วันนี้ผมได้รับการรับเชิญจาก PR ของโรงแรม ibis Styles Bangkok Khaosan Viengtai ให้เข้ามารีวิวบุฟเฟ่ต์มื้อเที่ยงของโรงแรม ราคาแสนถูกแค่คนละ 359 บาท ทานได้ตั้งแต่ 12.00 - 14.30 น. เฉพาะวันจ.-ศ. ราคานี้รวมเครื่องดื่ม กาแฟ/น้ำเปล่า/น้ำอัดลมแล้ว เรียกว่าถูกตาแตก ! แต่บุฟเฟ่ต์มื้อเที่ยงในโรงแรม ที่ขายราคาถูก ส่วนใหญ่อาหารมักจะมีให้เลือกน้อยและไม่ค่อยอร่อย (ไม่บอกว่าโรงแรมไหนนะแต่พอมีประสบการณ์ที่ไม่ค่อยดีมาบ้าง) โรงแรมนั้นก็หาไม่ยาก อยู่ใจกลางถนนข้าวสาร เปิดแอป Google Maps เดินทางกันมาได้ ภายในโรงแรมตกแต่งด้วยสีสันสดใส สมกับชื่อ ibis Styles ตอนนี้ห้องอาหารบุฟเฟ่ต์ยังไม่เปิด เราไปสำรวจรอบโรงแรมกันครับ

ห้องอาหารที่เราจะเข้ามารีวิววันนี้มีชื่อว่า Streats โดยถูกแบ่งออกเป็น 3 โซนได้แก่ 1.โซนนั่งดื่มชิลล์ๆ ทีให้บริการอาหารและเครื่องดื่มในรูปแบบ A La Carte 2.โซนร้านเบเกอรี่ โดยเบเกอรี่ของที่นี่เป็นการอบสด แถมขายราคาค่อนข้างถูก ไม่มีการทิ้งไว้บนชั้นเป็นเวลานาน (ขนมปังอันไหนที่ใกล้จะหมดเวลาบนชั้น ทางโรงแรมก็จะนำมาลดราคาลงไปอีก) มีให้เลือกหลากหลายทั้งขนมปัง/เค้ก/พาย/ทาร์ต รับรองว่าถูกใจสายขนมหวานแน่นอนครับ 3. โซนห้องอาหารบุฟเฟ่ต์ ที่ปกติโรงแรมนี้จะมีบริการบุฟเฟ่ต์อาหารเช้าราคาถูกเพียงคนละ 280 บาท ให้นักท่องเที่ยวชาว Back Pack ที่มีงบค่อนข้างจำกัด เข้ามาใช้บริการเป็นประจำอยู่แล้ว ตอนนี้เพิ่งเปิดให้บริการบุฟเฟ่ต์มื้อเที่ยง (ที่เราจะเข้ามารีวิววันนี้) ก็เพียงแค่ 359 บาทต่อคนอีก เอาใจลูกค้าชาว Back Pack ที่อยู่แถวนี้กันสุดๆเลยครับ

บรรยากาศภายในห้องอาหารยังคงไม่ทิ้งความเป็น ibis Styles ที่มีการตกแต่งสีสันสดใส แต่ก็มีการเพิ่มรายละเอียดต่างๆเช่นกระเบื้องลายแบบบาหลี ต้นไม้ตามมุมต่างๆทำให้รู้สึกร่มรื่น ตัดเข้ากับเฟอร์นิเจอร์ที่ดูหรูหรา และมีความโมเดิร์นสีสันสดใสในเวลาเดียวกัน ไม่แปลกใจที่ชาวต่างชาติจะเข้ามานั่งดื่มชิลล์ที่ห้องอาหารนี้เยอะเลยครับ

ตอนนี้เราเข้ามาในห้องอาหารบุฟเฟ่ต์ของทางโรงแรม โดยห้องนี้เปิดให้บริการทั้งมื้อเช้า/มื้อเที่ยง เท่าที่ดูด้วยสายตาแล้ว อาหารมีให้เลือกทานเยอะมาก และที่นั่งภายในห้องอาหารนี้ถือว่าหรูหรากว่าส่วนอื่น โดยทาง PR ให้เหตุผลว่า ลูกค้าหลักของที่นี่นอกจากชาวต่างชาติที่เป็น Back Packer ที่มีงบจำกัดแต่อยากนอนโรงแรมดีๆหน่อยแล้ว ที่นี่ยังใกล้กับศูนย์ราชการหลายแห่ง เวลามีการประชุม/สัมนาต่างๆ ห้องอาหารของที่นี่ก็เป็นห้องรับรองไปในตัว อาหารที่นี่จึงต้องรสชาติดี และหน้าตาสวยงามทั้งอาหารและสถานที่ เพื่อรองรับลูกค้าเหล่านี้ครับ (เห็นว่าบางทีข้าราชการระดับสูงก็มาใช้บริการที่ห้องอาหารนี้บ่อยๆ) แต่ก็ไม่ต้องเกร็งไปนะครับ ทางโรงแรมจะจัดโซนแยกให้กับลูกค้าที่มาทานแบบปกติ ตอนนี้อยากรู้แล้วว่ามีอะไรให้ทานบ้างแล้วอร่อยไหม ? ไปดูที่ไลน์อาหารพร้อมกันเลยครับ

เริ่มจากโซนแรกเป็นกาแฟสดกดได้จากเครื่องชงอัตโนมัติ ใครอยากมีแรงกระปรี้กระเปร่าในช่วงบ่ายๆ ก็มากดไปทานได้ครับ และอาหารฝรั่งหลากหลายเมนูทั้ง "ปลากระพงทอดราดไวท์ซอส" ปลากระพงหั่นชิ้นใหญ่ เคี้ยวเต็มคำ ราดด้วยไวท์ซอสรสเค็มมัน "หมูอบซอสพริกไทยดำ" หมูส่วนสันนอกแทรกมันน้อย อบจนสุกกำลังดี ราดด้วยซอสพริกไทยดำที่มีความเค็มและเผ็ดอ่อนๆ ถูกใจคนไทยอย่างแน่นอน "อกเป็ดอบราดซอสบาร์บีคิวส้ม" อกเป็ดอบแบบติดมัน ราดด้วยซอสบาร์บีคิวผสมส้ม ให้ความหอมหวานอมเปรี้ยวนิดๆ ตัดความสาบของเนื้อเป็ดได้ดีทีเดียว ในอาหารฝรั่งทุกอย่างมีผักมาให้ทานเคียงกันอยู่แล้ว แต่ก็ยังมี"ผักรวมย่าง" มาให้ตักทานเพิ่มเติมได้อีก ส่วนซุปมื้อนี้มีให้ทานเป็น"ซุปฟักทอง" รสหวานเค็มกลมกล่อม จะทานเปล่าๆ หรือทานคู่กับขนมปังฝรั่งเศสทาเนยก็แจ่มครับ

โซนอาหารฝรั่งยังไม่หมดแค่นี้ ยังมีสลัดผักที่มีผักสดให้เลือก 7 ชนิด พร้อมน้ำสลัด 3 แบบ (ซีซ่าร์/เทาสันไอซ์แลนด์/บัลซามิก) กระหล่ำดอกผสมเบบี้เครอทอบงาขาว มะเขือม่วงย่างราดซอสบัลซามิก เอาใจคนที่รักสุขภาพและชอบทานผัก Highlight อีกอย่างของที่นี่คือ พิซซ่าแป้งบางกรอบ โดยมีให้เลือก 2 หน้าได้แก่ หน้าแฮมและมาการิต้า โดยทางห้องอาหารจะอบสดใหม่และคอยเติมอยู่เสมอ แป้งพิซซ่าบางกรอบกับชีสแน่นๆ ห้ามพลาดเลยครับผม

หมดโซนอาหารฝรั่งแล้ว มาลุยอาหารไทยกันบ้าง อย่างที่บอกว่าลูกค้าหลักของห้องอาหารนี้คือข้าราชการไทย และที่นี่เขาก็ขึ้นชื่อเรื่องอาหารไทยที่อร่อยแบบไม่เป็นสองรองใคร มีเมนูโบราณอย่าง "ยำขมิ้นขาวกุ้งสด" รสเผ็ดแซ่บ กุ้งขาวเนื้อเด้งและหมูสับ เข้ากันได้ดีกับความกรุบกรอบของขมิ้นขาว เป็นเมนู Signature ของที่นี่ ที่หาไม่ได้จากห้องอาหารบุฟเฟ่ต์โรงแรมอื่นครับ ต่อกันด้วย "น้ำพริกตาแดง" ใช่แล้วครับน้ำพริกตาแดงเผ็ดๆนี่แหละ แต่ที่นี่เป็น การตำแบบสดๆ รสชาติเปรี้ยวหวานหอมกลิ่นมะขามเปียกและพริกคั่วแบบชัดเจน ทานกับผักสดหลากหลายชนิด ต่อกันด้วยยำหมูยอ ที่ใช้หมูยอแบบเนื้อนุ่มทานง่าย เคล้ากับน้ำยำรสแซ่บถึงใจ อร่อยเลยทีเดียวครับ เมนูโบราณยังไม่หมด ยังมี"หมี่กรอบโบราณ" หมี่ขาวทอดกรอบคลุกซอสรสเปรี้ยวหวานกลมกล่อม แต่มีความเข้มข้นกว่าปกติที่เคยทาน ที่สำคัญใส่เปลือกส้มซ่าทานแล้วฉุนขึ้นจมูกเล็กน้อย อร่อยมากครับ ของทอดก็มีให้ทานทั้ง"หอยจ้อปู"และเปาะเปี๊ยะทอดกรอบ คุณภาพถือว่าดีกว่าราคาปกติ เพราะหอยจ้อผสมแป้งน้อย เปาะเปี๊ยะเป็นไส้วุ้นเส้นผสมเห็ดผัดกับหมูสับ ทานคู่กับน้ำจิ้มบ๊วยเจี่ยรสเปรี้ยวหวาน กรอบอร่อย ทานได้เพลินๆดีครับ อาหารไทยโบราณยังไม่หมด

ขนมจีนที่นี่ก็จัดเต็มสุดๆ อย่าไปเทียบกับบุฟเฟ่ต์ขนมจีนราคา 59-79 บาทครับ ที่นี่แจ่มกว่าเยอะ นอกจากจะมีผัดสด/ไข่ต้มไว้ทานกับน้ำยากะทิเข้มข้น รสชาติเผ็ดร้อนแล้ว ยังมีน้ำยาโบราณอย่างขนมจีนซาวน้ำ ที่มีเครื่องให้ทานกับแบบครบเซ็ต ทั้งกุ้งแห้งป่น ขิงซอย สับปะรด กระเทียม พริกสด น้ำปลา น้ำมะนาว น้ำเชื่อมตาลโตนด ในหม้อใส่ลูกชิ้นปลามาให้แบบแน่นๆ เป็นสำรับซาวน้ำที่ครบเครื่องที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา เดี๋ยวเราต้องตักไปชิมกันสักถ้วยครับ

อาหารไทยรสแซ่บยังไม่หมดแค่นี้ ยังมี "แกงเผ็ดหน่อไม้สดใส่ไก่" เครื่องแกงที่นี่เหมือนตำเอง มีความเผ็ดหอมพริกสดที่ผสมลงไป ใครเคยทานอาหารไทยหลายๆโรงแรมแล้วบ่นว่ารสชาติไม่ค่อยเผ็ด ไม่เข้มข้น ใช้กับที่นี่ไม่ได้นะครับ ใครที่ไม่ทานเผ็ดยังก็มีอีกหลายเมนูทั้ง "ปีกบนไก่ตุ๋น" ตุ๋นจนซุปรสเข้มข้นเข้าเนื้อ เนื้อไก่และกระดูกอ่อนหลุดออกมาได้อย่างง่ายดาย "ผัดไทยเส้นจันทร์ใส่ไข่" ผัดไทยเส้นจันทร์เหนียวนุ่ม ซอสรสเปรี้ยวหวานหอมกลิ่นมะขามเปียก ทานกับไข่เนื้อนุ่มๆ เข้ากันดีครับ "ไข่ลูกเขย" ไข่ต้มทอดกรอบ ราดซอสมะขามเปียกหวานเปรี้ยว อร่อยดีครับ

ใครที่อยากซดน้ำซุปร้อนๆ ที่นี่ยังมี"เส้นหมี่ลูกชิ้นไก่น้ำใส" ให้เราปรุงรสก๋วยเตี๋ยวได้ตามแบบฉบับของตัวเอง ถ้าไม่อยากทานเส้นยังมี"แกงจืดเต้าหู้ไข่ใส่หมูสับ" รสชาติกลมกล่อมให้ทาน และที่นี่เขาโปรโมทตัวเองเอาไว้ว่าเป็น International Buffet ก็ต้องมีอาหารอีก 1 สัญชาติมาร่วมอีกนั่นก็คือ ซูชิจากประเทศญี่ปุ่น ที่อัดข้าวมาแน่นคำโตมาก แต่การปรุงรสข้าวของที่นี่ถือว่าทำออกมาได้ดีเลย มีความเปรี้ยวหวานนิดๆ หน้าซูชิต่างๆคุณภาพพอใช้ครับ