บ้านเราเป็นบ้านเดี่ยว2ชั้นพื้นที่50ตร.วา เป็นบ้านเก่าในหมู่บ้านแถวปทุม ค่าเช่าเดือนละ5000 ค่าส่วนกลาง600  
ซึ่งให้นางAและแม่นางA(นามสมมุติ)เช่าอยู่มา5ปีแล้ว
ลำดับเหตุการณ์นะคะ
-ก่อนทำสัญญา
(เราได้อาศัยอยู่ซ่อมแซมทุกอย่างที่พังแล้วแต่มีเหตุต้องไปอยู่ต่างจังหวัด )
เราให้ผู้เช่าสำรวจดูบ้าน แล้วบอกว่าเป็นบ้านเช่าอยู่ตามสภาพ*ถ้าไม่OKสมารถเลิกเช่าได้  แจ้งรายละเอียดสัญญา มีพยาน ทำสัญญากัน(แม่นางAเป็นผู้ทำสัญญา)
ตกลงสัญญาค่าเช่าบ้าน5,000บาท ค่าส่วนกลาง600บาทและค่าน้ำไฟผู้เช่าต้องจ่ายแยกเอง
-5เดือนต่อมานางAก็แจ้งปัญหามีอะไรพังมาเรื่อยๆ
ทั้งปัญหาแมวที่เขาเลี้ยงเองโดนหมาบ้านอื่นกัด
-3ปีต่อมาเราแจ้งว่าจะปรับปรุงบ้านทั้งหลังแต่ขอขึ้นค่าเช่าแม่นางAไม่ยอม จึงไม่ได้ทำ
-ต่อมาแมวของนางทำพระแก้วมรกตประจำบ้านของเราเศียรขาดแต่ไม่ยอมบอก
-4ปีหลัง เกิดปัญหาขึ้นอีก
-คือนางAไปแจ้งความเรื่องลูกของช่าง(อายุ7ขวบ)ที่เราให้ไปซ่อมบ้านขโมยนาฬิกาเรือนละแสนของพ่อนางA เราเลยให้นางเองAจัดการเอง
-แม่นางAตกบันไดขาหักไปไหนไม่ได้เลยต้องออกจากงาน
นางAเรียนจบปริญญาแล้วไม่ทำงาน กลับบ้านดึก
ทะเลาะกับแม่ทุกวัน
4ปี3เดือนนางAเริ่มทำงานจึงเป็นคนจ่ายค่าเช่าแทน 
-5ปีหลังมานี้ เราได้ไปเยี่ยมบ้าน พบว่านางA ปล่อยแม่ให้อยู่บ้านคนเดียวให้ข้าววันละ1มื้อ ข้าวบางวันก็มีขนมปัง2แผ่น ซึ่งแม่นางAเดินไม่ได้แล้ว
(แม่นางAผอมโซแก่มากขึ้นแล้ว)
บ้านรก ของเป็นกองๆมีแต่ฝุ่นและกลิ่นยา
เลยคุยกับแม่นางAว่าไปอยู่บ้านพักคนชราให้คนดูแลน่าจะดีกว่าแต่แม่นางAไม่ไปเพราะสงสารแมว
-หลังๆเริ่มเบี้ยวค่าเช่า(ซึ่งมัดจำเงินไว้10,000)
-เบี้ยว3เดือนแรกเราแจ้งให้ออกโดยไม่เอาค่าเช่าเดือนที่3 แต่ไม่ยอกออกขออยู่ต่อ
-เดือนที่4 ไม่ยอมออก นางAกลับตอบว่า อยู่มา5ปีจ่ายตรงตลอด พอมาตอนนี้ไม่เห็นหัว ของในบ้านก็
พัง
-
เดือน5เราเริ่มไม่ไหวแล้วเลยบอกจะดำเนินตามสัญญาระบุ
คือเมื่อไม่จ่ายสามารถล็อคบ้านตัดน้ำตัดไฟได้
แต่เราไม่ทำเพราะสงสารแม่นาง นางขออีกเดือนบอกจะทยอยจ่าย
-เดือนที่6 เราทวงค่าเช่าบอกให้ออก นางAตอบว่า
ไม่ได้มาอยู่ฟรี จะขอความเมตตา รอลุ้นงานที่ทำสิ้นสุดแล้วจะจ่าย