PARIS FASHION WEEK SS 2020 – พาไปดูงานรอบสื่อและโชว์รูมปารีสแฟชั่นวีค

ถ้าพูดถึงแฟชั่น แน่นอนว่าปารีสก็ต้องเป็นหนึ่งเมืองที่โผล่ชื่อเข้ามาในลิสต์ของเมืองแฟชั่น โดยปกติแล้วงานแฟชั่นวีคในทุกๆปีจะเริ่มต้นที่ลอนดอน ต่อด้วยมิลาน นิวยอร์ก และมาจบที่ปารีส ทีนี้ถ้าพูดถึงประวัติของการจัดแฟชั่นวีคที่เริ่มเปิดให้สื่อลาธารณะเริ่มเข้ามามีส่วนร่วมก็คงจะเป็นในช่วงศตวรรษที่ 19 ที่นักออกแบบชาวอังกฤษ ชื่อ Charles Frederick Wort เริ่มปรับจากการแสดงแฟชั่นสำหรับลูกค้าโดยเฉพาะมาเป็นการเปิดให้สื่อนั้นได้เริ่มเข้าชมโชว์ด้วย
การเข้าร่วมแฟชั่นโชว์นี้ หลายๆแบรนด์จำทำการเชิญสื่อ หรือเหล่าผู้มีอิทธิพลในวงการเข้าร่วมงาน ส่วนถ้าใครที่มีสื่อในตัวและอย่าเข้าร่วมก็สามารถทำการติดต่อแบรนด์ต่างๆเพื่อขอเข้าร่วมได้เช่นกัน และปีนี้ตัวแทนชาวญี่ปุ่นและไต้หวันของทีม O’bon Paris ได้มีโอกาสเข้าไปร่วมดูงานแสดงแฟชั่นในรอบสื่อมวลชน และโชว์รูมของแบรนด์ Cartier, Longchamp และ Maje เพื่อให้ทุกคนได้สนุกไปด้วยกัน วันนี้เรานำภาพมาแบ่งให้ทุกคนได้ดูกัน
เริ่มต้นกันด้วยเจลเวอรี่ชื่อดังสัญชาติฝรั่งเศสอย่าง Cartier 

Cartier
งานแสดงรอบสื่อของ Cartier ในปีนี้มาในโทนสีดำ วินเทจ บรรยากาศของไพรเวทบาร์ 
ถ้าใครได้ติดตามแคมเปญโฆษณาทาง Youtube จะได้เห็นว่าทางแบรนด์มีการใช้วีดีโอสั้นๆเพื่อนำเสนอไอเดียการออกแบบที่สร้างสรรค์เครื่องประดับออกมาเป็นลักษณะของเสือดาว ลายจุดและรูปทรงของเครื่องประดับต่างๆ ในงานนี้เราก็ได้เห็นเครื่องประดับที่มีเเรงบันดาลใจจากเสือดาวซึ่งเป็นดาวเด่นเช่นกัน
---------------------------
ไปต่อกันที่ Longchamp

Longchamp
พูดถึง Longchamp แน่นอนว่าทุกคนต้องเห็นภาพของกระเป๋า Le pilage ที่พับได้ ซึ่งต้องบอกว่าเป็นกระเป๋าที่สาวๆหลายๆคนนั้นมีเก็บไว้ในครอบครอง เป็นกระเป๋าสารพัดประโยชน์ก็น่าจะพอได้ มีอะไรก็โยนลงไป
เมื่อเข้าไปในห้องจัดแสดงของ Longchamp ก็ได้พบกับ Le Pliage อีกเช่นเคย แต่รอบนี้มาในรูปแบบ และสีสันที่ดูแปลกตาออกไป มีทั้งแบบใบเล็กๆ ๆๆๆๆ เล็กมากเหลือเกิน ซึ่งไอเดียนี้ก็เป็นแรงบันดาลใจมาจากคอนเซ็ปของดีไซน์เนอร์ Jacquemus นั่นเอง
โชว์รูมของลองชอมนั้นตั้งอยู่บนถนน Rue Saint Honoré และเป็นการจัดแสดงในไอเดียที่คล้ายกับไพรเวทแกเลอรี่ เต็ทไปด้วยกระเป๋ารูปทรงหลากหลาย มิกซ์แอนด์แมทช์กับเสื้อผ้าในแต่ละโอกาส ไม่ว่าจะเป็นวันเดินเล่นสบายๆ หรือลุคทำงานทั้งแบบเป็นทางการและcasual
-------------------------------

Maje
Maje เป็นอีกหนึ่งแบรนด์จากฝรั่งเศสที่เน้นไปที่เสื้อผ้าสำหรับผู้หญิงวัยทำงาน ไอเดียของแบรนด์เกิดจากความต้องการสร้างลุคที่ดูสง่างาม และในขณะเดียวกันก็ดูมีความชิค เก๋ไก๋ตามแบบหญิงสาวปาครีเซียง 
ชื่อของ Maje นั้นมีที่มาจาก Judith Milgrom ที่ต้องการสร้างสรรค์แบรนด์เสื้อผ้า และนำชื่อของเหล่าคนในครอบครัวมาเรียงต่อกัน M มาจาก Moyal - ชื่อกลางของ Judith ผู้เป็นเจ้าของแบรนด์ , A มาจาก Alain น้องชายของจูดิธ เป็นผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์, J มาจาก Judith และ E มาจาก Evelyne พี่สาวของจูดิธและยังเป็นผู้ก็ตั้งแบรนด์ Sandro อีกด้วย
คอลเลกชั่นของ Maje นั้นมีชื่อว่า “swimming pool” ดังนั้น เพื่อให้สมกับชื่อของคอนเซ็ป Maje จึงนำแผ่นอะคริลิคสีฟ้ามาวางไว้ที่กลางห้อง และตกแต่งบริเวณโดยรอบให้ดูเหมือนกับวิลล่าในแถบตอนใต้ของฝรั่งเศส
คอลเลกชั่น Swimming Pool นั้นดูเหมือนว่าจะเน้นไปที่ความสดใส มีการนำการดีไซน์ที่คล้ายคลึงกับชุดว่ายน้ำมามิกซ์แอนด์แมทช์กับลุคแบบปาครีเซียง
 --------------------------

ในส่วนของการแสดงแฟชั่นโชว์ O’bon Paris ได้เข้าร่วมชมแฟชั่นโชว์ที่จัดขึ้น ณ โรงแรม Ritz Paris ซึ่งเป็นแฟชั่นของดีไซน์เนอร์หน้าใหม่ที่จับมือกันเพื่อแสดงผลงานของตัวเอง งานแฟชั่นโชว์ที่นี่จัดขึ้นโดยทีม Fashion Week Studio ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติอเมริกัน ในช่วงแฟชั่นวีคจะมีการแสดงแฟชั่นโชว์จากแบรนด์เล็กๆที่ร่วมมือกันเพื่อแชร์ค่าใช้จ่ายต่างๆในการมีส่วนร่วมกับแฟชั่นโชว์และเพื่อเป็นโอกาสให้ได้แสดงผลงานต่อสาธารณะชน เมื่อมีโอกาสเข้าร่วม O’bon Paris ก็ไม่รอช้า และเก็บภาพบรรยากาศมาฝากกันเช่นเคย
การแสดงแฟชั่นโชว์ที่เราได้เข้าร่วมนั้น แบ่งออกเป็น 3 ตีมหลักด้วยกัน
1. SEVENTIES SUPER-CLASH
แบรนด์อย่าง Paco Rabanne and Altuzarra นำเอาสไตล์ของยุค70 เข้ามาผสมผสานกับสีสันที่แปลกตาและแพทเทิร์นการตัดเย็บ ออกแบบสมัยใหม่ นอกจากนี้ยังมีดีไซน์เนอร์หน้าใหม่อย่าง Yu Lin ที่นำเอาภาพพิมพ์ลายมังกร หรือลวดลายที่ปรากฎในวัดของทวีปเอเชียมาใช้เป็นไอเดียในการออกแบบ รวมไปถึงนำเอาผ้าจากไต้หวันมาใส่สีสันที่สดใสเพื่อนำเสนอการรวมตัวกันของดีไซน์ในอดีตและปัจจุบัน

2. LACEWORK
ถ้าพูดถึงแบรนด์ดังๆอย่าง Loewe, Alexander McQueen, Isabel Marant สำหรับคอลเลกชั่น  spring/summer 2020 นั้นจะเน้นไปที่งานผ้าลายลูกม้ ในขณะเดียวกันแบรนด์เล็กๆอย่าง Vonlippe and Trisha Sherman ก็นำเสนอลุคโบฮีเมี่ยนด้วยกระโปรง ชุดเดรส เสื้อ แบบซีทรู สบายๆเช่นกัน

3. ECOLOGY
เป็นการนำเสนอการออกแบบที่ตอบรับความสัมพันธ์ เกี่ยวข้องกับธรรมชาติเเละสิ่งแวดล้อม เริ่มด้วยการตอบรับกับการเปลี่ยนเเปลงของอุณหภูมิโลกและแคมเปญการรักษาธรรมชาติ ดีไซน์เนอร์บางกลุ่มก็หันมาให้ความสำคัญกับเสื้อผ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เช่น การเลือกใช้ผลิกภัณฑ์ที่ทำจากธรรมาชาติแบบ 100% หรือการใช้วัสดุที่เป็นพิษต่อสิ่งเเวดล้อมน้อยที่สุด รวมไปถึงการร่วมสนับสนุนผู้ผลิตโลคัลนั่นเอง ตัวอย่างดีไซน์เนอร์ที่นำเสนอผลงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งเเวดล้อม ก็มี Stella McCartney ที่พลิกโฉมการแสดงแฟชั่นโชว์ของเธอเพื่อเรียกร้องความร่วมมือในการดูเเลสิ่งเเวดล้อม นอกจากนี้ยังมี Nazarene Amictus ซึ่งนำเเนวคิดจากพระคัมภีร์และศาสนาเข้ามาเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานและแฟชั่นโชว์ ไม่เพียงเเต่การนำเสนอเเนวคิดที่เเปลกใหม่ แต่ดีไซน์เนอร์หน้าใหม่เหล่านี้ยังให้ความสำคัญกับการตัดเย็บและวางแพทเทิร์นของเสื้อผ้าอย่างใส่ใจรายละเอียด รวมไปถึงการเลือกวัสดุที่มีคุณภจากธรรมชาติเพื่อให้สอดคล้องกับเเนวคิดของการออกแบบอีกด้วย
ข้อมูลเพิ่มเติม --- https://www.obonparis.com/th/magazine/paris-fashion-week-spring-summer-2020
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่