พิธีรับโล่พระราชทาน รางวัลวรรณศิลป์อุชเชนี ครั้งที่ 3 “ที่ใดมีชีวิต ที่นั่นมีความหวัง”


พิธีรับโล่พระราชทาน รางวัลวรรณศิลป์อุชเชนี ครั้งที่ 3
“ที่ใดมีชีวิต ที่นั่นมีความหวัง” 

 
พิธีรับโล่พระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี รางวัลวรรณกรรม “วรรณศิลป์อุชเชนี” ครั้งที่ 3 “ที่ใดมีชีวิต ที่นั่นมีความหวัง” โดยพลอากาศเอกชลิต พุกผาสุข องคมนตรี เป็นประธานในพิธี 
            
รางวัลวรรณกรรม “วรรณศิลป์อุชเชนี” คัดสรรและพิจารณาผลงานเขียนที่มีเนื้อหาและลักษณะตามเกณฑ์ที่กำหนดที่มีผู้ส่งผลงานเข้าประกวดจากทั่วประเทศ เพื่อพิจารณาตัดสินมอบรางวัลแก่นักเขียนที่มีคุณภาพดี แบ่งงานเขียนเป็น 2 ประเภท คือ ประเภทกลอนสุภาพ และประเภทความเรียง โดยมีกลุ่มผู้เข้าประกวดเป็นระดับนักเรียน และระดับประชาชน การจัดประกวดในปีนี้ ยังเป็นวาระพิเศษในโอกาสที่พุทธศักราช 2562 นี้เป็นวาระ 100 ปี ชาตกาล “อุชเชนี” หรืออาจารย์ประคิณ ชุมสาย ณ อยุธยา ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ (กวีนิพนธ์) คณะกรรมการรางวัลวรรณศิลป์อุชเชนี จึงจัดกิจกรรมเพื่อรำลึกถึงนักเขียนผู้สร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้ที่รักงานวรรณศิลป์อีกด้วย
 

การแสดงบทเพลง "น้ำจากพระทัย” “ภูหนาว” “อุชเชนี กวีผู้เป็นแรงบันดาลใจ” โดยนักขับร้องโรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์ ร่วมกับวง East wind Chorus นักศึกษามหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล


คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล  ประธานคณะกรรมการอำนวยการ การประกวดวรรณกรรม “วรรณศิลป์อุชเชนี” “100 ปี ชาตกาลอุชเชนี กวีของกวีที่เรารัก” กล่าวว่า รางวัลวรรณกรรม “วรรณศิลป์อุชเชนี” ก่อตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกในปีพุทธศักราช 2560 โดยสื่อมวลชนคาทอลิกประเทศไทย ร่วมกับสภาการศึกษาคาทอลิกแห่งประเทศไทย คณะภคินีเซนต์ปอล เดอ ชาร์ตร กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม และสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้
 
- เพื่อรำลึกถึง “อุชเชนี” อาจารย์ประคิณ ชุมสาย ณ อยุธยา ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ (กวีนิพนธ์) พ.ศ. 2536 และในปีนี้เป็นโอกาสอันสำคัญด้วยเป็นวาระครบรอบ “100 ปี ชาตกาลอุชเชนี กวีของกวีที่เรารัก”  
 
- เพื่อส่งเสริมและสืบสานการใช้ภาษาไทยที่สละสลวย โดยส่งเสริมและชักชวนให้คนไทย โดยเฉพาะเยาวชนไทย หันมาสนใจงานวรรณศิลป์มากขึ้น
 

กล่าวรายงานรางวัลวรรณกรรม “วรรณศิลป์อุชเชนี”  โดยคุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


พลอากาศเอกชลิต พุกผาสุข องคมนตรี
 
พลอากาศเอกชลิต พุกผาสุข องคมนตรี เป็นประธานในพิธี กล่าวเปิดงานรับโล่พระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี รางวัลวรรณกรรม “วรรณศิลป์อุชเชนี” ครั้งที่ 3 “ที่ใดมีชีวิต ที่นั่นมีความหวัง” เมื่อวันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม 2562 ณ โรงแรมอโนมาแกรนด์ ราชประสงค์
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


รางวัลวรรณกรรม “วรรณศิลป์อุชเชนี” ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานโล่รางวัลให้แก่ผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ 
 
ในปีนี้มีผู้ส่งผลงานเข้าประกวดจากทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 511 ผลงาน คณะกรรมการได้คัดเลือก และพิจารณาตัดสินรางวัลแก่ผลงานโดดเด่นตามหลักเกณฑ์  เนื่องด้วยในปีนี้เป็นวาระครบรอบ “100 ปี ชาตกาลอุชเชนี กวีของกวีที่เรารัก” ได้มีพิธีมิสซารำลึกถึงดวงวิญญาณของอุชเชนี ณ อาสนวิหารอัสสัมชัญ เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2562 ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันเกิดของอุชเชนี โดยมีมุขนายกฟรังซิสเซเวียร์ วีระ อาภรณ์รัตน์ ประมุขสังฆมณฑลเชียงใหม่ เป็นประธาน รวมทั้งจัดกิจกรรมการอ่านบทกวี และการเสวนาหัวข้อ “100 ปีชาตกาลอุชเชนี” โดยศิลปินแห่งชาติ ณ โรงเรียนอัสัมชัญ บางรัก ด้วย
 
ต่อมาในวันที่ 7 กันยายน ได้มีกิจกรรมสนทนา “กวีของกวีที่เรารัก” โดยศิลปินแห่งชาติ  และผู้ที่ได้เคยสัมผัสกับความเป็นศิลปินด้านวรรณศิลป์ของอุชเชนี ณ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ซึ่งอุชเชนีได้สำเร็จการศึกษาและได้ปฏิบัติหน้าที่เป็นอาจารย์สอนวิชาภาษาฝรั่งเศส และภาษาอังกฤษอยู่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง 
 
นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมสัญจรไปยังโรงเรียนลาซาลโชติรวีนครสวรรค์ และโรงเรียนสตรีมารดาพิทักษ์ จันทบุรี  และจัดกิจกรรมให้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3-6 และครูภาษาไทยของโรงเรียน ในโอกาสนี้ ได้มอบชุดหนังสือผลงานอุชเชนีแก่ห้องสมุดของโรงเรียนด้วย
 
 
การเสวนา “100 ปี ชาตกาล อุชเชนี กวีของกวีที่เรารัก” โดยเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์, อดุล จันทรศักดิ์, ชมัยภร บางคมบาง, บาทหลวงอนุชา ไชยเดช และ ณรงค์ฤทธิ์ ยงจินดารัตน์ (ปะการัง) ดำเนินรายการ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


เออเชนี ประคิณ ชุมสาย ณ อยุธยา หรือที่รู้จักในนามปากกา “อุชเชนี” เกิดเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2462 สำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาจากโรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนเวนต์ ระดับอุดมศึกษาจากคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จากนั้นได้รับทุนไปศึกษาต่อทางวรรณกรรมที่มหาวิทยาลัยซอร์บอนน์ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และกลับมาเป็นอาจารย์ประจำคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นอกจากนี้ ยังเป็นนักประพันธ์ที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ในแวดวงวรรณกรรม แม้จำนวนไม่มากนักแต่ทรงคุณค่า และโดดเด่นทางด้านวรรณศิลป์อย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นกวีนิพนธ์ เช่น “ขอบฟ้าขลิบทอง” “ดาวผ่องนภาดิน” ในนามปากกา “อุชเชนี” หรือความเรียงร้อยแก้ว “เพียงแค่เม็ดทราย” ในนามปากกา “นิด นรารักษ์” สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ประกาศเกียรติคุณยกย่องให้เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ (กวีนิพนธ์) พร้อมกับเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ในพุทธศักราช 2536

อาจารย์ประคิณ ชุมสาย ณ อยุธยา ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2559 สิริอายุ 97 ปี ได้รับพระราชทานดินปลงศพ ณ สุสานโรมันคาทอลิกศานติคาม จังหวัดนครปฐม ต่อมาในปี พ.ศ. 2560 สื่อมวลชนคาทอลิกประเทศไทย สภาการศึกษาคาทอลิกแห่งประเทศไทย คณะภคินีเซนต์ ปอล เดอ ชาร์ตร กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม และสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย ร่วมกันจัดการประกวดวรรณกรรม “วรรณศิลป์อุชเชนี” เพื่อสืบสานและพัฒนาการใช้ภาษาไทย รวมถึงส่งเสริมเยาวชนให้สนใจในงานวรรณศิลป์ โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานโล่รางวัลชนะเลิศในทุกประเภท 

ผลการตัดสินดังต่อไปนี้
 
กลอนสุภาพ ระดับนักเรียน
 
1.  ศรินยานันท์   จันทร์รุ่ง                         
ชนะเลิศรางวัลกลอนสุภาพ ระดับนักเรียน
ผลงาน “วันใหม่ใต้แสงตะวัน”


2. ประภาส  เศษมา                          
รางวัลชมเชย
ผลงาน “ความหวังสู่ฝั่งฝัน” 


3. ปิยวัฒน์    วงค์แก้วเมือง                  
รางวัลชมเชย
ผลงาน “ในสายตาที่เห็นความทุกข์”


กลอนสุภาพ ระดับประชาชน
 
1. ปาลิตา    ผลประดับเพ็ชร์              
ชนะเลิศรางวัลกลอนสุภาพ ระดับประชาชน
ผลงาน “จนกว่าชีวิตจะนิทรา”


2. เสฏฐ์     บุญวิริยะ                       
รางวัลชมเชย
ผลงาน “นัยชีวิต”


3. อัษฎาวุธ    ไชยวรรณ                       
รางวัลชมเชย
ผลงาน “เรือ”


ถ่ายภาพหมู่ผู้รับรางวัลและคณะกรรมการประเภทกลอนสุภาพ

อาจารย์เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประธานกรรมการตัดสินรางวัลวรรณกรรม “วรรณศิลป์อุชเชนี” ครั้งที่ 3 “ที่ใดมีชีวิต ที่นั่นมีความหวัง” ประเภทกลอนสุภาพ กล่าวถึงภาพรวมของการประกวดในประเภทกลอนสุภาพ และพิธีมอบรางวัลวรรณกรรม “วรรณศิลป์อุชเชนี” ครั้งที่ 3 ประเภทกลอนสุภาพ โดยพลอากาศเอกชลิต พุกผาสุข องคมนตรี
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

คุณศรินยานันท์ จันทร์รุ่ง อ่านบทกวี “วันใหม่ใต้แสงตะวัน” ที่ชนะเลิศการประกวดรางวัลวรรณกรรม “วรรณศิลป์อุชเชนี” ครั้งที่ 3 “ที่ใดมีชีวิต ที่นั่นมีความหวัง” ประเภทกลอนสุภาพ ระดับนักเรียน
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


คุณปาลิตา ผลประดับเพ็ชร์ อ่านบทกวี “จนกว่าชีวิตจะนิทรา” ที่ชนะเลิศการประกวดรางวัลวรรณกรรม “วรรณศิลป์อุชเชนี” ครั้งที่ 3 “ที่ใดมีชีวิต ที่นั่นมีความหวัง” ประเภทกลอนสุภาพ ระดับประชาชน
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ความเรียง ระดับนักเรียน
 
1.ส้ม                                                     
ชนะเลิศรางวัลความเรียง ระดับนักเรียน
ผลงาน “ดอกหญ้าพลัดถิ่น” 

         
2. พรภัทร   อมรโมฬี                        
รางวัลชมเชย
ผลงาน “ก้อนหินของความหวัง”


3. มินตา   สังฤทธิ์                          
รางวัลชมเชย
ผลงาน “ความหวังคือพลังของชีวิต”
(ไม่ได้มารับรางวัลด้วยตัวเอง)

ความเรียง ระดับประชาชน
 
1. พิณพิพัฒน   ศรีทวี                              
ชนะเลิศความเรียง ระดับประชาชน
ผลงาน “ผีเสื้ออัปลักษณ์ ดักแด้ และแม่ของเรา”


2. รติธรณ   ใจห้าว                           
รางวัลชมเชย
ผลงาน “รอย (ค่ำคืนที่ปะกาฮะรัง)”

3. สายฝน  ตรีณาวงษ์                     
รางวัลชมเชย
ผลงาน “บทสนทนาของชีวิตและความหวัง”
ถ่ายภาพหมู่ผู้รับรางวัลและคณะกรรมการประเภทความเรียง

อาจารย์ชมัยภร แสงกระจ่าง ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประธานกรรมการตัดสินรางวัลวรรณกรรม “วรรณศิลป์อุชเชนี” ครั้งที่ 3 “ที่ใดมีชีวิต ที่นั่นมีความหวัง” ประเภทความเรียง
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


[/left
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่