อาจจะรู้สึกว่าคนฆ่าตัวตายมากขึ้นเพราะอ่านข่าวทุกวันใช่ไหมคะ
ต้องแยกประเด็นก่อนว่า ฆ่าตัวตายมากขึ้นจริงหรือ และสาเหตุของการฆ่าตัวตายสมัยนี้กับสมัยก่อนแตกต่างกันอย่างไร

บางทีเรารู้สึกว่าเยอะ เพราะเสพข่าวทุกวัน ก็ต้องเข้าใจว่าสื่อสมัยนี้มันรวดเร็วกว่าเมื่อก่อน แทบไม่มีอะไรเป็นความลับ
จากเมื่อก่อนอยู่ห่างๆ กัน ตอนนี้ใกล้ชิดกันด้วยเทคโนโลยี ก็เลยรับรู้เรื่องราวของคนอื่นได้มากขึ้น (แต่คนละเรื่องกับรู้จักกันอย่างถ่องแท้นะคะ)
อีกส่วนคือมีการบอกกันมาเยอะแล้วว่าการนำเสนอข่าวฆ่าตัวตายต้องทำด้วยความระมัดระวัง ไม่ให้เกิดการลอกเลียนแบบ
ซึ่งเท่าที่เห็น ไม่มีสื่อไหนที่ระวังกันแล้ว ทุกคนมุ่งแต่จะขายข่าว แจกแจงวิธีกันอย่างละเอียดลออพร้อมภาพประกอบครบครัน
ก็อาจเป็นอีกส่วนทำให้คนเข้าถึงวิธีการฆ่าตัวตายได้มากขึ้น จะเห็นว่ามีช่วงหนึ่งคนฆ่าตัวตายด้วยการรมควันตัวเองในรถแบบติดๆ กันหลายวันเลย

ส่วนสาเหตุนั้น สมัยก่อนที่เรารับรู้ ก็จะเป็นพวกฆ่าตัวตายเพื่อตายแทนอีกคน ยอมตายเพื่อชาติ
ฆ่าตัวตายเพื่อหนีความอัปยศ ฆ่าตัวตายเพื่อรักษาศักดิ์ศรี อะไรแบบนี้ ซึ่งสำหรับบางคนมันดูสูงส่ง
แต่ที่จริงสมัยก่อนก็มี ที่ฆ่าตัวตายเพราะเหตุผลที่ยากจะเข้าใจ เช่นผิดหวังในความรัก ก็เอามาสร้างเป็นตำนานยกย่องเทิดทูนกันไป  
คนที่รับทราบเรื่องราวก็พากันมองว่าสาเหตุมันดูคลาสสิก ยิ่งใหญ่ ทำให้การฆ่าตัวตายดูมีเหตุมีผล สูงส่งไปเสียอย่างนั้น

แต่พอสมัยนี้ ฆ่าตัวตายเพราะน้อยใจพ่อแม่ ไม่ได้สิ่งของที่อยากได้ (มือถือ มอไซด์)
ฆ่าตัวตายเพราะแฟนทิ้ง คนตายก็อายุชั้นประถม พอเห็นข่าวแบบนี้บ่อยๆ เข้า เราก็เข้าใจไปว่าคนฆ่าตัวตายด้วยสาเหตุจิ๊บจ๊อยมากขึ้น จนเห็นเป็นข่าวทุกวัน
แต่จริงๆ แล้วยากจะบอก เพราะไม่มีใครเก็บรวบรวมสถิติของเมื่อก่อนไว้ แต่ไม่ว่ายุคไหน ก็มีทั้งนั้น การฆ่าตัวตายเพราะจิตใจอ่อนแอ