.
.
เรือดำน้ำ USS Tang เล่นออกจากท่าเรือ
Mare Island Navy Yard รัฐ California
ธันวาคม 1943 Photo credit: U.S. Navy
.
.
ในช่วงระยะเวลาสงครามโลกครั้งที่ 2
เรือดำน้ำสหรัฐอเมริกาต่างเผชิญหน้ากับ
ปัญหาจากตอร์ปิโดหลายรูปแบบ
เช่น การระเบิดก่อนเวลาที่กำหนด
มาตรวัดความลึกที่ไม่ถูกต้อง
(ทำให้แรงระเบิดอัดเรือดำน้ำ
หรือยิงไม่ถูกเป้าหมายทึ่ต้องการ)
แต่เรื่องที่เป็นปัญหาท้าทายมากที่สุด คือ
แนวโน้มที่ตอร์ปิโดจะวิ่งวนรอบเรือดำน้ำ
โดยเรียกอาการนี้ว่า การวิ่งแบบวงกลม
ตอร์ปิโดในยุคแรก ๆ เวลายิงออกมาแล้ว
จะวิ่งเป็นแนวตรงเหมือนกระสุน
ที่ยิงออกมาจากปากกระบอกปืน
แต่ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20
ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 จะเกิดขึ้นมา
ตอร์ปิโดก็ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่
ให้มีความสามารถในการยิง
ด้วยการแก้ไขเส้นทางยิง
ให้ยิงสู่เป้าหมายที่ต้องการโจมตีได้
แม้ว่าจะยิงจากทิศทางที่แตกต่างกัน
มุมการแก้ไขนี้เรียกว่า
Gyroscope ของตอร์ปิโด
จะถูกตั้งค่าโดยอัตโนมัติ
ในขณะที่ตอร์ปิโดยังอยู่ในท่อ
หลังจากที่ตอร์ปิโดถูกยิงออกมาแล้ว
ตอร์ปิโดจะเดินทางไปในระยะทางสั้น ๆ
จากนั้นกลไกภายในจะหมุนพวงมาลัยตอร์ปิโด
ที่ใช้บังคับหางเสือลูกตอ์ปิโด
ก็จะเริ่มหมุนหลังจากหมุนถึงรอบที่ตั้งค่าไว้แล้ว
ตอร์ปิโดก็จะพุ่งตรงไปยังเป้าหมายที่โจมตี
แนวการคำนวณ
https://bit.ly/2Wn2Vp7
.
.
.
การคำนวณการยิงตอร์ปิโดที่ซับซ้อน
Credit Ziggle / Wikimedia Common
.
.
ปัญหาของตอร์ปิโดยุคสงครามโลกครั้งที่ 2
คือ พวงมาลัยบังคับหางเสือตอร์ปิโด
จะไม่หมุนไม่หยุดตามที่ตั้งเป้าหมายไว้
จากนั้นตอร์ปิโดมักวิ่งกลับมาที่เรือดำน้ำ
ที่เพิ่งจะยิงตอร์ปิโดออกไป
มีเอกสารรายงานเรื่องนี้อย่างน้อย 30 กรณี
ที่ตอร์ปิโดยิงออกไปแล้วหมุนเป็นรูปวงกลม
จากกองเรือดำน้ำของสหรัฐฯ
ที่แล่นเรือออกไปจะจมเรือข้าศึก
ในช่วงทำสงครามโลกครั้งที่ 2
มีถึง 2 ครั้งที่ทำให้ลูกเรือในเรือดำน้ำตาย
ข้อมูลเพิ่มเติม
https://bit.ly/2Pr4am4
ในวันที่ 29 กรกฎาคม 1944
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
เรือดำน้ำ
USS Tullibee จมลง
โดยมีผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียว
กลายเป็นเรือดำน้ำอเมริกันลำแรก
ที่จมลงด้วยตอร์ปิโดของเรือตนเอง
เพราะที่ผ่านมามีแต่เรือลำอื่น ๆ
ที่จมลงด้วยตอร์ปิโดของเรือดำน้ำ
เรื่องราวที่น่าทึ่งอีกอย่าง
ของเรือดำน้ำ USS Tang
คือ เป็นเรือดำน้ำอเมริกัน
ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด
ในช่วงเวลาสั้น ๆ ที่ประจำการเพียง 2 เดือน
เรือดำน้ำ USS Tang จมเรือศัตรูลงถึง 33 ลำ
คิดเป็นระวางบรรทุกรวมกว่า 100,000 ตัน
.
.
.
USS Tullibee (SS-284)
off the coast of Mare Island California
.
.
.
.
.
เรือดำน้ำ USS Tang อยู่ในลำดับที่ 5
และปฏิบัติการครั้งสุดท้ายคือ การลาดตระเวน
โดยมุ่งหน้าสู่ช่องแคบ Formosa Strait
หรือ ช่องแคบไต้หวันในทะเลจีนใต้
ในคืนวันที่ 23 ตุลาคม 1944
เรือดำน้ำ USS Tang พบขบวนเรือศัตรูชุดใหญ่
ประกอบด้วยเรือบรรทุกน้ำมัน 3 ลำ
เรือบรรทุกสินค้า 1 ลำ เรือพิฆาต 1 ลำ
และมีกลาสีเรือทำการคุ้มกันเรือเหล่านี้อย่างดี
เรือดำน้ำ USS Tang จึงแล่นตัดเข้ากลางวง
แล้วเริ่มยิงตอร์ปิโดครั้งแรก
ไปที่เรือพิฆาต ตามด้วยเรือบรรทุกน้ำมัน
เป้าหมายที่ทำการโจมตีประสบความสำเร็จ
เรือศัตรูทั้งหมดต่างถูกเผาไหม้/จมลง
ในคืนถัดไปวันที่ 24 ตุลาคม 1944
เรือดำน้ำ USS Tang ก็พบขบวนเรือ มี
เรือบรรทุกน้ำมันขนาดใหญ่ของญี่ปุ่น
ที่มีเครื่องบินอยู่บนดาดฟ้าเรือ
และมีการขนส่งด้วยเครื่องบินขนส่งสินค้า
เรือบรรทุกสินค้า เรือพิฆาต
และยังมีเรือคุ้มกันจำนวนหนึ่ง
เรือดำน้ำ USS Tang จึงเริ่มยิงตอร์ปิโด
ไปที่ขบวนเรือด้วยความเร็วเต็มพิกัด
เพื่อทำลายเรือพิฆาต
เรือคุ้มกัน 2 ลำและเรือลำอื่น ๆ
ผลการยิงครั้งแรกได้ผล
ในการทำลายเป้าหมายที่ต้องการรวม 13 ลำ
Richard O'Kane ผู้บัญชาการ
เรือดำน้ำ USS Tang ได้หันไปมองรอบ ๆ
แล้วมุ่งหน้าจะไปโจมตีเรืออีกลำ
เรือที่แล่นอยู่เพียงลำพังลำเดียวให้จบ ๆ ไป
ในตอนนี้ เรือดำน้ำ USS Tang
เหลือตอร์ปิโด 2 ลูกสุดท้ายจากที่มี 24 ลูก
ที่ระยะยิง 900 หลา
มีการยิงตอร์ปิโดที่เหลืออยู่ 2 ลูก
จากเรือดำน้ำ USS Tang
ลูกแรกวิ่งอย่างรวดเร็ว
ไปตรง ๆ ที่เป้าหมายเรือศัตรู
แต่ตอร์ปิโดลูกสุดท้ายกลับทำงานผิดปกติ
มันวิ่งโค้งไปทางซ้ายอย่างรวดเร็ว
แล้ววิ่งวนไปรอบ ๆ เป็นวงกลม
สุดท้ายก็วิ่งเข้าใส่ท้ายเรือดำน้ำ USS Tang
Clayton Oliver Decker
หนึ่งในผู้รอดชีวิต ได้ให้สัมภาษณ์ว่า
" ตอนนั้น ผมอยู่บนสะพานจึงรอดชีวิต
ตอร์ปิโดลูกสุดท้ายวิ่งออกมา
จากท่อไปประมาณ 300 หลา
จากนั้นก็วิ่งขึ้นมาทะยานเหนือน้ำทะะล
แล้วหล่นลงไปในน้ำทะเลอีกครั้ง
โดยหางเสือที่บังคับทิศทาง
ยังแข็งขืนอยู่(ไม่หมุนตาม)
ทำให้มันวิ่งวนไปรอบ ๆ เรือดำน้ำของเรา
และตอปิโดร์ได้โจมตีที่หน้าห้องบรรจุตอร์ปิโด
แล้วจมเรือเราลงทันทีตรงด้านท้ายเรือ
.
.
.
สภาพเรือดำน้ำ USS Tang จมลง
@ United States Navy, Bureau of Ships
.
.
แรงระเบิดรุนแรงอย่างมาก
จนลูกเรือทุกคนคล้ายถูกฟาด
ด้วยกำแพงเหล็กแผ่นยักษ์
ส่วนผนังเรือ/สะพานเรือก็พังทลายลงมาก่อน
ลูกเรือหลายคนหลังหัก/คอหักตายคาที่
เรือดำน้ำดิ่งลงไปใต้ท้องทะเล
ที่ 180 ฟุต (54.8 เมตร)
ส่วนลูกเรือหลายคนต่างไปออกัน
ที่ห้องยิงตอร์ปิโดด้านหน้า
โดยมุ่งหมายและตั้งใจว่า
จะใช้เป็นช่องทางหลบหนีออกไปข้างนอก
เพื่อป้องกันไม่ให้ความลับทางทหาร
ตกไปอยู่ในมือของศัตรูทหารญี่ปุ่น
พวกลูกเรือจึงพยายามทำลายเอกสารทั้งหมด
ทันใดนั้น เรือดำน้ำก็เริ่มจมลงในความลึก
ทำให้แสงสว่างไฟฉุกเฉินด้านหน้าเริ่มทำงาน
มีลูกเรือ 13 คนพยายามจะหลบหนี
ออกจากห้องยิงตอร์ปิโด
ต่างตะเกียดตะกายหาทางออก
เพื่อว่ายขึ้นไปด้านบนพื้นผิวน้ำทะเล
แต่เมื่อถึงเวลานั้น ไฟที่ลุกไหม้
ได้ทำให้ทางออกร้อนแรงมาก
สีทาเรือแถวผนังกั้นภายในเรือหลอมละลาย
และไหลยัอยลงมา ยิ่งเป็นอันตราย
มีลูกเรือเพียง 5 คนจาก 13 คน
ที่มาถึงพื้นผิวน้ำทะเล
และ 5 คนนี้ที่ได้รับการช่วยเหลือ
พร้อมกับ ลูกเรืออีก 4 คน
ที่หลบหนีออกจากสะพานเรือ
ก่อนที่เรือดำน้ำจะจมลง
ลูกเรือทั้งหมดได้รับการช่วยเหลือ
หลังจากเรือดำน้ำจมลงแล้ว 8 ชั่วโมง
ลูกเรืออีก 78 คนหายสาบสูญไป
พร้อมกับเรือดำน้ำที่จมลง "
ดังรายชื่อ
https://bit.ly/31MEmTS
เรือดำน้ำ USS Tang
ยิงตอร์ปิโดไปทั้งหมด 22 ลูก
และพบหมายเลขตอร์ปิโด
ที่ทำลายเรือข้าศึกถึง 13 ลำที่จมลงไป
2 ลูกสุดท้าย ลูกแรกพลาดเป้า
แต่ลูกสุดท้ายจมเรือตนเอง
Richard O'Kane ผู้บัญชาการเรือดำน้ำ
คือ หนึ่งในผู้รอดชีวิต
ท่านได้รับรางวัลเหรียญเกียรติยศ
Medal of Honor
เรือดำน้ำ USS Tang เคยได้รับรางวัล
Presidential Unit Citation (PUC) 2 ครั้ง
และยังได้รับรางวัลยุทธการรบยอดเยี่ยม
Battle Stars 4 ครั้ง
.
เรียบเรียง/ที่มา/u]
https://bit.ly/2WqEOpJ
https://bit.ly/32VwOzk
https://bit.ly/3364wCg
.
เรือดำน้ำสหรัฐอเมริกาจมลงด้วยตอร์ปิโดของเรือตนเอง
.
เรือดำน้ำ USS Tang เล่นออกจากท่าเรือ
Mare Island Navy Yard รัฐ California
ธันวาคม 1943 Photo credit: U.S. Navy
.
ในช่วงระยะเวลาสงครามโลกครั้งที่ 2
เรือดำน้ำสหรัฐอเมริกาต่างเผชิญหน้ากับ
ปัญหาจากตอร์ปิโดหลายรูปแบบ
เช่น การระเบิดก่อนเวลาที่กำหนด
มาตรวัดความลึกที่ไม่ถูกต้อง
(ทำให้แรงระเบิดอัดเรือดำน้ำ
หรือยิงไม่ถูกเป้าหมายทึ่ต้องการ)
แต่เรื่องที่เป็นปัญหาท้าทายมากที่สุด คือ
แนวโน้มที่ตอร์ปิโดจะวิ่งวนรอบเรือดำน้ำ
โดยเรียกอาการนี้ว่า การวิ่งแบบวงกลม
ตอร์ปิโดในยุคแรก ๆ เวลายิงออกมาแล้ว
จะวิ่งเป็นแนวตรงเหมือนกระสุน
ที่ยิงออกมาจากปากกระบอกปืน
แต่ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20
ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 จะเกิดขึ้นมา
ตอร์ปิโดก็ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่
ให้มีความสามารถในการยิง
ด้วยการแก้ไขเส้นทางยิง
ให้ยิงสู่เป้าหมายที่ต้องการโจมตีได้
แม้ว่าจะยิงจากทิศทางที่แตกต่างกัน
มุมการแก้ไขนี้เรียกว่า Gyroscope ของตอร์ปิโด
จะถูกตั้งค่าโดยอัตโนมัติ
ในขณะที่ตอร์ปิโดยังอยู่ในท่อ
หลังจากที่ตอร์ปิโดถูกยิงออกมาแล้ว
ตอร์ปิโดจะเดินทางไปในระยะทางสั้น ๆ
จากนั้นกลไกภายในจะหมุนพวงมาลัยตอร์ปิโด
ที่ใช้บังคับหางเสือลูกตอ์ปิโด
ก็จะเริ่มหมุนหลังจากหมุนถึงรอบที่ตั้งค่าไว้แล้ว
ตอร์ปิโดก็จะพุ่งตรงไปยังเป้าหมายที่โจมตี
แนวการคำนวณ https://bit.ly/2Wn2Vp7
.
.
การคำนวณการยิงตอร์ปิโดที่ซับซ้อน
Credit Ziggle / Wikimedia Common
.
ปัญหาของตอร์ปิโดยุคสงครามโลกครั้งที่ 2
คือ พวงมาลัยบังคับหางเสือตอร์ปิโด
จะไม่หมุนไม่หยุดตามที่ตั้งเป้าหมายไว้
จากนั้นตอร์ปิโดมักวิ่งกลับมาที่เรือดำน้ำ
ที่เพิ่งจะยิงตอร์ปิโดออกไป
มีเอกสารรายงานเรื่องนี้อย่างน้อย 30 กรณี
ที่ตอร์ปิโดยิงออกไปแล้วหมุนเป็นรูปวงกลม
จากกองเรือดำน้ำของสหรัฐฯ
ที่แล่นเรือออกไปจะจมเรือข้าศึก
ในช่วงทำสงครามโลกครั้งที่ 2
มีถึง 2 ครั้งที่ทำให้ลูกเรือในเรือดำน้ำตาย
ข้อมูลเพิ่มเติม https://bit.ly/2Pr4am4
ในวันที่ 29 กรกฎาคม 1944
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
เรือดำน้ำ USS Tullibee จมลง
โดยมีผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียว
กลายเป็นเรือดำน้ำอเมริกันลำแรก
ที่จมลงด้วยตอร์ปิโดของเรือตนเอง
เพราะที่ผ่านมามีแต่เรือลำอื่น ๆ
ที่จมลงด้วยตอร์ปิโดของเรือดำน้ำ
เรื่องราวที่น่าทึ่งอีกอย่าง
ของเรือดำน้ำ USS Tang
คือ เป็นเรือดำน้ำอเมริกัน
ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด
ในช่วงเวลาสั้น ๆ ที่ประจำการเพียง 2 เดือน
เรือดำน้ำ USS Tang จมเรือศัตรูลงถึง 33 ลำ
คิดเป็นระวางบรรทุกรวมกว่า 100,000 ตัน
.
.
USS Tullibee (SS-284)
off the coast of Mare Island California
.
.
.
.
เรือดำน้ำ USS Tang อยู่ในลำดับที่ 5
และปฏิบัติการครั้งสุดท้ายคือ การลาดตระเวน
โดยมุ่งหน้าสู่ช่องแคบ Formosa Strait
หรือ ช่องแคบไต้หวันในทะเลจีนใต้
ในคืนวันที่ 23 ตุลาคม 1944
เรือดำน้ำ USS Tang พบขบวนเรือศัตรูชุดใหญ่
ประกอบด้วยเรือบรรทุกน้ำมัน 3 ลำ
เรือบรรทุกสินค้า 1 ลำ เรือพิฆาต 1 ลำ
และมีกลาสีเรือทำการคุ้มกันเรือเหล่านี้อย่างดี
เรือดำน้ำ USS Tang จึงแล่นตัดเข้ากลางวง
แล้วเริ่มยิงตอร์ปิโดครั้งแรก
ไปที่เรือพิฆาต ตามด้วยเรือบรรทุกน้ำมัน
เป้าหมายที่ทำการโจมตีประสบความสำเร็จ
เรือศัตรูทั้งหมดต่างถูกเผาไหม้/จมลง
ในคืนถัดไปวันที่ 24 ตุลาคม 1944
เรือดำน้ำ USS Tang ก็พบขบวนเรือ มี
เรือบรรทุกน้ำมันขนาดใหญ่ของญี่ปุ่น
ที่มีเครื่องบินอยู่บนดาดฟ้าเรือ
และมีการขนส่งด้วยเครื่องบินขนส่งสินค้า
เรือบรรทุกสินค้า เรือพิฆาต
และยังมีเรือคุ้มกันจำนวนหนึ่ง
เรือดำน้ำ USS Tang จึงเริ่มยิงตอร์ปิโด
ไปที่ขบวนเรือด้วยความเร็วเต็มพิกัด
เพื่อทำลายเรือพิฆาต
เรือคุ้มกัน 2 ลำและเรือลำอื่น ๆ
ผลการยิงครั้งแรกได้ผล
ในการทำลายเป้าหมายที่ต้องการรวม 13 ลำ
Richard O'Kane ผู้บัญชาการ
เรือดำน้ำ USS Tang ได้หันไปมองรอบ ๆ
แล้วมุ่งหน้าจะไปโจมตีเรืออีกลำ
เรือที่แล่นอยู่เพียงลำพังลำเดียวให้จบ ๆ ไป
ในตอนนี้ เรือดำน้ำ USS Tang
เหลือตอร์ปิโด 2 ลูกสุดท้ายจากที่มี 24 ลูก
ที่ระยะยิง 900 หลา
มีการยิงตอร์ปิโดที่เหลืออยู่ 2 ลูก
จากเรือดำน้ำ USS Tang
ลูกแรกวิ่งอย่างรวดเร็ว
ไปตรง ๆ ที่เป้าหมายเรือศัตรู
แต่ตอร์ปิโดลูกสุดท้ายกลับทำงานผิดปกติ
มันวิ่งโค้งไปทางซ้ายอย่างรวดเร็ว
แล้ววิ่งวนไปรอบ ๆ เป็นวงกลม
สุดท้ายก็วิ่งเข้าใส่ท้ายเรือดำน้ำ USS Tang
Clayton Oliver Decker
หนึ่งในผู้รอดชีวิต ได้ให้สัมภาษณ์ว่า
" ตอนนั้น ผมอยู่บนสะพานจึงรอดชีวิต
ตอร์ปิโดลูกสุดท้ายวิ่งออกมา
จากท่อไปประมาณ 300 หลา
จากนั้นก็วิ่งขึ้นมาทะยานเหนือน้ำทะะล
แล้วหล่นลงไปในน้ำทะเลอีกครั้ง
โดยหางเสือที่บังคับทิศทาง
ยังแข็งขืนอยู่(ไม่หมุนตาม)
ทำให้มันวิ่งวนไปรอบ ๆ เรือดำน้ำของเรา
และตอปิโดร์ได้โจมตีที่หน้าห้องบรรจุตอร์ปิโด
แล้วจมเรือเราลงทันทีตรงด้านท้ายเรือ
.
.
สภาพเรือดำน้ำ USS Tang จมลง
@ United States Navy, Bureau of Ships
.
แรงระเบิดรุนแรงอย่างมาก
จนลูกเรือทุกคนคล้ายถูกฟาด
ด้วยกำแพงเหล็กแผ่นยักษ์
ส่วนผนังเรือ/สะพานเรือก็พังทลายลงมาก่อน
ลูกเรือหลายคนหลังหัก/คอหักตายคาที่
เรือดำน้ำดิ่งลงไปใต้ท้องทะเล
ที่ 180 ฟุต (54.8 เมตร)
ส่วนลูกเรือหลายคนต่างไปออกัน
ที่ห้องยิงตอร์ปิโดด้านหน้า
โดยมุ่งหมายและตั้งใจว่า
จะใช้เป็นช่องทางหลบหนีออกไปข้างนอก
เพื่อป้องกันไม่ให้ความลับทางทหาร
ตกไปอยู่ในมือของศัตรูทหารญี่ปุ่น
พวกลูกเรือจึงพยายามทำลายเอกสารทั้งหมด
ทันใดนั้น เรือดำน้ำก็เริ่มจมลงในความลึก
ทำให้แสงสว่างไฟฉุกเฉินด้านหน้าเริ่มทำงาน
มีลูกเรือ 13 คนพยายามจะหลบหนี
ออกจากห้องยิงตอร์ปิโด
ต่างตะเกียดตะกายหาทางออก
เพื่อว่ายขึ้นไปด้านบนพื้นผิวน้ำทะเล
แต่เมื่อถึงเวลานั้น ไฟที่ลุกไหม้
ได้ทำให้ทางออกร้อนแรงมาก
สีทาเรือแถวผนังกั้นภายในเรือหลอมละลาย
และไหลยัอยลงมา ยิ่งเป็นอันตราย
มีลูกเรือเพียง 5 คนจาก 13 คน
ที่มาถึงพื้นผิวน้ำทะเล
และ 5 คนนี้ที่ได้รับการช่วยเหลือ
พร้อมกับ ลูกเรืออีก 4 คน
ที่หลบหนีออกจากสะพานเรือ
ก่อนที่เรือดำน้ำจะจมลง
ลูกเรือทั้งหมดได้รับการช่วยเหลือ
หลังจากเรือดำน้ำจมลงแล้ว 8 ชั่วโมง
ลูกเรืออีก 78 คนหายสาบสูญไป
พร้อมกับเรือดำน้ำที่จมลง "
ดังรายชื่อ https://bit.ly/31MEmTS
เรือดำน้ำ USS Tang
ยิงตอร์ปิโดไปทั้งหมด 22 ลูก
และพบหมายเลขตอร์ปิโด
ที่ทำลายเรือข้าศึกถึง 13 ลำที่จมลงไป
2 ลูกสุดท้าย ลูกแรกพลาดเป้า
แต่ลูกสุดท้ายจมเรือตนเอง
Richard O'Kane ผู้บัญชาการเรือดำน้ำ
คือ หนึ่งในผู้รอดชีวิต
ท่านได้รับรางวัลเหรียญเกียรติยศ
Medal of Honor
เรือดำน้ำ USS Tang เคยได้รับรางวัล
Presidential Unit Citation (PUC) 2 ครั้ง
และยังได้รับรางวัลยุทธการรบยอดเยี่ยม
Battle Stars 4 ครั้ง
.
เรียบเรียง/ที่มา/u]
https://bit.ly/2WqEOpJ
https://bit.ly/32VwOzk
https://bit.ly/3364wCg
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ไขความลับการจมเรือดำน้ำรัฐฝ่ายใต้สหรัฐ 150 ปี
.
.
.
พบซากเรืออู (U-Boot) ยุคสงครามโลกครั้งที่ 1
.
.
.
นอร์เวย์ต้องฝังเรือดำน้ำนาซีเยอรมันเพื่อหยุดยั้งเชียร์โนบีลใต้น้ำ
.
.
.