เรื่องกรณีห้าม Altis GR sport กับรุ่น Hybrid เป็น Taxi เห็นไหมบอกแล้ว

กระทู้สนทนา


บอกแล้วว่ามันต้องกระทบกับยอดขาย ถึงได้มีการประกาศออกมาแบบนี้จาก Toyota

คือถ้ายอด taxi มันเยอะจนไม่ต้องง้อลูกค้าทั่วไปก็ว่าไปอย่าง

แต่ Altis ที่คนทั่วไปไม่ซื้อ มันส่งผลกระทบอย่างมาก เพราะหมายความว่า Hybrid ก็จะระบายไม่ออกด้วย

ยอดขาย Hybrid ไม่เยอะ ก็จะขาดทุน เพราะผิดจากที่คาดการณ์เอาไว้

เราเถียงกันมามากเรื่องความเป็น taxi มันเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวกับการซื้อรถ

ผมเพิ่งเห็นเหตุผลนึงที่เข้าตามากๆ เขาว่า

Gundam126 : "ผมเองก็ไม่ซื้อเพราะอัลติสมันเป็นรถแท็กซี่ ไม่ได้เหยียดหรืออะไร แต่เป็นคนที่นั่งรถแท็กซี่บ่อย
ถ้าเวลานั่งรถตัวเอง แล้วมานั่งรถแท็กซี่ซึ่งก็เป็นรุ่นเดียวกับตัวเองอีก มันน่าเบื่อและไม่รู้สึกแตกต่าง"

ใช่แล้ว จริงๆ มันก็เรื่องง่ายๆ แค่นี้

รถราคาเกือบล้าน บางทีก็อยากได้อะไรที่ไม่น่าเบื่อและแตกต่าง ยกเว้นแต่ว่า คู่แข่งมันแย่จน
ต้องยอมรู้สึกเบื่อและเหมือน taxi แต่วันนี้คู่แข่งมันไม่ได้แย่ คู่แข่งของ Civic ที่ top form มากๆ
ส่วน Mazda 3 ที่สวยหยาดเยิ้ม แม้จะแคบและช่วงล่างแข็งเป๊ก 

ไม่มีจุดเด่นอะไรของ Altis ที่ลูกค้าจะต้องเลือก ความเหมือน Taxi คือฟางเส้นสุดท้ายที่
ลูกค้ารู้สึกว่าไปเลือกคู่แข่งก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเลือกรุ่นนี้ Civic ก็ไม่ขี้เหร่ มีความเป็นเจ้าตลาดพร้อม
ถามว่ารถต้องทนแค่ไหน ยี่ห้อ Honda ก็ถือว่าทนพอสำหรับการใช้งานทั่วไป และคนทั่วไปก็ไม่ได้ใช้รถ
เยอะขนาดที่จะต้องทนทัดเทียมกับ taxi ที่วิ่งเป็นล้านกิโล

การขับตัวของ Toyota คราวนี้ ก็เหมือนตอน C-HR ที่กลัวว่าการเป็น taxi จะทำให้ยอดขาย
ของลูกค้าทั่วไปร่วง พวกเขาผูกขาดตลาด taxi ได้อยู่แล้ว แต่พวกเขาก็จำเป็นต้องได้ยอดขาย
จากกลุ่มลูกค้าทั่วไปเช่นกัน 

เดือนสองเดือนที่ผ่านมา ผมเห็นรถ Altis รุ่นใหม่เป็น taxi ในระดับที่หนาตา ส่วนที่เป็นรถส่วนบุคคล
ผมเพิ่งเห็นคันสีขาว 1 คันเมื่อ 2-3 วันที่แล้ว มันชัดเจนมากว่ารุ่นนี้ไม่เป็นที่นิยมของลูกค้าทั่วไป
และกว่างานรถยนต์ใหญ่ที่จะมาถึง ประชากร Altis เขียวเหลืองก็เต็มพื้นที่ถนนไปหมด คนทั่วไป
ที่จะมาออกรถ เขาต้องมั่นใจว่า เขายังรู้สึกตื่นเต้นที่จะขับ Altis ไม่เหมือน Civic

การซื้อรถของคนทั่วไป มีเรื่องความตื่นเต้นที่จะได้ใช้รถใหม่ ตื่นเต้นในความสวย ความดูดี
ตื่นเต้นในสมรรถนะและอื่นๆ ค่ายรถในยุคนี้ต่างแข่งขันกันในเรื่องนี้ เพราะลูกค้าส่วนใหญ่เป็นแบบนั้น

คนที่ยังยืนยันว่าใช้เพราะความเป็น taxi มันทน คงเป็นคนยุคเก่า หรือคนที่ไม่ได้อายุเยอะแต่
คิดอ่านเรื่องการใช้งานและความทนทาน ความไม่จุกจิกเป็นสำคัญ แต่ลูกค้ากลุ่มนี้ก็จะลดลงไปเรื่อยๆ
พร้อมๆ กับเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดี ซึ่งคนที่คิดรอบคอบอย่างพวกเขาก็จะตัดสินใจที่จะยังไม่ซื้อรถในช่วงนี้มากกว่า

พลังการซื้อจึงไปอยู่ที่วัยรุ่นหรือคนที่ใจที่ยังชอบความความรู้สึกดีที่ได้ตื่นเต้นกับของสวย ของแปลกใหม่
ที่แตกต่างจากรถสาธารณะ เหมือนเด็กที่ได้ของเล่นใหม่ ซึ่งในตัวเราทุกคนมีความเป็นเด็กซุกซ่อนอยู่ จะมาก
หรือน้อยก็เท่านั้น

อิทธิพลของกลุ่มนี้ยังมีผลต่อกลุ่มคนอื่นๆ ด้วย ซึ่งกลุ่มที่คิดรอบคอบ ก็ไม่จำเป็นต้องซื้อ Altis ด้วยซ้ำไป
เพราะ Civic อาจดูปลอดภัยสำหรับการซื้อมากกว่าด้วยซ้ำ เพราะเข้าได้กับคนทุกกลุ่ม 

แต่ Japan taxi คงไม่มีวันมาแน่ๆ และค่ายที่ชื่อ Toyota ยังคงต้องแบกความกดดันในเรื่องภาพลักษณ์
กันต่อไปสำหรับ Altis ไม่ว่าจะเข็นหรือจะดันแค่ไหนก็แล้วแต่ การลงทุนผลิตโมเดลเฉพาะสำหรับ taxi
มันต้องใช้เงินสูงหลายร้อยเท่ามากกว่าการลงทุนประชาสัมพันธ์ โฆษณา และอื่นๆ

สิ่งที่น่าสนใจก็คือ Vios ที่กำลังอยู่ในสูญญากาศ เพราะโดน Vios รุ่นใหม่ในชื่อ Ativ กินยอดขายไปหมด
ถ้าสามารถวางเครื่อง 1.6 ของ Altis ลงใน Vios ได้ แล้วเปิดขายสำหรับรถสาธารณะ นี่ก็อาจเป็นตัวช่วย
ให้ภาระเรื่อง Taxi ของ Toyota หมดไป Vios เป็นรถที่ไม่ได้อาศัยภาพลักษณ์ใดๆ และก็เป็นรถที่เซลล์
ใช้วิ่งงานเหนือจรดใต้อยู่แล้ว ข้อเสียก็จะมาที่ผู้บริโภคเพราะที่นั่งภายในอาจเล็กไป 

ในยามที่ Altis มีรุ่นล่างสุดใกล้ล้านขึ้นไปทุกที ราคาระดับนี้มันยิ่งผูกพันกับหน้าตาภาพลักษณ์มากขึ้น
เรื่อยๆ ไม่เหมือนสมัยก่อน ที่ยุคหนึ่ง Altis เคยเป็นรถเล็ก ดังนั้นคงต้องเปลี่ยนวิธีคิด ให้ Vios ได้เป็น
taxi บ้างเหมือนประเทศเพื่อนบ้าน และขายระยะยาวมีการ minor change ไปเรื่อยๆ ก็ไม่ต่างจากการ
มีโมเดลเฉพาะหนึ่งรุ่นสำหรับ taxi ไปเลย และไม่จำเป็นต้อง model change บ่อยๆ 

ใจนึงของ Toyota คงดีใจที่มียอด taxi มาคอยอุ้มชู Altis ทำให้รถรุ่นนี้เป็นรถที่มีความมั่นคงใน
ยอดขายมาก แต่ผลตรงกันข้ามก็สะท้อนกลับมาเยอะเช่นกัน และราคาของรถระดับนี้มันจะทำให้
การขาย taxi กลายเป็นหนามทิ้มแทงมากขึ้นๆ ควรให้ Vios รับไม้ต่อ ส่วน Altis ก็ควรจัดสเปก
และทำตัวรถให้น่าดึงดูดในตัวของมันเองโดยไม่ต้องหวังพึ่ง taxi ซึ่งเชื่อว่า taxi ก็ไม่ย้ายค่ายไป
จาก Toyota จริงอยู่ การซื้อไปทำ taxi นั้นเป็นสิ่งที่ห้ามคนซื้อไม่ได้ แต่มาตรการต่างๆ จะทำให้
มันยากขึ้น หรือจำกัดจำนวนได้มากขึ้น ไม่ใช่ฟรีไปเลยแบบปัจจุบัน การกำหนดเฉพาะรุ่น GT/Hybrid
ก็ยังไม่เพียงพอที่จะกู้สถานการณ์ได้ เพราะ Altis ตอนนี้มีแต่ภาพที่น่าเบื่อครอบงำไปแล้ว แม้จะผ่านมา
แค่ 2 เดือนก็ตาม 

ด้วยความที่ Civic กลับมา top form ในช่วง 2 ปีที่เหลือของโมเดลเก่งปัจจุบันก็ยังสร้างความกดดัน
อย่างมากกับ Altis และ gen หน้าก็คาดว่าน่าจะนำยาวๆ อีก 4 - 5 ปี ยกเว้น Altis จะปรับพลิกโฉม
อย่างแรง แต่ก็อาจจะยังสะดุดขาตัวเอง เพราะราคาเกือบ 9 แสน แต่มีความน่าเบื่อหน่ายเพราะเห็น
taxi ทะลุทะลวงนอกในจนชินตา ผมเดาว่า Altis ในตอนนั้นน่าจะยอดหดอย่างมากในกลุ่มลูกค้าทั่วไป
และ Civic ก็คงหมายมั่นที่จะผูกขาดลูกค้ากลุ่ม C segment แบบที่จะไม่ปล่อยคืนกลับให้กับ Altis
ง่ายๆ แน่นอน Honda น่าจะชนะ C segment เหมือนกับที่เอาชนะในตลาด B Crossover ไปแล้ว
City ใหม่ก็มาแน่ๆ น่าจะกดดัน Vios / Ativ ได้มหาศาลอยู่ ในตอนนี้ตลาดเก๋ง Toyota มีความน่าสนใจ
น้อยมาก ยกเว้น D segment ที่ Camry ยังงัดกับ Accord ได้อยู่ และผู้คนกำลังรอดูว่าตลาด C crossover
ตัวใหม่ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกหลังจากล้มเหลวกับ Rav4 เมื่อนานมาแล้วจะเป็นเช่นไร จะแย้งกลุ่มลูกค้าจาก
CR-V ได้หรือไม่?   
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่