รีวิว ทริปเมืองกาญจน์:ปิล็อค-สังขละบุรี 24-26 ตุลาคม 2562 ตอนที่1 https://ppantip.com/topic/39364069
รีวิว ทริปเมืองกาญจน์:ปิล็อค-สังขละบุรี 24-26 ตุลาคม 2562 ตอนที่2 https://ppantip.com/topic/39365755

Day3: 26 ตุลาคม 2562 ตื่นแล้วเราไปก็เดินเที่ยวสะพานมอญกันค่ะ วันนี้อากาศอึมครึมเหมือนฝนจะตก แต่ก็ไม่ได้เย็นเท่าไหร่ คนเยอะมากกกก
 


บนสะพานก็จะมีน้องๆคนมอญแต่งตัวด้วยชุดมอญมายืนให้บริการทาแป้งทานาคา เป็นลวดลายต่างๆให้กับนักท่องเที่ยว น้องๆน่ารักมากเลยค่ะ ไม่เซ้าซี้เลย น้องจะถามเฉยๆว่าทาแป้งไหมคะ แล้วแต่จะให้ค่าขนมค่ะ....มนุษย์แม่อย่างเราเห็นเด็กมาช่วยพ่อแม่ทำงานเป็นไม่ได้ต้องอุดหนุนน้องค่ะ จัดกันไปทั้งคณะ 

เดินข้ามไปถึงฝั่งมอญแล้ว ตั้งใจจะไปใส่บาตร แต่ไม่ทันค่ะ มัวแต่หาของกิน เด็กๆก็วิ่งเข้าร้านหาของเล่น แม่ก็คอยจับเด็กๆ รูปก็ไม่ได้ถ่ายเลย
ได้มาแต่รูปคุณสา กับน้องหมาตัวอวบอ้วน 

เดินเล่นกันเหนื่อยแล้ว ก็กลับเข้าที่พักเพื่อทานอาหารเช้า แล้วก็จะได้ไปไหว้หลวงพ่ออุตตะมะ ที่วัดวังค์วิเวการาม กันต่อ

ไปค่ะไปเที่ยวด่านเจดีย์สามองค์กันต่อ เด็กๆอยากไปเที่ยวฝั่งพม่ากันแล้ว

มาถึงแล้วค่ะด่านเจดีย์สามองค์ ไปถึงคณะพ่อบ้านก็ไปติดต่อเพื่อจะทำเอกสารสำหรับขับรถข้ามไปเที่ยวฝั่งพม่า เพราะหลายปีก่อนเพื่อนเคยมาแล้วก็ขับรถข้ามไปเที่ยวฝั่งพม่าได้เลย สรุปว่าตอนนี้เค้าไม่ให้ขับรถเข้าไปแล้ว ต้องซื้อทัวร์จากฝั่งไทย และใช้รถของคนพม่าเท่านั้น เค้าให้เหตุผลว่าเมื่อก่อนคนไทยขับรถเข้าไปเที่ยวแล้วเกิดอุบัติเหตุกันบ่อยๆ เพราะไม่คุ้นกับการขับรถฝั่งขวา...แกงค์เรา ผู้ใหญ่4คน เด็ก4คน ก็เลยซื้อทัวร์เข้าไปผู้ใหญ่คนละ 300 บาท
ส่วนเด็กเค้าคิดเหมา สรุปแล้วทั้งหมด จ่ายค่าทัวร์ไป 1,500บาท โดยการเที่ยวครั้งนี้เค้าจะมีไกด์อาสาไปด้วย เค้าบอกว่าน้องไกด์จะไม่มีรายได้จากการพาเราเที่ยว หากเรามีน้ำใจก็ให้ทิปน้องเค้าได้ แกงค์เราให้ทิปน้องไป500บาท  
เอกสารที่ใช้สำหรับการข้ามไปเที่ยวพม่า สำหรับผู้ใหญ่ก็ใช้บัตรประชาชน แล้วน้องไกด์เค้าก็จะไปสำเนาให้ หลังจากนั้นเราก็เซ็นซื่อในแบบฟอร์ม และรับรองสำเนาบัตรประชาชน ส่วนเด็กๆ ก็ให้คุณแม่เซ็นรับรองโดยการกรอกชื่อ-นามสกุล และอายุของเด็กๆลงไปในแบบฟอร์มเดียวกับแม่ได้เลย 
ไปค่ะไปเที่ยวกัน เริ่มจากมาไหว้พระวัดเสาร้อยต้น เสาที่นี่ต้นใหญ่มากกกกก

อันนี้คือดอกไม้สำหรับใช้ไหว้พระ น้องไกด์บอกว่าไหว้เสร็จแล้วให้เด็ดยอดกลับมา1ยอด จะได้โชคดีมีโชคมีลาภ และดอกไม้ที่ใช้ไหว้พระที่นี่เค้าจะไม่นำกลับมาวนใช้นะคะ

เสร็จจากวัดนี้เราก็ไปไหว้พระธาตุที่อยู่บนเขากันค่ะ (จำชื่อวัดไม่ได้ค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ) พระธาตุนี้จะมีนักษัตรประจำวันเกิดอยู่ตามซุ้มใต้ฐานพระธาตุ แต่จะเป็นนักษัตรแบบพม่านะคะ


ไหว้พระเสร็จแล้วก็ไปต่อค่ะ แต่ไม่ได้ไปเที่ยวนะคะ ไปดูหมอกันค่ะ555 จริงๆตามโปรแกรมเราต้องไปเที่ยวที่อื่นต่อ แต่เราอยากไปดูหมอกันก็เลยยกเลิกโปรแกรมที่เหลือไป.....หลังจากดูหมอเสร็จเราข้ามกลับมาถึงฝั่งไทยประมาณ4โมงเย็น หลังจากนั้นก็ออกเดินทางกลับบ้านกันค่ะ เรากลับมาถึงบ้านประมาณ4ทุ่มกว่า

สรุป การเดินทางครั้งนี้ 3วัน 2คืน เป็นการเดินทางที่เหนื่อยมาก แล้วก็สนุกมากเช่นกัน ทริปนี้เราให้เด็กๆมีความสุข หัวเราะกันตลอดทริป เล่นกันอย่างสนุกสนาน พ่อแม่อย่างเราก็ชื่นใจ หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง ทริปนี้ทำให้เราได้เห็นถึงความอดทนของมนุษย์เด็กตัวเล็กๆ แต่หัวใจใหญ่เหลือเกิน เด็กๆทนนั่งอยุ่ในรถ3ชั่วโมง ในการเดินทางขึ้นปิล็อค เค้าถามตลอดทางว่าใกล้ถึงรึยังแม่ ปลดเซฟตี้เบลท์ได้ยังหนูอึดอัด หนูปวดหัว พอแม่บอกว่ายังปลดไม่ได้มันอันตรายทนอีกนิดนะ เค้าก็ทนกันจนถึง และทริปนี้เราได้รู้ว่าเด็กเค้าได้เรียนรู้และเก็บประสบการณ์ชีวิตได้จากการเที่ยว เพราะตอนขึ้นเขาลูกชายร้องขอลูกอมเพราะเกิดอาการหู้อื้อ เราเลยถามว่ารู้ได้ไงว่าอมลูกอมแล้วจะหาย เค้าตอบว่าเค้าจำได้ว่าตอนไปขึ้นเครื่องบินปีก่อนเค้าหูอื้อแล้วแม่ให้อมลูกอมแล้วมันหาย 
ถ้าเรามีเวลาพาลูกๆออกไปเที่ยวกันเถอะค่ะ เพราะการพาลูกเที่ยวมันสร้างประสบการณ์ชีวิต และความทรงจำที่ดีๆให้กับลูกๆของเราอย่างมากมาย

ครั้งหน้าถ้าบ้านเราไปเที่ยวที่ไหนมา จะมารีวิวมาให้ดูดกันนะคะ
ขอบคุณนะคะที่ติดตามกันจนจบ