[CR] เที่ยวฮาวาย : ตอนที่ 2 เที่ยวฝั่ง Northshore / สัมผัสวัฒนธรรมชนเผ่า Polynesian / และกินแบบไม่หยุดยั้ง

ตอนที่ 1 : https://ppantip.com/topic/39344137

หลังจากนั่งเครื่องบินกันมาแบบหลับๆ ตื่นๆ เรา Landed in Paradise แล้วค่า
ถึงตอนแปดโมงเช้า ก็เริ่มเที่ยวกันเลย

1. การเดินทาง 3 วันแรก เช่ารถขับไป Northshore ค่ะ
โดยไปจาก West to North
เราจองรถกับ บริษัท ALAMO ที่เลือกเพราะราคาโอเค
ประมาณ 231.68 $ ต่อ 3 วัน (ประมาณ 7,400 บาท)
และสามารถรับที่หนึ่งแล้วคืนอีกที่หนึ่งได้ (เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม)

ซึ่งเรา Pick up แถวสนามบิน 
โดยจะมีรถจากบริษัท ALAMO มารับจากสนามบินไปถึงสถานที่จอดรถเช่าเลยค่ะ
ส่วนตอนคืน เราคืนรถที่ Waikiki Beach โดยเสียค่า Drop Fee 50$ 

เทคนิคการจองรถ ง่ายๆ คือ เลือกให้ตรงกับความต้องการ และดู rating ในเว็บเอาค่ะ 
เว็บแนะนำ  https://www.discounthawaiicarrental.com/                
เปรียบเทียบราคาให้ และมีส่วนลดพิเศษให้ด้วย
ตอนจองเพื่อนๆ ต้องดู option เสริมดีๆ นะคะ 
เช่น ถ้าเราจะผลัดกันขับกับเพื่อน ก็ต้องเลือก Option “Additional Driver” ด้วย
 และพวกประกันต่างๆ มีเยอะมาก เลือกให้ตรงกับความเสี่ยงที่เรารับได้ จะได้ขับอย่างสบายใจค่ะ

2. มื้อเช้า ที่ The Button Up Cafe, Pearl City

มื้อแรกตอนเช้า เราแวะกินร้าน BUTTON UP CAFÉ  (ร้านเล็กๆ ประมาณ 20 กว่าที่นั่ง ควรไปตอนเช้าตรู่)
ร้านนี้โด่งดังในย่าน Pearl City
แค่ 9 โมงกว่าคนยืนรอกันเต็มหน้าร้านแล้ว 

ข้อมูล ร้าน BUTTON UP CAFÉ, Pearl City
- เปิดทุกวัน ยกเว้นวันจันทร์ 07.00-14.00
- เมนู Signature ที่สั่ง
---Egg Benny + Fried Rice + Korean Braised Short Rib ราคา 20 $ (ประมาณ 640 บาท)
---Stuffed French Toast + Nutella + Ube Icecream ราคา 14 $ (ประมาณ 440 บาท)

Egg Benny อร่อยมากกกกก เป็น Egg Benedict เวอร์ชั่นใส่ เนื้อซี่โครงย่างบาร์บีคิว และทานกับข้าวผัดใส่เบคอนและสแปม

ส่วนของหวาน เป็นมิติใหม่ของ French Toast สอดไส้นูเทล่าเต็มปากเต็มคำ 
เราเพิ่มไอศรีม Ube (อูเบ เป็นคล้ายๆรสเผือก/มัน ของคนฟิลิปปินส์ค่ะ ตอนนี้ฮิตมากในฮาวาย)
ตัวขนมปังอร่อย นุ่มชุมเนย ทานไปได้แค่ครึ่งเดียวก็อิ่มจุกมากแล้วค่ะ


3. หลังจากอิ่มท้อง เราแอบไปแวะบ้านที่เราเคยอยู่กับลุง(ซึ่งเสียไปแล้ว)
และไป Shopping นิดหน่อยที่ Waikele Premium Outlet 
ใครที่เป็นสาวก กระเป๋าแบรนด์ของอเมริกา เช่น Coach ไม่ควรพลาดนะคะ ถูกมาก
แล้วออกเดินทางต่อ ไปที่ Dole Plantation ค่ะ

เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ของบริษัท ปลูก/ขาย/แปรรูปผลไม้ Dole
ภายในมีกิจกรรมหลายอย่าง เช่น เดินเขาวงกต นั่งรถไฟเที่ยวชมสวนสับปะรด (เสียตังเพิ่ม)
และมีร้านขายของที่ระลึก ด้วยค่ะ


4. แวะซื้อร้านกาแฟเก๋ไก๋ ระหว่างทาง่ ขับรถเลยจาก Dole Plantation มานิดเดียว
ระหว่างทางจะเจอร้านขายกาแฟ / น้ำสับปะรด ชื่อ 1979 Coffee 
ร้านน่ารักและ Tropical มากๆ คุยกับคนขาย บอกว่า ยูช่วยไอโปรโมตร้านหน่อยนะ 
ได้ค่ะ มาโปรโมตให้ในพันทิบ เนี่ย 555


5. แวะอีกค่ะ ร้าน Ted's Bakery
ยืนหนึ่งเรื่อง Huapia Pie หรือพายมะพร้าวค่ะ
เปิดทุกวันตั้งแต่ 7.00-20.00 

Signature Menu คือ Chocolate Huapia Creampie ราคาประมาณ 5$ (150 บาท) 
อร่อยมากค่ะ ไม่น่าเชื่อว่า ช้อคโกแลต จะเข้ากับมะพร้าว
แป้งพายก็แน่น ครีมไม่เลี่ยน ทานคนเดียวหมดชิ้นเลยค่ะ

Location : https://g.page/tedsbakery?share


6. คืนแรก และคืนที่ 2 เราพักที่ Courtyard Marriot Oahu North Shore  
ราคา ประมาณ 6,000 บาท/คืน 
รวม Resort Charge แล้ว (ทุกโรงแรมมี Resort Charge คิดเพิ่มจากราคาห้องค่ะ)
ไม่รวมค่าที่จอดรถ คืนละ 25$ (โรงแรมส่วนใหญ่ในฮาวายคิดค่าที่จอดรถค่ะ)

เลือกที่นี่เพราะมีแพลนจะเที่ยว Polynesian Cultural Center ในวันรุ่งขึ้น
ซึ่ง อยู่ติดกับโรงแรมเลยค่ะ
ถ้าเราพักในเมือง แล้วนั่งรถมาจาก Downtown หรือ Waikiki ใช้เวลาประมาณ ชั่วโมงครึ่ง
เลยกลัวเหนื่อยและขี้เกียจตื่นเช้า

โรงแรมมีสามชั้น ไม่ใหญ่มาก ห้องโอเคไม่แคบ เตียงนุ่มสบาย
ข้างล่าง มี Starbuck
ข้างโรงแรม มี Mcdonald เดินได้
และมี Foodland อยู่ไม่ไกลแต่ต้องขับรถไป ค่ะ

Location : https://goo.gl/maps/CwwGTKqGez4U6CTFA




7. เช้าวันที่ 2 มาทาน Food Truck อันโด่งดัง นักท่องเที่ยวรอคิวเป็นชั่วโมง เพื่อกุ้งกระเทียมหนึ่งจาน

"Giovanni's Shrimp Truck", Kahuku 
ร้านเปิด 11 โมงเช้า เราไปรอก่อนร้านเปิดเลยค่ะ ได้คิวที่ 4 

Location : https://goo.gl/maps/kYQsjiY51VWFNRDf9
(ขับรถไปจากโรงแรม 10 นาที)


Signature Menu : "SCAMPI" Shrimp Garlic with lemon/butter 
ราคา 14 $  (ประมาณ 450 บาท)

กุ้งสดเนื้อแน่น หมักกับ น้ำมันมะกอก
ผัดกระเทียมสับ ใส่เนย  แบบเยอะสะใจ 
และบีบเลมอน ก่อนทาน จะช่วยตัดเลี่ยนได้ดี
(คนฮาวายนิยมอาหารเลี่ยนเป็นอย่างมาก เนย น้ำมัน เค้าถึงจริงๆ
ลองดูหุ่นคนฮาวายส่วนใหญ่ได้ค่ะ)

โดยรวม อร่อยดีค่ะ
แต่ใจก็ยังรักในกุ้งกระเทียมพริกไทย ไข่ดาวไม่สุก ราดพริกน้ำปลา แบบไทยๆ อยู่
อ่ะ แต่บรรยาศชิวๆ นั่งมองฝรั่งถอดเสื้อเดินเล่น บวกกับความรู้สึกชนะที่ไม่ต้องต่อคิวนาน
ก็ทำให้รู้สึกดีขึ้นไปอีกค่ะ


Macaroni Salad 2$ (ประมาณ 60 บาท)

นั่งไปนั่งมา
Food Truck ข้างๆ ย่างเนื้อหอมมากเลย
อดใจไม่ไหว ซื้อมาหนึ่งกล่องเป็น Kalbi BBQ แบบเกาหลีค่ะ 
ซอสจะออกเค็มๆ หวานๆ ตัวเนื้อ นุ่มมาก อร่อยมาก
เสริฟพร้อม Macaroni Salad (ซึ่งเราแปลกใจมากทำไมเรียกสลัด เพราะแป้งกับมายองเนสมาเต็มเลยค่ะ 555)

จำนวนคนรอคิว ณ เวลา 11.15 ที่ Giovanni's Shrimp Truck
เยอะมากจริงๆ ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยว


8. อิ่มหนำสำราญแล้ว เราไปเที่ยวต่อที่ Polynesian Cultural Center ค่ะ
อย่างที่บอก อยู่ติดกับโรงแรมเดินไปได้สบายๆ

Polynesian Cultural Center เป็น No. 1 Tourist Attraction Voted ในฮาวายเลยค่ะ

ภายในจะแบ่งเป็น 3 ส่วน ดังนี้

8.1 Village : Polynesian Village Tour  
 เปิด 12.00-18.00
ด้านในกว้างใหญ่ไพศาล แบ่งเป็น การสัมผัสวัฒนธรรมของชนเผ่าต่างๆ ดังนี้
Hawaii   Tonga   Tahiti    Fiji   Aotearoa   Samoa

ซึ่งแต่ละหมู่บ้าน ก็จะมีโชว์วัฒนธรรมพื้นบ้าน การเต้น 
เราว่าโดยรวมสนุกมาก มีโชว์ Hula Dance สะบัดเอว
แบบแม่ทาทา El nin yo ก็ทำไม่ได้
2002 ราตรี โดยแม่แคทและญาญ่าหญิง หรอ อย่าหวังเลย
(ศิลปินเก่ามากแม่ 555)

Highlight ที่เราชอบ
-การแสดง HAKA ของชนเผ่าอาวเทียรัว
(เต้นแบบกระทืบเท้า แบบโกรธ แบบดุดัน ยังงัยอ่ะอธิบายไม่ถูก)
-การแสดงรวมในแม่น้ำ
-สอนเต้นฮูล่า

คำแนะนำ
หมวกต้องมี ร่มต้องพก เพราะเป็นกิจกรรมกลางแจ้ง แดดเผา
(จขกท ถักผม corn row ไป หัวไหม้เลยจ้า)
แดดเผาอยู่ดีดี อ้าวฝนพรำลงมา อากาศฮาวายอ่ะเนอะ
 
น้ำเปล่าเอาเข้าได้ ขนมนิดหน่อยได้ แต่ถ้ามาเป็นมื้อ คือห้ามค่ะ
ด้านในมีร้านขายอาหาร น้ำ ผลไม้ ไอติม ตลอดทาง ราคาสูงนิดนึงค่ะ

(Credit ภาพจาก polynesia.com)

8.2 โซนรับประทานอาหาร Luau Dinner 
 Luau (อ่านว่า ลูเอา) เป็นภาษาฮาวาย
แปลประมาณว่า การทานอาหารแบบจัดเต็ม พร้อมชมการแสดง

มี 3 ห้องอาหารให้เลือก แล้วแต่แพคเกจ
แนะนำเลือก ห้อง Ali'i Luau ค่ะ อาหารโอเค
ดูรีวิวมาแล้วได้คะแนนเยอะสุด
 
8.3 การแสดง Ha Breath of Life Show
การแสดงประกอบแสงสีเสียงใน Theater ค่ะ
19.30 - 21.00 

------------------------
การเลือกซื้อตั๋ว

เราเลือก  Super Ambassador Luau Package ราคา 242.95 $ / คน
(ประมาณ 7,500 บาท) ซึ่งเป็นแพคเกจสูงสุด
มี
-Private guided tour
-Ali'i Luau Buffet Dinner
-Super Ambassadoer seating (front row)
-Exclusive Canoe Tour ล่องเรือไปตามแม่น้ำเล็กๆ  ประมาณ 20 นาที

เพราะว่า เนื่องจาก แต่ละชนเผ่า เค้าจะมีรอบการแสดงที่ไม่เหมือนกัน
ถ้าใครสามารถมีเวลาวางแผนได้ดี เช่น บ่ายสองไปดูเผ่าฟิจิ บ่ายสี่ต้องวิ่งไปดูเผ่าทาฮิติ
ก็สามารถจองแบบไม่มีไกด์ได้ค่ะ ราคาจะถูกกว่า

ส่วนเรา สายขี้เกียจจัดแจง ไกด์ก็จะจัดแจงให้ ว่าเวลาไหน ต้องเดินไปเผ่าไหน
แถมจองที่นั่งเพื่อดูโชว์รวม ดีดีให้ด้วยค่ะ และที่สำคัญกว่านั้น ถ่ายรูปให้เก่งมากค่ะ 555
 
หรือ มีตั๋วแบบเข้าชม Village อย่างเดียว
ซึ่งเค้าจะแถม อาหารเย็นที่ห้อง Island Buffet ราคา 89.95 $

ซื้อตั๋วได้ที่ website : www.polynesian.com
แล้วเอา Code มายื่นให้เจ้าหน้าที่ได้เลยค่ะ

ทางเข้าของแพคเกจเรา จะแยกจากตั๋วธรรมคา
มีห้องรับรอง และการบริการแบบ VIP ค่ะ สบายๆ





นี่ค่ะ กิจกรรมที่ชอบมาก เต้นฮูล่า 
จขกท คือ ชะนีขาใหญ่ ที่เต้นเด๋อด๋า อยู่ในนั้นแหละค่ะ 555

อย่างที่บอกว่า โรงแรมอยู่ติดกับที่นี่
ในช่วงระหว่างที่ทุกคนต้อง รอ set up dinner 
เราก็เดินกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดให้เข้าตีม Local Hawaiian ที่โรงแรมค่ะ 
(ถือโอกาส แกะผม ที่เล่าให้ฟังก่อนหน้าว่าหนังหัวไหม้ ออกด้วยเลย 555)

การแสดงระหว่างทานบุฟเฟ่อาหารเย็น
มีโชว์ เราได้นั่งหน้าค่ะ


จบที่การแสดง Ha Breath of Life 
เป็นการแสดงเรื่องราวของชนเผ่า เป็นละคร ประกอบแสงสีเสียงตระการตา
แต่ห้ามถ่ายรูประหว่างการแสดง เลยได้มาแค่นี้ค่ะ


ขอจบตอนที่ 2 แต่เพียงเท่านี้
ตอนหน้า ขับรถไป Waikiki
และเราจะไปพักโรงแรมในฝันของเรา ค่ะ
อ่อ ไปกิน ร้านอาหาร ที่ตอนเด็กเราอยากกินแต่ไม่มีตัง ด้วยค่ะ
เรียกว่า วันที่ 3 และ 4 ของทริป คือการเติมเต็มความฝันวัยเด็กค่ะ

ขอบคุณที่รับชมค่ะ
ชื่อสินค้า:   Hawaii
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่