จริงอยู่ว่าบทละครเรื่องนี้ไม่ได้สมบูรณ์แบบไปซะทุกฉากทุกตอน
เอาจริงๆก็คือมีช่องโหว่อยู่พอสมควรโดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการแพทย์
แต่เราคิดว่าในส่วนของอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครนั้น บทในส่วนนี้แน่นมากนะคะ
และทีมงานก็ใส่รายละเอียดเล็กๆน้อยๆมากมายที่ทำให้เรารู้สึกคล้อยตามไปกับเหตุผลและอารมณ์ของตัวละครได้
(แม้จะแอบเคืองนิดหน่อยที่เวอร์ชั่นไทยมีหลายๆตอนที่ตัดต่อเพื่อเรียกกระแสจนไปกระทบกับสารที่ตั้งใจไว้แต่เดิม)
แต่เพราะกระแสแบ่งทีมที่มาแรงมากในช่วงโค้งสุดท้ายของละคร ทำให้บทสรุปของละครโดนหลายคนด่าเละ ^^"
เลยอยากตั้งกระทู้เพื่อเป็นพื้นที่เล็กๆส่งข้อความถึงทีมงานว่า เราชอบผลงานของคุณมากนะคะ
เราเห็นถึงความตั้งใจและเข้าใจในรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่คุณใส่มาตลอดเรื่องเพื่อชี้ไปสู่บทสรุปนี้มาตั้งแต่แรก
ถ้ามองในมุมหนึ่ง รักฉุดใจนายฉุกเฉินก็คือเรื่องราวความรักของเป้งและทานตะวันหลังจากคบกันได้ 15 ปี
แต่อีกด้านหนึ่งนั้น รักฉุดใจนายฉุกเฉินก็คือเรื่องราวการเริ่มต้นความรักของทานตะวันและฉลามด้วยเช่นกัน
และเอาจริงๆคือตามสูตรละครรักแบบไทยๆเป๊ะเลยนะ เจอกันตอนแรกไม่ชอบหน้ากัน ฝ่ายหนึ่งมีคนรักอยู่ก่อนแล้ว
เถียงกันไปมาแต่มีสถานการณ์และจังหวะนรกต่างๆดึงให้สองคนเข้ามาผูกพันกันมากขึ้น ความสัมพันธ์เริ่มก่อตัว
แล้วก็มีเหตุให้เข้าใจผิด มีแฟนเก่าเข้ามาพัวพัน มีอุปสรรค มีเหตุสะเทือนอารมณ์แรงๆจนตัวละครเกิดการเรียนรู้
สุดท้ายก็เข้าใจและลงเอยกันได้ ว่ากันตรงๆนี่ก็คือพล็อตคลาสสิคของละครรักที่มีมาทุกยุคทุกสมัยนั่นแหละ
แต่ละครเลือกใช้รักเก่าที่มีปัญหาของนางเอกมาเป็นตัวเปรียบเทียบรักครั้งใหม่ของทานตะวันและฉลามไปพร้อมๆกัน
และตัวละครที่เป็นรักเก่าของนางเอก(หมอเป้ง)แม้จะมีข้อเสียในฐานะคนรัก แต่ก็ไม่ใช่ตัวละครสีดำจัดอย่างแฟนคนเก่าในละครเรื่องอื่นๆ
ต่อให้รักกันมากแค่ไหน สุดท้ายวันนึงก็ต้องจากกันอยู่ดี
เป็นประโยคที่ทานตะวันพูดในตอนเปิดเรื่องที่เล่าถึงพ่อแม่ตัวเอง และพูดในตอนสุดท้ายเพื่อปลอบทั้งไทและฉลาม
แต่สารสำคัญของเรื่องจริงๆอยู่ที่ประโยคต่อจากนั้นที่ทานตะวันพูดกับฉลามในงานศพเต่า
เราไม่รู้หรอกว่าเราจะจากกันเมื่อไหร่ ฉะนั้นใช้เวลาที่มีอยู่ทำเพื่อคนที่เรารักให้ดีที่สุด จะได้ไม่ต้องเสียใจเมื่อวันที่ต้องจากกัน
เราเคยสงสัยว่าทำไมทานตะวันที่เจอพ่อกับแม่ฆ่าตัวตายต่อหน้า เคยเสียใจขนาดที่กระโดดหน้าผาจะตายตามในตอนนั้น
ทำไม 15 ปีผ่านไปถึงได้กลายมาเป็นผู้หญิงที่ล้นจนเกินเบอร์ ส่งพลังบวกออกมาได้ไม่จำกัดจนบางทีก็น่ารำคาญขนาดนี้
แต่มาเข้าใจการตีความคาแรกเตอร์ทานตะวันเอาชัดๆก็ในงานศพเต่า ว่าทานตะวันเอาการเสียชิวิตก่อนเวลาของพ่อแม่มาเป็นบทเรียน
เลยทุ่มเทเวลาทุ่มเททุกอย่างให้เป้ง พยายามอยากจะสร้างเวลาดีๆกับเป้ง เพื่อที่วันที่ต้องจากกันจะได้ไม่เสียดายพราะทำเต็มที่แล้ว
ตอนเลิกกับเป้งเลยสามารถมูฟออนไปจีบฉลามได้ทันทีที่รู้ว่าเป้งจีบบะหมี่ เพราะรู้ว่าที่ผ่านมาตัวเองทำดีที่สุดแล้ว ไม่มีอะไรต้องเสียใจ
ในส่วนของความรักของทานตะวันกับเป้ง ประโยคนี้คือสารที่ทีมงานต้องการจะสื่อ ทำให้ดีที่สุดในทุกๆวัน อย่ารอจนสายเกินไปและเอากลับมาไม่ได้
ที่เต่าต้องตาย ก็เพื่อเป็นบทเรียนให้ทุกตัวละครด้วย อย่างที่ฉลามบอกในงานศพ ถ้าเป็นผมที่นอนอยู่ในโลง สิ่งที่ผมจะเสียดายที่สุดคือเรื่องของพี่
ในวันที่ฉลามมีโอกาสกลับเลือกที่จะหนี ไม่พยายามทำในสิ่งที่ต้องการให้ถึงที่สุด ถ้าวันนั้นให้ดอกไม้ไปซะ เรื่องรักๆเราสามคนก็จบไปตั้งแต่ ep12 แล้ว
เพราะแม้ในวันที่ทานตะวันรู้แล้วว่าเป้งรับผิดแทนและจริงๆแล้วเป้งรักทานตะวันมาตลอด ตอนนั้นทานตะวันก็ยังเลือกฉลามแบบไม่ลังเลสักนิด
ขนาดฉลามไม่มาช่วยตอนตกหน้าผา ก็ยังเชื่อในฉลาม ยังรักยังเลือกฉลาม จนมาเห็นรูปที่ตัวเองวาดให้ฉลามขาดนั่นแหละ ถึงได้พยายามตัดใจ
คิดว่าในตอนนั้น ทานตะวันก็คงรู้สึกว่ายังใช้เวลาดีๆด้วยกัน ยังทุ่มเททำอะไรให้กันได้ไม่มากพอ ถึงยังเสียดายและยังนึกถึงฉลามอยู่ตลอด
ต่างจากตอนเป้งบอกเลิกนะ ที่ทานตะวันคือโอเค เลิกก็เลิก ที่กลับไปหาอีกคือไปถามเรื่องอุบัติเหตุว่ามันเกิดอะไรกันแน่
ถึงตอนดู ep15 ทีแรกเราจะคิดว่านาดาวโหดไปนะที่ให้เต่าตาย แต่หลังจาก ep16 ฉากคุยกันในงานศพ ก็ทำให้คิดว่า เออ เต่าต้องตายแหละ
ตัวละครไท ฉลามและทิวเขาถึงจะได้บทเรียนที่เจ็บแสบจริงๆ และยังเป็นการบอกใบ้สื่อไปถึงการไม่ถูกเลือกของเป้งในตอนท้ายด้วย
อย่ารอให้สายเกินไปที่จะทำเพื่อคนที่เรารัก เพราะบางสิ่งเราเอามันกลับมาไม่ได้ ซึ่งถ้าเป้งได้ทานตะวันคืนในตอนจบ สารตรงนี้มันก็จะไม่แรงพอ
เก็บตกรักฉุดใจนายฉุกเฉิน - ความละเอียดของละครถึงความรักของทานตะวันกับฉลาม
เอาจริงๆก็คือมีช่องโหว่อยู่พอสมควรโดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการแพทย์
แต่เราคิดว่าในส่วนของอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครนั้น บทในส่วนนี้แน่นมากนะคะ
และทีมงานก็ใส่รายละเอียดเล็กๆน้อยๆมากมายที่ทำให้เรารู้สึกคล้อยตามไปกับเหตุผลและอารมณ์ของตัวละครได้
(แม้จะแอบเคืองนิดหน่อยที่เวอร์ชั่นไทยมีหลายๆตอนที่ตัดต่อเพื่อเรียกกระแสจนไปกระทบกับสารที่ตั้งใจไว้แต่เดิม)
แต่เพราะกระแสแบ่งทีมที่มาแรงมากในช่วงโค้งสุดท้ายของละคร ทำให้บทสรุปของละครโดนหลายคนด่าเละ ^^"
เลยอยากตั้งกระทู้เพื่อเป็นพื้นที่เล็กๆส่งข้อความถึงทีมงานว่า เราชอบผลงานของคุณมากนะคะ
เราเห็นถึงความตั้งใจและเข้าใจในรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่คุณใส่มาตลอดเรื่องเพื่อชี้ไปสู่บทสรุปนี้มาตั้งแต่แรก
ถ้ามองในมุมหนึ่ง รักฉุดใจนายฉุกเฉินก็คือเรื่องราวความรักของเป้งและทานตะวันหลังจากคบกันได้ 15 ปี
แต่อีกด้านหนึ่งนั้น รักฉุดใจนายฉุกเฉินก็คือเรื่องราวการเริ่มต้นความรักของทานตะวันและฉลามด้วยเช่นกัน
และเอาจริงๆคือตามสูตรละครรักแบบไทยๆเป๊ะเลยนะ เจอกันตอนแรกไม่ชอบหน้ากัน ฝ่ายหนึ่งมีคนรักอยู่ก่อนแล้ว
เถียงกันไปมาแต่มีสถานการณ์และจังหวะนรกต่างๆดึงให้สองคนเข้ามาผูกพันกันมากขึ้น ความสัมพันธ์เริ่มก่อตัว
แล้วก็มีเหตุให้เข้าใจผิด มีแฟนเก่าเข้ามาพัวพัน มีอุปสรรค มีเหตุสะเทือนอารมณ์แรงๆจนตัวละครเกิดการเรียนรู้
สุดท้ายก็เข้าใจและลงเอยกันได้ ว่ากันตรงๆนี่ก็คือพล็อตคลาสสิคของละครรักที่มีมาทุกยุคทุกสมัยนั่นแหละ
แต่ละครเลือกใช้รักเก่าที่มีปัญหาของนางเอกมาเป็นตัวเปรียบเทียบรักครั้งใหม่ของทานตะวันและฉลามไปพร้อมๆกัน
และตัวละครที่เป็นรักเก่าของนางเอก(หมอเป้ง)แม้จะมีข้อเสียในฐานะคนรัก แต่ก็ไม่ใช่ตัวละครสีดำจัดอย่างแฟนคนเก่าในละครเรื่องอื่นๆ
ต่อให้รักกันมากแค่ไหน สุดท้ายวันนึงก็ต้องจากกันอยู่ดี
เป็นประโยคที่ทานตะวันพูดในตอนเปิดเรื่องที่เล่าถึงพ่อแม่ตัวเอง และพูดในตอนสุดท้ายเพื่อปลอบทั้งไทและฉลาม
แต่สารสำคัญของเรื่องจริงๆอยู่ที่ประโยคต่อจากนั้นที่ทานตะวันพูดกับฉลามในงานศพเต่า
เราไม่รู้หรอกว่าเราจะจากกันเมื่อไหร่ ฉะนั้นใช้เวลาที่มีอยู่ทำเพื่อคนที่เรารักให้ดีที่สุด จะได้ไม่ต้องเสียใจเมื่อวันที่ต้องจากกัน
เราเคยสงสัยว่าทำไมทานตะวันที่เจอพ่อกับแม่ฆ่าตัวตายต่อหน้า เคยเสียใจขนาดที่กระโดดหน้าผาจะตายตามในตอนนั้น
ทำไม 15 ปีผ่านไปถึงได้กลายมาเป็นผู้หญิงที่ล้นจนเกินเบอร์ ส่งพลังบวกออกมาได้ไม่จำกัดจนบางทีก็น่ารำคาญขนาดนี้
แต่มาเข้าใจการตีความคาแรกเตอร์ทานตะวันเอาชัดๆก็ในงานศพเต่า ว่าทานตะวันเอาการเสียชิวิตก่อนเวลาของพ่อแม่มาเป็นบทเรียน
เลยทุ่มเทเวลาทุ่มเททุกอย่างให้เป้ง พยายามอยากจะสร้างเวลาดีๆกับเป้ง เพื่อที่วันที่ต้องจากกันจะได้ไม่เสียดายพราะทำเต็มที่แล้ว
ตอนเลิกกับเป้งเลยสามารถมูฟออนไปจีบฉลามได้ทันทีที่รู้ว่าเป้งจีบบะหมี่ เพราะรู้ว่าที่ผ่านมาตัวเองทำดีที่สุดแล้ว ไม่มีอะไรต้องเสียใจ
ในส่วนของความรักของทานตะวันกับเป้ง ประโยคนี้คือสารที่ทีมงานต้องการจะสื่อ ทำให้ดีที่สุดในทุกๆวัน อย่ารอจนสายเกินไปและเอากลับมาไม่ได้
ที่เต่าต้องตาย ก็เพื่อเป็นบทเรียนให้ทุกตัวละครด้วย อย่างที่ฉลามบอกในงานศพ ถ้าเป็นผมที่นอนอยู่ในโลง สิ่งที่ผมจะเสียดายที่สุดคือเรื่องของพี่
ในวันที่ฉลามมีโอกาสกลับเลือกที่จะหนี ไม่พยายามทำในสิ่งที่ต้องการให้ถึงที่สุด ถ้าวันนั้นให้ดอกไม้ไปซะ เรื่องรักๆเราสามคนก็จบไปตั้งแต่ ep12 แล้ว
เพราะแม้ในวันที่ทานตะวันรู้แล้วว่าเป้งรับผิดแทนและจริงๆแล้วเป้งรักทานตะวันมาตลอด ตอนนั้นทานตะวันก็ยังเลือกฉลามแบบไม่ลังเลสักนิด
ขนาดฉลามไม่มาช่วยตอนตกหน้าผา ก็ยังเชื่อในฉลาม ยังรักยังเลือกฉลาม จนมาเห็นรูปที่ตัวเองวาดให้ฉลามขาดนั่นแหละ ถึงได้พยายามตัดใจ
คิดว่าในตอนนั้น ทานตะวันก็คงรู้สึกว่ายังใช้เวลาดีๆด้วยกัน ยังทุ่มเททำอะไรให้กันได้ไม่มากพอ ถึงยังเสียดายและยังนึกถึงฉลามอยู่ตลอด
ต่างจากตอนเป้งบอกเลิกนะ ที่ทานตะวันคือโอเค เลิกก็เลิก ที่กลับไปหาอีกคือไปถามเรื่องอุบัติเหตุว่ามันเกิดอะไรกันแน่
ถึงตอนดู ep15 ทีแรกเราจะคิดว่านาดาวโหดไปนะที่ให้เต่าตาย แต่หลังจาก ep16 ฉากคุยกันในงานศพ ก็ทำให้คิดว่า เออ เต่าต้องตายแหละ
ตัวละครไท ฉลามและทิวเขาถึงจะได้บทเรียนที่เจ็บแสบจริงๆ และยังเป็นการบอกใบ้สื่อไปถึงการไม่ถูกเลือกของเป้งในตอนท้ายด้วย
อย่ารอให้สายเกินไปที่จะทำเพื่อคนที่เรารัก เพราะบางสิ่งเราเอามันกลับมาไม่ได้ ซึ่งถ้าเป้งได้ทานตะวันคืนในตอนจบ สารตรงนี้มันก็จะไม่แรงพอ