ตั๋วรถไฟ THSR สามารถขึ้นได้ที่ช่อง Periodic Ticket แถวพื้นที่บริเวณ THSR ต้องไปขึ้นกับเจ้าหน้าที่ โดยตั๋วที่เราจะไปชึ้นคือตั๋วระบุที่นั่ง (Reseved seat) ก่อนที่เราจะไปขึ้น ได้เตรียมกระดาษโพสอิทแผ่นเล็กเขียนรายละเอียดเกี่ยวกับตั๋วที่ต้องการ โดยรายละเอียดมี Train No. / Departure-Arrival time / วันที่ต้องการเดินทาง (เมื่อไปถึงไต้หวัน สามารถขึ้นตั๋วทิ้งไว้ได้เลยค่ะ) โดยนำ passport + e-ticket ที่ได้จาก klook + กระดาษโพสอิท ขึ้นตั๋วกับเจ้าหน้าที่ได้เลยค่ะ

** ดูตารางเวลารถไฟความเร็วสูงได้ที่ https://www.thsrc.com.tw/index_en.html

    ตั๋วรถไฟ TRA สามาถขึ้นที่ตู้อัตโนมัติได้เลยค่ะ ตู้มีภาษาอังกฤษ ใช้งานไม่ยาก โดยใส่ข้อมูล Booking code กับเลข Passport เพียงเท่านี้ ตั๋วก็จะเด้งออกมาค่ะ โดยที่นั่งจะระบุตั้งแต่ตอนจองผ่านเว็บแล้วค่ะ

** ดูตารางรถไฟ TRA ได้ที่ https://www.railway.gov.tw/tra-tip-web/tip?lang=EN_US

    การเดินทางง่ายมาก โดยรถไฟไฟ้า mrt Bannan line จาก BL12 Taipei Main station - BL10 Longshan Temple และใช้บัตร easycard แตะบัตรเข้าออกได้เลยค่ะ ค่าใช้จ่าย 16 NT ไปกลับก็ 32 NT ค่ะ

** ดูเส้นทางรถไฟฟ้าและราคา MRT ได้ที่ https://english.metro.taipei/

( ป้ายที่ไต้หวันเยอะมากค่ะ ไม่ต้องกลัวหลงเลย )

เมื่อถึงสถานีมองหาป้าย เดินไปวัด Longshan Temple ค่ะ

( ชอบตึกอาคารที่นี้มากๆ )

    และเราก็เดินมาถึง Longshan Temple จริงๆเราสามารถเดินภายในอาคารแล้วมาถึงวัดได้เลยนะคะ มีหลายทางเดินที่มาวัด Longshan ค่ะ

    สิ่งขึ้นชื่อของวัดก็คือการบูชาเครื่องราง ซึ่งเครื่องรางจะมีอายุ 1 ปีนะคะ ตัวเราก็บูชากลับทุกเรื่องที่สนใจเลยค่ะ หมดไปรอบนี้ 330 NT มีราคาให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่ 25 NT จะมีกระดาษให้จดหมายเลขที่ต้องการซื้อค่ะ

( ใบเสร็จสามารถเก็บไว้ลุ้นหวยไต้หวันได้ด้วยนะคะ ชีวิตคือการเสี่ยงดวงค่ะ 5555 )

    ซึ่งถ้าออกจากวัดแล้วมองซ้ายมือจะเจอร้าน 85 degree อยู่หัวมุมถนนตรงข้ามค่ะ

    และใช่ค่ะ เราจะไปกินชานมไข่มุกก ของโปรดของเรา

( ราคา 65 NT )

    นึกได้หลังสั่งว่า สั่งแบบมี bean ผสม รสชาติมีถั่วแล้วแปลกๆ แต่ตัวชานมกับไข่มุกไม่แย่ค่ะ แต่กินไปกินมา คือหวานนมาก เป็นคนติดหวาน ก็ว่าหวานค่ะ

    ก็กลับมาที่สถานี Taipei Main station ค่ะ เพราะต้องเดินทางไป จาก TRA Taipei-Ruifang ต่อค่ะ

สิ่งสำคัญ อย่าติ้ดบัตรเข้าออก ในสถานีเดิม คือถ้าจะเข้าไปในส่วนพื้นที่แล้ว อย่าออกมาค่ะ จะเสียเงินฟรี ประมาณ 16 NT ทั้งพื้นที่ของ TRA และ MRT

    ซึ่งเรามาถึงสถานี Taipei Main ค่อนข้างเร็วเลยเดินตามหา Sushi Takeout ซึ่งอยู่ทางไป Exit M3 ซึ่งจะอยู่ติดร้าน Coco (ร้าน Coco มีหลายร้านนะคะ จำตำแหน่งชัดเจนไม่ได้) เป็นร้านซูชิชื่อดังเลยค่ะ ชิ้นละ 10 บาท มีหลายแบบให้เลือกซื้อค่ะ

    เราไปก็ลองค่ะ หมดไป 62 NT ซูชิ 1 กล่องกับน้ำ 1 ขวด แต่ส่วนตัวไม่ชอบซูชิ แต่อยากลอง ซึ่งพอลองแล้วก็ไม่ถูกจริตต 5555555

     Local Train 4162 เวลา 09:25 ถึง 10:22 ค่าใช้จ่าย 49 NT ใช้บัตร easycard แตะเข้าออกได้เลยค่ะ Local Train เป็นรถไฟไม่ระบุที่นั่ง วิธีดู platform ที่ต้องไปขึ้น คือจำเลขขบวนรถให้ได้ จะมีจอให้ดูค่ะ แล้วเราก็เช็คว่าต้องขึ้น platform ไหน เดินไปรอที่ platform นั้นค่ะ ไม่ยากเลย ที่จอจะมีเวลาบอกว่าจะถึงตอนไหน ดีเลย์หรือเปล่า

( ชอบกล่องป้ายนี้มากๆ คือไม่ต้องกลัวหลงหรือตกรถเลย )

** อย่าลืมแตะบัตรตอนถึงสถานีนะคะ

    มาถึงสถานีแล้ว ก็ทำการซื้อตั๋ว One day pass Pingxi line ค่ะ ราคา 80 NT ซึ่งตั๋วนี้เราต้องเก็บไว้ดีๆนะคะ จะใช้โชว์เจ้าหน้าที่ ทุกสถานีที่ขึ้นลง ถ้าใครที่ไปเส้นรถไฟ Pingxi นี้เพียงไม่กี่สถานี แนะนำให้ใช้ easycard แตะจ่ายแทนแต่ละสถานีจะถูกกว่าค่ะ 

    ตั้งแต่เช้าเราสะพายกระเป๋าเสื้อผ้ามาด้วย ตั้งใจจะฝากกระเป๋าที่สถานี Ruifang เพราะขากลับต้องเดินไป Hualien ต่อเลยเลือกฝาก Ruifang อ่านตามรีวิวสถานีนี้จะมี Baggage room อยู่ค่ะ แต่เราหาไม่เจอ เจอแต่ Locker เลยฝากที่ Locker ใส่กระเป๋าเข้าไปในตู้แล้ว ก็กดที่จอเลือกหมายเลขตู้ที่เราใส่กระเป๋า ซึ่งก็ให้หยอดเงินที่ตู้ 50 NT : 3 hrs (Locker ใหญ่) ซึ่งจะได้สลิปกระดาษรหัสไว้สำหรับการนำกระเป๋าออก (ถ่ายรูปสลิปกระดาษไว้ด้วยนะคะ) แล้วกดปิดประตูที่ Locker หมายเลขเรา ถ้าตู้ล็อคแล้วจะไม่สามารถเปิดเอาของออกแล้วปิดใหม่ได้ค่ะ ถ้าทำแบบนั้นจะเสียเงินใหม่อีกรอบ

( สลิปกระดาษรหัสที่ได้มา แผ่นด้านล่างคือตั๋ว Day pass ค่ะ)

**เล่าความประทับใจของที่นี้ค่ะ ตอนแรกเราหาที่ฝากกระเป๋าไม่เจอ ไม่รู้ต้องไปฝากที่ไหน ก็เลยเดินถามแม่บ้าน เป็นภาษาอังกฤษ (ภาษาอังกฤษเราง่อย และภาษาจีนคือไม่ได้เลย) แต่แม่บ้านน่าจะไม่เข้าใจ เลยเรียกผู้ชายไต้หวันคนนึงมาคุยกับเรา Locker อยู่คนละ Plaform คนนั้นก็คือพาเดินมาส่งที่ Locker เลยค่ะ ใจดีมากๆ คุยตอนระหว่างทางเดิน จับใจความได้ว่า เขาเพิ่งมาเที่ยวที่ไทยเมื่อ 2 เดือนกว่าด้วยค่ะ

   ซึ่งก็มีเวลาพอแวะซื้อของฝากค่ะ มีร้านขายของที่ระลึก บนสถานีด้วยค่ะ

( ตู้หมุนเหรียญ ตู้ซ้ายมือเหรียญละ 30 NT แต่มีตู้อีกแบบ เหรียญละ 100 NT แต่สวยมาก )

และที่ขาดไม่ได้สำหรับทริปเราคือการส่งโปสการ์ดกลับมาหาตัวเองค่ะ เราชอบสะสมตราประทับแต่ละที่ ค่าใช้จ่ายประมาณ 35-40 NT/แผ่น

ที่ต้องรู้ เส้นทางรถไฟสาย Pingxi รถไฟจะมาทุกๆ 1 ชั่วโมงนะคะ ดังนั้นดูตารางเวลารถไฟด้วยค่ะ ถ้าพลาดจะรออีก 1 ชั่วโมงเลยค่ะ

    เรามาถึงสถานีตอน 11 โมง เจอแมวนับได้ไม่ถึง 10 ตัวค่ะ แต่วิวภูเขาสวยมากก ซึ่งเราอยู่เที่ยวเล่นสถานีนี้ 1 ชั่วโมงค่ะ

 

น้อนนนนนนนนนน ขึ้นไปทำไมลูกก

ฮีลใจมากๆ

    เป็นสถานีที่คนเยอะสุดจากทุกสถานีค่ะ ส่วนใหญ่จะมาเที่ยวน้ำตก กับปล่อยโคมลอยค่ะ นักท่องเที่ยวเลยเยอะมากๆ

    ถามว่าเราปล่อยไหม ไม่ได้ปล่อยนะคะ... กลัวว่าปล่อยคนเดียว แล้วถ้ากลับมาอีกจะได้ปล่อยคนเดียวอีกค่ะ 55555

** สถานีกับน้ำตกค่อนข้างไกล สำหรับคนที่ไม่ชอบเดินแนะนำแท็กซี่ค่ะ เพราะเดินแล้วไกล ถ้าเดินเรื่อยเปื่อยก็ไปได้เรื่อยๆค่ะ และใช่ค่ะ เราเลือกเดินเลยบอกว่าไกล 5555 เราอยู่เที่ยวสถานีนี้ 2 ชั่วโมงด้วยเลยเลือกเดินเรื่อยเปื่อยค่ะ

ในส่วนของมวลมหาประชาชนนั้น 55555555 

    เป็นสถานีที่เงียบมาก เจอนักท่องเที่ยว 2-3 กลุ่มเองค่ะวันที่ไป เราอยู่เที่ยวสถานีนี้ 1 ชั่วโมงค่ะ

[img]https://f.pt