ปลื้ม!เซาธ์เกตชม2แข้งอังกฤษฟอร์มหรูถลุงโคโซโว
แกเร็ธ เซาธ์เกต นายใหญ่ทีมชาติอังกฤษ ปลื้มกับผลงานของ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน และ แฮร์รี่ วิงค์ส สองกองกลางตัวเก่ง ที่โชว์ฟอร์มโดดเด่นในแมตช์บุกชนะ โคโซโว ในการแข่งขันยูโร 2020 กลุ่ม เอ นัดสุดท้าย เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
แกเร็ธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ กล่าวชื่นชม อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน และ แฮร์รี่ วิงค์ส ที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในแมตช์ "สิงโตคำราม" ไล่ถลุง โคโซโว 4-0 ที่สนาม สตาดิโอน ฟาดิล ว็อครี่ ในศึกยูโร 2020 รอบคัดเลือก กลุ่ม เอ นัดสุดท้าย วันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
แชมเบอร์เลน ประสานงานกับ วิงค์ส ได้อย่างลงตัวก่อนที่ ดาวเตะท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ จะส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายให้ทัพ "ทรี ไลอ้อนส์" ขึ้นนำ 1-0 จากนั้นทีมเยือนมาได้อีก 3 ประตูในครึ่งหลังจาก แฮร์รี่ เคน, มาร์คัส แรชฟอร์ด และ เมสัน เมาน์ท จบเกม อังกฤษ คว้า 3 คะแนนได้สิทธิ์ไปลุยรอบสุดท้าย ในฐานะแชมป์กลุ่ม
เซาธ์เกต เปิดใจหลังจบเกมว่า "ผมประทับใจฟอร์มของนักเตะสองคนนี้ สำหรับ อเล็กซ์ กับการเล่นในระดับประเทศ ได้ลงเล่นตัวจริงเกมที่สองด้วยสภาพร่างกายที่มีปัญหา แต่เขาก็พยายามวิ่งอย่างเต็มที่ และเล่นเกมรุกได้ดุดัน ส่วน แฮร์รี่ วิงค์ส ผมคิดว่านี่เป็นสองเกมที่ยอดเยี่ยมสำหรับเขา เขามีความสามารถในการครองบอลภายใต้แรงกดดัน และมีความ
สำหรับคำถามที่ว่าเขารู้สึกกังวลเกี่ยวกับการโปรแกรมการแข่งขันรอบสุดท้ายช่วงซัมเมอร์หน้าไหม โดย เซาธ์เกต กล่าวว่า "ผมคิดว่าการเตรียมความพร้อมป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องทำ เราจำเป็นต้องพัฒนาทีม เรารู้ว่าเรายังมีงานต้องทำอีกพอสมควร แต่เราไม่มีอะไรที่ต้องตำหนินักเตะที่ช่วยทีมผ่านรอบคัดเลือก พวกเขาทุ่มเทเต็มที่แล้ว"
credit : www.siamsport.co.th
เคนยิงทาบสถิติเกือบร้อยปีทัพสิงโตคำราม
แฮร์รี่ เคน ดาวยิงทีมชาติอังกฤษ จัดการทำอีกสองสถิติหลังซัดประตูได้ในเกมที่ทีมบุกชนะ โคโซโว 4-0 ส่งท้ายเกมรอบคัดเลือกยูโร 2020
กองหน้าจาก สเปอร์ส พังตาข่ายให้กับทีมในนาทีที่ 79 ของเกม ทำให้ยอดสะสมเป็น 12 ลูกในรอบคัดเลือก นำเป็นดาวยิงสูงสุด แถมยังพกสถิติยิงประตูได้ทุกนัดในรอบคัดเลือกอีกด้วย ถือเป็นแข้งคนแรกในประวัติศาสตร์ของทัพสิงโตคำรามเลย
นอกจากนี้ เคน ยังเป็นคนแรกในรอบ 92 ปี ที่ยิงได้ถึง 12 ประตูภายในปีเดียวให้กับ อังกฤษ เทียบเท่ากับ จอร์จ ฮิลส์ดัน ในปี 1908 และ ดิ๊กซี่ ดีน ในปี 1927 อีกด้วย
น่าเสียดายที่ทีมไม่มีแม็ตช์การแข่งขันแล้วในรอบปฏิทินในปีนี้ ไม่อย่างนั้นอาจจะได้เห็น เคน เป็นคนแรกในประติศาสตร์ที่ทะลวงตาข่ายมากที่สุดให้ทีมชาติภายในปีเดียว
credit : www.soccersuck.com
เคน,อังกฤษสร้างสถิติสุดแจ่มหลังเกมถลุงโคโซโว
แฮร์รี่ เคน หัวหอกัปตันทีม และ อังกฤษ ทำผลงานสุดยอดในเกมนัดสุดท้าย ศึกยูโร 2020 รอบคัดเลือก กลุ่มเอ ด้วยการสร้างสถิติน่าประทับใจหลังจบเกมที่ไล่ถลุง โคโซโว 4-0 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
แฮร์รี่ เคน กองหน้ากัปตันทีม และ อังกฤษ สร้างสถิติน่าสนใจหลังจบเกมที่ทัพ "สิงโตคำราม" บุกถล่ม โคโซโว 4-0 ที่สนาม สตาดิโอน ฟาดิล ว็อครี่ ในศึกยูโร 2020 รอบคัดเลือก กลุ่ม เอ นัดสุดท้าย วันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พร้อมเข้ารอบสุดท้าย ในฐานะแชมป์กลุ่ม
หลังจบเกมล่าสุด ทัพ "ทรี ไลอ้อนส์" สามารถยิงประตูคู่แข่งจากการแข่งขันทุกรายการได้ถึง 38 ประตูจากการเล่นทั้งหมด 10 เกมในปี 2019 เท่ากับทีมชุดของกุนซือเซอร์ อัลฟ์ แรมซี่ ที่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 1966 (17 เกม) โดยเป็นรองเพียงแค่ทีมชาติอังกฤษ ในปี 1908 ที่ยิงประตูได้มากกว่า (39 ประตูจาก 7 เกม) ในรอบปฏิทินปี 2019
ขณะเดียวกัน แฮร์รี่ เคน หัวหอกจากค่าย "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ได้สร้างสถิติส่วนตัวหลังซัด 1 ประตูในแมตช์นี้ทำให้เขายิงไปแล้ว 12 ประตูให้ อังกฤษ ในรอบปฏิทิน 2019 โดยเทียบเท่ากับสถิติของ ดิ๊กซี่ ดีน ในปี 1927 และ จอร์จ ฮิลส์ดอน ในปี 1908
"มันเป็นเกมที่ยากลำบาก สนามก็เล่นยาก พวกเขาพยายามอย่างเต็มที่ และเราก็คว้าแชมป์กลุ่มไปแล้วดังนั้นเรื่องสภาพจิตใจมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะกลับมากคึกคักกันอีกครั้ง ผมคิดว่าเรารับมือกับเรื่องนี้ได้ดี เราสามารถผ่านช่วงเวลาที่พวกเขาไล่กดดันได้ แต่เรายังมีความเฉียบคม และผลการแข่งขัน 4-0 มันยอดเยี่ยมมาก"
ในฐานะกองหน้าผมอยากยิงประตูให้ได้เยอะ และนำทีมคว้าชัยชนะให้ได้ในทุกๆ แมตช์ ผมรักการยิงประตู ก็เหมือนกับกองหน้าทุกคนที่พยายามทำกัน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าผมจะรักษาฟอร์มการเล่นแบบนี้ต่อไปจนถึงช่วงซัมเมอร์หน้า (รอบสุดท้าย ศึกยูโร 2020)" เคน กล่าว
credit : www.siamsport.co.th
จบดราม่า! 5 สิ่งที่ เซาธ์เกต ต้องเคลียร์ก่อนพา อังกฤษ ลุยยูโร 2020
ทัพสิงโตคำราม สามารถผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายฟุตบอลยูโร 2020 ได้ตามคาดหมายหลังโชว์ฟอร์มสุดยอดในรอบคัดเลือกที่ผ่านมา นี่จะเป็นทัวร์นาเม้นต์ที่แฟนเมืองผู้ดีตั้งความหวังไว้มากเนื่องจากพวกเขาสามารถไปถึงรอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลก 2018 ดังนั้นมันจะเป็นการต่อยอดสิ่งที่ทำไว้จากทัวร์นาเม้นต์ก่อน อย่างไรก็ตามกุนซือ แกเร็ธ เซาธ์เกต ยังมีเรื่องให้ต้องคิดหนักรวมถึงต้องตัดสินใจให้ได้ก่อนจะพาทีมลุยในปีหน้า มาดูกันว่า เซาธ์เกต จะแก้ปัญหาเหล่านี้ได้หรือไม่
1.ดราม่าต้องไม่มีอีก
กรณีของ ราฮีม สเตอร์ลิง และโจ โกเมซ กลายเป็นบททดสอบสำคัญของ แกเร็ธ เซาธ์เกต การตัดสินใจตัดชื่อ สเตอร์ลิง ในเกมพบ มอนเตเนโกร บางคนสนับสนุนความคิดเขาแต่ก็มีข่าวลือบอกว่านักเตะในทีมคิดว่าเป็นการทำเกินกว่าเหตุ บททดสอบแรกของ เซาธ์เกต คือการลงโทษ สเตอร์ลิง โดยต้องไม่สร้างความขุ่นเคืองภายในทีมซึ่งวิธีการที่เขาจัดการถือว่าค่อนข้างดีเดียวเนื่องจากข่าวในช่วงหลังจากเหตุกาณ์ออกมาในทิศทางบวกเป็นส่วนใหญ่ แต่บททดสอบต่อไปของเขาคือการป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีกเพราะมันแสดงให้เห็นถึงสปิริตของทีม ยิ่งตอนนี้เข้าใกล้ฟุตบอลยูโร 2020 เข้าไปทุกที เซาธ์เกต คงมีบทเรียนว่าต้องระมัดระวังเรื่องนี้เป็นพิเศษ
2.หามิดฟิลด์คอนโทรลเกม
น่าสนใจว่า เซาธ์เกต มีตัวเลือกในตำแหน่งมิดฟิลด์แล้วหรือยังโดยเฉพาะกองกลางสไตล์คอนโทรลเกม มันเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่เห็นได้ชัดจากเกมรอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลกที่พ่ายแพ้ให้กับ โครเอเชีย รวมถึงนัดเจอ ฮอลแลนด์ ในเนชั่นส์ ลีก อังกฤษ ไม่สามารถหามิดฟิลด์ที่ครองบอลเหนียวแน่นและควบคุมจังหวะของเกมได้เลย ทำให้มักจะครองบอลน้อยกว่าเมื่อเจอกับทีมใหญ่ด้วยกัน
อังกฤษ ไม่มีผู้เล่นอย่าง ลูก้า โมดริช หรือ แฟรงกี้ เดอ ยอง แต่ เซาธ์เกต อาจจะได้เห็นสิ่งที่ แฮร์รี่ วิงค์ส เติมเต็มให้กับทีมแทนที่ของ ดีแคลน ไรซ์ ในสองเกมหลังสุด มิดฟิลด์สเปอร์ส ผ่านบอลสำเร็จ 119 ครั้งจากการส่งทั้งหมด 124 ครั้งในเกมพบ บัลแกเรีย ขณะที่เกมกับ มอนเตเนโกร เขาจ่ายบอลสำเร็จ 85 ครั้งจากาการส่ง 89 ครั้ง ซึ่งมันช่วยให้อังกฤษครองบอลบุกใส่คู่แข่งอยู่ตลอด
เซาธ์เกต อาจจะเลือก ดีแคลน ไรซ์ ซึ่งช่วยให้ทีมมีเกมรับที่แข็งแกร่งมากขึ้นเมื่อเจอกับคู่แข่งที่แข็งกว่า แต่ทว่า แฮร์รี่ วิงค์ส ก็จะเป็นคนสำคัญในการคอนโทรลเกมด้วย ต้องรอดูว่ากุนซือสิงโตคำรามจะตัดสินใจอย่างไรกับตำแแหน่งนี้
3.คู่หูแม็กไกวร์เป็นใคร
หลังจาก อังกฤษ ปรับระบบจากกองหลัง 3 คนมาเป็น 4 คนเมื่อปีที่แล้ว เซาธ์เกต ก็ใช้คู่เซนเตอร์ที่ต่างกันมาแล้วถึง 6 คู่ใน 13 เกม แน่นอนว่า แฮร์รี่ แม็กไกวร์ จะเป็นตัวยืนพื้นที่ แต่กองหลังอีกหนึ่งคนยังคงหาคนที่ลงตัวไม่ได้ คู่หูที่ เซาธ์เกต ใช้บ่อยที่สุดคือ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ และไมเคิ่ล คีน ซึ่งลงเล่น 5 จาก 13 เกม แต่ทว่าฟอรืมของรายหลังยังคงเอาแน่เอานอนไม่ได้
เซาธ์เกต พยายามมองหาตัวเลือกใหม่อย่าง ไทโรน มิงส์ แนวรับจาก แอสตัน วิลล่า ซึ่งช่วยอังกฤษเก็บคลีนชีทในเกมพบ บัลแกเรีย อย่างไรก็ตามนัดล่าสุดกลายเป็นว่า จอห์น สโตนส์ ได้กลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง โดยกองหลังแมนฯซิตี้วัย 25 ปีลงเล่นครั้งแรกนับตั้งแต่รายการ เนชั่นส์ ลีก ที่เจอกับ ฮอลแลนด์ ซึ่งเขาก่อผิดพลาดถึง 2 ครั้งในเกมนั้น ไม่รู้ว่าฟอร์มในนัดล่าสุดจะทำให้เขากลับมายึดเซนเตอร์อีกครั้งหรือไม่
นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกดาวรุ่งทั้ง โจ โกเมซ และฟิยาโก้ โทโมริ ที่พร้อมจะสอดแทรกเมื่อมีโอกาส แต่ความเข้าใจกันและการสื่อสารกันนั้นสำคัญมากสำหรับคู่เซนเตอร์ ดังนั้น เซาธ์เกต ควรจะเลือกสักคนเพื่อให้ทั้งสองเซนเตอร์คุ้นเคยกันก่อนทัวร์นาเม้นต์จะเริ่ม
4.ตัวสร้างสรรค์เกมนั้นสำคัญ
เซาธ์เกต ต้องการมิดฟิลด์ตัวทำเกมเหมือนกับที่ต้องการมิดฟิลด์คอนโทรลเกมเช่นกัน ในฟุตบอลโลกที่ผ่านมา อังกฤษ มักจะพึ่งพาผู้เล่นวิงแบ็กให้สร้างสรคค์เกม โดย คีแรน ทริปเปียร์ สร้างโอกาสทำประตู 24 ครั้งมากกว่านักเตะคนอื่นในทีม ขณะที่นัดล่าสุด เบน ชิลเวลล์ และเทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ก็โชว์ให้เห็นถึงความอันตรายของเกมริมเส้น แต่เมื่อทัพสิงโตคำรามเปลี่ยนมาเล่นระบบกองหลัง 4 คน นั่นทำให้กองกลางตัวทำเกมก็ต้องมีบทบาทสำคัญเช่นกัน
ในรอบคัดเลือกยูโรครั้งนี้ส่วนใหญ่ เซาธ์เกต จะใช้บริการของ รอส บาร์คลีย์ แต่ทว่านัดล่าสุดเจ้าตัวก็มีปัญหาอาการบาดเจ็บอยู่ทำให้ เมสัน เมาท์น และอเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลนขยับขึ้นมารับหน้าที่นี้ เมาท์น ไม่ได้โชว์ฟอร์มโดดเด่นมาก แต่ แชมเบอร์เลน แสดงให้เห็นว่าเขาก็พร้อมเป็นตัวความหวังของทีม เชื่อว่าประตูที่เขายิงจะทำให้ แชมเบอร์เลน ขยับมาเป็นตัวเลือกระดับต้นๆของ เซาธ์เกต
อย่างไรก็ตาม เจมส์ แมดดิสัน ซึ่งโชว์ฟอร์มสุดโหดกับ เลสเตอร์ ซิตี้ ยังคงรอโอกาสอยู่ข้างสนาม เขาถือเป็นตัวเลือกที่น่าจับตามองมากในตำแหน่งนี้ ก็คงต้องมารอดูกันว่า เซาธ์เกต จะใช้ใครในยูโร 2020
5.ต้องเลือกแบ็กตัวจริง
ทัพ "ทรี ไลอ้อนส์" มีตัวเลือกในตำแหน่งแบ็กค่อนข้างเยอะ เป็นอีกหนึ่งคำถามที่น่าสนใจว่าใครจะได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในฟุตบอลยูโร 2020 นัดล่าสุด เบน ชิลเวลล์ และเทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ต่างโชว์ฟอร์มสุดเหนือชั้น โดยเฉพาะรายแรกนั้นจัดแฮตทริกแอสซิสต์และยังเป็นแบ็กที่ลงเล่นมากที่สุดในรอบคัดเลือกนี้ คาดว่าน่าจะมีภาษีดีกว่า แดนนี่ โรส ซึ่งช่วงหลังฟอร์มดร็อปลงมา
ส่วนฝั่งแบ็กขวายังคงอยู่ในระหว่างการตัดสินใจของ เซาธ์เกต ตัวเลือกอย่าง เทรนท์ ก็แอสซิสต์สุดสวยในเกมล่าสุดแต่เขาเพิ่งจะออกสตาร์ทในรอบคัดเลือกแค่ 2 ครั้งเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่กุนซือจะเลือกใช้ คี แรน ทริปเปียร์ มากกว่า นอกจากนี้ยังมี อารอน วาน-บิสซาก้า รวมถึง ไคล์ วอล์คเกอร์ ที่เป็นตัวเลือกน่าสนใจเช่นกัน ใครจะได้ยึดตัวจริงคงต้องรอติดตามกันต่อไป
credit : www.siamsport.co.th
ปลื้ม!เซาธ์เกตชม2แข้งอังกฤษ (ออกซ์เลด-แชมเบอร์เลน+วิงค์ส) ฟอร์มหรูถลุงโคโซโว & เคน,อังกฤษสร้างสถิติแจ่มหลังเกมถลุงโคโซโว
แกเร็ธ เซาธ์เกต นายใหญ่ทีมชาติอังกฤษ ปลื้มกับผลงานของ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน และ แฮร์รี่ วิงค์ส สองกองกลางตัวเก่ง ที่โชว์ฟอร์มโดดเด่นในแมตช์บุกชนะ โคโซโว ในการแข่งขันยูโร 2020 กลุ่ม เอ นัดสุดท้าย เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
แกเร็ธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ กล่าวชื่นชม อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน และ แฮร์รี่ วิงค์ส ที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในแมตช์ "สิงโตคำราม" ไล่ถลุง โคโซโว 4-0 ที่สนาม สตาดิโอน ฟาดิล ว็อครี่ ในศึกยูโร 2020 รอบคัดเลือก กลุ่ม เอ นัดสุดท้าย วันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
แชมเบอร์เลน ประสานงานกับ วิงค์ส ได้อย่างลงตัวก่อนที่ ดาวเตะท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ จะส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายให้ทัพ "ทรี ไลอ้อนส์" ขึ้นนำ 1-0 จากนั้นทีมเยือนมาได้อีก 3 ประตูในครึ่งหลังจาก แฮร์รี่ เคน, มาร์คัส แรชฟอร์ด และ เมสัน เมาน์ท จบเกม อังกฤษ คว้า 3 คะแนนได้สิทธิ์ไปลุยรอบสุดท้าย ในฐานะแชมป์กลุ่ม
เซาธ์เกต เปิดใจหลังจบเกมว่า "ผมประทับใจฟอร์มของนักเตะสองคนนี้ สำหรับ อเล็กซ์ กับการเล่นในระดับประเทศ ได้ลงเล่นตัวจริงเกมที่สองด้วยสภาพร่างกายที่มีปัญหา แต่เขาก็พยายามวิ่งอย่างเต็มที่ และเล่นเกมรุกได้ดุดัน ส่วน แฮร์รี่ วิงค์ส ผมคิดว่านี่เป็นสองเกมที่ยอดเยี่ยมสำหรับเขา เขามีความสามารถในการครองบอลภายใต้แรงกดดัน และมีความ
สำหรับคำถามที่ว่าเขารู้สึกกังวลเกี่ยวกับการโปรแกรมการแข่งขันรอบสุดท้ายช่วงซัมเมอร์หน้าไหม โดย เซาธ์เกต กล่าวว่า "ผมคิดว่าการเตรียมความพร้อมป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องทำ เราจำเป็นต้องพัฒนาทีม เรารู้ว่าเรายังมีงานต้องทำอีกพอสมควร แต่เราไม่มีอะไรที่ต้องตำหนินักเตะที่ช่วยทีมผ่านรอบคัดเลือก พวกเขาทุ่มเทเต็มที่แล้ว"
credit : www.siamsport.co.th
เคนยิงทาบสถิติเกือบร้อยปีทัพสิงโตคำราม
แฮร์รี่ เคน ดาวยิงทีมชาติอังกฤษ จัดการทำอีกสองสถิติหลังซัดประตูได้ในเกมที่ทีมบุกชนะ โคโซโว 4-0 ส่งท้ายเกมรอบคัดเลือกยูโร 2020
กองหน้าจาก สเปอร์ส พังตาข่ายให้กับทีมในนาทีที่ 79 ของเกม ทำให้ยอดสะสมเป็น 12 ลูกในรอบคัดเลือก นำเป็นดาวยิงสูงสุด แถมยังพกสถิติยิงประตูได้ทุกนัดในรอบคัดเลือกอีกด้วย ถือเป็นแข้งคนแรกในประวัติศาสตร์ของทัพสิงโตคำรามเลย
นอกจากนี้ เคน ยังเป็นคนแรกในรอบ 92 ปี ที่ยิงได้ถึง 12 ประตูภายในปีเดียวให้กับ อังกฤษ เทียบเท่ากับ จอร์จ ฮิลส์ดัน ในปี 1908 และ ดิ๊กซี่ ดีน ในปี 1927 อีกด้วย
น่าเสียดายที่ทีมไม่มีแม็ตช์การแข่งขันแล้วในรอบปฏิทินในปีนี้ ไม่อย่างนั้นอาจจะได้เห็น เคน เป็นคนแรกในประติศาสตร์ที่ทะลวงตาข่ายมากที่สุดให้ทีมชาติภายในปีเดียว
credit : www.soccersuck.com
เคน,อังกฤษสร้างสถิติสุดแจ่มหลังเกมถลุงโคโซโว
แฮร์รี่ เคน หัวหอกัปตันทีม และ อังกฤษ ทำผลงานสุดยอดในเกมนัดสุดท้าย ศึกยูโร 2020 รอบคัดเลือก กลุ่มเอ ด้วยการสร้างสถิติน่าประทับใจหลังจบเกมที่ไล่ถลุง โคโซโว 4-0 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
แฮร์รี่ เคน กองหน้ากัปตันทีม และ อังกฤษ สร้างสถิติน่าสนใจหลังจบเกมที่ทัพ "สิงโตคำราม" บุกถล่ม โคโซโว 4-0 ที่สนาม สตาดิโอน ฟาดิล ว็อครี่ ในศึกยูโร 2020 รอบคัดเลือก กลุ่ม เอ นัดสุดท้าย วันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พร้อมเข้ารอบสุดท้าย ในฐานะแชมป์กลุ่ม
หลังจบเกมล่าสุด ทัพ "ทรี ไลอ้อนส์" สามารถยิงประตูคู่แข่งจากการแข่งขันทุกรายการได้ถึง 38 ประตูจากการเล่นทั้งหมด 10 เกมในปี 2019 เท่ากับทีมชุดของกุนซือเซอร์ อัลฟ์ แรมซี่ ที่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 1966 (17 เกม) โดยเป็นรองเพียงแค่ทีมชาติอังกฤษ ในปี 1908 ที่ยิงประตูได้มากกว่า (39 ประตูจาก 7 เกม) ในรอบปฏิทินปี 2019
ขณะเดียวกัน แฮร์รี่ เคน หัวหอกจากค่าย "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ได้สร้างสถิติส่วนตัวหลังซัด 1 ประตูในแมตช์นี้ทำให้เขายิงไปแล้ว 12 ประตูให้ อังกฤษ ในรอบปฏิทิน 2019 โดยเทียบเท่ากับสถิติของ ดิ๊กซี่ ดีน ในปี 1927 และ จอร์จ ฮิลส์ดอน ในปี 1908
"มันเป็นเกมที่ยากลำบาก สนามก็เล่นยาก พวกเขาพยายามอย่างเต็มที่ และเราก็คว้าแชมป์กลุ่มไปแล้วดังนั้นเรื่องสภาพจิตใจมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะกลับมากคึกคักกันอีกครั้ง ผมคิดว่าเรารับมือกับเรื่องนี้ได้ดี เราสามารถผ่านช่วงเวลาที่พวกเขาไล่กดดันได้ แต่เรายังมีความเฉียบคม และผลการแข่งขัน 4-0 มันยอดเยี่ยมมาก"
ในฐานะกองหน้าผมอยากยิงประตูให้ได้เยอะ และนำทีมคว้าชัยชนะให้ได้ในทุกๆ แมตช์ ผมรักการยิงประตู ก็เหมือนกับกองหน้าทุกคนที่พยายามทำกัน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าผมจะรักษาฟอร์มการเล่นแบบนี้ต่อไปจนถึงช่วงซัมเมอร์หน้า (รอบสุดท้าย ศึกยูโร 2020)" เคน กล่าว
credit : www.siamsport.co.th
จบดราม่า! 5 สิ่งที่ เซาธ์เกต ต้องเคลียร์ก่อนพา อังกฤษ ลุยยูโร 2020
ทัพสิงโตคำราม สามารถผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายฟุตบอลยูโร 2020 ได้ตามคาดหมายหลังโชว์ฟอร์มสุดยอดในรอบคัดเลือกที่ผ่านมา นี่จะเป็นทัวร์นาเม้นต์ที่แฟนเมืองผู้ดีตั้งความหวังไว้มากเนื่องจากพวกเขาสามารถไปถึงรอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลก 2018 ดังนั้นมันจะเป็นการต่อยอดสิ่งที่ทำไว้จากทัวร์นาเม้นต์ก่อน อย่างไรก็ตามกุนซือ แกเร็ธ เซาธ์เกต ยังมีเรื่องให้ต้องคิดหนักรวมถึงต้องตัดสินใจให้ได้ก่อนจะพาทีมลุยในปีหน้า มาดูกันว่า เซาธ์เกต จะแก้ปัญหาเหล่านี้ได้หรือไม่
1.ดราม่าต้องไม่มีอีก
กรณีของ ราฮีม สเตอร์ลิง และโจ โกเมซ กลายเป็นบททดสอบสำคัญของ แกเร็ธ เซาธ์เกต การตัดสินใจตัดชื่อ สเตอร์ลิง ในเกมพบ มอนเตเนโกร บางคนสนับสนุนความคิดเขาแต่ก็มีข่าวลือบอกว่านักเตะในทีมคิดว่าเป็นการทำเกินกว่าเหตุ บททดสอบแรกของ เซาธ์เกต คือการลงโทษ สเตอร์ลิง โดยต้องไม่สร้างความขุ่นเคืองภายในทีมซึ่งวิธีการที่เขาจัดการถือว่าค่อนข้างดีเดียวเนื่องจากข่าวในช่วงหลังจากเหตุกาณ์ออกมาในทิศทางบวกเป็นส่วนใหญ่ แต่บททดสอบต่อไปของเขาคือการป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีกเพราะมันแสดงให้เห็นถึงสปิริตของทีม ยิ่งตอนนี้เข้าใกล้ฟุตบอลยูโร 2020 เข้าไปทุกที เซาธ์เกต คงมีบทเรียนว่าต้องระมัดระวังเรื่องนี้เป็นพิเศษ
2.หามิดฟิลด์คอนโทรลเกม
น่าสนใจว่า เซาธ์เกต มีตัวเลือกในตำแหน่งมิดฟิลด์แล้วหรือยังโดยเฉพาะกองกลางสไตล์คอนโทรลเกม มันเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่เห็นได้ชัดจากเกมรอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลกที่พ่ายแพ้ให้กับ โครเอเชีย รวมถึงนัดเจอ ฮอลแลนด์ ในเนชั่นส์ ลีก อังกฤษ ไม่สามารถหามิดฟิลด์ที่ครองบอลเหนียวแน่นและควบคุมจังหวะของเกมได้เลย ทำให้มักจะครองบอลน้อยกว่าเมื่อเจอกับทีมใหญ่ด้วยกัน
อังกฤษ ไม่มีผู้เล่นอย่าง ลูก้า โมดริช หรือ แฟรงกี้ เดอ ยอง แต่ เซาธ์เกต อาจจะได้เห็นสิ่งที่ แฮร์รี่ วิงค์ส เติมเต็มให้กับทีมแทนที่ของ ดีแคลน ไรซ์ ในสองเกมหลังสุด มิดฟิลด์สเปอร์ส ผ่านบอลสำเร็จ 119 ครั้งจากการส่งทั้งหมด 124 ครั้งในเกมพบ บัลแกเรีย ขณะที่เกมกับ มอนเตเนโกร เขาจ่ายบอลสำเร็จ 85 ครั้งจากาการส่ง 89 ครั้ง ซึ่งมันช่วยให้อังกฤษครองบอลบุกใส่คู่แข่งอยู่ตลอด
เซาธ์เกต อาจจะเลือก ดีแคลน ไรซ์ ซึ่งช่วยให้ทีมมีเกมรับที่แข็งแกร่งมากขึ้นเมื่อเจอกับคู่แข่งที่แข็งกว่า แต่ทว่า แฮร์รี่ วิงค์ส ก็จะเป็นคนสำคัญในการคอนโทรลเกมด้วย ต้องรอดูว่ากุนซือสิงโตคำรามจะตัดสินใจอย่างไรกับตำแแหน่งนี้
3.คู่หูแม็กไกวร์เป็นใคร
หลังจาก อังกฤษ ปรับระบบจากกองหลัง 3 คนมาเป็น 4 คนเมื่อปีที่แล้ว เซาธ์เกต ก็ใช้คู่เซนเตอร์ที่ต่างกันมาแล้วถึง 6 คู่ใน 13 เกม แน่นอนว่า แฮร์รี่ แม็กไกวร์ จะเป็นตัวยืนพื้นที่ แต่กองหลังอีกหนึ่งคนยังคงหาคนที่ลงตัวไม่ได้ คู่หูที่ เซาธ์เกต ใช้บ่อยที่สุดคือ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ และไมเคิ่ล คีน ซึ่งลงเล่น 5 จาก 13 เกม แต่ทว่าฟอรืมของรายหลังยังคงเอาแน่เอานอนไม่ได้
เซาธ์เกต พยายามมองหาตัวเลือกใหม่อย่าง ไทโรน มิงส์ แนวรับจาก แอสตัน วิลล่า ซึ่งช่วยอังกฤษเก็บคลีนชีทในเกมพบ บัลแกเรีย อย่างไรก็ตามนัดล่าสุดกลายเป็นว่า จอห์น สโตนส์ ได้กลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง โดยกองหลังแมนฯซิตี้วัย 25 ปีลงเล่นครั้งแรกนับตั้งแต่รายการ เนชั่นส์ ลีก ที่เจอกับ ฮอลแลนด์ ซึ่งเขาก่อผิดพลาดถึง 2 ครั้งในเกมนั้น ไม่รู้ว่าฟอร์มในนัดล่าสุดจะทำให้เขากลับมายึดเซนเตอร์อีกครั้งหรือไม่
นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกดาวรุ่งทั้ง โจ โกเมซ และฟิยาโก้ โทโมริ ที่พร้อมจะสอดแทรกเมื่อมีโอกาส แต่ความเข้าใจกันและการสื่อสารกันนั้นสำคัญมากสำหรับคู่เซนเตอร์ ดังนั้น เซาธ์เกต ควรจะเลือกสักคนเพื่อให้ทั้งสองเซนเตอร์คุ้นเคยกันก่อนทัวร์นาเม้นต์จะเริ่ม
4.ตัวสร้างสรรค์เกมนั้นสำคัญ
เซาธ์เกต ต้องการมิดฟิลด์ตัวทำเกมเหมือนกับที่ต้องการมิดฟิลด์คอนโทรลเกมเช่นกัน ในฟุตบอลโลกที่ผ่านมา อังกฤษ มักจะพึ่งพาผู้เล่นวิงแบ็กให้สร้างสรคค์เกม โดย คีแรน ทริปเปียร์ สร้างโอกาสทำประตู 24 ครั้งมากกว่านักเตะคนอื่นในทีม ขณะที่นัดล่าสุด เบน ชิลเวลล์ และเทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ก็โชว์ให้เห็นถึงความอันตรายของเกมริมเส้น แต่เมื่อทัพสิงโตคำรามเปลี่ยนมาเล่นระบบกองหลัง 4 คน นั่นทำให้กองกลางตัวทำเกมก็ต้องมีบทบาทสำคัญเช่นกัน
ในรอบคัดเลือกยูโรครั้งนี้ส่วนใหญ่ เซาธ์เกต จะใช้บริการของ รอส บาร์คลีย์ แต่ทว่านัดล่าสุดเจ้าตัวก็มีปัญหาอาการบาดเจ็บอยู่ทำให้ เมสัน เมาท์น และอเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลนขยับขึ้นมารับหน้าที่นี้ เมาท์น ไม่ได้โชว์ฟอร์มโดดเด่นมาก แต่ แชมเบอร์เลน แสดงให้เห็นว่าเขาก็พร้อมเป็นตัวความหวังของทีม เชื่อว่าประตูที่เขายิงจะทำให้ แชมเบอร์เลน ขยับมาเป็นตัวเลือกระดับต้นๆของ เซาธ์เกต
อย่างไรก็ตาม เจมส์ แมดดิสัน ซึ่งโชว์ฟอร์มสุดโหดกับ เลสเตอร์ ซิตี้ ยังคงรอโอกาสอยู่ข้างสนาม เขาถือเป็นตัวเลือกที่น่าจับตามองมากในตำแหน่งนี้ ก็คงต้องมารอดูกันว่า เซาธ์เกต จะใช้ใครในยูโร 2020
5.ต้องเลือกแบ็กตัวจริง
ทัพ "ทรี ไลอ้อนส์" มีตัวเลือกในตำแหน่งแบ็กค่อนข้างเยอะ เป็นอีกหนึ่งคำถามที่น่าสนใจว่าใครจะได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในฟุตบอลยูโร 2020 นัดล่าสุด เบน ชิลเวลล์ และเทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ต่างโชว์ฟอร์มสุดเหนือชั้น โดยเฉพาะรายแรกนั้นจัดแฮตทริกแอสซิสต์และยังเป็นแบ็กที่ลงเล่นมากที่สุดในรอบคัดเลือกนี้ คาดว่าน่าจะมีภาษีดีกว่า แดนนี่ โรส ซึ่งช่วงหลังฟอร์มดร็อปลงมา
ส่วนฝั่งแบ็กขวายังคงอยู่ในระหว่างการตัดสินใจของ เซาธ์เกต ตัวเลือกอย่าง เทรนท์ ก็แอสซิสต์สุดสวยในเกมล่าสุดแต่เขาเพิ่งจะออกสตาร์ทในรอบคัดเลือกแค่ 2 ครั้งเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่กุนซือจะเลือกใช้ คี แรน ทริปเปียร์ มากกว่า นอกจากนี้ยังมี อารอน วาน-บิสซาก้า รวมถึง ไคล์ วอล์คเกอร์ ที่เป็นตัวเลือกน่าสนใจเช่นกัน ใครจะได้ยึดตัวจริงคงต้องรอติดตามกันต่อไป
credit : www.siamsport.co.th