ถ้าแต่ก่อนบ้านที่ต่างจังหวัดผมได้ติดเพื่อให้มันไหลมาลงตรงโอ่ง ละเอาน้ำมาใช้ดื่ม อาบ ก็ว่ากันไป
แต่สมัยนี้มลพิษในอากาศเยอะกว่าเมื่อก่อนมาก. การจะเอาน้ำฝนมาใช้ดื่ม ใช้อาบ ค่อนข้างอันตราย.
พอดีโรงแรมที่ผมอยู่ ได้ทำประตูหลังโรงแรมเพื่อออกไปตรงที่จอดรถได้สะดวกขึ้น ละก็ทำหลังคา กว้างxยาว ประมาน 4x4 เมตร จากตัวอาคาร เพราะว่าประตูนี้ต้องใช้คีย์การ์ดในการเปิดเข้า-ออก. หากแดดออกแรงๆ หรือ ฝนตก ลูกค้าจะได้มีที่ยืนหลบตอนหยิบหรือสแกนคย์การ์ด. แต่ประเด็นอยู่ตรงนี้ หากเดินออกจากประตูไป 4-5 ก้าว ก็จะพ้นระยะหลังคา ซึ่งตรงนั้นเป็นที่โล่ง. ต่อให้จอดรถใกล้ประตูที่สุด ยังไงก็ต้องเดินพ้นหลังคาไปก่อน ซึ่งปลายหลังคามีตัวรองน้ำฝน ละทำท่อระบายน้ำออกมาข้างๆ. พื้นตรงนั้น เป็นพื้นซีเมนทั้งหมด ผมเลยสงสัยว่าจะติดที่รองน้ำฝนทำไม หากบอกว่าตอนฝนตกน้ำจะได้ไหลออกข้างๆ ไม่มา ไหลเป็นม่านตามแนวหลังคา. พื้นจะได้ไม่เปียกน้ำ. แต่ตอนฝนตกพื้นก็ต้องเปียกอยู่แล้วไหมครับ ต่อให้ไม่มีตัวรอง พื้นตรงทางเข้าก็เปียกอยู่ดี
เขาติดไว้ทำไมครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ใส่ข้อคว
รางน้ำฝน ติดเพื่ออะไร
แต่สมัยนี้มลพิษในอากาศเยอะกว่าเมื่อก่อนมาก. การจะเอาน้ำฝนมาใช้ดื่ม ใช้อาบ ค่อนข้างอันตราย.
พอดีโรงแรมที่ผมอยู่ ได้ทำประตูหลังโรงแรมเพื่อออกไปตรงที่จอดรถได้สะดวกขึ้น ละก็ทำหลังคา กว้างxยาว ประมาน 4x4 เมตร จากตัวอาคาร เพราะว่าประตูนี้ต้องใช้คีย์การ์ดในการเปิดเข้า-ออก. หากแดดออกแรงๆ หรือ ฝนตก ลูกค้าจะได้มีที่ยืนหลบตอนหยิบหรือสแกนคย์การ์ด. แต่ประเด็นอยู่ตรงนี้ หากเดินออกจากประตูไป 4-5 ก้าว ก็จะพ้นระยะหลังคา ซึ่งตรงนั้นเป็นที่โล่ง. ต่อให้จอดรถใกล้ประตูที่สุด ยังไงก็ต้องเดินพ้นหลังคาไปก่อน ซึ่งปลายหลังคามีตัวรองน้ำฝน ละทำท่อระบายน้ำออกมาข้างๆ. พื้นตรงนั้น เป็นพื้นซีเมนทั้งหมด ผมเลยสงสัยว่าจะติดที่รองน้ำฝนทำไม หากบอกว่าตอนฝนตกน้ำจะได้ไหลออกข้างๆ ไม่มา ไหลเป็นม่านตามแนวหลังคา. พื้นจะได้ไม่เปียกน้ำ. แต่ตอนฝนตกพื้นก็ต้องเปียกอยู่แล้วไหมครับ ต่อให้ไม่มีตัวรอง พื้นตรงทางเข้าก็เปียกอยู่ดี
เขาติดไว้ทำไมครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้