ก่อนจะไปเราก็มีคำถามว่า ควรไปอาคาร 2 ก่อน หรือ ไปตรวจสภาพที่อาคาร 4 เลย
แต่พอดีเรากรอกใบขอโอนไว้เรียบร้อยก่อนมาขนส่งแล้ว สามารถขับไปตรวจสภาพที่อาคาร 4 ได้เลย
แต่ไม่แน่ใจว่าถ้าไม่มีใบขอโอน เจ้าหน้าที่ตรงนั้นจะมีให้หรือเปล่า เพราะตอนตรวจสภาพ ต้องมีการแปะเลขตัวถึงลงใบขอโอนด้วย
(หากมีเพื่อนท่านใดมีข้อมูล ช่วยตอบก็ได้นะคะ)
1. ขับรถไปที่อาคาร 4 (ที่โดมตรวจสภาพ) เพื่อตรวจสภาพ ถ้าเข้ามาจากฝั่งพหลให้ตรงมาจนสุดกลับรถ
อยู่ข้างอาคาร 4 สีม่วง เป็นโดมๆ เลี้ยวซ้ายเข้าไป ต่อคิว 2 ช่องซ้ายสุด (ช่อง 1,2)
ไม่ต้องลงจากรถ พอใกล้ถึงคิว เจ้าหน้าที่จะเดินมาขอเอกสารไปก่อน (ซึ่งเราจะมองเห็นเค้าเดินไปที่โต๊ะ ทำให้มั่นใจว่าเป็นเจ้าหน้าที่จริง)
ซึ่งเอกสาร ณ จุดนี้ยังไม่ต้องเซ็นเรียบร้อยก็ได้ ยังไงก็ต้องให้เจ้าหน้าที่ที่อาคาร 2 ตรวจสอบอีกที
พอถึงคิว ให้ดับเครื่อง ลงจากรถ เจ้าหน้าที่จะขูดหมายเลขตัวถังลงบนเทปขาว แล้วมาแปะบนใบคำร้อง
ของเราอยู่ข้างที่นั่งคนขับ ก็เปิดประตูรถไว้ แต่ถ้าอยู่หน้ากระโปรงก็ต้องเปิดกระโปรงรถไว้
อ้อ อย่าลืมตรวจสอบหมายเลขทะเบียนรถ ว่าเจ้าหน้าที่เขียนถูกต้องหรือไม่นะคะ เก็บเอกสารกลับมาให้ครบด้วย
ถ้ามีปัญหาเช่น ป้ายชำรุด เจ้าหน้าที่จะเขียนลงด้วย เราก็ไปขอทำป้ายใหม่แทนได้
2. พอเสร็จ
กรณี 1 (ที่เราเจอ) เจ้าหน้าจะคืนเอกสารมาให้เลย ก็ขับออกจากช่อง วนซ้ายเข้ามาผ่านด้านหน้า อาคาร 4 อีกรอบ ตรงไป อาคาร 2 จะอยู่ทางขวามือ
ที่จอดรถ ถ้าไปเช้า หน้าอาคาร 2 จอดได้เลย แต่สายหน่อยก็ต้องวนหาเอา
กรณี 2 (ในรีวิวที่เราอ่านมา) เค้าจะให้วนออกไปจอด แล้วกลับมาเอาเอกสารที่ช่อง 8 ก่อน ค่อยไปอาคาร 2
3. ไปติดต่ออาคาร 2 ชั้น 2 สำหรับรถยนต์ ต่อคิวให้ประชาสัมพันธ์ตรวจเอกสาร
ถ้าครบเรียบร้อย จะได้บัตรคิว นั่งรอแถวนั้นได้เลย
ถ้าไม่ครบ เจ้าหน้าที่จะให้แบบฟอร์มและติ๊กมาว่าต้องเซ็นตรงไหนบ้าง
ดังนั้นถ้าไม่แน่ใจว่าต้องเซ็นยังไง อย่าเพิ่งเซ็นนะคะ ให้เจ้าหน้าที่แนะนำดีกว่า
*สำเนาทะเบียนบ้านไม่ต้องใช้
*ช่วงนี้ถ้ายังไม่ได้เตรียมเงิน ลงไปชั้น 1 ตรงข้างเทเวศน์ประกันภัย มีตู้ atm ค่ะ
4. เมื่อถึงคิว ก็ไปยืนหน้าเค้าเตอร์ที่เรียก เจ้าหน้าที่จะทำเรื่องและให้จ่ายเงิน
จำนวนเงิน ลองเช็คในเวปเอานะคะ เราก็ประมาณคร่าว ๆ ตามก้อนใหญ่ แสนละ 500 บาท เผื่อๆไป
เสร็จ เจ้าหน้าที่จะให้กลับมานั่งรออีกแปปนึง นั่งใกล้ๆ ก็พอค่ะ
เดี๋ยวเค้าจะเรียกชื่อเอาเล่มรถที่เปลี่ยนชื่อแล้วและใบเสร็จ ก็เป็นอันเสร็จ
5. ถ้ามีเปลี่ยนป้ายด้วย เจ้าหน้าที่จะรวมค่าเปลี่ยนไปในใบเสร็จใบเดียวเลย (แต่แยกราคาแต่ละรายการ)
ซึ่งจะเจ้าหน้าที่จะอธิบายว่าให้นับไปอีก 3 อาทิตย์ ให้เอาใบเสร็จพร้อมป้ายเก่ามารับทีชั้น 1 (ข้างล่างตรงกับที่เราทำเรื่องนี่แหล่ะค่ะ)
ห้องจ่ายป้ายทะเบียน จะตรงข้ามกับเทเวศน์ประกันภัย
6. เรียบร้อย กลับบ้านได้ หรือถ้าจะไปกินข้าว ด้านหลังอาคาร 2 เดินไปอีกนิด มีโรงอาหารติดแอร์
มีอาหารหลายร้านมาก เย็นสบาย กินแล้วค่อยกลับก็ได้ค่ะ
โดยรวม ขั้นตอนถือว่าค่อนข้างเร็ว ตรวจสภาพก็เร็วมาก แล่นตามๆ กันไป แปปเดียว
ตอนโอนก็ทำแปปเดียว เพียงแต่คนเยอะ ก็เลยดูเหมือนรอนาน
ขอชมกรมขนส่งที่ทำขั้นตอนระบบคิว ที่ชัดเจน และเจ้าหน้าที่ก็ทำงานไว แม้จะไม่ได้ยิ้มแย้มมากมาย แต่ก็ตอบคำถามอย่างดี
อ้อ เจ้าหน้าที่ทำเรื่องโอนของเรา กับ เจ้าหน้าที่ห้องป้ายทะเบียน ตอบคำถามดี แถมยิ้มแย้มด้วย ทำให้รู้สึกดี
หวังว่าคงรีวิวนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ นะคะ
รีวิว ขั้นตอนการโอนรถยนต์ ที่กรมขนส่ง จตุจักร (ณ ปี 2562)
แต่พอดีเรากรอกใบขอโอนไว้เรียบร้อยก่อนมาขนส่งแล้ว สามารถขับไปตรวจสภาพที่อาคาร 4 ได้เลย
แต่ไม่แน่ใจว่าถ้าไม่มีใบขอโอน เจ้าหน้าที่ตรงนั้นจะมีให้หรือเปล่า เพราะตอนตรวจสภาพ ต้องมีการแปะเลขตัวถึงลงใบขอโอนด้วย
(หากมีเพื่อนท่านใดมีข้อมูล ช่วยตอบก็ได้นะคะ)
1. ขับรถไปที่อาคาร 4 (ที่โดมตรวจสภาพ) เพื่อตรวจสภาพ ถ้าเข้ามาจากฝั่งพหลให้ตรงมาจนสุดกลับรถ
อยู่ข้างอาคาร 4 สีม่วง เป็นโดมๆ เลี้ยวซ้ายเข้าไป ต่อคิว 2 ช่องซ้ายสุด (ช่อง 1,2)
ไม่ต้องลงจากรถ พอใกล้ถึงคิว เจ้าหน้าที่จะเดินมาขอเอกสารไปก่อน (ซึ่งเราจะมองเห็นเค้าเดินไปที่โต๊ะ ทำให้มั่นใจว่าเป็นเจ้าหน้าที่จริง)
ซึ่งเอกสาร ณ จุดนี้ยังไม่ต้องเซ็นเรียบร้อยก็ได้ ยังไงก็ต้องให้เจ้าหน้าที่ที่อาคาร 2 ตรวจสอบอีกที
พอถึงคิว ให้ดับเครื่อง ลงจากรถ เจ้าหน้าที่จะขูดหมายเลขตัวถังลงบนเทปขาว แล้วมาแปะบนใบคำร้อง
ของเราอยู่ข้างที่นั่งคนขับ ก็เปิดประตูรถไว้ แต่ถ้าอยู่หน้ากระโปรงก็ต้องเปิดกระโปรงรถไว้
อ้อ อย่าลืมตรวจสอบหมายเลขทะเบียนรถ ว่าเจ้าหน้าที่เขียนถูกต้องหรือไม่นะคะ เก็บเอกสารกลับมาให้ครบด้วย
ถ้ามีปัญหาเช่น ป้ายชำรุด เจ้าหน้าที่จะเขียนลงด้วย เราก็ไปขอทำป้ายใหม่แทนได้
2. พอเสร็จ
กรณี 1 (ที่เราเจอ) เจ้าหน้าจะคืนเอกสารมาให้เลย ก็ขับออกจากช่อง วนซ้ายเข้ามาผ่านด้านหน้า อาคาร 4 อีกรอบ ตรงไป อาคาร 2 จะอยู่ทางขวามือ
ที่จอดรถ ถ้าไปเช้า หน้าอาคาร 2 จอดได้เลย แต่สายหน่อยก็ต้องวนหาเอา
กรณี 2 (ในรีวิวที่เราอ่านมา) เค้าจะให้วนออกไปจอด แล้วกลับมาเอาเอกสารที่ช่อง 8 ก่อน ค่อยไปอาคาร 2
3. ไปติดต่ออาคาร 2 ชั้น 2 สำหรับรถยนต์ ต่อคิวให้ประชาสัมพันธ์ตรวจเอกสาร
ถ้าครบเรียบร้อย จะได้บัตรคิว นั่งรอแถวนั้นได้เลย
ถ้าไม่ครบ เจ้าหน้าที่จะให้แบบฟอร์มและติ๊กมาว่าต้องเซ็นตรงไหนบ้าง
ดังนั้นถ้าไม่แน่ใจว่าต้องเซ็นยังไง อย่าเพิ่งเซ็นนะคะ ให้เจ้าหน้าที่แนะนำดีกว่า
*สำเนาทะเบียนบ้านไม่ต้องใช้
*ช่วงนี้ถ้ายังไม่ได้เตรียมเงิน ลงไปชั้น 1 ตรงข้างเทเวศน์ประกันภัย มีตู้ atm ค่ะ
4. เมื่อถึงคิว ก็ไปยืนหน้าเค้าเตอร์ที่เรียก เจ้าหน้าที่จะทำเรื่องและให้จ่ายเงิน
จำนวนเงิน ลองเช็คในเวปเอานะคะ เราก็ประมาณคร่าว ๆ ตามก้อนใหญ่ แสนละ 500 บาท เผื่อๆไป
เสร็จ เจ้าหน้าที่จะให้กลับมานั่งรออีกแปปนึง นั่งใกล้ๆ ก็พอค่ะ
เดี๋ยวเค้าจะเรียกชื่อเอาเล่มรถที่เปลี่ยนชื่อแล้วและใบเสร็จ ก็เป็นอันเสร็จ
5. ถ้ามีเปลี่ยนป้ายด้วย เจ้าหน้าที่จะรวมค่าเปลี่ยนไปในใบเสร็จใบเดียวเลย (แต่แยกราคาแต่ละรายการ)
ซึ่งจะเจ้าหน้าที่จะอธิบายว่าให้นับไปอีก 3 อาทิตย์ ให้เอาใบเสร็จพร้อมป้ายเก่ามารับทีชั้น 1 (ข้างล่างตรงกับที่เราทำเรื่องนี่แหล่ะค่ะ)
ห้องจ่ายป้ายทะเบียน จะตรงข้ามกับเทเวศน์ประกันภัย
6. เรียบร้อย กลับบ้านได้ หรือถ้าจะไปกินข้าว ด้านหลังอาคาร 2 เดินไปอีกนิด มีโรงอาหารติดแอร์
มีอาหารหลายร้านมาก เย็นสบาย กินแล้วค่อยกลับก็ได้ค่ะ
โดยรวม ขั้นตอนถือว่าค่อนข้างเร็ว ตรวจสภาพก็เร็วมาก แล่นตามๆ กันไป แปปเดียว
ตอนโอนก็ทำแปปเดียว เพียงแต่คนเยอะ ก็เลยดูเหมือนรอนาน
ขอชมกรมขนส่งที่ทำขั้นตอนระบบคิว ที่ชัดเจน และเจ้าหน้าที่ก็ทำงานไว แม้จะไม่ได้ยิ้มแย้มมากมาย แต่ก็ตอบคำถามอย่างดี
อ้อ เจ้าหน้าที่ทำเรื่องโอนของเรา กับ เจ้าหน้าที่ห้องป้ายทะเบียน ตอบคำถามดี แถมยิ้มแย้มด้วย ทำให้รู้สึกดี
หวังว่าคงรีวิวนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ นะคะ