สวัสดีค่ะ วันนี้จะมาขอบันทึกและเล่าประสบการณ์ท่องเที่ยว Austria – Slovenia – Croatia ของพวกเราค่ะ เราเดินทางกันคืนวันที่ 3 ตุลาคมและกลับกันวันที่ 13 ตุลาคม 62 พวกเราเลือกบินตรงจากสุวรรณภูมิ ไปลงที่เวียนนา ออสเตรียค่ะ เราเริ่มแพลนทริปและจองตั๋วมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์และขอวีซ่ากันเสร็จสรรพทุกอย่างภายในเดือนกรกฎาคมค่ะ เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก และแล้วพวกเราสามคนก็ออกเดินทาง
TIPS: หากท่องเที่ยวทั้งในประเทศเชงเก้นและควบไปโครเอเชีย ต้องขอวีซ่าเชงเก้นแบบ multiple เท่านั้นค่ะ ตรวจสอบข้อมูลวีซ่าดีๆนะคะ เพราะโครเอเชียไม่ได้อยู่ในเชงเก้นเด้อ
ขอออกตัวก่อนว่าพวกเรา 3 คน เป็นมนุษย์เงินเดือนธรรมดาๆที่รักการท่องโลกกว้าง เป็นผู้หญิงวัย 35-37 ปี เราหาข้อมูลกันเอง ขับรถกันเอง สื่อสารภาษาอังกฤษได้ ภาษาอื่นๆไม่ได้เลย หากเกิลล์แก้งค์ไหนที่อยากหาเวลาไปพักร้อนแบบเรา ผู้หญิงเราก็เที่ยวกันเองไม่ง้อทัวร์ได้ค่ะ สนนค่าใช้จ่ายรวมค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าเช่ารถ อาหาร ที่พัก ค่าเข้าชมทุกสิ่ง ยกเว้นซื้อของส่วนตัว ราคาดีงามอยู่ที่ประมาณหัวละ 7x,xxx บาทค่ะ
คอนเซปการท่องเที่ยวของเราคือ เมืองสวย อาหารอร่อย ที่นอนสบายในราคาสมเหตุสมผลค่ะ โรงแรมที่พักที่เราลงในที่นี้ถือว่าได้มาตรฐานและสามารถแนะนำให้เพื่อนๆใช้บริการได้ค่ะ แต่อาจจะเหมาะกับคนที่ขับรถเที่ยวเนื่องจากบางแห่งก็อยู่ในที่ห่างไกลชุมชนบ้างค่ะ ส่วนการเดินทางด้วยการบินไทย ก็ไม่ผิดหวังค่ะเพราะพี่ๆดูแลพวกเราดี อาหารอร่อย ไฟล์ทที่ออกจากสุวรรณภูมิเป็นกลางสัปดาห์ซึ่งมีที่นั่งว่าง พี่ๆสจ๊วตก็จะมากระซิบบอกเราให้ย้ายไปนั่งแถวที่ว่างอย่างใจดี แต่ไฟล์ทขากลับจากเวียนนานั้นแน่นค่ะและอาหารก็ไม่น่าประทับใจเท่าไฟล์ทที่ออกจากสุวรรณภูมิ (เจออาการข้าวเป็นแข็งเป็นไตเข้าไปค่ะ แต่ก็พอถูไถได้) เราเน้นไฟล์ทบินตรงเท่านั้นนะคะเพราะจากประสบการณ์เก่าๆที่ผ่านมาและเราก็ไม่ได้มีวันลามากมาย จึงไม่อยากจะเสี่ยงกับการดีเลย์หรือการยกเลิกเที่ยวบินอีกค่ะ มาเริ่มกันเลยค่ะ
Day 1 (03-10-19): Bangkok - Vienna airport – Semmering –– Mariazell –Villach
Accommodation: Center Rooms Villach - Tafernerstraße 2, 9500 Villach, Austria
ไฟล์ทเรามาถึง 7:05 น. สนามบินยังค่อนข้างเงียบมาก รอตรวจคนเข้าเมืองไม่ถึง 5 นาที ไม่ต้องกรอกแบบฟอร์มอะไรค่ะ แค่สแกนนิ้ว ยิ้มหวานและก็ผ่านมารับกระเป๋าเร็วมาก ใช้เวลาไม่ถึง 20 นาทีค่ะ จากนั้นเราก็ได้ประสบการณ์ใหม่ในการแลกเงินสกุลของโครเอเชียในเค้าเตอร์สนามบินระหว่างรอกระเป๋า เราแลกกัน 300 ยูโร โดนค่าคอมมิชชั่นไป 45 ยูโร ซึ่งทำให้เรารู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาทันทีค่ะ ไม่เคยโดนค่าคอมมิชชั่นแรงขนาดนี้มาก่อน
TIPS: ท่านใดที่ต้องการแลกเงินคูน่า กรุณาหาให้ได้มาจากเมืองไทยหรือแลกนอกสนามบิน ท่านสามารถไปแลกตามสถานที่ท่องเที่ยวได้ ที่โครเอเชียในแหล่งท่องเที่ยวจะมีร้านแลกเงิน แต่แม้ร้านติดกันก็อาจมีอัตราแลกเปลี่ยนไม่เท่ากัน ลองเทียบราคา 2-3 ร้าน แล้วทยอยแลกทีละนิดลดความเสี่ยงการขาดทุนค่ะ
ทริปนี้เราเช่ารถของ Alamo ค่ะ รับรถที่สนามบินเลย เพียงสังเกตดีๆในใบจองว่าเจ้าที่เราจองมาอยู่ชั้นไหน แล้วเดินไปให้ถูกก็จะเจอเค้าเตอร์บริการเต็มไปหมด เราก็สามารถไปยื่นใบจองให้เจ้าหน้าที่ เขาจะอธิบายบลาๆ เราเลือกประกันแบบ full coverage ค่ะ เพื่อความสบายใจในการขับขี่ต่างแดน อันนี้แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละคนนะคะ เราสามารถมาซื้อประกันได้ตอนรับรถหรือซื้อออนไลน์ตั้งแต่ตอนจองผ่านเนตก็ได้ค่ะ ก่อนรับรถตรวจรอบรถให้ละเอียดว่ามีรอยบุบชนหรือไม่ค่ะ ตรวจสอบดูปุ่มทุกว่าทุกอย่างใช้งานได้หรือไม่ ค่อยๆจับคลำ ตั้งสติสลับด้านจากขวาเป็นซ้ายไว้ จขกท ใช้เวลากับ GPS พักนึงค่ะ จนรู้ใจกันพอควรจึงออกเดินทาง
จุดแรกที่แวะคือเมือง Semmering ในออสเตรีย เป็นเมืองสกีรีสอร์ทที่มือชื่อเสียงค่ะ เป้าหมายของเราอยู่ที่ Semmering Railway ค่ะ เป็นการจุดเจาะอุโมงค์สำหรับให้รถไฟผ่านได้เป็นที่แรกของโลก หรือ the world's first true mountain railway ซึ่งปัจจุบันก็ยังใช้งานอยู่ค่ะ และเราสามารถแวะจอดเป็นจุดเพื่อหามุมถ่ายภาพเหมาะๆได้ จะชิลมากถ้ามีเวลาขี่จักรยานที่นี่ แต่วันนี้อากาศไม่เป็นใจเลยค่ะ ลมแรงมากและเย็นกว่าที่เราคาดไว้ค่ะ
TIPS: ในการท่องเที่ยวช่วงเปลี่ยนผ่านฤดู เช่น จากใบไม้ร่วงเข้าฤดูหนาว (ตุลาคม) หรือ จากฤดูใบไม้ผลิเข้าฤดูร้อน ควรเตรียมเสื้อผ้าให้เหมาะสมค่ะ เพราะบางทีเราเช็คอากาศมาจากไทยแล้ว แต่พอมาจริงๆอากาศมันเปลี่ยนแปลง อุณหภูมิลดหรือเพิ่มขึ้นมากจะได้เที่ยวสนุกค่ะ
จากนั้นเราก็ขับต่อไปที่เมือง Mariazell เดินเล่นกันในเมือง ที่นี่ landmark คือโบสถ์ Basilica Mariä Geburt ที่สวยงามเก่าแก่ แต่ห้ามถ่ายรูปภายในนะคะ จากนั้นก็หาอะไรทานแถวๆนั้น เราก็ลองอาหารพื้นเมืองที่เค้าแนะนำไป ช่วงที่มาเจอฤดูกาลทำขนมปังขิง ร้านรวงก็จะทำบ้านขนมปังขิงจัดแสดงกันในตู้หน้าร้านให้เราชมค่ะ
เราทานมื้อเที่ยงควบเย็นกันที่ร้าน Pirker am Hauptplatz Cafe Restaurant ที่อยู่ข้างๆโบสถ์ค่ะ ร้านอาหารเปิดไม่เยอะเพราะอาจเป็นช่วง low season หรือเพราะเป็นวันกลางสัปดาห์ไม่ทราบได้ ร้านนี้มีเมนูภาษาอังกฤษ เป็นอาหารของออสเตรีย-เยอรมัน อาหารตกแต่งสวย รสชาติอร่อย ราคาสมเหตุผลค่ะ
เย็นๆก็ขับมาเข้าที่พักที่เมือง Villah เรากระเถิบออกมาเพื่อเตรียมเดินทางออกไป Slovenia เลยอาจจะดูขับกันไกลหน่อยในวันแรกแต่ระหว่างทางสวยมากค่ะ เนินหญ้า วัวตัวใหญ่ วิวสวยงามมากๆเลย
TIPS: การใช้ห้องน้ำระหว่างทาง ในออสเตรียและสโลเวเนียสามารถเข้าได้ตามปั๊มน้ำมัน ส่วนมากจะให้หยอดเงิน 1 ยูโรแล้วรับส่วนลดไปซื้อของในมินิมาร์ท ส่วนในโครเอเชีย ห้องน้ำตามปั๊มเข้าได้ไม่เสียเงินค่ะ ห้องน้ำสะอาดได้มาตรฐานเป็นส่วนมากค่ะ แทบไม่ต้องกังวลเรื่องนี้เวลาขับรถไกลๆเลย
TIPS: ช่วงที่เรามา 3-13 ต.ค. 62 ใบไม้ยังไม่เหลืองจัด ถ่ายรูปยังไม่สวยงามมากนัก อุณหภูมิแถบออสเตรีย สโลเวเนีย และโครเอเชียตอนเหนือเริ่มเย็น 9-11 องศา และมืดประมาณ 18:00 น. ส่วนที่โครเอเชียตอนใต้ อากาศอุ่นราวๆ 13-18 องศากำลังเดินสบายๆค่ะ
Day 2 (04-10-19): Villach –Jasna lake – Vršic Pass - Vintgar gorge – Lake Bled – Ljubljana
Accommodation: B&B Julija - Kolarjeva ulica 47, 1000 Ljubljana, Slovenia
เช้านี้เราตื่นกันมาพร้อมกับหาอะไรง่ายๆ ทานกันจากร้านสะดวกซื้อ เดินเล่นรอบเมือง Villach ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีเพราะเป็นเมืองเล็กๆ
จากนั้นออกเดินทางไป Jasna Lake ข้ามไปสโลเวเนียกันโลด
ระหว่างทางจาก Villach ไป Jasna Lake เป็น Julian Alps วิวสวยงามดาวล้านดวง มีจุดชมวิวที่เราสามารถจอดรถลงไปนั่งชมวิวหรือจิบกาแฟได้สะดวก เขตแดนระหว่างออสเตรียกับสโลเวเนีย สามารถขับข้ามมาโดยไม่ต้องตรวจหรือมีเจ้าหน้าที่ใดๆ เราขับไปเรื่อยยังไม่รู้เลยว่าตรงไหนเป็นเส้นแบ่งแยกประเทศ ขับไปสักพักพอถึง Jasna Lake ก็จะเจอทะเลสาบสีฟ้าใสพร้อมกับรูปปั้น Gold horn และฝูงเป็ด(จริง) สามารถเดินเล่นถ่ายภาพรอบๆได้ และมีโรงแรมและร้านอาหารอยู่ใกล้ๆ Lake (จำชื่อร้านไม่ได้ค่ะ) เป็นร้านที่เน้นขายอาหารเช้ามากกว่า มื้อเที่ยงจะเหลือเมนูง่ายๆพวกแซนวิชหรือ Panini เมนูที่แนะนำคือ เค้ก Kremnista ที่เป็นอาหารของโซนนี้ ไม่ว่าไปเที่ยวที่ไหนก็จะเจอเค้กนี้แทบทุกที่ ครีมสดชื่นมาก ชิ้นเดียวไม่ค่อยพอ
TIPS: การออกจากออสเตรียเข้าสโลเวเนีย ต้องซื้อ Pass Vignettes ติดกระจกรถกันเสียหน่อย ใช้เวลาขึ้น toll สามารถแวะซื้อได้ตามปั๊มน้ำมันในออสเตรียก่อนเข้าเขตประเทศสโลเวเนียนะคะ พวกเราซื้อกันที่ปั๊ม Eni ซึ่งเป็นปั๊มสุดท้ายก่อนเข้าสโลเวเนียราคา 9 ยูโรและสามารถใช้ได้ 10 วัน ป้าคนขายบอกว่านี่คุ้มค่าที่สุดแล้ว
TIPS: การเติมน้ำมันในยุโรป จอดรถให้ตรงหัวจ่ายที่ต้องการ เติมน้ำมันแล้วเดินเข้าไปในร้าน แจ้งเลขที่หัวจ่าย ชำระเงิน ก็เป็นอันเสร็จพิธี ตรงปั๊มมีอุปกรณ์ถุงมือ ทิชชูไว้ให้รักษาความสะอาดกันแทบทุกปั๊มค่ะ ใช้วิธีนี้ทั้งออสเตรีย สโลเวเนีย และโครเอเชีย
จากนั้นเราก็ขับรถต่อไปที่ Vršic Pass มีทางเลือกมากมายที่จะท่องเที่ยวแถวนี้ เราเห็นคนปั่นจักรยาน มอเตอร์ไซด์บิ๊กไบค์ หรือเดิน แต่ที่นิยมที่สุดที่เราเห็นคือขับรถเพราะสามารถจอดแวะไปเรื่อยๆได้เลย ระหว่างทางสวยมาก และขับรถไม่ยาก ที่นี่รถน้อยและค่อนข้างขับขี่ปลอดภัยแม้จะเป็นทางขึ้นเขา เวลาขึ้นลงใช้เส้นทางเดียวกันนะคะ มีจุดหนึ่งก่อนถึง peak ที่เราแวะจอดกันสวยมากจริงๆ นักท่องเที่ยวแทบจะจอดทุกคัน
TIPS: ก่อนขับรถขึ้นเขาสามารถแวะเข้าห้องน้ำได้ที่ visitor center ในตัวเมืองก่อนและหากอยากมา Hike สามารถสอบถามเส้นทางที่เหมาะสมกับเวลาของตนกับเจ้าหน้าที่ได้ค่ะ
วันนี้ยังไม่หยุดเท่านี้ เราขับต่อไปที่ Vintgar Gorge ซึ่งทางเข้าก็แคบเพราะเป็นทางผ่านหมู่บ้าน ที่นี่เป็นโตรกธารที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเดินชมธรรมชาติที่มีชื่อเสียงควรค่าแก่การมาเยือน เมื่อถึงเขตน้ำตกสามารถจอดรถได้ใกล้จุดขายตั๋วเลยค่ะ จ่ายค่าเข้าชม 10 ยูโรพร้อมกับเดินไปกลับประมาณ 1 ชั่วโมง ตลอดทางเป็นน้ำตกและทะเลสาบ มีทางเดินที่ทำไว้ดีมากสามารถเดินได้สบายๆ วิวที่ทุกคนหยุดถ่ายคือตรงที่มีสะพานรถไฟพาดผ่าน เราไปช่วงเย็นก็โดนความย้อนแสงไปเบาๆ แต่ได้เจอจังหวะดีที่รถไฟแล่นผ่านพอดี เลยได้ภาพที่อยากได้ น้ำที่นี่ใสมากจนเห็นตัวปลา ชื่นชมบ้านเมืองนี้ที่เค้ารักษาสิ่งแวดล้อมได้ดีมากเลย
เดี๋ยวมาต่อในความคิดเห็นด้านล่างนะคะ
[CR] ขับรถเที่ยวกันเดือนตุลาคม ออสเตรีย สโลเวเนีย โครเอเชีย
สวัสดีค่ะ วันนี้จะมาขอบันทึกและเล่าประสบการณ์ท่องเที่ยว Austria – Slovenia – Croatia ของพวกเราค่ะ เราเดินทางกันคืนวันที่ 3 ตุลาคมและกลับกันวันที่ 13 ตุลาคม 62 พวกเราเลือกบินตรงจากสุวรรณภูมิ ไปลงที่เวียนนา ออสเตรียค่ะ เราเริ่มแพลนทริปและจองตั๋วมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์และขอวีซ่ากันเสร็จสรรพทุกอย่างภายในเดือนกรกฎาคมค่ะ เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก และแล้วพวกเราสามคนก็ออกเดินทาง
TIPS: หากท่องเที่ยวทั้งในประเทศเชงเก้นและควบไปโครเอเชีย ต้องขอวีซ่าเชงเก้นแบบ multiple เท่านั้นค่ะ ตรวจสอบข้อมูลวีซ่าดีๆนะคะ เพราะโครเอเชียไม่ได้อยู่ในเชงเก้นเด้อ
ขอออกตัวก่อนว่าพวกเรา 3 คน เป็นมนุษย์เงินเดือนธรรมดาๆที่รักการท่องโลกกว้าง เป็นผู้หญิงวัย 35-37 ปี เราหาข้อมูลกันเอง ขับรถกันเอง สื่อสารภาษาอังกฤษได้ ภาษาอื่นๆไม่ได้เลย หากเกิลล์แก้งค์ไหนที่อยากหาเวลาไปพักร้อนแบบเรา ผู้หญิงเราก็เที่ยวกันเองไม่ง้อทัวร์ได้ค่ะ สนนค่าใช้จ่ายรวมค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าเช่ารถ อาหาร ที่พัก ค่าเข้าชมทุกสิ่ง ยกเว้นซื้อของส่วนตัว ราคาดีงามอยู่ที่ประมาณหัวละ 7x,xxx บาทค่ะ
คอนเซปการท่องเที่ยวของเราคือ เมืองสวย อาหารอร่อย ที่นอนสบายในราคาสมเหตุสมผลค่ะ โรงแรมที่พักที่เราลงในที่นี้ถือว่าได้มาตรฐานและสามารถแนะนำให้เพื่อนๆใช้บริการได้ค่ะ แต่อาจจะเหมาะกับคนที่ขับรถเที่ยวเนื่องจากบางแห่งก็อยู่ในที่ห่างไกลชุมชนบ้างค่ะ ส่วนการเดินทางด้วยการบินไทย ก็ไม่ผิดหวังค่ะเพราะพี่ๆดูแลพวกเราดี อาหารอร่อย ไฟล์ทที่ออกจากสุวรรณภูมิเป็นกลางสัปดาห์ซึ่งมีที่นั่งว่าง พี่ๆสจ๊วตก็จะมากระซิบบอกเราให้ย้ายไปนั่งแถวที่ว่างอย่างใจดี แต่ไฟล์ทขากลับจากเวียนนานั้นแน่นค่ะและอาหารก็ไม่น่าประทับใจเท่าไฟล์ทที่ออกจากสุวรรณภูมิ (เจออาการข้าวเป็นแข็งเป็นไตเข้าไปค่ะ แต่ก็พอถูไถได้) เราเน้นไฟล์ทบินตรงเท่านั้นนะคะเพราะจากประสบการณ์เก่าๆที่ผ่านมาและเราก็ไม่ได้มีวันลามากมาย จึงไม่อยากจะเสี่ยงกับการดีเลย์หรือการยกเลิกเที่ยวบินอีกค่ะ มาเริ่มกันเลยค่ะ
Day 1 (03-10-19): Bangkok - Vienna airport – Semmering –– Mariazell –Villach
Accommodation: Center Rooms Villach - Tafernerstraße 2, 9500 Villach, Austria
ไฟล์ทเรามาถึง 7:05 น. สนามบินยังค่อนข้างเงียบมาก รอตรวจคนเข้าเมืองไม่ถึง 5 นาที ไม่ต้องกรอกแบบฟอร์มอะไรค่ะ แค่สแกนนิ้ว ยิ้มหวานและก็ผ่านมารับกระเป๋าเร็วมาก ใช้เวลาไม่ถึง 20 นาทีค่ะ จากนั้นเราก็ได้ประสบการณ์ใหม่ในการแลกเงินสกุลของโครเอเชียในเค้าเตอร์สนามบินระหว่างรอกระเป๋า เราแลกกัน 300 ยูโร โดนค่าคอมมิชชั่นไป 45 ยูโร ซึ่งทำให้เรารู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาทันทีค่ะ ไม่เคยโดนค่าคอมมิชชั่นแรงขนาดนี้มาก่อน
TIPS: ท่านใดที่ต้องการแลกเงินคูน่า กรุณาหาให้ได้มาจากเมืองไทยหรือแลกนอกสนามบิน ท่านสามารถไปแลกตามสถานที่ท่องเที่ยวได้ ที่โครเอเชียในแหล่งท่องเที่ยวจะมีร้านแลกเงิน แต่แม้ร้านติดกันก็อาจมีอัตราแลกเปลี่ยนไม่เท่ากัน ลองเทียบราคา 2-3 ร้าน แล้วทยอยแลกทีละนิดลดความเสี่ยงการขาดทุนค่ะ
ทริปนี้เราเช่ารถของ Alamo ค่ะ รับรถที่สนามบินเลย เพียงสังเกตดีๆในใบจองว่าเจ้าที่เราจองมาอยู่ชั้นไหน แล้วเดินไปให้ถูกก็จะเจอเค้าเตอร์บริการเต็มไปหมด เราก็สามารถไปยื่นใบจองให้เจ้าหน้าที่ เขาจะอธิบายบลาๆ เราเลือกประกันแบบ full coverage ค่ะ เพื่อความสบายใจในการขับขี่ต่างแดน อันนี้แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละคนนะคะ เราสามารถมาซื้อประกันได้ตอนรับรถหรือซื้อออนไลน์ตั้งแต่ตอนจองผ่านเนตก็ได้ค่ะ ก่อนรับรถตรวจรอบรถให้ละเอียดว่ามีรอยบุบชนหรือไม่ค่ะ ตรวจสอบดูปุ่มทุกว่าทุกอย่างใช้งานได้หรือไม่ ค่อยๆจับคลำ ตั้งสติสลับด้านจากขวาเป็นซ้ายไว้ จขกท ใช้เวลากับ GPS พักนึงค่ะ จนรู้ใจกันพอควรจึงออกเดินทาง
จุดแรกที่แวะคือเมือง Semmering ในออสเตรีย เป็นเมืองสกีรีสอร์ทที่มือชื่อเสียงค่ะ เป้าหมายของเราอยู่ที่ Semmering Railway ค่ะ เป็นการจุดเจาะอุโมงค์สำหรับให้รถไฟผ่านได้เป็นที่แรกของโลก หรือ the world's first true mountain railway ซึ่งปัจจุบันก็ยังใช้งานอยู่ค่ะ และเราสามารถแวะจอดเป็นจุดเพื่อหามุมถ่ายภาพเหมาะๆได้ จะชิลมากถ้ามีเวลาขี่จักรยานที่นี่ แต่วันนี้อากาศไม่เป็นใจเลยค่ะ ลมแรงมากและเย็นกว่าที่เราคาดไว้ค่ะ
TIPS: ในการท่องเที่ยวช่วงเปลี่ยนผ่านฤดู เช่น จากใบไม้ร่วงเข้าฤดูหนาว (ตุลาคม) หรือ จากฤดูใบไม้ผลิเข้าฤดูร้อน ควรเตรียมเสื้อผ้าให้เหมาะสมค่ะ เพราะบางทีเราเช็คอากาศมาจากไทยแล้ว แต่พอมาจริงๆอากาศมันเปลี่ยนแปลง อุณหภูมิลดหรือเพิ่มขึ้นมากจะได้เที่ยวสนุกค่ะ
จากนั้นเราก็ขับต่อไปที่เมือง Mariazell เดินเล่นกันในเมือง ที่นี่ landmark คือโบสถ์ Basilica Mariä Geburt ที่สวยงามเก่าแก่ แต่ห้ามถ่ายรูปภายในนะคะ จากนั้นก็หาอะไรทานแถวๆนั้น เราก็ลองอาหารพื้นเมืองที่เค้าแนะนำไป ช่วงที่มาเจอฤดูกาลทำขนมปังขิง ร้านรวงก็จะทำบ้านขนมปังขิงจัดแสดงกันในตู้หน้าร้านให้เราชมค่ะ
เราทานมื้อเที่ยงควบเย็นกันที่ร้าน Pirker am Hauptplatz Cafe Restaurant ที่อยู่ข้างๆโบสถ์ค่ะ ร้านอาหารเปิดไม่เยอะเพราะอาจเป็นช่วง low season หรือเพราะเป็นวันกลางสัปดาห์ไม่ทราบได้ ร้านนี้มีเมนูภาษาอังกฤษ เป็นอาหารของออสเตรีย-เยอรมัน อาหารตกแต่งสวย รสชาติอร่อย ราคาสมเหตุผลค่ะ
เย็นๆก็ขับมาเข้าที่พักที่เมือง Villah เรากระเถิบออกมาเพื่อเตรียมเดินทางออกไป Slovenia เลยอาจจะดูขับกันไกลหน่อยในวันแรกแต่ระหว่างทางสวยมากค่ะ เนินหญ้า วัวตัวใหญ่ วิวสวยงามมากๆเลย
TIPS: การใช้ห้องน้ำระหว่างทาง ในออสเตรียและสโลเวเนียสามารถเข้าได้ตามปั๊มน้ำมัน ส่วนมากจะให้หยอดเงิน 1 ยูโรแล้วรับส่วนลดไปซื้อของในมินิมาร์ท ส่วนในโครเอเชีย ห้องน้ำตามปั๊มเข้าได้ไม่เสียเงินค่ะ ห้องน้ำสะอาดได้มาตรฐานเป็นส่วนมากค่ะ แทบไม่ต้องกังวลเรื่องนี้เวลาขับรถไกลๆเลย
TIPS: ช่วงที่เรามา 3-13 ต.ค. 62 ใบไม้ยังไม่เหลืองจัด ถ่ายรูปยังไม่สวยงามมากนัก อุณหภูมิแถบออสเตรีย สโลเวเนีย และโครเอเชียตอนเหนือเริ่มเย็น 9-11 องศา และมืดประมาณ 18:00 น. ส่วนที่โครเอเชียตอนใต้ อากาศอุ่นราวๆ 13-18 องศากำลังเดินสบายๆค่ะ
Day 2 (04-10-19): Villach –Jasna lake – Vršic Pass - Vintgar gorge – Lake Bled – Ljubljana
Accommodation: B&B Julija - Kolarjeva ulica 47, 1000 Ljubljana, Slovenia
เช้านี้เราตื่นกันมาพร้อมกับหาอะไรง่ายๆ ทานกันจากร้านสะดวกซื้อ เดินเล่นรอบเมือง Villach ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีเพราะเป็นเมืองเล็กๆ
จากนั้นออกเดินทางไป Jasna Lake ข้ามไปสโลเวเนียกันโลด
ระหว่างทางจาก Villach ไป Jasna Lake เป็น Julian Alps วิวสวยงามดาวล้านดวง มีจุดชมวิวที่เราสามารถจอดรถลงไปนั่งชมวิวหรือจิบกาแฟได้สะดวก เขตแดนระหว่างออสเตรียกับสโลเวเนีย สามารถขับข้ามมาโดยไม่ต้องตรวจหรือมีเจ้าหน้าที่ใดๆ เราขับไปเรื่อยยังไม่รู้เลยว่าตรงไหนเป็นเส้นแบ่งแยกประเทศ ขับไปสักพักพอถึง Jasna Lake ก็จะเจอทะเลสาบสีฟ้าใสพร้อมกับรูปปั้น Gold horn และฝูงเป็ด(จริง) สามารถเดินเล่นถ่ายภาพรอบๆได้ และมีโรงแรมและร้านอาหารอยู่ใกล้ๆ Lake (จำชื่อร้านไม่ได้ค่ะ) เป็นร้านที่เน้นขายอาหารเช้ามากกว่า มื้อเที่ยงจะเหลือเมนูง่ายๆพวกแซนวิชหรือ Panini เมนูที่แนะนำคือ เค้ก Kremnista ที่เป็นอาหารของโซนนี้ ไม่ว่าไปเที่ยวที่ไหนก็จะเจอเค้กนี้แทบทุกที่ ครีมสดชื่นมาก ชิ้นเดียวไม่ค่อยพอ
TIPS: การออกจากออสเตรียเข้าสโลเวเนีย ต้องซื้อ Pass Vignettes ติดกระจกรถกันเสียหน่อย ใช้เวลาขึ้น toll สามารถแวะซื้อได้ตามปั๊มน้ำมันในออสเตรียก่อนเข้าเขตประเทศสโลเวเนียนะคะ พวกเราซื้อกันที่ปั๊ม Eni ซึ่งเป็นปั๊มสุดท้ายก่อนเข้าสโลเวเนียราคา 9 ยูโรและสามารถใช้ได้ 10 วัน ป้าคนขายบอกว่านี่คุ้มค่าที่สุดแล้ว
TIPS: การเติมน้ำมันในยุโรป จอดรถให้ตรงหัวจ่ายที่ต้องการ เติมน้ำมันแล้วเดินเข้าไปในร้าน แจ้งเลขที่หัวจ่าย ชำระเงิน ก็เป็นอันเสร็จพิธี ตรงปั๊มมีอุปกรณ์ถุงมือ ทิชชูไว้ให้รักษาความสะอาดกันแทบทุกปั๊มค่ะ ใช้วิธีนี้ทั้งออสเตรีย สโลเวเนีย และโครเอเชีย
จากนั้นเราก็ขับรถต่อไปที่ Vršic Pass มีทางเลือกมากมายที่จะท่องเที่ยวแถวนี้ เราเห็นคนปั่นจักรยาน มอเตอร์ไซด์บิ๊กไบค์ หรือเดิน แต่ที่นิยมที่สุดที่เราเห็นคือขับรถเพราะสามารถจอดแวะไปเรื่อยๆได้เลย ระหว่างทางสวยมาก และขับรถไม่ยาก ที่นี่รถน้อยและค่อนข้างขับขี่ปลอดภัยแม้จะเป็นทางขึ้นเขา เวลาขึ้นลงใช้เส้นทางเดียวกันนะคะ มีจุดหนึ่งก่อนถึง peak ที่เราแวะจอดกันสวยมากจริงๆ นักท่องเที่ยวแทบจะจอดทุกคัน
TIPS: ก่อนขับรถขึ้นเขาสามารถแวะเข้าห้องน้ำได้ที่ visitor center ในตัวเมืองก่อนและหากอยากมา Hike สามารถสอบถามเส้นทางที่เหมาะสมกับเวลาของตนกับเจ้าหน้าที่ได้ค่ะ
วันนี้ยังไม่หยุดเท่านี้ เราขับต่อไปที่ Vintgar Gorge ซึ่งทางเข้าก็แคบเพราะเป็นทางผ่านหมู่บ้าน ที่นี่เป็นโตรกธารที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเดินชมธรรมชาติที่มีชื่อเสียงควรค่าแก่การมาเยือน เมื่อถึงเขตน้ำตกสามารถจอดรถได้ใกล้จุดขายตั๋วเลยค่ะ จ่ายค่าเข้าชม 10 ยูโรพร้อมกับเดินไปกลับประมาณ 1 ชั่วโมง ตลอดทางเป็นน้ำตกและทะเลสาบ มีทางเดินที่ทำไว้ดีมากสามารถเดินได้สบายๆ วิวที่ทุกคนหยุดถ่ายคือตรงที่มีสะพานรถไฟพาดผ่าน เราไปช่วงเย็นก็โดนความย้อนแสงไปเบาๆ แต่ได้เจอจังหวะดีที่รถไฟแล่นผ่านพอดี เลยได้ภาพที่อยากได้ น้ำที่นี่ใสมากจนเห็นตัวปลา ชื่นชมบ้านเมืองนี้ที่เค้ารักษาสิ่งแวดล้อมได้ดีมากเลย
เดี๋ยวมาต่อในความคิดเห็นด้านล่างนะคะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้