ปัจจุบันในยุคของโค๊ชพาค์ ยอมรับว่าเวียดนามกลายมาเป็นฟุตบอลระบบ เล่นด้วยระบบและแท็คติกอย่างแท้จริง
รูปแบบหลักๆ ที่เวียดนามใช้คือ
ในขณะเป็นฝ่ายรับ เวียดนามจะตั้งรับแบบคุมพื้นที่ โดยตั้งกำแพง 2 ชั้น ตอนรับเวียดนามจะมีกองหลัง 5 ตัว และแผงมิดฟิลด์มายืนหน้ากองหลังอีกที 3-4 ตัว ทำให้กลายเป็นรถบัส 2 คันจอดซ้อนกัน นั่นคือเหตุผลที่ทำไมเวียดนามถึงเสียประตูยากเย็นหนักหนา
ในขณะเป็นฝ่ายรุก เวียดนามก็จะไม่คิดมาก เมื่อตัดบอลได้ในแดนตัวเองก็จะพยายามส่งบอลไปยังพื้นที่ว่างด้านหน้าอย่างรวดเร็ว เพื่อให้กองหน้าวิ่งไปรับบอล ซึ่งถ้าจังหวะแม่นยำพอ กองหน้ามีโอกาสสลัดหลุดกองหลังคู่แข่งเพื่อไปทำประตูได้ง่ายๆ เนื่องจากคู่แข่งโดนโต้กลับเร็วจะเหลือแค่กองหลังไม่กี่ตัวที่จะสกัดกลั้นกองหน้าเวียดนามได้
จากรูปแบบดังกล่าว เวียดนามจึงชื่นชอบทีมที่บุกใส่เวียดนามมากกว่า ทีมที่จะไปตั้งรับแล้วให้พวกเขาเป็นฝ่ายบุก
จาการศึกษารูปแบบและวิเคาะห์ เทปย้อนหลังทีมเวียดนามที่ผ่านมา การเอาชนะเวียดนามมี 2 วิธี
1) ห้ามบุกใส่เวียดนาม แต่ต้องตั้งรับแน่นๆ แล้วล่อให้เวียดบุกใส่เพื่อให้พอมีช่องว่างในแดนหลังของเวียดนามบ้าง **แต่ วันที่ 19 นี้ เวียดนามแต้มเยอะกว่าไทย เขาจึงไม่จำเป็นต้องบุกใส่ไทย คิดว่าพาค์คงไม่สั่งบุกแน่ เต็มที่ก็รับแล้วโต้สไตล์ถนัดเขาแบบเดิม**
2) การเล่นแบบ Man to Man คือให้วิ่งตามประกบติด คู่ใครคู่มันตลอดเกมส์การแข่งขัน วิธีนี้จะเป็นการเล่นนอกระบบอย่างแท้จริง นั่นคือถ้าเขามีกองหลัง 5 ตัว เราก็จะต้องมีกองหน้า 5 ตัว ข้อเสียของวิธีนี้คือถ้ากองหน้าเขาเอาชนะกองหลังเราได้เราก็จบเช่นกัน เพราะกองหน้าเขาก็จะเดี่ยวๆกับกองหลังเราทุกจังหวะที่เขาบุกเช่นกัน (เพราะประกบแบบ 1ต่อ1) แต่ข้อดีคือโซนรถบัส 2 ชั้นของเวียดนามจะไม่มีประโยชน์อะไรอีกต่อไป เหมือนมวยแลกหมัดกันใครหมัดหนักว่าคมกว่าชนะไป ถ้าเทคนิคเลี้ยงกินตัวทีมไหนดีกว่าแบบเอาชนะแบบตัวต่อตัวได้จะเป็นผลดีแก่ทีมนั้นทันที ถ้าเราคิดว่า ศุภโชค เอกนิษ ชนาธิป บดิน สามารถเอาชนะเวียดนาม 1ต่อ1 ได้ วิธีนี้จะบีบให้เวียดนามเล่นนอกรูปแบบ เหมือนเราบังคับให้มวยแท็คติกดีๆ มาบวกแลกหมัดวัดลูกหนักลูกคมกันแทน
หลักการจะชนะบอลระบบอย่างเวียดนาม คือเราต้องเล่นนอกระบบ
รูปแบบหลักๆ ที่เวียดนามใช้คือ
ในขณะเป็นฝ่ายรับ เวียดนามจะตั้งรับแบบคุมพื้นที่ โดยตั้งกำแพง 2 ชั้น ตอนรับเวียดนามจะมีกองหลัง 5 ตัว และแผงมิดฟิลด์มายืนหน้ากองหลังอีกที 3-4 ตัว ทำให้กลายเป็นรถบัส 2 คันจอดซ้อนกัน นั่นคือเหตุผลที่ทำไมเวียดนามถึงเสียประตูยากเย็นหนักหนา
ในขณะเป็นฝ่ายรุก เวียดนามก็จะไม่คิดมาก เมื่อตัดบอลได้ในแดนตัวเองก็จะพยายามส่งบอลไปยังพื้นที่ว่างด้านหน้าอย่างรวดเร็ว เพื่อให้กองหน้าวิ่งไปรับบอล ซึ่งถ้าจังหวะแม่นยำพอ กองหน้ามีโอกาสสลัดหลุดกองหลังคู่แข่งเพื่อไปทำประตูได้ง่ายๆ เนื่องจากคู่แข่งโดนโต้กลับเร็วจะเหลือแค่กองหลังไม่กี่ตัวที่จะสกัดกลั้นกองหน้าเวียดนามได้
จากรูปแบบดังกล่าว เวียดนามจึงชื่นชอบทีมที่บุกใส่เวียดนามมากกว่า ทีมที่จะไปตั้งรับแล้วให้พวกเขาเป็นฝ่ายบุก
จาการศึกษารูปแบบและวิเคาะห์ เทปย้อนหลังทีมเวียดนามที่ผ่านมา การเอาชนะเวียดนามมี 2 วิธี
1) ห้ามบุกใส่เวียดนาม แต่ต้องตั้งรับแน่นๆ แล้วล่อให้เวียดบุกใส่เพื่อให้พอมีช่องว่างในแดนหลังของเวียดนามบ้าง **แต่ วันที่ 19 นี้ เวียดนามแต้มเยอะกว่าไทย เขาจึงไม่จำเป็นต้องบุกใส่ไทย คิดว่าพาค์คงไม่สั่งบุกแน่ เต็มที่ก็รับแล้วโต้สไตล์ถนัดเขาแบบเดิม**
2) การเล่นแบบ Man to Man คือให้วิ่งตามประกบติด คู่ใครคู่มันตลอดเกมส์การแข่งขัน วิธีนี้จะเป็นการเล่นนอกระบบอย่างแท้จริง นั่นคือถ้าเขามีกองหลัง 5 ตัว เราก็จะต้องมีกองหน้า 5 ตัว ข้อเสียของวิธีนี้คือถ้ากองหน้าเขาเอาชนะกองหลังเราได้เราก็จบเช่นกัน เพราะกองหน้าเขาก็จะเดี่ยวๆกับกองหลังเราทุกจังหวะที่เขาบุกเช่นกัน (เพราะประกบแบบ 1ต่อ1) แต่ข้อดีคือโซนรถบัส 2 ชั้นของเวียดนามจะไม่มีประโยชน์อะไรอีกต่อไป เหมือนมวยแลกหมัดกันใครหมัดหนักว่าคมกว่าชนะไป ถ้าเทคนิคเลี้ยงกินตัวทีมไหนดีกว่าแบบเอาชนะแบบตัวต่อตัวได้จะเป็นผลดีแก่ทีมนั้นทันที ถ้าเราคิดว่า ศุภโชค เอกนิษ ชนาธิป บดิน สามารถเอาชนะเวียดนาม 1ต่อ1 ได้ วิธีนี้จะบีบให้เวียดนามเล่นนอกรูปแบบ เหมือนเราบังคับให้มวยแท็คติกดีๆ มาบวกแลกหมัดวัดลูกหนักลูกคมกันแทน