เมื่อประมาณต้นเดือนดิฉันได้ทำการเช่ารถกับอู่แห่งหนึ่ง เสียค่าเช่ารถ 500+ค่าประกันรถ 3000 บาท ซึ่งอู่บอกว่าเป็นค่า Deduct ถ้ารถเกิดอุบัติเหตุแล้วเราเป็นฝ่ายผิด ทางอู่จะยึดเงินประกันเรา จากนั้นดิฉันขับไปแวะปั๊ม ก่อนออกจากปั๊มปรากฎว่ารถสตาร์ทไม่ติดจึงโทรบอกอู่ อู่จึงนำคันใหม่มาเปลี่ยนให้ ซึ่งรถไม่มีป้ายทะเบียนและคนที่นำรถมาเปลี่ยนไม่ได้แจ้งว่าประกันของอะไร ดิฉันก็ไม่ได้เอะใจเพราะเอกสารประกันอยู่ในลิ้นชักหน้ารถ ขากลับรถประสบอุบัติเหตุซึ่งดิฉันเป็นฝ่ายผิด จึงโทรแจ้งอู่ อู่ให้โทรแจ้งประกัน เมื่อดิฉันโทรแจ้งจึงทราบว่าประกันหมด สักพักเจ้าของอู่มาถึงที่เกิดเหตุและพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ประกันของคู่กรณี เจ้าของอู่ไกล่เกลี่ยกับทางประกันว่าไม่ต้องออกใบเคลม เพราะเจ้าหน้าที่ประกันคู่กรณีตีค่าเสียหายมา 12000 บาท เจ้าของอู่จึงบอกว่าจะขอรับผิดชอบโดยให้รถของคู่กรณีเข้าไปซ่อมที่อู่ซึ่งจะราคาถูกกว่า จากนั้นก็แยกย้ายกัน พอมาถึงอาทิตย์ที่แล้วรถคู่กรณีซ่อมเสร็จ อู่โทรมาเรียกค่าเสียหายทั้ง 2 คัน ทั้งคันที่เช่าและคันของคู่กรณี 20000 บาท โดยที่หักค่าประกันไปแล้ว 3000 บาท รวมเป็น 23000 บาท ดิฉันจึงต่อรองว่าคันของคู่กรณีรับผิดคนละครึ่งได้ไหมเพราะว่ารถของทางอู่ไม่มีประกันเอง ทางอู่จึงลดให้เหลือ 5000 บาท ส่วนคันของดิฉันทางอู่ไม่ได้ลดให้เพราะบอกว่าต้องเปลี่ยนประตู
ก็ได้พูดคุยและขอผ่อนผันค่าเสียหายกับทางอู่เรียบร้อย เสร็จแล้วดิฉันจึงลองปรึกษาเพื่อนและโทรสอบถามทนายอาสาว่าทำใมดิฉันต้องเป็นคนจ่ายทั้งๆที่รถของทางอู่ไม่มีประกันเอง เพราะถ้ารถมีประกันดิฉันก็จะจ่ายแค่ค่า Deduct 3000 บาท ในใจดิฉันพอได้คำตอบมาแล้ว ทีนี้อยากสอบถามเพื่อนๆที่พอรู้กฎหมายหรือเคยมีประสบการณ์แบบนี้ช่วยตอบทีค่ะ ว่าดิฉันจะต้องจ่ายส่วนที่อู่เรียกร้องมาหรือไม่คะ?
เช่ารถขับ ดันเจอคันที่ไม่มีประกัน
ก็ได้พูดคุยและขอผ่อนผันค่าเสียหายกับทางอู่เรียบร้อย เสร็จแล้วดิฉันจึงลองปรึกษาเพื่อนและโทรสอบถามทนายอาสาว่าทำใมดิฉันต้องเป็นคนจ่ายทั้งๆที่รถของทางอู่ไม่มีประกันเอง เพราะถ้ารถมีประกันดิฉันก็จะจ่ายแค่ค่า Deduct 3000 บาท ในใจดิฉันพอได้คำตอบมาแล้ว ทีนี้อยากสอบถามเพื่อนๆที่พอรู้กฎหมายหรือเคยมีประสบการณ์แบบนี้ช่วยตอบทีค่ะ ว่าดิฉันจะต้องจ่ายส่วนที่อู่เรียกร้องมาหรือไม่คะ?