กรณีแบบนี้ เข้าข่าย ฉ้อโกง หลอกลวง ผู้บริโภค รึเปล่าครับ

เรื่อง สมมุติ มีอยู่ว่า

โดย ปกติ มีบริษัทอยู่บริษัทนึง (แทนว่า บริษัท X) รับเป็นตัวกลาง ในการแปลงแต้มบัตรเครดิตเป็นเงิน โดย ให้อัตราการแปลง 1000 แต้มบัตรเครดิต = 130 บาท 
ต่อมา บริษัท X ได้มีแคมเปญ จับมือกับ บริษัท AA โดยให้เงื่อนไขว่า หากนำแต้มจากบริษัท AA มาทำการแลก จะได้ในอัตรา 2:1 ดังนั้น จึงมีคนมารีวิว การแลกเป็นแต้มจากบัตรเครดิต ไปที่ บริษัท AA ก่อน แล้วมาแลกเป็นเงินอีกที ซึ่งจะได้เยอะกว่า การแลกแต้มบัตรเครดิต เป็นเงินโดยตรง  โดยหากเทียบเป็นเงินแล้ว 1000 แต้มบัตรเครดิต จะได้เงินถึง 250 บาทเลยทีเดียว และแล้ว ก็มีคนมารีวิวการแลกแต้ม มาโชว์ยอดที่แลกมาแล้ว ว่าแลกได้จริงนะ มาแลกกันสิ ทำให้มีคนสนใจเป็นจำนวนมาก สั่งแลกแต้มจากบัตรเครดิตมาเป็น แต้ม บริษัท AA กันเพียบ ( การแลกแต้มบัตรเครดิต ใช้เวลา 3-7 วันทำการ กว่าแต้มจะเข้ามาเป็นแต้มของ บริษัท AA ) ต่อมา หลักจากเปิดให้ดำเนินการแลกได้ 4 วัน บริษัทก็ทำการปิดปรับปรุงระบบ และ มาแจ้งในภายหลังว่า ขอยุติการกิจกรรมการแลกทั้งหมด 

คำถามคือ 

มีคนที่แลกแต้มบัตรเครดิตไป เป็นแต้ม บริษัท AA เรียบร้อยแล้ว จำนวน หลายล้านแต้มบัตรเครดิต ทำให้เกิดความเสียหายเป็นมูลค่าหลายล้านบาท แต่บริษัท AA แจ้งว่ายกเลิกกิจกรรม อีกทั้ง แต้มของบริษัท AA ยังไม่สามารถนำไป ทำให้เกิดมูลค่าได้ตามที่ควรจะเป็น ดังนี้แล้ว ถือว่า บริษัท AAและ บริษัท X ร่วมกันหลอกลวงประชาชน หรือ ฉ้อโกงประชาชน ได้หรือไม่ครับ

ภายหลัง บริษัท AA ออกมาแจ้งรับเรื่องโดยให้กรอกเอกสารส่งไป โดยมีกรอบระยะเวลากำหนด ให้ส่งเรื่องได้ไม่เกิน 7 วัน แต่ จะใช้เวลาพิจารณา 14 วันทำการ เช่นนี้แล้ว เป็นการยื้อเวลาหรือไม่ แล้วถ้าท้ายที่สุด บริษัท AA ไม่ได้ทำตามเงื่อนไขที่ให้ไว้ หรือมีการตุกติกใด ๆ เช่นอ้างว่า เอกสารที่ส่งไปไม่สมบูรณ์ หรือ ไม่มีเอกสารส่งเข้าไป ( การส่งเอกสาร ส่งทาง ออนไลน์ ) แล้วอ้างว่า เกินเวลาที่กำหนดให้ยื่นแล้ว ไม่รับผิดชอบใด ๆ ทั้งสิ้น แบบนี้ เราจะทำการฟ้องร้อง บริษัท AA และ บริษัท X ในความเสียหายที่เกิดขึ้นได้หรือไม่

เคสแบบนี้ คล้าย ๆ แชร์ลูกโซ่ แบบพวก UTOKEN หรือ เคส ร้านอาหารที่หลอกให้คนซื้อวอชเชอร์ แล้วใช้ไม่ได้ รึเปล่าครับ สงสัยครับ

ขอบคุณมากครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่