[CR] เที่ยวฮาวาย : ตอนที่ 3 ปิคนิคในสวน / นอน รร. หรู ใน Waikiki Beach / กิน Wolfgang's Steak และ Cheesecake Factory

ตอนที่ 1 https://ppantip.com/topic/39344137
ตอนที่ 2 https://ppantip.com/topic/39347899

วันที่ 3 ทริป เราเดินทางออกจาก North Shore โดยขับรถไปทางตะวันออกของเกาะ
ปลายทางคือ หาด Waikiki Beach ซึ่งเราจะพักที่นั่น 2 คืน

1. ระหว่างทาง เราได้แวะสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามมาก อีกแห่งของฮาวาย
คือ The Byodo-In Temple
เป็นวัดพุทธของญี่ปุ่น สร้างเมื่อปี 1968
ซึ่งในปี 2019 National Geographic จัดให้วัดแห่งนี้เป็น หนึ่งใน 20 อันดับของวัดศาสนาพุทธ ที่สวยที่สุดในโลก ค่ะ

Location  https://goo.gl/maps/R1NDYW6BqQNUC8WC6


นกที่นี่คือ ยืนหนึ่งเรื่องความกล้าหาญชาญชัยค่ะ
แค่หงายมือ แล้ววางอาหารไว้ ก็บินมาจิกกันไม่ยั้งเลยค่ะ


มีปลาคาร์ฟเยอะเลยค่ะ ซื้ออาหารให้ปลาได้
คุ้นๆ เหมือนที่ชอบซื้อขนมปังกะโหลกให้ปลาสวาย แบบวัดในบ้านเรา 555



2. ไปกันต่อที่  Ho’omaluhia Botanical Garden ค่ะ
ระหว่างทางเราแวะซื้อข้าวมา ปิคนิคกันในสวนนี้ด้วย
สวนไม่เสียค่าเข้า บรรยากาศดีมาก ชิวมาก แต่ท้องฟ้าไม่ค่อยสดใสมีเมฆฝนเบาๆ

Location https://goo.gl/maps/5WTh4c7yxaKxTmmDA

มุมนี้ ถ้าฟ้าสดใส คือ Instagamable มากๆ ค่ะ
เราเห็นใน ig ฝรั่งหลายคนลงมาถ่ายรูปเก๋ๆ กลางถนนได้
แต่วันที่เราไปเค้าห้ามลงจากรถมาถ่ายรูปเด็ดขาดเลยค่ะ
เสียใจมาก อดถ่ายรูปเก๋ๆ เลย

แวะซื้อ L & L Hawaii ที่ Windward City Shopping Center
ซึ่งเป็นทางผ่านก่อนเลี้ยวเข้าทางไปสวนค่ะ
เป็นร้านอาหารจีน ญี่ปุ่น ฮาวาย ปนๆ กัน
มีสาขาเยอะทั่วฮาวาย เราฝากท้องตอนสมัยเรียนที่นี่บ่อย
เพราะให้เยอะและถูก แบ่งไว้กินสองมื้อได้เลยค่ะ

ในสวนมีนกสวยๆ เยอะเลย แต่ซูมสุดใจ ได้มาชัดแค่นี้ค่ะ



3. ทานอิ่ม ก็ไปต่อค่ะ เนื่องจากทางฝั่งตะวันออกของเกาะ
ถนนหนทางมันสวยมาก ขับๆ ไปก็ขึ้นเขาเห็นทะเล
มีจุด look out สวยๆ เยอะมากด้วย เราเลยขับไปแวะไป
เจอที่ไหนสวยก็ เลี้ยวรถ แวะไปเดินเล่นดูวิวค่ะ

ป้านี่คือจะไปหาหอยตามโขดหินกินหรอคะ 555
จขกท เองค่ะ

สวนสาธารณะสวยๆ ชิว เยอะมาก
อิจฉาคนฮาวายจริงเลยค่ะ




4.  พัก  The Royal Hawaiian, a Luxury Collection Resort  โรงแรมสีชมพูโดดเด่น ที่หาด Waikiki ค่ะ

โรงแรมนี้ เป็นโรงแรมเก่าแก่ประจำหาดไวกิกิ เปิดมา 92 ปี (ตั้งแต่ ปี 1927)
อยู่ติดริมหาดเลย แบบไม่มีถนนกั้น
เอกลักษณ์คือตึกทั้งโรงแรมเป็นสีชมพู เด่นเป็นสง่า

เป็นโรงแรมที่เราเห็นตั้งแต่สมัยเด็กแล้วค่ะ ทุกครั้งที่มาเล่นเซิรฟ/ปิคนิคที่หาดไวกิกิ
ก็จะมองแต่ที่นี่ อยากเข้าไปดู อยากลองพักสักคืน

เนื่องจากทำเลที่ไวกิกิ เป็น Prime location ของเกาะ
มีทุกอย่าง ทั้ง ชายหาด สวนสาธารณะ สวนสัตว์ Aquarium ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์
และเป็นที่ยอดฮิตของนักท่องเที่ยว 
ราคาโรงแรมแถวนี้จึง แพงงงง มากกกก ค่ะ 
ราคาโรงแรมไม่เท่าไหร่ มีบวก Resort charge (38 $ ต่อคืน) เพิ่มเข้าไปอีก

เรานอนห้อง Historical King ราคา 980 $ ++ / 2 night
(ประมาณ 16,000 บาท ต่อคืน)  ไม่รวมอาหารเช้า
ขนาดห้อง 27sqm

ข้อดี คือ Vibe ดี / โลเคชั่นดีเดินไปหาดได้เลย / โรงแรมสวยดูขลัง /
amenities ในห้องน้ำพวก สบู แชมพู ครีม หอมมากๆ
และ แถม Sparkling wine ให้ในห้อง และ เค้กอีก 2 ชิ้น
(ชอบของแถมหง่ะ 555)
 
สำหรับการบริการ
เราไม่สามารถคาดหวังการบริการที่ดีเลิศแบบโรงแรม 5-6 ดาวของไทย/ญี่ปุ่นได้นะ
เอเชียจะแนวนอบนอม ที่นี่จะแนวชิวๆ บริการตามมาตรฐานโรงแรม
แต่ขออะไรก็ได้ เช่น เราขอครีมเพิ่ม และขอโทร Local call เค้าก็ต่อสายให้

อีกอย่าง เราพักที่นี่ ส่วนหนึ่งเพราะเติมเต็มความฝันในวัยเด็กน้อย ที่ชอบโรงแรมสีชมพูริมทะเล
ความเห็นส่วนตัวนะ ถ้าเพื่อนๆ จะมาเที่ยว เราว่า ราคาห้องต่อคืน อาจจะสูงไปสำหรับสิ่งที่ได้ พักที่อื่นอาจจะดีกว่าค่ะ

ที่นี่ฮิตจัดงานแต่งงานด้วยค่ะ หวานแหววเชียว

มีคลาสสอนโยคะ

มาดูภายในห้องกันค่ะ เตียงคิงไซส์ นุ่มสบายมาก

มีแถม Sparkling ให้ด้วยค่ะ

ห้องน้ำปกติธรรมดามากค่ะ

ทางเดินไปล้อบบี้



5. บรรยากาศ ที่ Waikiki Beach ค่ะ
นักท่องเที่ยวเยอะมาก คน Local ก็มี
ที่นี่ ผู้ชายถอดเสื้อเลิ่นเซิร์ฟ เน่นเท่ๆ ค่ะ
(ถ้านักเซิร์ฟจริง เค้าจะไปโต้แถว Northshore คลื่นจะแรงกว่า)
แต่อย่างน้อย ก็เป็นอาหารตาของเราค่ะ แน่นมากๆ 555

ส่วนผญ ก็บิกีนี่ค่ะ ที่นี่นุ่งบิกินี่เดินกันทั่วได้เลย
เดินไปซื้อของในร้าน เข้าร้านอาหารแถวนั้น ก็บีกินี่ไปได้เลยค่ะ

เทือกเขาที่เห็นในภาพ คือ Diamond Head 
จขกท เคยปีนขึ้นไปครั้งนึง วิวสวยมากเลยค่ะ
เดินขึ้นไม่ยาก ใช้เวลา ประมาณ 1 ชั่วโมง ทางไม่ชันมือใหม่เดินได้สบายค่ะ


พิเศษ อีกอย่าง ที่ Beach ทุกวัน อังคาร พฤหัส เสาร์
ตอนประมาณ 6.30 ก่อนพระอาทิตย์ตกดิน 
จะมีการแสดงเต้น Hula และคอนเสริต์เพลงฮาวาย ให้ชมฟรีค่ะ
บรรยากาศชิวมาก นั่วกับพื้นหญ้า อากาศเย็นสบาย หอมกลิ่นทะเล
แสงก็ดี นั่งชมการแสดง แล้วก็หันไปดูพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า
มันเป็นอะไรที่มีความสุขมากๆ เลยค่ะ 
 
Kūhiō Beach Torch Lighting & Hula Show
https://goo.gl/maps/3qkBLZckYq3UoNk4A


อีกที่นึงที่มี ฮูล่า โชว์ให้ชมฟรี คือใน International Market Place 
อยู่ตรงข้าม The Cheesecake Factory ค่ะ

เอวน้องนางพลิ้วไหวดั่งสายลม
ลองกลับมาฝึกเต้นบ้างที่บ้าน เอวเรามันไม่ได้จริงๆ ค่ะ 555


เราชอบ Jamba juice มากๆ เลยค่ะ น้ำปั่นผลไม้อร่อยมาก
เดินดูดในวันร้อนๆ สดชื่นนนน

ตอนกลางคืน หน้าโรงแรมค่ะ


6. Wolfgang's Steak House by Wolfgang Zwiener

ร้านสเต็กชื่อดัง สัญชาติอเมริกัน ที่มีสาขาเยอะมากในอเมริกา และเอเชีย
สาขาหลักอยู่นิวยอร์ก
สาขาใกล้ไทยที่สุด น่าจะเป็น ที่สิงค์โปร์ กับ ฮ่องกง ค่ะ 

ความเห็นส่วนตัวของเรา ผู้เป็นสายเนื้อ คิดว่า เนื้อที่นี่ย่างดีที่สุดเท่าที่เคยกินมาในชีวิตค่ะ
เราสั่ง 
-  Signature menu : Steak for Two 120.95 $
- หอยนางรม 19.95 $
- เครื่องเคียงเป็นมันบด 11.95

ค่าอาหารและเครื่องดื่ม รวม Tax 165.29 $
รวมทิป 31 $ (20% ของค่าอาหาร )
จบบิลที่ 196.29 $ หรือประมาณ 6,100 บาท ค่ะ

ร้านอยู่ชั้น 3 ของ Royal Hawaiian shopping Center ติดกับโรงแรมที่พักเลยค่ะ
ควรอีเมล/โทรไปจองก่อน เพราะคนเยอะมากค่ะ

จานแรก ขนมฟังฟรี เฉยๆ น่าจะให้มาตามมารยาทร้านหรูค่ะ 555


หอยนางรมค่ะ ขนาดเล็ก ทานเป็น Appitizer 
เราไม่ค่อยถัด หอยนางรมนอก
ชอบแบบ ตัวใหญ่เท่าฝ่ามือ ของสุราษฎร์ธานี
แล้วทานกับกระถิน โรยหอมเจียว แอนด์พริกเผา บีบมะนาวค่ะ แซ่บบบบ


มาแล้วค่ะ Steak for Two : ใช้เนื้อ USDA Prime, Dry-aged
ส่วน Poterhouse 
(USDA คือเนื้อที่ผ่านมาตรฐานการควบคุมจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประเทศสหรัฐอเมริกา
มีหลายเกรด เกรด Prime คือเกรดที่สูงที่สุดค่ะ)

ชิ้นใหญ่มาก เสริฟมาในจานร้อน
กลิ่นหอมมาก (นี่พิมพ์ไปก็น้ำลายไหลไป)

บริกร จะตักชิ้นส่วน Tenderloin หรือ Filet Mignon ซึ่งคือส่วนที่นุ่มที่สุด ให้เราค่ะ
ก็คือสองชิ้นในจานที่โบ๋ไปอ่ะค่ะ

ความสุกแนะนำ คือ Medium rare ค่ะ

เนื้อส่วน tenderloin คือ นุ่มมาก ไม่มีเอ็น ไม่เหนียว
รสเนื้อชัดเจนเพราะ ดรายเอจ มาก หอมเนยนิด
ข้างในเนื้อส่วนที่ไม่สุก จะชุ่มฉ่ำ juicy ในปาก มันดีจริงๆ ค่ะ

ทานกับ มันบด ซึ่งรสนัว เนื้อเนียน อร่อยมากเช่นกัน
(ราคาตั้ง สามร้อยกว่าบาท แพง 555)

ซอสสูตรพิเศษของทางร้าน อร่อยดีค่ะ คล้ายๆ ซอสบาร์บีคิว


ขนมจานนี้เราได้ฟรีค่ะ คุยกับ ลุงคนเสริฟถูกคอมาก
ฮีเลยจัดมาให้ ค่ะ


ค่าเสียหายค่ะ
บิลที่นี่ จะบอก ตัวเลขจำนวนของทิปที่ควรจะให้ มาด้วย
ตามมารยาท การทานอาหารที่ร้านของอเมริกา จะมีธรรมเนียมการให้ทิป
ประมาณ 10-20% ของค่าอาหาร คล้ายๆ  Service charge บ้านเรา 


คุณลุงบริกร มิสเตอร์เจเจ
เฮฮาร่าเริง เสมือนหนึ่ง ไปโดนตัวไหนมา
คุยเก่ง แกล้งเก่ง ชอบเมืองไทย ชอบท่องเที่ยวทั่วโลก
ผู้หญิงไทยสวยมาก ไอได้มาแล้วสองคน เอ่อะ ลุงงงงงง
ชื่อสินค้า:   ้Hawaii
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่