BNK48: Girls Don't Cry (2019)

     เมื่อปีที่แล้ว มีหนังสารคดีที่ผมจัดว่า 'ท็อปฟอร์ม' ทำเอาเซอร์ไพร์สและชอบมากๆ เลย แถมตอนนี้ก็กำลังฉายอยู่ใน Netflix ด้วย นั่นคือ BNK48 : Girl Don't Cry... หนังที่ดีงามจนผมอดไม่ได้ต้องเอามาเล่ามาแชร์กัน (จริงๆ ก็ดูมานานแล้วแหละ แต่อยากจะเขียนไว้เป็นที่ระลึก)

- BNK48: Girl Don't Cry (2018) หนังสารคดีของคุณ เต๋อ นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ ภาพยนตร์ที่เปรียบเสมือนบันทึกการเดินทาง - ความทรงจำของวงนักร้องไอดอลชื่อดังอย่าง BNK48 // Girl Don't Cry เล่าถึงความพยายาม - การเดินทางบนเส้นทางไอดอลของสมาชิกวง BNK48 ที่ต้องสู้เพื่อความฝันตัวเอง จากเด็กน้อยธรรมดาสู่การเป็นสมาชิกวงชั้นนำของประเทศ พวกเธอต้องเหนื่อย ต้องเจ็บ ต้องเสียน้ำตา ต้องแข่งกันเพื่อเป็น 'ที่หนึ่งในวง', ตัดสลับกับเรื่องราวตาม Timeline ของ BNK48 ทั้งเหตุการณ์ก่อนและหลังจากเพลง คุกกี้เสี่ยงทาย โด่งดัง - จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้วง BNK ทะยานขึ้นสู่จุดสูงสุด รวมไปถึงอนาคตของวงในมุมมองสมาชิกแต่ละคนว่าจะเป็นอย่างไรต่อไปบ้าง
- BNK48: Girl Don't Cry เป็นหนังที่พูดถึงความพยายามของนักล่าฝันได้น่าสนใจมาก แก่นของเรื่องเล่นกับคำว่า 'ความพยายาม' ความพยายามคือทุกอย่างสำหรับการเป็นไอดอล ความพยายามทั้งหมดก็เพื่อให้ได้เป็นที่หนึ่ง... ความสำเร็จของแต่ละคน (และวง) เป็นรางวัลสำคัญของความพยายามอย่างยิ่งยวด

- หากให้กล่าวสั้นๆ กับหนังเรื่องนี้ ก็คงไม่พ้นคำโปรยใน Trailer ที่ว่า 'ความพยายาม (ไม่) เคยทำร้ายสักคนที่ตั้งใจ' ความพยายามให้ผลทั้งหวานชื่นและขมขื่น มีบ้างพยายามแล้วสำเร็จ มีบ้างพยายามแล้วล้มเหลว มีบ้างพยายามสักเท่าไหร่ก็ไม่ดีพอ แต่หากไม่พยายามเลยก็ไม่มีทางรู้เลยว่า เราจะไปได้ไกลสุดที่จุดไหน... มนุษย์ทุกคนล้วนเคยได้รับผลสำเร็จจากความพยายาม และสัมผัสกับความปวดร้าวของการพยายามมาด้วยกันทั้งนั้น
- ในแง่ภาพยนตร์ Girl Don't Cry มีประเด็นที่ดี วางเรื่องดี สิ่งที่โดดเด่นที่สุดในหนังคือ การตัดต่อ หนังตัดต่อได้เยี่ยม มีจังหวะที่ประณีตสวยงาม ไดนามิคของอารมณ์หนังมีทั้งขึ้นและลงหลายโหมด ทั้งยัง Balance จุดนี้ได้ดี จุดไหนควรขยี้ / จุดไหนควรผ่อน หนังเก็บรายละเอียดได้หมด ทำให้การเล่าเรื่องของหนังดูไม่ฝืน ดูลื่นไหลเป็นธรรมชาติสวยงาม [ การตัดต่อกับไดอะล็อกหนังแบบนี้โคตรเป็นลายเซ็นต์พี่เต๋อเลย - แนวหนังไดอะล็อกแน่นๆ ปนความกวนๆ เซอร์ๆ (สไตล์เต๋อ) ]

- ส่วนข้อเสียหนังก็คงเป็นเรื่องสไตล์หนังที่ผมว่าไม่ได้โดนใจคนหมู่มาก ด้วยเทคนิคการเล่าหนังที่มีลายเซ็นต์ชัดเจนขนาดนี้ ทำให้ Girl Don't Cry ไม่ได้เป็นหนัง Mass, ไม่ได้ Friendly กับมหาชนแน่นอน \\ ขณะดูเราต้องพยายามคิดเข้าใจอารมณ์หนังอยู่ตลอด หนังมีความเฉพาะทางในแบบที่มักจะเจอในกลุ่มหนังสายเทศกาล คือมีลีลาการเล่าโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ แต่ไม่เหมือนหนังปกติที่เราดูกัน (แต่ทั้งนี้หนังก็ไม่ได้อินดี้ จนอยู่ในระดับดูไม่ได้อะไรนะ)

[ สำหรับช่วงเนื้อเรื่องที่ผมชอบเป็นพิเศษ ก็คือตอนที่หนังเล่าถึงช่วงก่อน / หลังเพลง คุกกี้เสี่ยงทายดัง ผมไม่เคยคิดว่าก่อนหน้านี้ จะมีโมเมนต์ที่ BNK 48 เข้าโหมด Fail ขนาดนี้ แต่หลังจากการมาของคุกกี้เสี่ยงทาย... BNK ก็กลายเป็นวงที่ดังระดับประเทศไปในทันที  ]
- หลังจากดูเรื่องนี้จบก็อดนึกถึง La La Land (2016) ไม่ได้ ด้วยประเด็นที่ใกล้เคียงกัน มันคือหนังที่ว่าด้วย 'รางวัลของคนพยายาม' อย่างแท้จริง (หนังดีเหมือนกันแนะนำเลย)
- อันนี้ความเห็นส่วนตัวผมเอง : ถ้าให้เดา (มโน) ว่าที่ Girl Don't Cry ชวดรางวัลไป... คงเป็นเพราะ ตอนนั้นกระแสของพี่ตูนเขาแรงจริง กลายเป็นประเด็นระดับประเทศที่มีผลกับคนโดยรวม เลยทำให้สารคดีที่เข้าชิงเรื่องอื่น (รวมทั้ง Girl Don't Cry ด้วย) อาจถูกมองข้ามได้... หากวัดกันในแง่ภาพยนตร์และฝีมือการกำกับจริงๆ ส่วนตัวผมว่า Girl Don't Cry ทำได้ดีกว่าและน่าได้รางวัลนี้ไปมากกว่า แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่า 2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว จะไม่ได้ไม่ดีนะ ก็จัดว่าดีทั้งคู่แหละ 
- หรืออีกประเด็นก็อาจเป็นเพราะ Girl Don't Cry ไม่ได้เล่าเรื่องแบบแมสๆ ทั้งยังเล่าเรื่องในประเด็นเฉพาะทาง (วงแคบ) ที่คนปกติไม่ค่อยรู้กันมาก ส่วนใหญ่ต้องเป็นแฟนคลับหรือตาม BNK มาจริงถึงจะรู้ จุดนี้ก็อาจกลายเป็นจุดเสียคะแนนที่ทำให้ Girl Don't Cry กลายเป็นหนังดูยากและไม่มี Impact ในสายตากรรมการตัดสิน (แต่จริงๆ ก็ไม่ได้ดูยากอะไรขนาดนั้น)

- ทั้งสองจุดนี้ที่ว่ามาเป็นความเห็นส่วนตัวผมนะครับ คิดเห็นอย่างไรก็ว่ากันมาได้ ! ...ส่วนตัวคิดว่าก็เพราะด้วยประเด็นและการเล่าเรื่องแบบนี้แหละ เป็นเหตุผลที่ทำให้ BNK48 : Girl Don't Cry มีความประณีตสวยงามในเชิงภาพยนตร์ และยังโดดเด่นออกมาจนน่าประทับใจ แถมได้ไปฉายในเทศกาลหนังต่างประเทศหลายๆ เทศกาลอีกด้วย
- สุดท้ายก็อยากแนะนำให้ทุกคนได้ดูกันนะครับ. คงมีหนังสารคดีไทยไม่มากเลยที่สามารถทำได้ดีขนาดนี้... ขอปิดท้ายด้วยเพลงคุกกี้เสี่ยงทายเวอร์ชั่นนี้ละกัน เพลงที่ทำให้พวกเราได้เห็นสาวน้อยเหล่านี้ก้าวขึ้นมาเป็นศิลปินระดับประเทศ คงไม่มีเพลงไหนเหมาะจะปิดท้ายไปมากกว่านี้... ขอขอบคุณมากเลยครับ !
     " ความพยายามให้ทั้งผลสำเร็จและความล้มเหลว บางทีถึงแม้ว่าจะเราพยายามสักเท่าไหร่ก็อาจจะไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีพอ แต่สำหรับพวกเราเหล่ามนุษย์ ก็ยังคงต้องเชื่อและพยายามในทุกโอกาสที่มีอยู่เสมอ... อย่างน้อย ถ้าเราพยายามอย่างเต็มที่ เราก็ตอบตัวเองได้ว่า 'ในครั้งนี้ เราเองก็ทำดีที่สุดแล้วในแบบที่เราเป็น.' "
ป.ล.2 ใครชอบฉากใด หรือคิดเห็นอย่างไร ก็มาพูดคุยกันได้นะครับ เพราะ บางทีก็อาจมีบางจุดที่ผมก็ตกหล่นหรือมองพลาดไปเหมือนกัน (หากรีวิวผิดพลาดประการใดหรือไม่ถูกใจประการใด ก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ) // สำหรับคนที่ดูแล้วหรือยังไม่ได้ดู สามารถมาคุยกันได้ทาง Facebook อีกช่องทางนะครับ