กรุงไทย หรือ KTB เร่งกระตุ้นการใช้จ่าย"ชิมช้อปใช้"ผ่าน G-Wallet 2 นำร่องกาญจนบุรี-ราชบุรี-สุพรรณบุรี

ข่าวออกมาแล้ว วันนี้เอง (11 พ.ย. 62) ว่าทาง แบงก์กรุงไทย หรือ KTB จะเร่งกระตุ้นการใช้จ่าย"ชิมช้อปใช้"ผ่าน G-Wallet 2 นำร่องกาญจนบุรี-ราชบุรี-สุพรรณบุรี โดยคนที่ออกมาให้ข้อมูล กืคือ คุณผยง ศรีวณิช เอ็มดีกรุงไทย นั่นเอง บอกว่าอย่างนี้ครับ เผื่อใครสนใจอ่านรายละเอียดได้เลยจากข่าวชิ้นนี้



นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย (KTB) เปิดเผยว่า ธนาคารยังคงเดินหน้าผลักดันการกระตุ้นให้ประชาชนใช้จ่ายผ่านกระเป๋า 2 (G-Wallet 2) ในโครงการ"ชิมช้อปใช้" อย่างต่อเนื่อง โดยที่ปัจจุบันธนาคารได้มีการร่วมกับผู้ประกอบการต่างๆในการออกแพ็คเกจเพื่อทำโปรโมชั่นออกมากระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยผ่านกระเป๋า 2 โดยเริ่มจากการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยผ่านกระเป๋า 2 ใน 3 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี ราชบุรี และสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นจังหวัดนำร่อง และมีร้านค้าเข้าร่วมโครงการชิมช็อปใช้กว่า 4,000 ร้านค้า หรือมีร้านค้าเข้าร่วมแต่ละจังหวัดในสัดส่วน 30% และมียอดรวมการจับจ่ายใช้สอยรวม 423 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นการใช้จ่ายผ่านกระเป๋า 1 (G -Wallet 1) จำนวน 390 ล้านบาท และใช้จ่ายผ่านกระเป๋า 2 จำนวน 33 ล้านบาท
นอกจากนี้ธนาคารยังคงสนับสนุนผู้ประกอบทั้ง 3 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี ราชบุรี และสุพรรณบุรี โดยที่ผ่านมาธนาคารได้ปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการทั้ง 3 จังหวัดไปแล้ววงเงินรวมกว่า 1 หมื่นล้านบาท โดยที่สัดส่วนการให้สินเชื่อกับผู้ประกอบการใน 3 จังหวัด สัดส่วน 70% เป็นกลุ่มผู้ประกอบการเกษตรและอาหาร เช่น อ้อย ข้าว อาหารแปรรูป เป็นต้น พร้อมทั้งเดินหน้าสานต่อโครงการประชารัฐสร้างไทย เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว การค้าขาย ในจังหวัดต่างๆ เพื่อเป็นการสร้างโอกาสให้แก่ผู้ประกอบการต่างๆใน 3 ด้าน ได้แก่ 1.การให้ความรู้ 2.การสร้างตลาดและหาตลาดใหม่ๆเพื่อหาโอกาสทางการตลาด และ 3.การเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อรองรับการขยายธุรกิจของผู้ประกอบ

ส่วนวิธีการชำระเงินเพื่อรับสิทธิเงินคืน เข้าแอพพลิเคชั่น "เป๋าตัง" เพียงกดที่เมนูใช้สิทธิรับเงินคืน 15-20% และเลือกใช้จ่ายร้านค้าถุงเงิน หลังได้ QR Code ให้ร้านค้าใช้แอพฯ ถุงเงินสแกน ผู้รับสิทธิตรวจสอบยอดเงินที่ต้องชำระ และกดยืนยันการชำระเงิน ในส่วนการรับเงินคืนจะมี 2 รอบ รอบแรกสำหรับการใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 27 ก.ย.- 30 พ.ย. 62 จะได้รับเงินคืนภายในกลางเดือนธ.ค. 62 และ รอบที่ 2 การใช้จ่ายในช่วงระหว่างวันที่ 1-31 ธ.ค. 62 จะได้รับเงินคืนภายในกลางเดือนม.ค. 63 และลูกค้าสามารถโอนเงินคืนจากโครงการชิมช้อปใช้เข้าบัญชีธนาคารของลูกค้าได้

นายผยง กล่าวถึงยอดการใช้จ่ายผ่านแอพฯ "เป๋าตัง" ในภาพรวมของทั้งประเทศ ณ วันที่ 9 พ.ย. 62 มีจำนวนทั้งสิ้น 1.17 หมื่นล้านบาท ใช้จ่ายผ่าน G -Wallet1 จำนวน 1.09 หมื่นล้านบาท และ G-Wallet 2 จำนวน 735 ล้านบาท แบ่งเป็นร้านค้าประเภทชิม 13.21% ร้านค้าประเภทช็อป 59.10% ร้านค้าประเภทใช้ 1.27% และร้านค้าทั่วไป 26.42%

โดยแอพฯถุงเงินและเป๋าตัง เป็นดิจิทัลแพลตฟอร์มที่สามารถรองรับการการทำธุรกรรมของผู้รับสิทธิตามมาตรการชิมช็อปใช้ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขั้นตอนการเติมเงินง่าย ไม่ซับซ้อน และสะดวกรวดเร็ว โดยเติมเงินผ่านการสแกน QR Code ด้วยแอพฯของทุกธนาคาร หรือเติมเงินผ่านตู้ ATM ของ 5 ธนาคารใหญ่ ประกอบด้วย ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) และธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ด้วยบัตร ATM ที่ตรงกับตู้ธนาคารนั้นๆ เมื่อมีการใช้จ่ายผ่านกระเป๋า G-Wallet 2 ในร้านค้าที่ร่วมโครงการชิมช็อปใช้ได้ทุกจังหวัด ยกเว้นจังหวัดในทะเบียนบ้านจะได้รับสิทธิเงินคืน ยอดใช้จ่ายไม่เกิน 30,000 บาท รับเงินคืน 15% และยอดใช้จ่ายตั้งแต่ 30,000 บาท แต่ไม่เกิน 50,000 บาท รับเงินคืน 20% รวมเงินคืนสูงสุด 8,500 บาท

ปัจจุบันร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการสามารถใช้จ่ายผ่าน G-Wallet 2 มีจำนวนกว่า 173,000 ร้านค้า ทั้งเครือโรงแรมเซ็นทารา ใบหยก แอคคอร์ ดุสิต ชาเทรียม ไฮแอท ไอเอชจี แมริออท ทีทีซี และโรงแรมรีสอร์ตอื่นๆ ทั่วประเทศประมาณ 4,600 แห่ง เป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้รับสิทธิเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดต่างๆ มากยิ่งขึ้น และมีการใช้จ่ายผ่านกระเป๋า G-Wallet 2 เพิ่มขึ้น ณ วันที่ 9 พ.ย. 62 มียอดการใช้จ่ายกว่า 735 ล้านบาท
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่