ปัจจุบันนี้ แค่เรียนคณิต ฟิสิกส์ ชีวะ ก็เป็นอะไรที่ยากลำบากแล้ว หากต้องมาเจอเอกสารเหล่านี้ คงต้องพับตำราเก็บไปได้เลย เพราะคงมีหลักการที่มองไม่เห็น หรือที่เรียกว่าใช้จินตนาการเขียนล้วนๆเลยก็ว่าได้ ใครอ่านแล้วสามารถเข้าถึงรหัสลับได้ก็ลองมาบอกกันบ้างนะ
Codex Seraphinianus
ในปี 1981 มีหนังสืออยู่เล่มหนึ่งที่ชื่อว่า โคเด็กซ์ เซอราฟิเนียนัส (Codex Seraphinianus) ที่ถูกเขียนโดยนักเขียนที่ชื่อ ลุยจิ เซอราฟินี ที่เป็นเหมือนสารานุกรมภาพของโลกจินตนาการ ภาพประหลาดๆ กับตัวหนังสือต่างๆ ที่ปรากฏในหนังสือ ไม่มีนักภาษาศาสตร์คนไหนบนโลกเข้าใจมันได้จนถึงทุกวันนี้
เซอราฟินี อ้างว่า หนังสือของเขาไม่มีความหมายที่แท้จริง แต่ผู้อ่านก็พยายามตีความหมายจากภาพแปลกๆ เหล่านี้ ที่มีทั้งสิ่งมีชีวิตแปลกๆ เครื่องจักรประหลาดๆ อยู่เต็มไปหมด
หลายคนอาจจะคิดว่าเซอราฟินีมั่วขึ้นมา แต่ในหนังสือก็มีระบบตัวเลขบางอย่าง ที่ถูกไขปริศนาได้โดยชายที่ชื่อ อัลลัน เวชสเลอร์ แต่ปริศนาส่วนใหญ่ในหนังสือยังไม่สามารถมีใครไขได้
Cr.petmaya.com
The Liber Linteus
เป็นเอกสารที่มีข้อความที่ยาวที่สุด เก่าแก่ที่สุดที่มีชื่อเสียง โดยทำมาจากผ้าลินิน สิ่งที่น่าสนใจหนังสือนี้เป็นทำหน้าที่คล้ายผ้าห่อศพคลุมชาวอีทรัสคันที่ตายแล้วนำไปฝังหรือเก็บรักษาไม่ให้เน่าเหมือนมัมมี่ในวัฒนธรรมการรักษาศพของอียิปต์ และตอนที่พบหนังสือนี้ก็มาพร้อมกับมัมมี่เช่นกัน มัมมี่ที่พบนี้คาดว่าเป็นเพศหญิงที่มียศสูงศักดิ์พอสมควร เนื่องจากเวลานั้นผ้ามีราคาแพงมากและศพที่ถูกห่อด้วยผ้านั้นผู้ทำต้องมีฐานะดีพอสมควร
อักษรในผ้านี้ประกอบด้วย 1,200 คำ 230 บรรทัดอ่านจากขวาไปซ้าย แม้จะมีแถวที่หายไปบ้างแต่ก็ถือว่าเกือบสมบูรณ์ เขียนด้วยหมึกดำและหมึกสีแดงที่ขีดเป็นเส้นๆ เสมือนกับว่าเป็นเครื่องหมายในการออกเสียง และ จนบัดนี้ไม่มีใครอ่านภาษาของพวกเขาออกได้ทั้งหมด ภาษาเขียนเหมือนอักษรกรีกแต่ไม่สามารถจัดเข้าพวกใดๆได้เลย แม้จะขุดพบหลักฐานเป็นจำนวนมากแต่ก็ไม่มีคีย์เวิร์ดในการช่วยแปลอักษรเหล่า นี้ได้
นักวิชาการสันนิษฐานว่า Liber Linteus น่าจะเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับปฏิทินพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ ศาสนา เกี่ยวกับชาวพวกอีทรัสคัน ปัจจุบันหนังสือนี้ถูกเก็บรักษาอย่างดี(พร้อมมัมมี่) ในห้องเย็นของพิพิธภัณฑ์ ซาเกร็บ โครเอเชีย
Cr.generalmenmen.blogspot.com
The Book of Soyga
เป็น หนังสือลาตินเวทมนต์ในศตวรรษที่ 16 ที่รู้จักกันดีโดยนักวิชาการจอห์นดี หลังจากที่เขาตายหนังสือนี้ก็หายไป จนกระทั้งปี 1994 มีการค้นพบสองต้นฉบับที่เหลือ
จอห์น ดี( 1608-1609) เขาเป็นนัก คณิตศาสตร์ นักดาราศาสตร์ โหรนำทำนาย และที่ปรึกษาพระราชินีอลิซาเบธที่ 1 แห่ง อังกฤษในยุคนี้ โหราศาสตร์ได้ถูกพัฒนาไปสู่ความซับซ้อนมากถึงขีดสุด และเป็นที่แพร่หลายในหมู่กษัตริย์และผู้นำทางศาสนา เขามีผลงานเด่นคือได้วางฤกษ์วันพระราชพิธีราชาภิเษกของพระราชินีอลิซาเบธที่ 1 แห่งอังกฤษ โดยวางให้อาทิตย์ ศุกร์ และพฤหัส ทำมุมดีต่อดาวกำเนิดของพระองค์ ส่งผลให้พระราชินีทรงครองราชย์ยาวนานถึง 44 ปี
จอห์น ดีเป็นโหรที่มีความเชี่ยวชาญหลายแขนงไม่ว่าจะเป็นวิทยาศาสตร์ และการแพทย์ ซึ่งในช่วงปั่นปลายเขาได้หันมาเล่นแร่แปรธาตุ ศึกษาพลังเหนือธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อกับภูตสวรรค์ หรือการอ้างว่าเขาสามารถสร้างหินนักปราชญ์(ศิลาอาถรรพ์) แปรธาตุตะกั่วให้เป็นทองคำ หลายคนจึงเชื่อว่าหนังสือ The Book of Soyga ถือกำเนิดขึ้นเพื่อเหตุผลนี้ แต่อย่างไรก็ตามหนังสือเริ่มนี้ปัจจุบันยังไม่สามารถตีความได้หมด หลายคนพยายามไขความลับของหนังสือเริ่มนี้เพราะเชื่อว่ามันได้บรรจุความรู้ ที่เหนือธรรมชาติเอาไว้ แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เนื่องจากคำบางคำนั้นไม่สามารถอธิบายได้ว่ามันใช้ยังไง หรือมีรหัสมากมายที่ปรากฏในหนังสือ เช่น วงกลม วงเวทย์เวทย์ ตาราง และรูปปริศนามากมาย
Cr. writer.dek-d.com
The Rohonc Codex
หนึ่งในหนังสือลึกลับที่สุดที่เคยปรากฎบนโลกนี้ เพราะไม่มีใครรู้ที่มาที่ไปของมัน เขียนขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ มาจากส่วนไหนของโลก เท่าที่จับความได้ คือช่วงต้นศตวรรษที่ 19 หนังสือเล่มนี้ ถูกบริจาคให้เป็นสมบัติของ Hungarian Academy of Sciences ในเมือง Rohonc และข้อความในนั้นก็ทำให้คนอ่านถึงกับตะลึง มีถ้อยคำจำนวนมากที่ไม่สามารถถอดความหมายได้ แต่ละคำยาวมาก ตั้งแต่ 20-40 ตัวอักษรขึ้นไป หนังสือหนา 448 หน้า แต่มีสัญลักษณ์แปลกๆ มากถึง 200 ตัว ซึ่งนักถอดรหัสจำนวนมากต้องยอมจำนน ไม่มีใครแน่ใจเรื่องคำแปล และไม่รู้ด้วยว่ามันเขียนเพื่ออะไร ส่วนถิ่นกำเนิด มีการคาดเดาได้ตั้งแต่ฮังการี โรมาเนีย ไปจนถึงอินเดีย
Cr.www.facebook.com/bookloverroom
Rongorongo
หรือรองโกรองโก้ เป็นอักษรภาพที่ค้นพบเมื่อศตวรรษที่ 19 สลักในไม้กระดานปักหลุมศพของชาวเมืองราโนบนเกาะอิสเตอร์กลางมหาสมุทรแปซิฟิค ตัวอักษรต่างๆ มีรูปร่างเหมือนรูปมนุษย์ สัตว์ พืช ศิลปวัตถุ รูปทรงเรขาคณิต แต่ จนบัดนี้ภาษานี้ก็ไม่มีใครหน้าไหนที่แปลออกและกลายเป็นภาษาลึกลับที่สุดใน โลกอีกอันดับ สาเหตุที่แปลไม่ได้เนื่องจากเกาะอิสเตอร์นั้นเป็นเกาะที่โดดเดี่ยว
ดังนั้น พวกเขาจึงมีภาษาเฉพาะโดยไม่มีอิทธิพลภาษาอื่นๆ มาเจือปน ทำให้นักโบราณคดีไม่สามารถหาคีย์ในการแปลได้ แต่กระนั้นก็มีการสันนิษฐานว่าบางที่รองโกรองโก้อาจไม่ใช่ภาษาอาจจะเป็นงาน ศิลปะไม่ก็ปฏิทินอะไรสักอย่าง และนอกจากภาษาแล้วนักโบราณคดียังไม่รู้เลยว่าชาวพื้นเมืองนี้อาศัยเกาะนี้ อย่างไรในเมื่อมันไม่มีอาหาร ไม่มีพื้นบ้าน หรือกระทั้งประวัติศาสตร์ก็ไม่มีใครกล่าวถึงพวกเขาเลยสักบท
Cr.sites.google.com
The Beale Ciphers
เป็น ข้อความรหัสสามชุด ว่ากันว่าเป็นลายแทงสมบัติในการนำไปสู่ขุมสมบัติเงินทองและอัญมณีกว่า 40,000,000 ดอลลาร์ โดยสองชุดสามารถแปลคร่าวๆ ว่า เนื้อหาได้อธิบายถึงเนื้อหาสมบัติและรายชื่อของสมบัติของเจ้าของคือโทมัส เจฟเฟอร์สัน บีส( Thomas Jefferson Beale)ที่ซ่อนมันไว้ในสถานที่ลับในเบดฟอร์ด เวอรจีเนียเมื่อปี 1820 ก่อนที่เขาจะมอบรหัสลับนี้แก่เจ้าของโรงแรมท้องถิ่นชื่อโรเบิร์ต(Robert Morriss)เขา บอกว่าให้เปิดรหัสนี้หากเขาไม่กลับมา และเขาก็หายสาบสูญไป
เจ้าของโรงแรมได้เปิดรหัสนี้ก็พบว่ามันเป็นรหัสตัวเลขแปลก ๆ เรียงกันโดย มีเลขหลักหนึ่ง หลักสิบ หลักร้อย เรียงเหมือนสลับกันเหมือนรหัสลับอะไรสักอย่าง เจ้าของโรงแรมพยายามไขปริศนานี้แต่ล้มเหลวเขาเลยได้ให้สามรหัสส่งต่อแก่เพื่อนของเขาก่อนตาย เพื่อนคนนั้นได้ใช้เวลาทั้งชีวิตในการพยายามถอดรหัสข้อความเหล่านี้ จนสามารถแก้ปัญหาได้ส่วนหนึ่ง โดยการใช้คำในประกาศอิสรภาพของอเมริกาเทียบตำแหน่งใน รหัสเท่านั้น หากแต่ส่วนสำคัญคือสถานที่ซ่อนจนบัดนี้ไม่สามารถไขได้ ต่อมารหัสนี้ถูกลงในหนังสือพิมพ์และแจกแผ่นพับเพื่อให้คนทั่วอเมริกามาช่วย กันไขรหัสนี้แต่จนบัดนี้ก็ไม่สามารถไขได้
Cr. sites.google.com
Kryptos
Artist Jim Sanborn’s เป็นประติมากรรมที่ไม่ใช่เอกสาร หากแต่ทำมาจากหิน ไม้ และทองแดง ตั้งอยู่ที่มุมตะวันตกเฉียงใต้ของศูนย์บัญชาการใหม่ของ CIA สลักไว้ด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษ 26 ตัวบวกเครื่องหมายคำถาม ตัวอักษรเหล่านั้นรวมกันทั้งหมดมีถึง 869 คำว่า คริปโตสเป็นภาษากรีก แปลว่า ซ่อนอยู่ ซึ่งแน่นอนว่า ตัวอักษรทั้ง 869 ตัวนั้นก็คือรหัสลับนั่นเอง
เรื่องมีอยู่ว่า วันหนึ่ง CIA เกิดอยากได้ประติมากรรมเจ๋งๆไว้ประดับหน่วยงาน จึงได้ขอให้ประติมากรชื่อว่า James Sanborn ทำให้ Sanborn ก็เลยไปเรียนรู้วิชารหัสลับจาก Ed Scheidt ซึ่งเป็นถึงอดีตประธานหน่วยถอดรหัสของ CIA จนนำเทคนิคเหล่านั้นมาสร้างเป็นรหัสลับในประติมากรรมของเขา
ปัจจุบันประติมากรรมชิ้นนี้เป็นที่สนใจของคนที่หลงใหลในการถอดรหัสทั่วโลก ซึ่งรหัสลับใน Kryptos นั้นถูกไขออกได้เพียงแค่สามในสี่ส่วนเท่านั้น
ในปี 1999 คนแรกที่ออกมาพูดอย่างเปิดเผยก็คือ นาย James Gillogly นัก วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ เขาใช้เทคนิคในการถอดรหัสกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เขียนขึ้นเองช่วยในการไขความลับของรหัสออกมาได้ถึงสามส่วน หลังจากนั้น CIA ก็ออกมาอ้างว่าไขรหัสได้แล้วสามส่วนเหมือนกันตั้งแต่ปี 98 ส่วน NSA ก็ออกมาบอกว่าไขได้แล้วตั้งแต่ปี 92 แต่สุดท้ายก็ยังไม่มีใครสามารถถอดรหัสส่วนสุดท้าย 97-98 ตัวออกมาได้อยู่ดี
Cr.sites.google.com
The Urantia Book
เป็นหนังสือปรัชญา และจิตวิญญาณที่ไม่มีชื่อผู้เขียน โดยเนื้อหากล่าวถึง พระเจ้า พระเยซู จักรวาล วิทยาศาสตร์ ประวัติ และโชคชะตา ที่เผยแพร่ในชิคาโก อิลลินอยด์ ประเทศสหรัฐอเมริการะหว่าง 1925-1955 มีการถกเถียงมากในเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้(มีการแปลเป็นภาษาอื่นๆ กว่า 11 ภาษา)
โดยคำนำของหนังสือได้แนะนำดาวเคราะห์หนึ่งชื่อโลก(โดยใช้ชื่อดาวว่า Urantia) และนำเสนอแนวคิดในการฝึกพลังจิตวิญญาณขั้นสูง ความสัมพันธ์ระหว่างคนกับพระเจ้า ไปจนถึงบอกอนาคตโลก หนังสือเล่มนี้ยาวถึง 2,097หน้า หนังสือไม่ระบุผู้เขียนหากแต่หนังสือบอกว่าเครดิตทั้งหมดมาจากคำสั่งของฟ้า
สาเหตุเนื่องมาจากในปี 1925 นายวิลเลี่ยม แซดเลอร์ ได้นิมิต(หรือหลับลึก) ว่าเขาติดต่อกับพระเจ้าได้ เขาเปร่งเสียงพูดที่มีความยาวและเขาได้ให้นักชวเลขจดคำพูดของเขาไว้ ซึ่งคำพูดของเหล่านั้นได้แพทย์ตกตะลึงให้กับทางการแพทย์เพราะว่าแต่ละคำนั้น เหนือธรรมชาติมากๆ ว่ากันว่าหนังสือเล่มนี้ใช้ศัพท์ซับซ้อนและมีรายละเอียดมาก นักวิชาการทางศาสนาพยายามแปลหนังสือและสัญลักษณ์ทางศาสนาแต่สุดท้ายก็ยังคง เป็นปริศนาต่อไป
Cr.facebook.com/450142031689520/
ที่มา: Yenta4
Cr.
https://www.scholarship.in.th/10-mystery-book-and-paper/
คืนหนึ่งกลางกรุงปารีส ภัณฑารักษ์หัวหน้าผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์ ลูฟว์พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยมก่อนเสียชีวิต โซนิแยร์ ได้ทิ้งปริศนาการตายบนศพของเขาเป็นรูปสัญลักษณ์คนกลางแขนบนดาวห้าแฉก เหมือนเป็น 1 ในผลงานเลื่องชื่อของศิลปินระดับโลก ลีโอนาโด ดาวินชี (ทอม แฮงค์) ศาสตราจารย์ด้านศาสนวิทยาสัญลักษณ์แห่งมหาวิทยาลัย ฮาร์วาร์ด จึงได้รับมอบหมายจากหน่วยราชการลับแห่งฝรั่งเศส ในการไขรหัสลับของคดีฆาตกรรมนี้
Cr.rukmovie.com
หนังสือโบราณ.. ที่แปลกประหลาดมากที่สุด
Codex Seraphinianus
ในปี 1981 มีหนังสืออยู่เล่มหนึ่งที่ชื่อว่า โคเด็กซ์ เซอราฟิเนียนัส (Codex Seraphinianus) ที่ถูกเขียนโดยนักเขียนที่ชื่อ ลุยจิ เซอราฟินี ที่เป็นเหมือนสารานุกรมภาพของโลกจินตนาการ ภาพประหลาดๆ กับตัวหนังสือต่างๆ ที่ปรากฏในหนังสือ ไม่มีนักภาษาศาสตร์คนไหนบนโลกเข้าใจมันได้จนถึงทุกวันนี้
เซอราฟินี อ้างว่า หนังสือของเขาไม่มีความหมายที่แท้จริง แต่ผู้อ่านก็พยายามตีความหมายจากภาพแปลกๆ เหล่านี้ ที่มีทั้งสิ่งมีชีวิตแปลกๆ เครื่องจักรประหลาดๆ อยู่เต็มไปหมด
หลายคนอาจจะคิดว่าเซอราฟินีมั่วขึ้นมา แต่ในหนังสือก็มีระบบตัวเลขบางอย่าง ที่ถูกไขปริศนาได้โดยชายที่ชื่อ อัลลัน เวชสเลอร์ แต่ปริศนาส่วนใหญ่ในหนังสือยังไม่สามารถมีใครไขได้
Cr.petmaya.com
The Liber Linteus
เป็นเอกสารที่มีข้อความที่ยาวที่สุด เก่าแก่ที่สุดที่มีชื่อเสียง โดยทำมาจากผ้าลินิน สิ่งที่น่าสนใจหนังสือนี้เป็นทำหน้าที่คล้ายผ้าห่อศพคลุมชาวอีทรัสคันที่ตายแล้วนำไปฝังหรือเก็บรักษาไม่ให้เน่าเหมือนมัมมี่ในวัฒนธรรมการรักษาศพของอียิปต์ และตอนที่พบหนังสือนี้ก็มาพร้อมกับมัมมี่เช่นกัน มัมมี่ที่พบนี้คาดว่าเป็นเพศหญิงที่มียศสูงศักดิ์พอสมควร เนื่องจากเวลานั้นผ้ามีราคาแพงมากและศพที่ถูกห่อด้วยผ้านั้นผู้ทำต้องมีฐานะดีพอสมควร
อักษรในผ้านี้ประกอบด้วย 1,200 คำ 230 บรรทัดอ่านจากขวาไปซ้าย แม้จะมีแถวที่หายไปบ้างแต่ก็ถือว่าเกือบสมบูรณ์ เขียนด้วยหมึกดำและหมึกสีแดงที่ขีดเป็นเส้นๆ เสมือนกับว่าเป็นเครื่องหมายในการออกเสียง และ จนบัดนี้ไม่มีใครอ่านภาษาของพวกเขาออกได้ทั้งหมด ภาษาเขียนเหมือนอักษรกรีกแต่ไม่สามารถจัดเข้าพวกใดๆได้เลย แม้จะขุดพบหลักฐานเป็นจำนวนมากแต่ก็ไม่มีคีย์เวิร์ดในการช่วยแปลอักษรเหล่า นี้ได้
นักวิชาการสันนิษฐานว่า Liber Linteus น่าจะเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับปฏิทินพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ ศาสนา เกี่ยวกับชาวพวกอีทรัสคัน ปัจจุบันหนังสือนี้ถูกเก็บรักษาอย่างดี(พร้อมมัมมี่) ในห้องเย็นของพิพิธภัณฑ์ ซาเกร็บ โครเอเชีย
Cr.generalmenmen.blogspot.com
The Book of Soyga
เป็น หนังสือลาตินเวทมนต์ในศตวรรษที่ 16 ที่รู้จักกันดีโดยนักวิชาการจอห์นดี หลังจากที่เขาตายหนังสือนี้ก็หายไป จนกระทั้งปี 1994 มีการค้นพบสองต้นฉบับที่เหลือ
จอห์น ดี( 1608-1609) เขาเป็นนัก คณิตศาสตร์ นักดาราศาสตร์ โหรนำทำนาย และที่ปรึกษาพระราชินีอลิซาเบธที่ 1 แห่ง อังกฤษในยุคนี้ โหราศาสตร์ได้ถูกพัฒนาไปสู่ความซับซ้อนมากถึงขีดสุด และเป็นที่แพร่หลายในหมู่กษัตริย์และผู้นำทางศาสนา เขามีผลงานเด่นคือได้วางฤกษ์วันพระราชพิธีราชาภิเษกของพระราชินีอลิซาเบธที่ 1 แห่งอังกฤษ โดยวางให้อาทิตย์ ศุกร์ และพฤหัส ทำมุมดีต่อดาวกำเนิดของพระองค์ ส่งผลให้พระราชินีทรงครองราชย์ยาวนานถึง 44 ปี
จอห์น ดีเป็นโหรที่มีความเชี่ยวชาญหลายแขนงไม่ว่าจะเป็นวิทยาศาสตร์ และการแพทย์ ซึ่งในช่วงปั่นปลายเขาได้หันมาเล่นแร่แปรธาตุ ศึกษาพลังเหนือธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อกับภูตสวรรค์ หรือการอ้างว่าเขาสามารถสร้างหินนักปราชญ์(ศิลาอาถรรพ์) แปรธาตุตะกั่วให้เป็นทองคำ หลายคนจึงเชื่อว่าหนังสือ The Book of Soyga ถือกำเนิดขึ้นเพื่อเหตุผลนี้ แต่อย่างไรก็ตามหนังสือเริ่มนี้ปัจจุบันยังไม่สามารถตีความได้หมด หลายคนพยายามไขความลับของหนังสือเริ่มนี้เพราะเชื่อว่ามันได้บรรจุความรู้ ที่เหนือธรรมชาติเอาไว้ แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เนื่องจากคำบางคำนั้นไม่สามารถอธิบายได้ว่ามันใช้ยังไง หรือมีรหัสมากมายที่ปรากฏในหนังสือ เช่น วงกลม วงเวทย์เวทย์ ตาราง และรูปปริศนามากมาย
Cr. writer.dek-d.com
The Rohonc Codex
หนึ่งในหนังสือลึกลับที่สุดที่เคยปรากฎบนโลกนี้ เพราะไม่มีใครรู้ที่มาที่ไปของมัน เขียนขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ มาจากส่วนไหนของโลก เท่าที่จับความได้ คือช่วงต้นศตวรรษที่ 19 หนังสือเล่มนี้ ถูกบริจาคให้เป็นสมบัติของ Hungarian Academy of Sciences ในเมือง Rohonc และข้อความในนั้นก็ทำให้คนอ่านถึงกับตะลึง มีถ้อยคำจำนวนมากที่ไม่สามารถถอดความหมายได้ แต่ละคำยาวมาก ตั้งแต่ 20-40 ตัวอักษรขึ้นไป หนังสือหนา 448 หน้า แต่มีสัญลักษณ์แปลกๆ มากถึง 200 ตัว ซึ่งนักถอดรหัสจำนวนมากต้องยอมจำนน ไม่มีใครแน่ใจเรื่องคำแปล และไม่รู้ด้วยว่ามันเขียนเพื่ออะไร ส่วนถิ่นกำเนิด มีการคาดเดาได้ตั้งแต่ฮังการี โรมาเนีย ไปจนถึงอินเดีย
Cr.www.facebook.com/bookloverroom
Rongorongo
หรือรองโกรองโก้ เป็นอักษรภาพที่ค้นพบเมื่อศตวรรษที่ 19 สลักในไม้กระดานปักหลุมศพของชาวเมืองราโนบนเกาะอิสเตอร์กลางมหาสมุทรแปซิฟิค ตัวอักษรต่างๆ มีรูปร่างเหมือนรูปมนุษย์ สัตว์ พืช ศิลปวัตถุ รูปทรงเรขาคณิต แต่ จนบัดนี้ภาษานี้ก็ไม่มีใครหน้าไหนที่แปลออกและกลายเป็นภาษาลึกลับที่สุดใน โลกอีกอันดับ สาเหตุที่แปลไม่ได้เนื่องจากเกาะอิสเตอร์นั้นเป็นเกาะที่โดดเดี่ยว
ดังนั้น พวกเขาจึงมีภาษาเฉพาะโดยไม่มีอิทธิพลภาษาอื่นๆ มาเจือปน ทำให้นักโบราณคดีไม่สามารถหาคีย์ในการแปลได้ แต่กระนั้นก็มีการสันนิษฐานว่าบางที่รองโกรองโก้อาจไม่ใช่ภาษาอาจจะเป็นงาน ศิลปะไม่ก็ปฏิทินอะไรสักอย่าง และนอกจากภาษาแล้วนักโบราณคดียังไม่รู้เลยว่าชาวพื้นเมืองนี้อาศัยเกาะนี้ อย่างไรในเมื่อมันไม่มีอาหาร ไม่มีพื้นบ้าน หรือกระทั้งประวัติศาสตร์ก็ไม่มีใครกล่าวถึงพวกเขาเลยสักบท
Cr.sites.google.com
The Beale Ciphers
เป็น ข้อความรหัสสามชุด ว่ากันว่าเป็นลายแทงสมบัติในการนำไปสู่ขุมสมบัติเงินทองและอัญมณีกว่า 40,000,000 ดอลลาร์ โดยสองชุดสามารถแปลคร่าวๆ ว่า เนื้อหาได้อธิบายถึงเนื้อหาสมบัติและรายชื่อของสมบัติของเจ้าของคือโทมัส เจฟเฟอร์สัน บีส( Thomas Jefferson Beale)ที่ซ่อนมันไว้ในสถานที่ลับในเบดฟอร์ด เวอรจีเนียเมื่อปี 1820 ก่อนที่เขาจะมอบรหัสลับนี้แก่เจ้าของโรงแรมท้องถิ่นชื่อโรเบิร์ต(Robert Morriss)เขา บอกว่าให้เปิดรหัสนี้หากเขาไม่กลับมา และเขาก็หายสาบสูญไป
เจ้าของโรงแรมได้เปิดรหัสนี้ก็พบว่ามันเป็นรหัสตัวเลขแปลก ๆ เรียงกันโดย มีเลขหลักหนึ่ง หลักสิบ หลักร้อย เรียงเหมือนสลับกันเหมือนรหัสลับอะไรสักอย่าง เจ้าของโรงแรมพยายามไขปริศนานี้แต่ล้มเหลวเขาเลยได้ให้สามรหัสส่งต่อแก่เพื่อนของเขาก่อนตาย เพื่อนคนนั้นได้ใช้เวลาทั้งชีวิตในการพยายามถอดรหัสข้อความเหล่านี้ จนสามารถแก้ปัญหาได้ส่วนหนึ่ง โดยการใช้คำในประกาศอิสรภาพของอเมริกาเทียบตำแหน่งใน รหัสเท่านั้น หากแต่ส่วนสำคัญคือสถานที่ซ่อนจนบัดนี้ไม่สามารถไขได้ ต่อมารหัสนี้ถูกลงในหนังสือพิมพ์และแจกแผ่นพับเพื่อให้คนทั่วอเมริกามาช่วย กันไขรหัสนี้แต่จนบัดนี้ก็ไม่สามารถไขได้
Cr. sites.google.com
Kryptos
Artist Jim Sanborn’s เป็นประติมากรรมที่ไม่ใช่เอกสาร หากแต่ทำมาจากหิน ไม้ และทองแดง ตั้งอยู่ที่มุมตะวันตกเฉียงใต้ของศูนย์บัญชาการใหม่ของ CIA สลักไว้ด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษ 26 ตัวบวกเครื่องหมายคำถาม ตัวอักษรเหล่านั้นรวมกันทั้งหมดมีถึง 869 คำว่า คริปโตสเป็นภาษากรีก แปลว่า ซ่อนอยู่ ซึ่งแน่นอนว่า ตัวอักษรทั้ง 869 ตัวนั้นก็คือรหัสลับนั่นเอง
เรื่องมีอยู่ว่า วันหนึ่ง CIA เกิดอยากได้ประติมากรรมเจ๋งๆไว้ประดับหน่วยงาน จึงได้ขอให้ประติมากรชื่อว่า James Sanborn ทำให้ Sanborn ก็เลยไปเรียนรู้วิชารหัสลับจาก Ed Scheidt ซึ่งเป็นถึงอดีตประธานหน่วยถอดรหัสของ CIA จนนำเทคนิคเหล่านั้นมาสร้างเป็นรหัสลับในประติมากรรมของเขา
ปัจจุบันประติมากรรมชิ้นนี้เป็นที่สนใจของคนที่หลงใหลในการถอดรหัสทั่วโลก ซึ่งรหัสลับใน Kryptos นั้นถูกไขออกได้เพียงแค่สามในสี่ส่วนเท่านั้น
ในปี 1999 คนแรกที่ออกมาพูดอย่างเปิดเผยก็คือ นาย James Gillogly นัก วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ เขาใช้เทคนิคในการถอดรหัสกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เขียนขึ้นเองช่วยในการไขความลับของรหัสออกมาได้ถึงสามส่วน หลังจากนั้น CIA ก็ออกมาอ้างว่าไขรหัสได้แล้วสามส่วนเหมือนกันตั้งแต่ปี 98 ส่วน NSA ก็ออกมาบอกว่าไขได้แล้วตั้งแต่ปี 92 แต่สุดท้ายก็ยังไม่มีใครสามารถถอดรหัสส่วนสุดท้าย 97-98 ตัวออกมาได้อยู่ดี
Cr.sites.google.com
The Urantia Book
เป็นหนังสือปรัชญา และจิตวิญญาณที่ไม่มีชื่อผู้เขียน โดยเนื้อหากล่าวถึง พระเจ้า พระเยซู จักรวาล วิทยาศาสตร์ ประวัติ และโชคชะตา ที่เผยแพร่ในชิคาโก อิลลินอยด์ ประเทศสหรัฐอเมริการะหว่าง 1925-1955 มีการถกเถียงมากในเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้(มีการแปลเป็นภาษาอื่นๆ กว่า 11 ภาษา)
โดยคำนำของหนังสือได้แนะนำดาวเคราะห์หนึ่งชื่อโลก(โดยใช้ชื่อดาวว่า Urantia) และนำเสนอแนวคิดในการฝึกพลังจิตวิญญาณขั้นสูง ความสัมพันธ์ระหว่างคนกับพระเจ้า ไปจนถึงบอกอนาคตโลก หนังสือเล่มนี้ยาวถึง 2,097หน้า หนังสือไม่ระบุผู้เขียนหากแต่หนังสือบอกว่าเครดิตทั้งหมดมาจากคำสั่งของฟ้า
สาเหตุเนื่องมาจากในปี 1925 นายวิลเลี่ยม แซดเลอร์ ได้นิมิต(หรือหลับลึก) ว่าเขาติดต่อกับพระเจ้าได้ เขาเปร่งเสียงพูดที่มีความยาวและเขาได้ให้นักชวเลขจดคำพูดของเขาไว้ ซึ่งคำพูดของเหล่านั้นได้แพทย์ตกตะลึงให้กับทางการแพทย์เพราะว่าแต่ละคำนั้น เหนือธรรมชาติมากๆ ว่ากันว่าหนังสือเล่มนี้ใช้ศัพท์ซับซ้อนและมีรายละเอียดมาก นักวิชาการทางศาสนาพยายามแปลหนังสือและสัญลักษณ์ทางศาสนาแต่สุดท้ายก็ยังคง เป็นปริศนาต่อไป
Cr.facebook.com/450142031689520/
ที่มา: Yenta4
Cr. https://www.scholarship.in.th/10-mystery-book-and-paper/
คืนหนึ่งกลางกรุงปารีส ภัณฑารักษ์หัวหน้าผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์ ลูฟว์พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยมก่อนเสียชีวิต โซนิแยร์ ได้ทิ้งปริศนาการตายบนศพของเขาเป็นรูปสัญลักษณ์คนกลางแขนบนดาวห้าแฉก เหมือนเป็น 1 ในผลงานเลื่องชื่อของศิลปินระดับโลก ลีโอนาโด ดาวินชี (ทอม แฮงค์) ศาสตราจารย์ด้านศาสนวิทยาสัญลักษณ์แห่งมหาวิทยาลัย ฮาร์วาร์ด จึงได้รับมอบหมายจากหน่วยราชการลับแห่งฝรั่งเศส ในการไขรหัสลับของคดีฆาตกรรมนี้
Cr.rukmovie.com