ทำไมวัฒนธรรมตลาดล่างต้องฉูดฉาดและอึกทึก ขณะที่วัฒนธรรมตลาดบนต้องเรียบและสงบ

บอกกล่าว : ผมขอใช้คำว่าตลาดล่าง-ตลาดบน ตามความหมายเดิมของมันนะครับ ก็คือแบ่งตามฐานะทางเศรษฐกิจและสังคมนั่นละ ตลาดบนคือคนที่มีรายได้ค่อนไปทางสูง การศึกษาสูง มีชาติกำเนิดค่อนข้างดี ( ผู้ดีนั่นละ ) ส่วนตลาดล่างคือคนที่มีรายได้ค่อนไปทางต่ำ การศึกษาอาจไม่สูงนัก ชาติกำเนิดก็ธรรมดาๆ ( คนไทยเรียกว่าไพร่ ) 

ถ้าเป็นสมัยใหม่หน่อยที่ชนชั้นกลางเยอะขึ้น ชนชั้นกลางค่อนบนมีแนวโน้มไปอิงกับวัฒนธรรมผู้ดี ( ตลาดบน ) ส่วนชนชั้นกลางค่อนล่างมักจะไปอิงกับวัฒนธรรมไพร่ ( ตลาดล่าง ) ทีนี้ถ้าเราดูวัฒนธรรมคน 2 กลุ่ม ไม่ว่าที่ไหนในโลก วัฒนธรรมผู้ดีจะดูเรียบและสงบ ส่วนวัฒนธรรมไพร่จะดูอึกทึกและมีสีสันฉูดฉาด 

ผมยกตัวอย่างเท่าที่พอนึกออกตามสื่อบันเทิงต่างๆ นะครับ

- มหรสพงานรื่นเริง : ตลาดบนนิยมฟัง Opera , Orchestra ดื่มด่ำกับดนตรีและบทเพลงแบบนิ่งๆ ถ้ายุคใหม่ใช้เครื่องเสียง ก็มักตั้งไว้แต่ในบ้าน แต่ตลาดล่างจะชอบดนตรีเคาะกลองเสียงอึกทึก ร้องเพลงส่งเสียงดัง ลุกขึ้นมาเต้นแร้งเต้นกาแบบสุดเหวี่ยง ถ้ายุคใหม่ชอบจัดปาร์ตี้หน้าบ้าน เอาเครื่องเสียงมาเปิดด้วย

- การแต่งตัว : ตลาดบนจะแต่งตัวเรียบๆ แต่บ่งบอกได้ว่าของที่ใส่บนตัวเป็นแบรนด์หรูราคาแพง ส่วนตลาดล่างจะชอบแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสีฉูดฉาด สูทสีแจ๊ดๆ โชว์อัญมณีให้เห็นชัดๆ ทำนองสร้อยทองเส้นใหญ่ๆ แหวนเพชรวงโตๆ บางคนเลี่ยมฟันทองก็มี

- การแต่งรถ : ตลาดบนขับ Super Car , Luxury Car ไม่ค่อยเห็นแต่งอะไรเท่าไร แต่ตลาดล่างขับรถธรรมดาๆ กระบะบ้างเก๋งบ้าง แต่งมันสารพัดแบบ ไฟหลากสี เครื่องเสียงเบสหนักๆ สติ๊กเกอร์ลายแรงๆ สีฉูดฉาด ฯลฯ

ประมาณนี้ครับ รายละเอียดปลีกย่อยอาจจะต่างกันไปในแต่ละประเทศ แต่หลักๆ ก็แนวนี้เหมือนกัน มันมีนัยอะไรทางวัฒนธรรมไหมครับ

TonyMao_NK51 ( ใช้แทนอมยิ้มที่ถูกแบน )
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
ถ้าให้เราแบ่ง เราแบ่งตามการใช้งานของสมองเป็นหลักนะ
เพราะตลาดบน ค่อนข้างใช้เหตุผลเป็นหลัก จะขายอะไร ทุกอย่างต้องมีสตอรี่ มีเหตุผล มีที่มาที่ไป คุณค่าไม่ได้อยู่ที่สีสัน แต่อยู่ว่ามาจากไหน
เนื้อผ้าราคาแพง ต้องมีเหตุผลว่าแพงเพราะใช้ไหมพิเศษ หายาก เทคโนโลยีชั้นสูง ดีไซน์เนอร์ชื่อดัง มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร
คนรวยชอบของที่มีชิ้นเดียวในโลก มีจำนวนจำกัด ความพิเศษที่เหนือระดับ มันมีความยากในที่มาของความเรียบง่าย

ตลาดล่าง ค่อนข้างใช้อารมณ์เป็นหลัก ทุกอย่างซื้อจากอารมณ์ และสิ่งเร้า แรงดึงดูดทางเพศ ที่ล้วนใช้สัญชาตญาณในการตัดสินใจ
ไม่ค่อยสนใจเหตุผลหรือที่มา ว่ามันยากหรือง่าย  สนใจแค่ว่า มันดึงดูดใจมากแค่ไหน ร้อนแรง เร้าใจหรือเปล่า อารมณ์พาไปล้วนๆ
ไม่ค่อยใช้สมองในการตัดสินใจซื้อ ดังนั้นการตัดสินใจซื้อ จึงมักมาจากอารมณ์ ความรู้สึก และสัญชาตญาณเป็นพื้นฐาน

ไม่ว่าหนังหรือเพลง ถ้ามีภาพล่อแหลม เร้าอารมณ์ ดึงดูดทางเพศ ตลาดล่าง จะตัดสินใจซื้อทันที สนใจต่อสิ่งเร้า ก่อนจะมาคิดหาเหตุผลทีหลัง


คนรวย คนมีการศึกษา มักจะใช้สมองมาก ใช้เหตุผลบ่อย อะไรที่รบกวนการทำงานของสมอง เช่น ลายเส้นที่สับสน ลวดลายที่ฉุดฉาดจึงไม่ชอบ
เพราะมันทำให้เสียสมาธิ ในการทำงานของสมอง ในความเรียบง่าย ทำให้เขามีสมาธิและใช้สมองกับการทำงานที่ง่ายกว่า

คนชั้นล่างมักการศึกษาต่ำ ฐานะต่ำ เมื่อไม่ต้องรับผิดชอบ การใช้สมองจึงไม่สูง แต่ไปหนักทางใช้อารมณ์เป็นหลัก ใช้อารมณ์ตัดสินใจต่างๆ
การด่าทอ ใช้เสียงดัง ล้วนเกิดจากอารมณ์ทั้งสิ้น เมื่ออารมณ์เป็นใหญ่ อะไรที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์ ทำให้ตัดสินใจง่าย รัก โลภ โกรธ หลง
ละครไทย ตัวละครใช้อารมณ์เป็นหลัก แสดงออกทางอารมณ์เวอร์ ๆ ทำให้ตลาดล่าง รับรู้ง่าย เข้าใจง่าย ไม่ต้องคิดซับซ้อน จึงขายดี
ละครที่ต้องใช้สมองเยอะๆ สืบสวน สอบสวน ซ่อนเงื่อนหลายตลบ มักขายไม่ออก เพราะคนไทยขี้เกียจคิดลึก ปวดหัว เปลืองสมอง ไม่เร้าอารมณ์


พวกคนผิวสี ก็เป็นพวกที่ชอบใช้อารมณ์ เพลงหนัง ที่ใช้อารมณ์ คนผิวสีจะทำได้ดีกว่า
แต่หนังที่เป็นฝรั่งผิวขาว จะทำอะไรต้องมีเครื่องจักร กลไล ที่ซับซ้อน จนบางครั้งก็สงสัย จะเปิดประตูที ทำไมต้องมีกลไลเยอะขนาดนี้ด้วย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่