สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 22
อยากพูดหลายเรื่อง แต่จะเน้นแค่ประเด็นเดียวแล้วกันค่ะ
อยากเขียนตัวใหญ่ๆมากที่สุดให้คนอ่านชัดๆเยอะๆ
เพราะไม่ว่าจะทีมไหน มาลงที่ทานตะวันกันหมดเลยว่าว่างมาก ลอยไปลอยมา
ทานตะวันไม่ได้ว่างงาน
ทานตะวันไม่ได้ว่างงาน
ทานตะวันไม่ได้ว่างงาน
สิ่งที่ทานตะวันทำสมัยที่คบกับเป้ง งานที่ทานตะวันเรียกว่างานดูแลเป้งนั่นน่ะ
เรียกภาษาชาวบ้านแบบเราๆก็คือทานตะวันทำงานแม่บ้านค่ะ
เป็นแม่บ้านแบบหลายๆครอบครัวที่พ่อไปทำงานนอกบ้าน แล้วแม่ทำงานบ้านอยู่บ้าน
หรือแบบบางบ้านคนจีนที่แต่งสะใภ้เข้าไปให้ช่วยทำงานบ้าน (เป็นกระทู้ในชานเรือนบ่อยๆ)
ทานตะวันไม่ใช่ลูกคุณหนูเหมือนละครอื่นๆที่มีแม่บ้าน คนสวน คนครัว คนรถทำงานให้ครบทุกด้าน
แต่ไอ้งานพวกนี้ทานตะวันทำเองหมดค่ะ ลองมานั่งคิดสิว่าทานตะวันทำอะไรบ้าง
ตื่นเช้ามาน่าจะตั้งแต่ 6 โมงล่ะมั้ง เพราะต้องพร้อมที่จะปลุกเป้งตั้งแต่ 7 โมงแล้วขับรถไปรอที่หน้าห้องเก็บของ
บ้านก็ไม่ใช่เล็กๆ ก็ต้องทำความสะอาด ปัดกวาด ถูพื้น ล้างห้องน้ำ ล้างจาน ฯลฯ
นางทำเองแน่ๆ เพราะเป้งบอกเองว่าเห็นนางชอบทำความสะอาดมาก ถึงได้ซื้อเครื่องดูดฝุ่นให้
และถ้านางมีคนรับใช้อื่นๆอยู่ด้วย เป้งก็ไม่ต้องไปเรียกทิวเขาให้กลับมาอยู่เป็นเพื่อนให้เสียการเรียนหรอก
(ละครไม่ได้บอกว่าทิวเขาดรอป แต่ด้วยอายุน่าจะยังเรียนอยู่ และอยู่มา 7 เดือนแล้ว คงไม่ใช่แค่ปิดเทอมแน่ๆ)
บ้านใหญ่ขนาดนั้น ทำแบบสะอาดเรียบร้อยทั้งบ้านก็ปาเข้าไป 3-4 ชั่วโมงได้ แล้วนางก็ไปทำความสะอาดหอให้เป้งต่อด้วยนะ
ตีซะว่าหมดเวลาเกินครึ่งวันไปกับการทำความสะอาดล้วนๆทั้งบ้านที่ตัวเองอยู่และหอพักหมอของเป้ง
ถึงจะจ้างแม่บ้านมาทำ ก็น่าจะเป็นแม่บ้านชั่วคราวประเภทมาอาทิตย์ละครั้ง ซึ่งแต่ละวันนางก็ต้องทำงานบางอย่างเองอยู่ดี
แล้วนอกจากงานปัดกวาดเช็ดถู นางยังออกไปจ่ายตลาดซื้อกับข้าว ทำกับข้าวสามมื้อให้ตัวเองและส่งปิ่นโตให้เป้งอีก
นี่ยังมีงานจรจิปาถะต่างๆ เช่นตอนอาม่าเสีย ก็เอาเสื้อไปงานศพมาให้เปลี่ยนถึงที่ทำงาน ส่งพวงหรีดในชื่อหมอเป้งให้เรียบร้อย
งานช่างในบ้านนางก็น่าจะทำเอง อย่างตอนทำชั้นหนังสือให้เป้งอ่านสบายๆ นางก็เลื่อยไม้เอง มีโก๊ะๆนิดนึงตรงกาวติดมือแต่ก็ทำจนเสร็จ
หลายๆคนมองว่างานแม่บ้านของคนที่ดูแลงานบ้านตัวเองไม่ใช่งาน
ลองมองย้อนกลับไปมองคนที่บ้านที่ต้องเป็นคนทำงานบ้านตัวเองดูสิ ว่าเค้าเหนื่อยมั้ย วันๆเค้าว่างมากจนฟุ้งซ่านจริงเหรอ
แปลกมั้ยล่ะที่งานแบบเดียวกันถ้าจ้างคนอื่นทำ เรานับว่าไอ้กิจวัตรพวกนั้นมันนับว่าเป็นการทำงานของคนที่เราจ้าง
แต่ทำไมพอเรามาทำเองโดยไม่ได้เงินเดือน ถึงไม่นับว่าเป็น "งาน"ล่ะ ทั้งๆที่ก็ใช้เวลาทำไม่ต่างกัน
ถ้าจะนับคำว่างานคือสิ่งที่ทำแล้วได้เงินเท่านั้น โอเค สิ่งที่ทานตะวันทำอยู่ทุกวันให้เป้งมันไม่ใช่งานก็ได้
แต่ถ้าจะบอกว่าทานตะวันว่างมาก ไม่มีอะไรทำจนฟุ้งซ่าน ฯลฯ นี่เราเถียงขาดใจเลย ทานตะวันก็มีอะไรที่ต้องทำในแต่ละวันมากเหมือนกัน
นี่จริงๆเราคิดว่าที่ทานตะวันเลือกไม่ทำงานนอกบ้าน เลือกจะทำงานดูแลเป้งก็เพราะเป้ง
ทานตะวันเห็นเป้งทำงานหนัก เป้งเหนื่อย ก็เลยอยากจะช่วยดูแลทำงานบ้านส่วนตัวอะไรพวกนี้ให้เป้ง
ยิ่งพอแม่เป้งย้ายไปอยู่เชียงใหม่ ทานตะวันก็คงรับหน้าที่เป็นแม่บ้านของบ้านนี้แทนแม่เป้งด้วย
และเมื่อ"งาน"ของทานตะวันไม่ได้ผูกติดกับเวลางานทั่วไปหรือคนอื่นๆที่อาจจะเป็นลูกค้าหรือเจ้านาย
ทานตะวันเลยจะสามารถมีเวลาให้เป้งได้เสมอเมื่อไหร่ก็ตามที่เป้งพอจะมีเวลาเพียงน้อยนิดที่จะแบ่งมาให้ทานตะวัน
#ทีมทานตะวัน
อยากเขียนตัวใหญ่ๆมากที่สุดให้คนอ่านชัดๆเยอะๆ
เพราะไม่ว่าจะทีมไหน มาลงที่ทานตะวันกันหมดเลยว่าว่างมาก ลอยไปลอยมา
ทานตะวันไม่ได้ว่างงาน
ทานตะวันไม่ได้ว่างงาน
ทานตะวันไม่ได้ว่างงาน
สิ่งที่ทานตะวันทำสมัยที่คบกับเป้ง งานที่ทานตะวันเรียกว่างานดูแลเป้งนั่นน่ะ
เรียกภาษาชาวบ้านแบบเราๆก็คือทานตะวันทำงานแม่บ้านค่ะ
เป็นแม่บ้านแบบหลายๆครอบครัวที่พ่อไปทำงานนอกบ้าน แล้วแม่ทำงานบ้านอยู่บ้าน
หรือแบบบางบ้านคนจีนที่แต่งสะใภ้เข้าไปให้ช่วยทำงานบ้าน (เป็นกระทู้ในชานเรือนบ่อยๆ)
ทานตะวันไม่ใช่ลูกคุณหนูเหมือนละครอื่นๆที่มีแม่บ้าน คนสวน คนครัว คนรถทำงานให้ครบทุกด้าน
แต่ไอ้งานพวกนี้ทานตะวันทำเองหมดค่ะ ลองมานั่งคิดสิว่าทานตะวันทำอะไรบ้าง
ตื่นเช้ามาน่าจะตั้งแต่ 6 โมงล่ะมั้ง เพราะต้องพร้อมที่จะปลุกเป้งตั้งแต่ 7 โมงแล้วขับรถไปรอที่หน้าห้องเก็บของ
บ้านก็ไม่ใช่เล็กๆ ก็ต้องทำความสะอาด ปัดกวาด ถูพื้น ล้างห้องน้ำ ล้างจาน ฯลฯ
นางทำเองแน่ๆ เพราะเป้งบอกเองว่าเห็นนางชอบทำความสะอาดมาก ถึงได้ซื้อเครื่องดูดฝุ่นให้
และถ้านางมีคนรับใช้อื่นๆอยู่ด้วย เป้งก็ไม่ต้องไปเรียกทิวเขาให้กลับมาอยู่เป็นเพื่อนให้เสียการเรียนหรอก
(ละครไม่ได้บอกว่าทิวเขาดรอป แต่ด้วยอายุน่าจะยังเรียนอยู่ และอยู่มา 7 เดือนแล้ว คงไม่ใช่แค่ปิดเทอมแน่ๆ)
บ้านใหญ่ขนาดนั้น ทำแบบสะอาดเรียบร้อยทั้งบ้านก็ปาเข้าไป 3-4 ชั่วโมงได้ แล้วนางก็ไปทำความสะอาดหอให้เป้งต่อด้วยนะ
ตีซะว่าหมดเวลาเกินครึ่งวันไปกับการทำความสะอาดล้วนๆทั้งบ้านที่ตัวเองอยู่และหอพักหมอของเป้ง
ถึงจะจ้างแม่บ้านมาทำ ก็น่าจะเป็นแม่บ้านชั่วคราวประเภทมาอาทิตย์ละครั้ง ซึ่งแต่ละวันนางก็ต้องทำงานบางอย่างเองอยู่ดี
แล้วนอกจากงานปัดกวาดเช็ดถู นางยังออกไปจ่ายตลาดซื้อกับข้าว ทำกับข้าวสามมื้อให้ตัวเองและส่งปิ่นโตให้เป้งอีก
นี่ยังมีงานจรจิปาถะต่างๆ เช่นตอนอาม่าเสีย ก็เอาเสื้อไปงานศพมาให้เปลี่ยนถึงที่ทำงาน ส่งพวงหรีดในชื่อหมอเป้งให้เรียบร้อย
งานช่างในบ้านนางก็น่าจะทำเอง อย่างตอนทำชั้นหนังสือให้เป้งอ่านสบายๆ นางก็เลื่อยไม้เอง มีโก๊ะๆนิดนึงตรงกาวติดมือแต่ก็ทำจนเสร็จ
หลายๆคนมองว่างานแม่บ้านของคนที่ดูแลงานบ้านตัวเองไม่ใช่งาน
ลองมองย้อนกลับไปมองคนที่บ้านที่ต้องเป็นคนทำงานบ้านตัวเองดูสิ ว่าเค้าเหนื่อยมั้ย วันๆเค้าว่างมากจนฟุ้งซ่านจริงเหรอ
แปลกมั้ยล่ะที่งานแบบเดียวกันถ้าจ้างคนอื่นทำ เรานับว่าไอ้กิจวัตรพวกนั้นมันนับว่าเป็นการทำงานของคนที่เราจ้าง
แต่ทำไมพอเรามาทำเองโดยไม่ได้เงินเดือน ถึงไม่นับว่าเป็น "งาน"ล่ะ ทั้งๆที่ก็ใช้เวลาทำไม่ต่างกัน
ถ้าจะนับคำว่างานคือสิ่งที่ทำแล้วได้เงินเท่านั้น โอเค สิ่งที่ทานตะวันทำอยู่ทุกวันให้เป้งมันไม่ใช่งานก็ได้
แต่ถ้าจะบอกว่าทานตะวันว่างมาก ไม่มีอะไรทำจนฟุ้งซ่าน ฯลฯ นี่เราเถียงขาดใจเลย ทานตะวันก็มีอะไรที่ต้องทำในแต่ละวันมากเหมือนกัน
นี่จริงๆเราคิดว่าที่ทานตะวันเลือกไม่ทำงานนอกบ้าน เลือกจะทำงานดูแลเป้งก็เพราะเป้ง
ทานตะวันเห็นเป้งทำงานหนัก เป้งเหนื่อย ก็เลยอยากจะช่วยดูแลทำงานบ้านส่วนตัวอะไรพวกนี้ให้เป้ง
ยิ่งพอแม่เป้งย้ายไปอยู่เชียงใหม่ ทานตะวันก็คงรับหน้าที่เป็นแม่บ้านของบ้านนี้แทนแม่เป้งด้วย
และเมื่อ"งาน"ของทานตะวันไม่ได้ผูกติดกับเวลางานทั่วไปหรือคนอื่นๆที่อาจจะเป็นลูกค้าหรือเจ้านาย
ทานตะวันเลยจะสามารถมีเวลาให้เป้งได้เสมอเมื่อไหร่ก็ตามที่เป้งพอจะมีเวลาเพียงน้อยนิดที่จะแบ่งมาให้ทานตะวัน
#ทีมทานตะวัน
ความคิดเห็นที่ 19
เราไม่ใช่ทีมใครค่ะ เห็นหลายคนบอกว่าฉลามไม่ใช่มือที่สาม แต่ถ้าเอาจริงๆ ภาษากายและคำพูดของฉลามหลายๆตอน นั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเลย ทั้งเช็ดน้ำตาบ้าง ใส่หน้ากากบ้าง คำพูดว่า เรียกผมได้ตลอดเลยนะและอีกเยอะมากกกกกกกก แม้จะบอกว่าบริสุทธิ์ แต่ขอโทษเถอะ ไอคำนี้แหละ คนเลิกกันมานักต่อนักแล้ว แม้ ทตว จะชอบฉลามก่อน แต่ถ้าฉลามรู้จักวางตัวมากกว่านี้ ในเมื่อรู้ว่าผญเค้ามีใจ เราก็ควรจะมีระยะห่าง ไม่ใช่รู้ทั้งรู้ แต่ก็ยังเอาตัวไปเกี่ยวข้อง ทั้งแบบตั้งใจ และไม่ตั้งใจ มีเหรอ ผญไม่หวั่นไหว
ถามถึงคนที่บอกฉลามไม่ใช่มือที่สาม ถ้ามีคนมาทำแบบนี้กะแฟนคุณ แบบฉลามทำกับทตว คุณเรียกคนเหล่านั้นว่าอะไรเอ่ยย?? หรือบอกว่าพวกเขาเหล่านั้น บริสุทธิ์ใจ และตัวคุณไม่รู้สึกอะไร??
เราไม่ได้บอกว่า ทตว สมควรจะคู่กับคนไหน เพราะมันเป็นได้ทั้งนั้นแหละ ถ้านาดาวจะทำ แต่แค่พูดถึง การเข้ามาที่ไม่ถูกต้องของฉลามเฉยๆ แต่ไม่ได้เกลียดฉลามนะ
ถามถึงคนที่บอกฉลามไม่ใช่มือที่สาม ถ้ามีคนมาทำแบบนี้กะแฟนคุณ แบบฉลามทำกับทตว คุณเรียกคนเหล่านั้นว่าอะไรเอ่ยย?? หรือบอกว่าพวกเขาเหล่านั้น บริสุทธิ์ใจ และตัวคุณไม่รู้สึกอะไร??
เราไม่ได้บอกว่า ทตว สมควรจะคู่กับคนไหน เพราะมันเป็นได้ทั้งนั้นแหละ ถ้านาดาวจะทำ แต่แค่พูดถึง การเข้ามาที่ไม่ถูกต้องของฉลามเฉยๆ แต่ไม่ได้เกลียดฉลามนะ
ความคิดเห็นที่ 20
เราทีมหมอเป้งค่ะ เพราะเราเข้าใจความรู้สึกหมอเป้ง อินกับหมอเป้งมาก
ความรู้สึกส่วนตัวเรานะคะ ในส่วนของละคร ที่เราทีมหมอเป้ง เพราะ
1. เรารู้สึกว่า บทตัวละคร ไม่ยุติธรรมเท่าไหร่ เพราะเปิดตัวมา หมอเป้งมีแต่ซีนแย่ๆ จังหวะนรกมาก แต่ในขณะที่บทส่งให้ฉลามได้แต่ซีนดีๆ ได้ใจ จังหวะดีๆ มาแนวนี้ ยังไงก็ต้องเทไปทางฉลามอ่ะ แต่เราไม่ เพราะเราเข้าใจ เหตุผลในการกระทำของหมอเป้ง ซึ่งเรามองว่ามันเป็นเหตุผลที่ส่งต่อกันมาเรื่อยๆ อย่างฉากในวัยเด็กจะเห็นว่า หมอเป้งเป็นคนร่าเริง แจ่มใจ สนุกๆ ยิ้มเยอะมาก จนมามีจุดเปลี่ยน คือ วินิจฉัยคนไข้พลาด ทำคนไข้ตาย เพราะรีบไปหาทานตะวัน เรามองว่า นั่นทำให้หมอเป้ง กลายเป็นหมอที่ทุ่มเทให้กับคนไข้คนอื่นๆ เหมือนเรื่องนั้นกลายเป็นปมในใจไป หมอเป้งขยันอ่าน E-learning เพื่อให้ได้ความรู้ใหม่ๆ วิธีการรักษาแบบใหม่ๆ มารักษาคนไข้ (ตามใน EP ใดสักตอนที่ สอนฉลาม)
3. เราไม่ได้มองว่าเป้งมองทานตะวันเป็นของตาย แต่เราคิดว่า เขาวางใจเรื่องนี้ ว่าต่างคนต่างรักกันมาก ไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องนี้ได้ แต่เราไม่โอเคเลยตรงที่คำพูดของเป้ง บางทีมันไม่ถนอมน้ำใจ หรือรักษาน้ำใจคนรักเลย แต่เราก็คิดว่าเป้งรักและแคร์ทานตะวัน มากๆ ในแบบของเขาอ่ะ
ในส่วนของการวางแผนชีวิตคู่ เราคิดว่าเป้งอาจจะรู้สึกว่าตัวเองยังไม่พร้อมในหลายๆ อย่าง ไม่ใช่ว่าไม่อยากแต่งงาน มีลูกนะ แต่เหมือนเขารู้สึกว่า ตอนนี้เขายังไม่พร้อมพอ ที่จะดูแลทานตะวันให้ดีได้ อยากให้ทานตะวันมีความสุข มีชีวิตดีๆ
ในประเด็นที่เจ้าของกระทู้ว่ามา...
1. เราเห็นด้วยนะ ที่กลุ่มหมอๆ จะบอกว่าหมอเป้งนึกถึงทานตะวันตลอด ทานตะวันเรียกก็ทะลุมาหาก่อนตลอด ถึงจะมาหาแล้วบางทีพูดไม่ดีก็เถอะ 5555 อย่างน้อยที่ชัดเลย คือ ฉากวันลอยกระทง ก็ตั้งใจใส่ชุดไทยไปเซอร์ไพร์ส มีมุมกุ๊กกิ๊กๆ น่ารักๆ
ต่างจากฉลามในตอนล่าสุด ที่น่าจะแกล้งไม่ได้ยิน แล้วไม่ทะลุมา แม้ทานตะวันจะตายรอมร่อก็ตาม ถึงคนอื่นจะมองว่า เพราะฉลามรู้ว่าเป้งอยู่แถวนั้น แต่เรากลับคิดว่า ถ้าฉลามได้ยินและรู้ว่าเป้งอยู่แถวนั้น ก็ต้องได้ยินว่า เป้งลงไปหาทานตะวันไม่ได้ เพราะหน้าผาสูงมา ในขณะที่ ถ้าตัวเองทะลุมา ก็ถึงตัวทานตะวันเลย หรือควรรีบบอกทีมที่โรงพยาบาลให้เอารถออกไปเลย ไม่ใช่รอให้หมอเต่ามาบอก เราว่าฉากนี้ใจร้ายมากๆ
2. เรื่องว่าฉลามเป็นมือที่ 3 ประเด็นเรื่องทานตะวันไปชอบฉลาม หลังจากที่เลิกกับเป้งแล้ว เรามองว่า 2 คนนี้ คบกันมา 15 ปี มันคงมีทะเลาะ แล้วบอกเลิกกันแบบนี้มาหลายครั้ง ซึ่งพอต่างคนต่างแยกย้าย สงบสติ ก็กลับมาปรับคุยกันเหมือนเดิมมากกว่า แต่เราว่าทานตะวันชอบฉลามง่ายไปจริงๆ ต่อให้จะเพราะว่าทะเลาะกับเป้งมา แล้วแค่มาเจอคนปลอบใจแบบนี้ แล้วหวั่นไหว ถึงขนาดชอบเลย เราว่า ทานตะวัน move on ไวกว่าเป้ง ตอนที่จะไปคุยกับบะหมี่อีกนะ 5555 เพราะนี่คือชอบคนอื่นจนมีพลังทะลุมาได้ทั้งตัวขนาดนี้
ส่วนฉลาม เราว่าความรักฉลามเริ่มจากการเห็นใจทานตะวัน เพราะทะลุไปทีไรก็ตอนทานตะวันทะเลาะกับเป้งทุกที ได้ฟังความรู้สึกต่างๆ ของทานตะวัน ที่ทานตะวันไม่กล้าคุยกับเป้งตรงๆ อาจจะรู้สึกสงสารและอยากดูแล รวมไปถึงการที่จับพลัดจับผลูต้องไปรักษาทานตะวันตอนเล็กกระโดดสะพานลอย แล้วมือหายสั่น ล้างปมเรื่องนี้ไป ทำให้ตัวเองมั่นใจมากขึ้น เลยยิ่งรู้สึกมากขึ้น
3. ฉลามหนีเวร จนทำให้เป้งต้องไปรับเวรแทน เพราะ ฉลามเป็นน้องที่อยู่ในความดูแลของเป้ง แล้วฉลามก็ดันทะลุมา อันนี้ฉลามไม่ผิดหรอก เพราะตอนนั้นเขาไม่อยากทะลุมา แต่ที่เรามองว่ามันไม่โอเค คือ การที่ฉลามทะลุไปแต่ละครั้ง ก็เอาตัวเองไปใกล้ชิดทานตะวันมากเกินไป จริงอยู่ว่า ฉลามอาจทำแบบไม่ได้คิดอะไร เพราะฉลามก็ทำแบบนี้กับคนอื่น ในเรื่องที่คอยถามไถ่ ใครเป็นอะไร แต่ฉลามไม่ได้ใกล้ชิด ถึงเนื้อถึงตัวคนอื่น หรือแม้แต่บะหมี่ ก็ไม่ใกล้ชิดขนาดที่ใกล้ชิดทานตะวัน ซึ่งเป็นแฟนของรุ่นพี่ที่สนิท แล้วยังมีประเด็นที่ค้างคาใจกัน 3 คน ว่า ทานตะวันไปชอบฉลามได้ไง คือเรามองว่า ปกติ ถ้าเรารู้ว่า แฟนรุ่นพี่ที่เราสนิทและรัก มาแอบชอบเรา เราก็ควรจะไม่เอาตัวเองไปใกล้ชิดขนาดนั้น ออกห่างให้มากที่สุด แต่นี่อะไร ไปใกล้ชิด ไปอยู่ในห้อง 2 ต่อ 2 / ไปแก้ผ้าอาบน้ำบ้านเขา แถมยังเอาชุดเป้งมาใส่ ทั้งๆ ที่รู้ว่ามีประเด็นกันอยู่ ยิ่งถ้าถึงแม้เขาจะเลิกกัน แต่การที่เลิกกับหมอเป้ง แล้วไปคบฉลาม ทีทำงานด้วยกัน แบบนี้ทั้งทานตะวันและฉลามก็ไม่นึกถึงเป้งเลยนะ
มันเหมือนคิดง่ายๆ ว่า ถ้าแฟนเรา เลิกกับเรา แล้วไปคบเพื่อนสนิทเราอ่ะ เราไม่โอเคมากๆ แต่นี่หมอเป้งแทบไม่ว่าอะไรฉลามเลย
ส่วนที่บอกว่า หมอเป้งก็หนีเวร เพราะง้อไม่สำเร็จ เราว่าเพราะโมโห ที่แบบ ตัวเองทำแต่งาน จนไม่มีเวลาให้แฟน จนทะเลาะกัน แล้วแฟนไปรักคนอื่นมากกว่าอ่ะ เลยโมโห เทงานเลย 5555555 แต่ก็ไม่ได้เทงานในสถานการณ์ฉุกเฉินแบบฉลามอ่ะ
4. ฉากสะพานลอย ที่หมอเป้งให้เรียกฉลามมา เพราะ หมอเป้งรู้ว่าฉลามทะลุมาได้ไวที่สุด ณ ตอนนั้น ให้เอาเครื่องมือมา น่าจะมาไวกว่ารถไง ไม่ได้เรียกให้มาดูแลรักษาทานตะวัน เพราะก่อนรถจะออก หมอเป้งก็จะลงไปดูทานตะวันเอง แต่ไปไม่ได้ เพราะเคสเล็กหนักกว่า ณ ตอนนั้น ถ้าจะรักษาชีวิตแฟน ก็ต้องให้ฉลามไปอ่ะ แต่เราเคืองตรงที่ ฉลามไม่พูดเลยว่า หมอเป้งจะลงมาดู แต่มาไม่ได้ เพราะเล็กไม่ไหวแล้วอ่ะ มันน่าจะพูดสักนิด
5. ฉลามทำน้องขิมตาย ประเด็นนี้ไม่น่าเข้าใจผิดนะ ต่อให้ฉลามจะอยู่ในความดูแลของเป้ง แต่ฉลามก็ทำให้น้องขิมตายจริงๆ ฉลามผิดจริงๆ ไม่งั้นก็จะหลายเป็นว่า ไม่ว่าหมอเด็กจะทำผิดอะไร หมอที่ดูแลอยู่ต้องรับผิดแทนหมดเลยสิ หมอเป้งก็รับผิดที่ยังเทรนฉลามได้ไม่แม่นยำพอ ฉลามเองก็มือใหม่มากๆ แต่ในสถานการณ์นั้น ถ้ามีหมอคนอื่น หมอเป้งก็คงไม่ให้ฉลามลุยเดี่ยวหรอก แต่ประเมินฉชามพลาดไป แต่ผิดก็ต้องว่าไปตามผิด
6. ที่ว่า ร้องไห้เยอะๆ สมองมันก็เกร็ง... นี่ เราว่าหมอเป้งพูดขำๆ เพราะเห็นทานตะวันร้องไห้หนักมากจนปวดหัวมากกว่า ซีนนี้สำหรับ เราว่ามันตลกๆ น่ารักๆ ดี 5555
———————————
ในมุมของเรา ที่เราไม่ทีมฉลาม เพราะ
1. ในมุมมองเรา ฉลามกับบะหมี่ ก็ไม่ได้ต่างกันมาก แค่บะหมี่จะออกตัวแรง ตรงๆ พูดไปเลย แต่ฉลามมาแนวเนียนๆ คอยปลอบใจ ทำตัวใกล้ชิด แม้ในตอนแรกจะไม่ได้คิดอะไร แต่มันก็ไม่ควรจะใกล้ชิดกันมากขึ้นเรื่อยๆ ขนาดนี้ กับแฟนของรุ่นพี่ที่สนิท
2. ฉลามรู้หลายๆ อย่างว่าหมอเป้งเองก็รักและห่วงทานตะวัน แต่เวลาทานตะวันระบาย ฉลามไม่เคยบอกอะไรเลย มีแต่ที่บอกให้รู้สึกอะไรก็พูดไปเลย ตัวฉลามเองได้มาอยู่ห้องกับเป้ง เห็นของในห้อง หรือแม้แต่ตอนเรื่องเล็ก ก็รู้ว่า หมอเป้งจะมาหาทานตะวัน แต่ก็ไม่พูด แต่ทีตอนหมอเป้งให้ถุงมือบะหมี่ แค่นั้นก็บอกทานตะวันเชียว
3. เรามองว่า ที่หมอเป้งกับทานตะวัน มีปัญหากัน ส่วนหนึ่งมาจากฉลาม แล้วกลายมาเป็นปัญหาใหญ่จนเลิกกัน
4. ถ้าในบริบทอื่น เราก็ชอบนิสัยส่วนตัวของฉลามนะ ดูแล เทคแคร์ ใส่ใจดี
อันนี้มุมมองเราเน้ออออ คุยแลกเปลี่ยนกันจ้า
ความรู้สึกส่วนตัวเรานะคะ ในส่วนของละคร ที่เราทีมหมอเป้ง เพราะ
1. เรารู้สึกว่า บทตัวละคร ไม่ยุติธรรมเท่าไหร่ เพราะเปิดตัวมา หมอเป้งมีแต่ซีนแย่ๆ จังหวะนรกมาก แต่ในขณะที่บทส่งให้ฉลามได้แต่ซีนดีๆ ได้ใจ จังหวะดีๆ มาแนวนี้ ยังไงก็ต้องเทไปทางฉลามอ่ะ แต่เราไม่ เพราะเราเข้าใจ เหตุผลในการกระทำของหมอเป้ง ซึ่งเรามองว่ามันเป็นเหตุผลที่ส่งต่อกันมาเรื่อยๆ อย่างฉากในวัยเด็กจะเห็นว่า หมอเป้งเป็นคนร่าเริง แจ่มใจ สนุกๆ ยิ้มเยอะมาก จนมามีจุดเปลี่ยน คือ วินิจฉัยคนไข้พลาด ทำคนไข้ตาย เพราะรีบไปหาทานตะวัน เรามองว่า นั่นทำให้หมอเป้ง กลายเป็นหมอที่ทุ่มเทให้กับคนไข้คนอื่นๆ เหมือนเรื่องนั้นกลายเป็นปมในใจไป หมอเป้งขยันอ่าน E-learning เพื่อให้ได้ความรู้ใหม่ๆ วิธีการรักษาแบบใหม่ๆ มารักษาคนไข้ (ตามใน EP ใดสักตอนที่ สอนฉลาม)
3. เราไม่ได้มองว่าเป้งมองทานตะวันเป็นของตาย แต่เราคิดว่า เขาวางใจเรื่องนี้ ว่าต่างคนต่างรักกันมาก ไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องนี้ได้ แต่เราไม่โอเคเลยตรงที่คำพูดของเป้ง บางทีมันไม่ถนอมน้ำใจ หรือรักษาน้ำใจคนรักเลย แต่เราก็คิดว่าเป้งรักและแคร์ทานตะวัน มากๆ ในแบบของเขาอ่ะ
ในส่วนของการวางแผนชีวิตคู่ เราคิดว่าเป้งอาจจะรู้สึกว่าตัวเองยังไม่พร้อมในหลายๆ อย่าง ไม่ใช่ว่าไม่อยากแต่งงาน มีลูกนะ แต่เหมือนเขารู้สึกว่า ตอนนี้เขายังไม่พร้อมพอ ที่จะดูแลทานตะวันให้ดีได้ อยากให้ทานตะวันมีความสุข มีชีวิตดีๆ
ในประเด็นที่เจ้าของกระทู้ว่ามา...
1. เราเห็นด้วยนะ ที่กลุ่มหมอๆ จะบอกว่าหมอเป้งนึกถึงทานตะวันตลอด ทานตะวันเรียกก็ทะลุมาหาก่อนตลอด ถึงจะมาหาแล้วบางทีพูดไม่ดีก็เถอะ 5555 อย่างน้อยที่ชัดเลย คือ ฉากวันลอยกระทง ก็ตั้งใจใส่ชุดไทยไปเซอร์ไพร์ส มีมุมกุ๊กกิ๊กๆ น่ารักๆ
ต่างจากฉลามในตอนล่าสุด ที่น่าจะแกล้งไม่ได้ยิน แล้วไม่ทะลุมา แม้ทานตะวันจะตายรอมร่อก็ตาม ถึงคนอื่นจะมองว่า เพราะฉลามรู้ว่าเป้งอยู่แถวนั้น แต่เรากลับคิดว่า ถ้าฉลามได้ยินและรู้ว่าเป้งอยู่แถวนั้น ก็ต้องได้ยินว่า เป้งลงไปหาทานตะวันไม่ได้ เพราะหน้าผาสูงมา ในขณะที่ ถ้าตัวเองทะลุมา ก็ถึงตัวทานตะวันเลย หรือควรรีบบอกทีมที่โรงพยาบาลให้เอารถออกไปเลย ไม่ใช่รอให้หมอเต่ามาบอก เราว่าฉากนี้ใจร้ายมากๆ
2. เรื่องว่าฉลามเป็นมือที่ 3 ประเด็นเรื่องทานตะวันไปชอบฉลาม หลังจากที่เลิกกับเป้งแล้ว เรามองว่า 2 คนนี้ คบกันมา 15 ปี มันคงมีทะเลาะ แล้วบอกเลิกกันแบบนี้มาหลายครั้ง ซึ่งพอต่างคนต่างแยกย้าย สงบสติ ก็กลับมาปรับคุยกันเหมือนเดิมมากกว่า แต่เราว่าทานตะวันชอบฉลามง่ายไปจริงๆ ต่อให้จะเพราะว่าทะเลาะกับเป้งมา แล้วแค่มาเจอคนปลอบใจแบบนี้ แล้วหวั่นไหว ถึงขนาดชอบเลย เราว่า ทานตะวัน move on ไวกว่าเป้ง ตอนที่จะไปคุยกับบะหมี่อีกนะ 5555 เพราะนี่คือชอบคนอื่นจนมีพลังทะลุมาได้ทั้งตัวขนาดนี้
ส่วนฉลาม เราว่าความรักฉลามเริ่มจากการเห็นใจทานตะวัน เพราะทะลุไปทีไรก็ตอนทานตะวันทะเลาะกับเป้งทุกที ได้ฟังความรู้สึกต่างๆ ของทานตะวัน ที่ทานตะวันไม่กล้าคุยกับเป้งตรงๆ อาจจะรู้สึกสงสารและอยากดูแล รวมไปถึงการที่จับพลัดจับผลูต้องไปรักษาทานตะวันตอนเล็กกระโดดสะพานลอย แล้วมือหายสั่น ล้างปมเรื่องนี้ไป ทำให้ตัวเองมั่นใจมากขึ้น เลยยิ่งรู้สึกมากขึ้น
3. ฉลามหนีเวร จนทำให้เป้งต้องไปรับเวรแทน เพราะ ฉลามเป็นน้องที่อยู่ในความดูแลของเป้ง แล้วฉลามก็ดันทะลุมา อันนี้ฉลามไม่ผิดหรอก เพราะตอนนั้นเขาไม่อยากทะลุมา แต่ที่เรามองว่ามันไม่โอเค คือ การที่ฉลามทะลุไปแต่ละครั้ง ก็เอาตัวเองไปใกล้ชิดทานตะวันมากเกินไป จริงอยู่ว่า ฉลามอาจทำแบบไม่ได้คิดอะไร เพราะฉลามก็ทำแบบนี้กับคนอื่น ในเรื่องที่คอยถามไถ่ ใครเป็นอะไร แต่ฉลามไม่ได้ใกล้ชิด ถึงเนื้อถึงตัวคนอื่น หรือแม้แต่บะหมี่ ก็ไม่ใกล้ชิดขนาดที่ใกล้ชิดทานตะวัน ซึ่งเป็นแฟนของรุ่นพี่ที่สนิท แล้วยังมีประเด็นที่ค้างคาใจกัน 3 คน ว่า ทานตะวันไปชอบฉลามได้ไง คือเรามองว่า ปกติ ถ้าเรารู้ว่า แฟนรุ่นพี่ที่เราสนิทและรัก มาแอบชอบเรา เราก็ควรจะไม่เอาตัวเองไปใกล้ชิดขนาดนั้น ออกห่างให้มากที่สุด แต่นี่อะไร ไปใกล้ชิด ไปอยู่ในห้อง 2 ต่อ 2 / ไปแก้ผ้าอาบน้ำบ้านเขา แถมยังเอาชุดเป้งมาใส่ ทั้งๆ ที่รู้ว่ามีประเด็นกันอยู่ ยิ่งถ้าถึงแม้เขาจะเลิกกัน แต่การที่เลิกกับหมอเป้ง แล้วไปคบฉลาม ทีทำงานด้วยกัน แบบนี้ทั้งทานตะวันและฉลามก็ไม่นึกถึงเป้งเลยนะ
มันเหมือนคิดง่ายๆ ว่า ถ้าแฟนเรา เลิกกับเรา แล้วไปคบเพื่อนสนิทเราอ่ะ เราไม่โอเคมากๆ แต่นี่หมอเป้งแทบไม่ว่าอะไรฉลามเลย
ส่วนที่บอกว่า หมอเป้งก็หนีเวร เพราะง้อไม่สำเร็จ เราว่าเพราะโมโห ที่แบบ ตัวเองทำแต่งาน จนไม่มีเวลาให้แฟน จนทะเลาะกัน แล้วแฟนไปรักคนอื่นมากกว่าอ่ะ เลยโมโห เทงานเลย 5555555 แต่ก็ไม่ได้เทงานในสถานการณ์ฉุกเฉินแบบฉลามอ่ะ
4. ฉากสะพานลอย ที่หมอเป้งให้เรียกฉลามมา เพราะ หมอเป้งรู้ว่าฉลามทะลุมาได้ไวที่สุด ณ ตอนนั้น ให้เอาเครื่องมือมา น่าจะมาไวกว่ารถไง ไม่ได้เรียกให้มาดูแลรักษาทานตะวัน เพราะก่อนรถจะออก หมอเป้งก็จะลงไปดูทานตะวันเอง แต่ไปไม่ได้ เพราะเคสเล็กหนักกว่า ณ ตอนนั้น ถ้าจะรักษาชีวิตแฟน ก็ต้องให้ฉลามไปอ่ะ แต่เราเคืองตรงที่ ฉลามไม่พูดเลยว่า หมอเป้งจะลงมาดู แต่มาไม่ได้ เพราะเล็กไม่ไหวแล้วอ่ะ มันน่าจะพูดสักนิด
5. ฉลามทำน้องขิมตาย ประเด็นนี้ไม่น่าเข้าใจผิดนะ ต่อให้ฉลามจะอยู่ในความดูแลของเป้ง แต่ฉลามก็ทำให้น้องขิมตายจริงๆ ฉลามผิดจริงๆ ไม่งั้นก็จะหลายเป็นว่า ไม่ว่าหมอเด็กจะทำผิดอะไร หมอที่ดูแลอยู่ต้องรับผิดแทนหมดเลยสิ หมอเป้งก็รับผิดที่ยังเทรนฉลามได้ไม่แม่นยำพอ ฉลามเองก็มือใหม่มากๆ แต่ในสถานการณ์นั้น ถ้ามีหมอคนอื่น หมอเป้งก็คงไม่ให้ฉลามลุยเดี่ยวหรอก แต่ประเมินฉชามพลาดไป แต่ผิดก็ต้องว่าไปตามผิด
6. ที่ว่า ร้องไห้เยอะๆ สมองมันก็เกร็ง... นี่ เราว่าหมอเป้งพูดขำๆ เพราะเห็นทานตะวันร้องไห้หนักมากจนปวดหัวมากกว่า ซีนนี้สำหรับ เราว่ามันตลกๆ น่ารักๆ ดี 5555
———————————
ในมุมของเรา ที่เราไม่ทีมฉลาม เพราะ
1. ในมุมมองเรา ฉลามกับบะหมี่ ก็ไม่ได้ต่างกันมาก แค่บะหมี่จะออกตัวแรง ตรงๆ พูดไปเลย แต่ฉลามมาแนวเนียนๆ คอยปลอบใจ ทำตัวใกล้ชิด แม้ในตอนแรกจะไม่ได้คิดอะไร แต่มันก็ไม่ควรจะใกล้ชิดกันมากขึ้นเรื่อยๆ ขนาดนี้ กับแฟนของรุ่นพี่ที่สนิท
2. ฉลามรู้หลายๆ อย่างว่าหมอเป้งเองก็รักและห่วงทานตะวัน แต่เวลาทานตะวันระบาย ฉลามไม่เคยบอกอะไรเลย มีแต่ที่บอกให้รู้สึกอะไรก็พูดไปเลย ตัวฉลามเองได้มาอยู่ห้องกับเป้ง เห็นของในห้อง หรือแม้แต่ตอนเรื่องเล็ก ก็รู้ว่า หมอเป้งจะมาหาทานตะวัน แต่ก็ไม่พูด แต่ทีตอนหมอเป้งให้ถุงมือบะหมี่ แค่นั้นก็บอกทานตะวันเชียว
3. เรามองว่า ที่หมอเป้งกับทานตะวัน มีปัญหากัน ส่วนหนึ่งมาจากฉลาม แล้วกลายมาเป็นปัญหาใหญ่จนเลิกกัน
4. ถ้าในบริบทอื่น เราก็ชอบนิสัยส่วนตัวของฉลามนะ ดูแล เทคแคร์ ใส่ใจดี
อันนี้มุมมองเราเน้ออออ คุยแลกเปลี่ยนกันจ้า
แสดงความคิดเห็น
MY AMBULANCE รักฉุดใจนายฉุกเฉิน ขอคนที่ดูละครเป็นและตอบกระทู้แบบสุภาพ
เราเคยอ่านทวิตนึงค่ะ เค้าเป็นหมอแล้วเค้าเธรดทวิตไว้ยาวพอสมควรแต่ที่เราจะบอกคือมีประโยคที่เค้าบอกว่า
เพื่อนๆที่เป็นหมอรอบตัวเค้าทีมหมอเป้งทั้งหมดเลย เพราะเค้าคิดว่าเค้าทำงานหนักนะ เค้าทำงานนี้เธอก้อภูมิใจไม่ใช่หรอ ประมานนี้
บวกกับที่ไปเจอยูทูปช่องนึงเค้ามาทำรีแอคละครเรื่องนี้ แล้วเค้าก้อเป็นหมอและเค้าก้อชื่นชมหมอเป้งและบอกว่า
"ถึงหมอเป้งจะทำงานหนักแต่ก้อยังนึกถึงแฟนเค้าไม่ได้ไม่รักแฟนนะ" ทำให้เราเก็ทว่า ส่วนมากหมอจะมองในมุมนี้และเค้าจะเข้าใจในการกระทำเป้ง
อยากถามผช.และหมอที่เล่นพันทิปว่าจริงมั้ยที่ผช.และหมอส่วนมากเรียกว่า90%เลยก้อว่าได้ที่จะทีมหมอเป้ง?
อีกอย่างที่อยากจะให้ทุกคนที่ดูละครเรื่องนี้ลองทำความเข้าใจนะคะ
ฉลามเป็นมือที่3ของทานตะวัน(?)
* [ฉลามเป็นนักศึกษาแพทย์ ซึ่งคาแรกเตอร์ในเรื่องเป็นคนยิ้มง่าย ร่าเริงสดใส ชอบดูแลคนอื่นใส่ใจคนรอบข้าง ติดจะออกไปทางซื่อๆด้วยซ้ำ] *
ทานตะวันบังเอิญมารักฉลาม เป็นคนที่ทำให้ฉลามมีพลังขึ้นมา (เอง) และฉลามพึ่งมารู้ตัวเองจริงๆว่า (เริ่มหวั่นไหว)
นั่นคือวันที่ได้ยินทานตะวันกับเป้งทะเลาะกันและเลิกกัน ซึ่งเราคิดว่านางเริ่มรู้สึกว่าชอบจริงๆก้อคือตอนที่ไปช่วยทานตะวันหนาวบนดอย
ฉลามหนีเวรมาสวีทกับทานตะวันทำให้หมอเป้งพลาดเดทกับทานตะวัน(?)
ฉลามหนีเวรเพราะ Panic ซึ่งเป็นสิ่งที่ผิดแน่นอนอยู่แล้ว (เหมือนที่หมอเป้งก้อหนีเวรเพราะง้อทานตะวันไม่สำเร็จ?)
ปกติถ้าฉลามไม่มีพลังฉลามก้อจะหนีเวรไปที่อื่น ถูกมั้ยคะ? แต่ตอนนี้คือนางมีพลังทำให้นางทะลุไปหาทานตะวันได้ และได้เจอกับทานตะวัน
ฉากนี้ทำให้ทีมเป้งหลายๆคนไม่พอใจ เพราะไปสวีทกับทานตะวัน (แฟนรุ่นพี่ ) ? ด้วยพื้นฐานนิสัยของตัวละครฉลาม (เลื่อนขึ้นไปอ่าน*)
แน่นอนว่าฉลามเห็นทานตะวันระบายสิ่งที่อยู่ในใจและร้องไห้ เป็นเรื่องปกติของตัวละครนี้ที่ต้องการถามไถ่ว่าเป็นอะไร ร้องไห้ทำไม
มีอะไรระบายออกมาให้ฟังได้เลย และใช่ ฉลามไม่ได้ทำแบบนี้แค่กับทานตะวัน บะหมี่ฉลามก้อถามแบบนี้เป็นห่วงแบบนี้
เพราะตัวละครนี้มีคาแรกเตอร์แบบนี้ จะให้ฉลามไปบอกทานตะวันว่า หยุดร้อง ห้ามร้อง เค้าทำไม่ได้เพราะนั่นไม่ใช่นิสัยของตัวละครนี้
ฉากสะพานลอย (?)
หมอเป้งเป็นคนบอกให้ทานตะวันเรียกฉลามเอง? ณ.ตอนนั้นฉลามเกลียดทานตะวันแล้วด้วยค่ะ
แต่นิสัยฉลามก้อเป็นแบบนี้ เราคิดว่าตัวละครนี้ไม่สามารถโกดหรือเกลียดใครได้นานๆ และฉากที่เป้งเป็นห่วงทานตะวันอยากไปดูทานตะวัน
แต่ฉลามบอกว่าจะทำเองเพราะเคสเล็กหนักกว่า ฉลามคิดว่าตัวเองไม่สามารถทำได้ ซึ่งมันก้อไม่แปลกรึป่าว?
ถ้าคุณบอกว่าเป้งต้องเลือกหน้าที่ก่อนอยู่แล้วนั่นคือสิ่งที่ถูก กรณีนี้ก้อเช่นกันเล็กเจ็บหนักกว่าหมอเป้งต้องช่วยคนที่เจ็บหนักกว่าอยู่แล้ว
เพราะฉลาม (เป็นนักศึกษาแพทย์) เค้าไม่ได้เก่งและมีประสบการณ์ขนาดนั้น [แต่ฉากนี้เราก้อแอบกลัวนะเพราะนางยังมือสั่นแล้วต้องมารักษาทตว]
เรื่องฉลามทำน้องขิมตาย (น้องของไท) (?)
หลายคนเข้าใจเรื่องนี้ผิด ความจริงหมอเป้งได้บอกไปแล้วในepแรกๆ ว่าฉลามเป็นคนในความดูแลของเค้าต่อให้จะเป็นยังไงคนที่ผิดก้อคือหมอเป้ง
และในความเป็นจริงนักศึกษาแพทย์ที่ได้เจาะปอดคนเจ็บในรถ AMBULANCE นั้นถือว่าเก่งมากๆแล้ว (อ้างอิงจากความเห็นของหมอคนนึง)
ส่วนเป้งในมุมมองของเรา เป้งตึงเกินไปและเหมือนจะจริงจังกับหน้าที่และชีวิตตัวเองเกินไป จนทำให้คนที่อยู่ด้วยไม่มีความสุข
เค้าไม่ค่อยจะสนใจความรู้สึกคนอื่นมากเท่าที่ควร ซึ่งนี่ถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อนของผู้หญิงมากๆบางทีเจอบ่อยๆใจมันก้อพังได้ไม่ยากค่ะ
ฉากที่ทานตะวันร้องไห้ล่าสุดที่เป้งกลับบ้าน ชัดมากๆวิธีการปลอบทานตะวันไม่ให้ร้องของเป้ง ขั้นกว่าการสั่งไม่ให้หยุดร้องคือ
"ร้องไห้เยอะๆอ่ะสมองมันก็เกร็ง หลอดเลือดมันก้อบีบแล้วมันก็ปวดหัว เลิกร้องไห้ได้แล้ว" ประโยคนี้บอกอะไรได้เยอะมากว่าเป้งเป็นคนเคร่งครัดแค่ไหน
สุดท้ายนี้เราแค่อยากให้คนดูละครพยายามเข้าใจในทุกตัวละครหลายๆมุม
สำหรับเราจากประสบการณ์ตรงนะ รักกันมากี่ปีไม่มีความหมายอะไรเลยถ้าอีกฝ่ายไม่ได้รักแล้ว บางครั้งแค่รักอย่างเดียวมันไม่พอจริงๆค่ะ
และสุดท้ายไม่ว่าเรื่องนี้ใครจะคู่ใครก้อขอให้ฉลามไม่ต้องตายตอนจบเหมือนที่มีสปอยหลุดมาเถอะ มันโหดร้ายกับใจคนดูเกินไป
คิดเห็นต่างสามารถคอมเม้นได้ค่ะ ขอสุภาพและอธิบายแบบหลักการความเป็นจริงด้วยค่ะ