ดูรายการแข่งทำอาหาร 3 รายการ
1️⃣ Master Chef Thailand Season 1 ถึง 3
2️⃣Top Chef Thailand Seaoson 1 กับ 2
3️⃣ เซฟสุดขั้ว ครัว 2 โลก
ส่วนตัวแล้วชอบ master chef thailand มากที่สุด เพราะ เป็นการแข่งขันของคนทั่วๆไปที่ชอบและรักในการทำอาหาร มุ่งมั่นที่จะ เป็น master chef thailand แม้บางคนจะตกรอบ แต่ก็ยังอยู่ในวงการอาหาร เปิดร้านอาหาร เช่น เดียว จาก Season 2 ที่เปิดร้านเบเกอรี่ที่เชียงใหม่ บางคนก็เป็น Youtuber ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับอาหาร เช่น chanel Jessiescape ของ เป๋าเป้ จาก Season 3 หรือ chanel dish is Jah ของ จ๋า จาก Season 2 อีกอย่างที่ชอบคือ ความสัมพันธ์ฉันเพื่อนหลังการแข่งขันซึ่งเป็นอีกความรู้สึกดีๆ ที่เกิดขึ้นหลังเกมการแข่งขันอันเข้มข้น แม้ในเกมจะมีการวางแผนเลือกวัตถุดิบยากๆ เพื่อกำจัดคนเก่งๆ ออก แต่คนเก่งมันก็เก่งจริงฆ่าแค่ไหนก็รอด ดั่ง Season 3 ที่มี เควส ฉายา ฆ่าไม่ตาย
รายการ Top chef ไทยแลนด์ สีสันต์จะอยู่ที่ความโหดของกรรมการที่นำโดย Chef วิลแมน เป็นการแข่งเพื่อหาสุดยอดเซฟเพื่อเป็น Top chef ดังชื่อรายการ ดังนั้น คนที่เข้ามาแข่งขันจะเป็นเซฟอยู่แล้วในชีวิตจริง และเซฟแต่ละท่านก็ถนัดอาหารคนละแบบ เช่น บางคนเป็นเซฟอาหารจีน บางคนถนัดอาหารไทย บางคนอาหารฝรั่งเศส หรือ ขนมหวาน ความสนุกในแต่ละโจทย์เลยอยู่ที่ว่าแต่ละคนจะใช้ความถนัดในอาหารของตนมาประยุกต์ทำอาหารจากโจทย์ที่ได้รับอย่างไร แม้จะเป็น Chef มืออาชีพ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าคณะกรรมการที่ก็เป็นเซฟเหมือนกัน ผู้เข้าแข่งขันก็ต้องยอมรับคำตัดสิน แม้ช่วงต้นๆ ของ Season จะมีการแย้งในคำวิจารณ์ แต่คณะกรรมการก็สามารถชี้แจงจุดบกพร่องในเมนูนั้นๆ ได้อย่างชัดเจน อย่างเช่นเรื่อง ถั่วไม่สุกของเซฟโป้งกับเซฟโฟร์คใน ซีซั่น1 ส่วนใน Season 2 แม้ว่า เซฟกันต์จะถูกปูมาให้ดูเด่นในช่วงกลางๆ จนถึงปลาย Season แต่ภาระกิจสุดท้ายกับดันมาตายตอนจบเพราะเพื่อนที่เลือกมาร่วมทีมดันพลาดปล่อยให้มีเศษพลาสติคจากการ wrap ปนในเนื้อหมู ซีซั่นนี้ต้องบอกว่าเซฟออตโต้แสดงฝีมือการทำอาหารและการคุมทีมในรอบชิงได้อย่างดีเยี่ยม สมแล้วที่ได้ตำแหน่ง Top chef season 2 ไป
มารายการเซฟสุดขั้ว ครัว 2 โลก ผมดูแล้วไม่ติด ไม่มีอะไรน่าลุ้นเหมือน 2 รายการข้างต้น จุดเด่นของรายการที่แบ่งครัวเป็นครัวทันสมัยกับครัวโบราณ ก็ยังไม่ดึงดุดเท่าไหร่ในความรู้สึกผม คณะกรรมการแม้จะเป็นเซฟมืออาชีพ แต่ก็ไม่ได้มีคำวิจารณ์ที่เข้มข้นเหมือน 2 รายการข้างต้น น่าเสียดายอยู่ครับ
ชอบดูรายการแข่งทำอาหาร มาแบ่งปันความคิดเห็นกันหน่อย
1️⃣ Master Chef Thailand Season 1 ถึง 3
2️⃣Top Chef Thailand Seaoson 1 กับ 2
3️⃣ เซฟสุดขั้ว ครัว 2 โลก
ส่วนตัวแล้วชอบ master chef thailand มากที่สุด เพราะ เป็นการแข่งขันของคนทั่วๆไปที่ชอบและรักในการทำอาหาร มุ่งมั่นที่จะ เป็น master chef thailand แม้บางคนจะตกรอบ แต่ก็ยังอยู่ในวงการอาหาร เปิดร้านอาหาร เช่น เดียว จาก Season 2 ที่เปิดร้านเบเกอรี่ที่เชียงใหม่ บางคนก็เป็น Youtuber ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับอาหาร เช่น chanel Jessiescape ของ เป๋าเป้ จาก Season 3 หรือ chanel dish is Jah ของ จ๋า จาก Season 2 อีกอย่างที่ชอบคือ ความสัมพันธ์ฉันเพื่อนหลังการแข่งขันซึ่งเป็นอีกความรู้สึกดีๆ ที่เกิดขึ้นหลังเกมการแข่งขันอันเข้มข้น แม้ในเกมจะมีการวางแผนเลือกวัตถุดิบยากๆ เพื่อกำจัดคนเก่งๆ ออก แต่คนเก่งมันก็เก่งจริงฆ่าแค่ไหนก็รอด ดั่ง Season 3 ที่มี เควส ฉายา ฆ่าไม่ตาย
รายการ Top chef ไทยแลนด์ สีสันต์จะอยู่ที่ความโหดของกรรมการที่นำโดย Chef วิลแมน เป็นการแข่งเพื่อหาสุดยอดเซฟเพื่อเป็น Top chef ดังชื่อรายการ ดังนั้น คนที่เข้ามาแข่งขันจะเป็นเซฟอยู่แล้วในชีวิตจริง และเซฟแต่ละท่านก็ถนัดอาหารคนละแบบ เช่น บางคนเป็นเซฟอาหารจีน บางคนถนัดอาหารไทย บางคนอาหารฝรั่งเศส หรือ ขนมหวาน ความสนุกในแต่ละโจทย์เลยอยู่ที่ว่าแต่ละคนจะใช้ความถนัดในอาหารของตนมาประยุกต์ทำอาหารจากโจทย์ที่ได้รับอย่างไร แม้จะเป็น Chef มืออาชีพ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าคณะกรรมการที่ก็เป็นเซฟเหมือนกัน ผู้เข้าแข่งขันก็ต้องยอมรับคำตัดสิน แม้ช่วงต้นๆ ของ Season จะมีการแย้งในคำวิจารณ์ แต่คณะกรรมการก็สามารถชี้แจงจุดบกพร่องในเมนูนั้นๆ ได้อย่างชัดเจน อย่างเช่นเรื่อง ถั่วไม่สุกของเซฟโป้งกับเซฟโฟร์คใน ซีซั่น1 ส่วนใน Season 2 แม้ว่า เซฟกันต์จะถูกปูมาให้ดูเด่นในช่วงกลางๆ จนถึงปลาย Season แต่ภาระกิจสุดท้ายกับดันมาตายตอนจบเพราะเพื่อนที่เลือกมาร่วมทีมดันพลาดปล่อยให้มีเศษพลาสติคจากการ wrap ปนในเนื้อหมู ซีซั่นนี้ต้องบอกว่าเซฟออตโต้แสดงฝีมือการทำอาหารและการคุมทีมในรอบชิงได้อย่างดีเยี่ยม สมแล้วที่ได้ตำแหน่ง Top chef season 2 ไป
มารายการเซฟสุดขั้ว ครัว 2 โลก ผมดูแล้วไม่ติด ไม่มีอะไรน่าลุ้นเหมือน 2 รายการข้างต้น จุดเด่นของรายการที่แบ่งครัวเป็นครัวทันสมัยกับครัวโบราณ ก็ยังไม่ดึงดุดเท่าไหร่ในความรู้สึกผม คณะกรรมการแม้จะเป็นเซฟมืออาชีพ แต่ก็ไม่ได้มีคำวิจารณ์ที่เข้มข้นเหมือน 2 รายการข้างต้น น่าเสียดายอยู่ครับ