบ่อยๆล่ะก็ เรียกได้ว่ามีแต่คุ้มกับคุ้มค่ะ
ถ้าใครอยากลองลงทะเบียนดูล่ะก็ คลิกที่นี่ได้เลยค่า!
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้