รักฉุดใจนายฉุกเฉินบทป่วยจริงหรือ?

รักฉุดใจนายฉุกเฉิน




          สำหรับเราแล้ว  เราว่าบทละครเรื่องนี้ไม่ได้ป่วย  และประสบความสำเร็จมากด้วยซ้ำ  ที่สามารถทำให้คนไม่รู้จักกันโกรธกัน โมโหกัน ด่ากัน และแบ่งทีมกันได้  ในทวิตเตอร์เราจะเห็นว่ามีคนรักทั้งหมอเป้งและน้องหมอพอๆ กัน ที่สำคัญเรื่องนี้แจ้งเกิดเด็กใหม่ๆ หรือเด็กเก่าที่ยังไม่ได้เป็นที่รู้จักในวงกว้างหลายคน เช่น น้องสกาย น้องบิวกิ้น น้องปอนด์ น้องพีพี ถ้าเราเป็นทีมงานของเรื่องนี้เราคงยิ้มแก้มปริ



       ละครเรื่องนี้เราดูทั้งแบบสด และย้อนหลังหลายรอบมาก จนสามีบ่น แต่เราไม่เคยรู้สึกว่าเกลียดตัวละครตัวไหนเลย


ทั้งๆ ที่เราทีมหมอฉลาม แต่บางครั้งเราก็หมั่นใส้หมอฉลามอยากจะโบกสักที หรือบางครั้งก็เอาใจช่วยหรือสงสารหมอเป้ง เรามองว่าทุกตัวละครมีเหตุผลที่เข้าใจได้



        เป้งผิดมั้ย ผิด ... บางส่วน
        ทานตะวันผิดมั้ย ผิด ... บางส่วน
        ฉลามผิดมั้ย ก็ผิด ... บางส่วน



เราไม่เคยคิดว่าทานตะวันจะได้ลงเอยกับฉลาม เพราะคิดว่าตลอดว่ายังไงแล้วก็คงกลับไปหาเป้ง

ทีมฉลามอย่างเราเริ่มฟินและเริ่มหวังอยากให้ฉลามสมหวังกับทานตะวันก็ตอน EP ที่ไปเชียงใหม่หลังจากทานตะวันเลิกกับเป้งแล้ว และฟินที่สุดที่ฉากกินข้าวบนดาดฟ้า แบบเฮ้ย  ทำไมเคมีดีขนาดนี้ สกายคือหล่อออร่า สดใสมาก ใหม่เองถึงจะเป็นพี่สาวแต่ก็เข้ากันได้ดีมาก  วันนั้นดูไปจิกหมอนไป ฟินมาก


ท้ายที่สุดเมื่อเป็นฉลามที่ได้ลงเอยกับทานตะวันเราก็ดีใจมาก


เราเคยลองคิดเล่นๆ ว่าถ้าเราเป็นทานตะวันเราจะเลือกใคร ... ตอนนั้นเราสับสนเพราะดีทั้งคู่ ไม่สามารถตอบตัวเองได้



สำหรับแต่ละคน มีวิธีในการเลือกคนรักที่แตกต่างกัน
บางคนอาจใช้หัวใจเลือก...ให้หัวใจนำทาง
ในขณะที่บางคน...ใช้เหตุผล ... มองถึงอนาคต


ในกรณีของทานตะวันก็เช่นกัน นางเลือกแล้ว โดยใช้หัวใจ

แต่มันคงจะดีกว่า ถ้าการที่เราได้เลือกใครซักคน โดยใช้ทั้งเหตุผลและหัวใจ


บางคนอาจจะมองว่า ทานตะวันแย่ว่ะ  เลือกแบบนี้ได้ไง   แต่ถ้าคุณดูตั้งแต่แรก  ดูทุกตอนจริงๆ คุณจะเห็น
...ว่าระหว่างทานตะวันและเป้ง ทั้งคู่ไม่มีอะไรเหมือนกันเลย สองคนนี้ใช้ชีวิตอยู่บนความแตกต่างมาตั้ง 15 ปี


แรกๆ ที่คบกัน ตอนนั้นมันก็ไม่อะไรหรอก  แต่เมื่อเวลาผ่านไป อะไรที่บั่นทอนจิตใจซ้ำซากวนเวียน มันก็กลายเป็นว่าต้องใช้ความอดทนมาประคับประคองชีวิตรัก

คนทั้งคู่รักกันมาก แต่ก็ไม่ค่อยมีความสุขกับชีวิตแบบนี้  หมอเป้งก็อึดอัด ปวดหัวตลอดเวลาที่เรื่องงานมันมาล้ำเส้นเวลาชีวิตคู่

ทานตะวันก็เสียใจ น้อยใจซ้ำๆ กับเรื่องเดิมๆ ค่อยๆ บั่นทอนจิตใจลงเรื่อยๆ

หมอเป้งเป็นคนเคร่งขรึมจริงจัง แค่เดินชมดอกไม้ยังไม่ยอมทำเพราะมองเป็นเรื่องไร้สาระ เสียเวลา เวลาของเขาถ้าเอาไปดู E - leaening ยังจะสามารถนำความรู้มาช่วยชีวิตคนได้อีกมาก


ในขณะที่ทานตะวัน ชอบทำอะไรที่มันกุ๊กกิ๊กเติมความหวานให้ชีวิตคู่  

จริงๆ เราพูดถึงแค่นี้ก็พอจะมองออกแล้ว  ว่าคนทั้งคู่ต่างกัน  ถึงไม่มีหมอฉลามเข้ามา ก็ไม่แน่ว่าทานตะวันจะอดทนไปได้นานอีกเท่าไหร่  เพราะตอนนั้นเป้งไม่ได้คิดที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองเลย


แต่ขอย้ำว่าเป้งไม่ได้ผิดนะ แค่มุมมองของทั้งคู่มันต่างกัน


สำหรับเราสิ่งที่เป้งทำพลาดมากที่สุด คือ การที่ท้าเลิกถึง 2 ครั้ง เห็นมานักต่อนักแล้วคนที่ท้าเลิกกับแฟนแล้วต้องมานั่งฟูมฟายทีหลัง


คำๆ นี้มันสำคัญมาก  ถ้าไม่มั่นใจจริงๆ ไม่ควรหลุดออกมาจากปาก



           ทานตะวันในมุมมองของเราไม่ใช่ผู้หญิงที่เลวร้ายหรืองอมืองอเท้ารอแต่ความรัก  ในมุมมองผู้หญิงด้วยกันยังคิดว่านางเป็นคนที่เรียกร้องน้อยด้วยซ้ำ ถ้าแฟนอยู่ในเวลางานนางปล่อยหมดไม่ยุ่ง แต่เวลาส่วนตัวเล็กๆ น้อยๆ นอกเหนือจากนั้น นางก็อยากจะได้บ้าง ดังนั้นการที่นางน้อยอกน้อยใจมาตลอดนั้น มันไม่ได้มากมายเลย



สำหรับน้องหมอฉลาม  ฉลามเป็นคนที่ไม่ได้อยากเข้าไปอยู่ในความสัมพันธ์นี้ตั้งแต่แรก ถ้าไม่ได้เป็นเพราะเกิดมีพลังขึ้นมาโดยบังเอิญ  นางก็คงจะยังเป็นคนวงนอกต่อไป

ฉลามไม่ได้ปิ๊งทานตะวันตั้งแต่แรก  สิ่งที่ฉลามเห็น คือ ทานตะวันถูกทอดทิ้ง และเสียใจเพราะเป้งมามาก มันเลยกลายเป็นความเห็นอกเห็นใจและอ่อนไหวไปกับทานตะวันที่เข้ามาหา อีกทั้งตัวฉลามเองก็ไม่เคยมีความรัก  มันจึงยิ่งง่าย ที่จะเปิดใจ



เรานั่งคุยกับสามีเรื่องฉลาม  
สามีบอกว่า...ถ้าฉลามจะผิด ก็ผิดที่เป็นคนเฟรนด์ลี่ เข้าถึงตัวคนอื่นง่ายเกินไป ถึงไม่ได้คิดอะไรก็เถอะ แต่อาจทำให้คนอื่นหวั่นไหว

ซึ่งเขาหมายถึงวันแรกที่ฉลามกับทานตะวันเจอกัน ถ้าฉลามไม่ใช่คนที่อ่อนโยน ใส่ใจคนอื่นทุกคนมากเกินไป ไปเช็ดน้ำตาปลอบใจ ทานตะวันก็คงไม่รู้สึกดีด้วย


เราก็ว่าจริง  เราก็มีเพื่อนแบบนี้ในชีวิตจริงหลายคนมาก คนเหล่านั้นเป็นคนที่เข้าถึงเนื้อถึงตัวคนอื่นโดยที่ไม่คิดอะไร

แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น ฉลามเองก็ไม่ได้เจตนาที่จะแย่งมา ฉลามมารู้ตัวและตั้งใจชอบทานตะวันจริงๆ ตอนที่รู้ว่าเขาเลิกกันแล้ว สำหรับเราฉลามน่าสงสารด้วยซ้ำที่ถูกดึงเข้ามาในความสัมพันธ์นี้


ฉลามเป็นคนที่สดใส มองโลกในแง่ดี และบ้าๆ บอๆ คล้ายทานตะวัน ถึงจะเป็นหมอ แต่ก็ไม่ใช่สายฮาร์ดคอ ดังนั้นพอมาเจอกับทานตะวันมันเลยเหมือนจูนกันง่าย  


ถ้า 15 ปี มันคือเวลาที่นาน ... นั่นคือเวลาที่ทานตะวันให้โอกาสหมอเป้งมาโดยตลอดและทำหน้าที่แฟนอย่างเต็มที่  แต่ตั้ง 15 ปี ก็ไม่เกิดงอกดอกผลอะไร...

หากจะให้โอกาสได้เรียนรู้ฉลามตามใจตัวเองบ้าง
จึงไม่แปลกใจที่ทำไมทานตะวันเลือกฉลาม


ขอเพิ่มเติมตอนจบนิดนึง ... ที่ทานตะวันพูดว่า...รักหมอเป้งเสมอ เป้งยังเป็น ambulance สำหรับตัวนางและทุกๆ คน

สำหรับเราเข้าใจนางนะ (อีกละ)  คนที่เคยคบกัน 15 ปี และจากกันด้วยดี ถ้าไม่รักสิแปลก  มันคือความรัก ความผูกพันที่แน่นหนามากๆ เพียงแต่ความรักนั้นมันอาจจะปรับเปลี่ยนรูปแบบไปเป็นอย่างอื่น ไม่ใช่รักแบบพิศวาส เหมือนคนรัก แต่อาจจะเป็นรักแบบคนในครอบครัว เรามองว่าทานตะวันจัดเป้งไว้แบบคนสำคัญในครอบครัวแบบทิวเขานะ

จนแม้แต่ฉลาม ก็ควรต้องยอมรับ  เพราะที่เป็นอยู่คือดีมากๆ แล้ว



สำหรับเราซันนี่หรือหมอเป้งก็ยังคงเป็นพระเอกในสายตาเราเสมอ เพียงแต่ว่าอาจจะไม่ได้ลงเอยกับนางเอกเท่านั้นเอง  



ท้ายที่สุดนี้   อยากบอกทีมงานว่าละครเรื่องนี้เป็นละครที่สนุกมากๆ เรื่องนึงในชีวิตของเรา ทำให้เรากลับมาเล่นทวิตเตอร์อย่างเอาเป็นเอาตาย ทำให้เราที่ติดตามผลงานน้องสกายมานานถึงขั้นกดเข้ากลุ่มไลน์แฟนคลับ ทำให้เราทั้งดูสด และดูย้อนหลังวนไปมาหลายรอบจนจะจำได้ทุกบท เสียดายเหมือนกันที่ไม่รู้จะดูอะไรต่อดี มันคงเหงาๆ พิกล
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่