วันนี้ จะขอพูดถึงประเด็นอ่อนไหวและเป็นที่ถกเถียงกันมานาน เกี่ยวกับกีฬาขี่ม้า ไม่ว่าจะเป็นม้าแข่ง ม้ากระโดด หรือศิลปะบังคับม้า ว่าเข้าข่ายการทรมานสัตว์หรือเปล่า
หากมองจากภายนอก จะเห็นว่ากีฬาขี่ม้าเป็นกีฬาที่ดูสง่างาม ทั้งคนและม้า แข่งขันร่วมกันอย่างรู้ใจกัน เหมือนมีสายสัมพันธ์ที่รักและเข้าใจกันมาอย่างยาวนาน
แต่ในความเป็นจริง การจะสอนม้าให้ฟังคำสั่ง เข้าใจคำสั่งของผู้ขี่ และทำท่าทางต่างๆ เช่นการกระโดด หรือท่าระบำ ท่ายกขาต่างๆ หมายความว่าม้าตัวนั้น ต้องถูกฝึก ถูกตี ตั้งแต่อายุยังน้อย เพื่อไม่ให้พยศ และฟังคำสั่งผู้ขี่ทันที
แม้ม้าที่ผ่านการฝึกมา จนสามารถใช้ในการฝึกซ้อม หรือการแข่งขันได้ หากม้าไม่ทำตามคำสั่งของผู้ขี่ มีอาการขัดขืน ก็จะถูกตีด้วยแส้ทันที เพื่อเป็นการทำโทษและสอนม้า ว่าห้ามทำอย่างนั้น ถ้าไม่อยากถูกตี ต้องทำตามคำสั่งของผู้ขี่
ในการฝึก แน่นอนว่าไม่มีใครอยากตีม้าให้เจ็บ แต่เมื่อม้าไม่เชื่อฟัง ไม่ว่าจะมาจากนิสัยดื้อของม้าเอง หรือคนขี่ยังไม่เก่งพอ การตีม้าก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และการตีม้าที่ถูกต้อง คือต้องตีให้แรง ให้ม้าเจ็บ เพื่อเอาม้าให้อยู่ในการตีแค่ครั้งเดียว
หากเราตีม้าไม่แรงพอ ม้าจะยิ่งไม่เชื่อฟังเรา และยิ่งขัดขืนคำสั่ง ดังนั้น หากคิดจะตีม้า ต้องตีให้แรงจริงๆ ซึ่งหากเราตีแรงจริงๆ ม้าจะเจ็บ และเชื่อฟังเราทันที เหมือนจะเป็นการทรมานสัตว์ แต่จริงๆแล้ว การตีแรงๆแค่ทีเดียว จะดีกับม้ามากกว่า เพราะม้าจะได้ไม่ต้องโดนตีหลายๆที หากเราตีไม่แรงพอ จะทำให้เราต้องตีม้าซ้ำๆหลายๆที กลายเป็นม้าเจ็บหนักกว่าการโดนตีแรงๆแค่ทีเดียว
ในมุมมองของนักกีฬาขี่ม้า ก็ไม่ได้คิดว่าการตีม้าเป็นการทรมานสัตว์อะไร เพราะเป็นส่วนหนึ่งของการฝึก และก็ไม่ได้ตีพร่ำเพรื่อ หรือว่าตีด้วยความสนุก สะใจ จะตีเพื่อทำโทษม้า เวลาที่ม้าดื้อจริงๆ
แต่มุมมองของคนรักสัตว์ก็มองว่า สุดท้ายแล้ว กีฬาขี่ม้า แม้จะมีการดูแลม้าให้ดีแค่ไหน แต่ก็เป็นการกำราบพฤติกรรมตามธรรมชาติของม้าให้เชื่อฟังคำสั่งมนุษย์ หากเป็นการขี่ม้าทั่วไป หลายคนยังพอยอมรับได้ เพราะม้าก็ยังวิ่งท่าทั่วไป ไม่ได้ฝืนธรรมชาติของม้ามาก แต่กีฬาขี่ม้า ม้าต้องทำท่าทางหลายอย่างที่ฝืนธรรมยความว่าม้าต้องถูกฝึกหนักขึ้น และเสี่ยงบาดเจ็บมากขึ้น
ประเด็นนี้ ไม่ได้มีผิด มีถูกนะครับ แค่นำเสนอ มุมมองทั้งสองด้าน ว่าต่างฝ่าย ต่างคิดอย่างไรกันบ้าง แล้วคนอื่นๆ คิดว่ายังไงกันบ้างครับ
โรบินขี่ม้า ตอนที่ 3 'การแข่งกีฬาขี่ม้า เป็นการทรมานสัตว์หรือเปล่า?'
หากมองจากภายนอก จะเห็นว่ากีฬาขี่ม้าเป็นกีฬาที่ดูสง่างาม ทั้งคนและม้า แข่งขันร่วมกันอย่างรู้ใจกัน เหมือนมีสายสัมพันธ์ที่รักและเข้าใจกันมาอย่างยาวนาน
แต่ในความเป็นจริง การจะสอนม้าให้ฟังคำสั่ง เข้าใจคำสั่งของผู้ขี่ และทำท่าทางต่างๆ เช่นการกระโดด หรือท่าระบำ ท่ายกขาต่างๆ หมายความว่าม้าตัวนั้น ต้องถูกฝึก ถูกตี ตั้งแต่อายุยังน้อย เพื่อไม่ให้พยศ และฟังคำสั่งผู้ขี่ทันที
แม้ม้าที่ผ่านการฝึกมา จนสามารถใช้ในการฝึกซ้อม หรือการแข่งขันได้ หากม้าไม่ทำตามคำสั่งของผู้ขี่ มีอาการขัดขืน ก็จะถูกตีด้วยแส้ทันที เพื่อเป็นการทำโทษและสอนม้า ว่าห้ามทำอย่างนั้น ถ้าไม่อยากถูกตี ต้องทำตามคำสั่งของผู้ขี่
ในการฝึก แน่นอนว่าไม่มีใครอยากตีม้าให้เจ็บ แต่เมื่อม้าไม่เชื่อฟัง ไม่ว่าจะมาจากนิสัยดื้อของม้าเอง หรือคนขี่ยังไม่เก่งพอ การตีม้าก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และการตีม้าที่ถูกต้อง คือต้องตีให้แรง ให้ม้าเจ็บ เพื่อเอาม้าให้อยู่ในการตีแค่ครั้งเดียว
หากเราตีม้าไม่แรงพอ ม้าจะยิ่งไม่เชื่อฟังเรา และยิ่งขัดขืนคำสั่ง ดังนั้น หากคิดจะตีม้า ต้องตีให้แรงจริงๆ ซึ่งหากเราตีแรงจริงๆ ม้าจะเจ็บ และเชื่อฟังเราทันที เหมือนจะเป็นการทรมานสัตว์ แต่จริงๆแล้ว การตีแรงๆแค่ทีเดียว จะดีกับม้ามากกว่า เพราะม้าจะได้ไม่ต้องโดนตีหลายๆที หากเราตีไม่แรงพอ จะทำให้เราต้องตีม้าซ้ำๆหลายๆที กลายเป็นม้าเจ็บหนักกว่าการโดนตีแรงๆแค่ทีเดียว
ในมุมมองของนักกีฬาขี่ม้า ก็ไม่ได้คิดว่าการตีม้าเป็นการทรมานสัตว์อะไร เพราะเป็นส่วนหนึ่งของการฝึก และก็ไม่ได้ตีพร่ำเพรื่อ หรือว่าตีด้วยความสนุก สะใจ จะตีเพื่อทำโทษม้า เวลาที่ม้าดื้อจริงๆ
แต่มุมมองของคนรักสัตว์ก็มองว่า สุดท้ายแล้ว กีฬาขี่ม้า แม้จะมีการดูแลม้าให้ดีแค่ไหน แต่ก็เป็นการกำราบพฤติกรรมตามธรรมชาติของม้าให้เชื่อฟังคำสั่งมนุษย์ หากเป็นการขี่ม้าทั่วไป หลายคนยังพอยอมรับได้ เพราะม้าก็ยังวิ่งท่าทั่วไป ไม่ได้ฝืนธรรมชาติของม้ามาก แต่กีฬาขี่ม้า ม้าต้องทำท่าทางหลายอย่างที่ฝืนธรรมยความว่าม้าต้องถูกฝึกหนักขึ้น และเสี่ยงบาดเจ็บมากขึ้น
ประเด็นนี้ ไม่ได้มีผิด มีถูกนะครับ แค่นำเสนอ มุมมองทั้งสองด้าน ว่าต่างฝ่าย ต่างคิดอย่างไรกันบ้าง แล้วคนอื่นๆ คิดว่ายังไงกันบ้างครับ