สวัสดีค่ะ พอดีเราเพิ่งสอบ IELTs มา 2 รอบ ในช่วง สามเดือน เลยอยากมาแบ่งปันเล็ก ๆ สำหรับคนที่กำลังเตรียมตัวค่ะ
(เดี๋ยวมีต่อเรื่องการสอบที่เจ้า B และ I ตามต่อได้ในคอมเม้นนะคะ)
*หากผิดพลาดประการใด ขออภัยล่วงหน้านะคะ เตือนกันได้จ้า ยินดีแก้ไข*
>>>>เรื่องแรก : พื้นฐานเดิมของจขกท. และการเตรียมตัว
ขอเล่าเรื่องตัวเองก่อนเนอะ ....
>> เราเรียนโรงเรียนไทยตลอดค่ะ แต่เป็นโรงเรียนเอกชนที่วิชาภาษาอังกฤษเรียนยาก (มาก) อ่าน-ฟังพอได้ แต่พูด-เขียนอยู่ระดับน้อย กลัวฝรั่งแบบเจอแล้ววิ่งหนี แถมไม่ชอบดูหนังฟังเพลงภาษาอังกฤษเลยค่ะ
>> มหาวิทยาลัยเลือกเรียนภาคอินเตอร์ คือสอบเข้าได้ค่ะ เข้าใจแกรมม่า ทำโจทย์ตามตำราได้ แต่ใช้จริงไม่ได้ (เชื่อว่าหลายคนอาจเป็นเหมือนเรานะ) สามเดือนแรกเป็นใบ้เลยค่ะ ฟังไม่ออก พรีเซ้นไม่ได้ แต่อยู่ ๆ พอเริ่มชินเพราะสถานการณ์บังคับให้ใช้ทั้งฟังพูดอ่านเขียน มันก็เหมือนได้เองระดับหนึ่ง ผ่านหูมาแล้วเข้าใจเอง ฟัง-อ่านดีขึ้นมาก แต่พูดกับเขียน ถือว่าดี แต่ถ้าเทียบกับเพื่อนที่จบอินเตอร์ หรือเคยไปแลกเปลี่ยนมา ก็เทียบไม่ได้เลยค่ะ
>> จบทำงานบริษัทต่างชาติค่ะ ใช้ภาษาอังกฤษพื้นฐาน เขียนอีเมล กับคุย Skype กะฝรั่งบ้างนาน ๆ ที นอกนั้นคนในออฟฟิศคนไทยหมดเลยค่ะ ถือว่าพัฒนามาระดับหนึ่ง
โอเค ทีนี้อยากไปต่อโทเมืองนอกค่ะ แต่ไม่อยากเสียเงินเรียนติว เพราะเป็นคนถนัดการอ่านเอง รู้สึกว่าเข้าหัว จำได้มากกว่า และที่สำคัญคือ...งกค่ะ >< มันแพง
ระยะเวลาเตรียมตัวก่อนสอบครั้งแรก : 1.5 เดือน ค่ะ แบบอ่านวันละ 2-3.5 ชั่วโมง หยุดพัก 2 ครั้งต่อสัปดาห์ เพราะเบื่อค่ะ อ่านทุกวันมันเครียดไป ระหว่างนั้นทำงานประจำด้วยค่ะ ก็มีเหนื่อยบ้างเลยต้องแอบอู้ ก็อ่านตอนค่ำ ๆ หรือเสาร์อาทิตย์ค่ะ ตามสะดวก
หนังสือที่ใช้ คือ
1. Barron's IELTs เล่มขาว-แดงเลือดหมูค่ะ
เล่มนี้เป็นพื้นฐานเบสิกมาก ๆ เหมาะสำหรับคนที่เริ่มต้นเลย แต่ถ้ามีพื้นฐานอยู่บ้าง เราคิดว่าออกจะง่ายไปเล็กน้อยนะคะ ถ้าภาษา แกรมม่า Vocab พอได้อยู่แล้ว แนะนำว่าข้ามได้จ้า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ขออนุญาตนำภาพจากกูเกิ้ลนะคะ หน้าตาประมาณนี้
https://www.google.com/search?q=ielts+barrons&sxsrf=ACYBGNTQPWJc0PKAY802Ih93awXVMqvt8A:1571661350171&source=lnms&tbm=isch&sa=X&ved=0ahUKEwjCrO_jrq3lAhVFM48KHb7YD24Q_AUIEigB&biw=1366&bih=657#imgrc=2r3rnoC3qa8ZOM:
2. Official Guide Cambridge เล่มสีขาว ๆ ขอบบน-ล่าง สีน้ำเงินค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.google.com/search?biw=1366&bih=657&tbm=isch&sxsrf=ACYBGNTKWPyshqy1J8y8hnTGf__Kb5lKuQ%3A1571661354203&sa=1&ei=KqatXeWMDJfdrQHb8bLIBg&q=ielts+cambridge&oq=ielts+cambridge&gs_l=img.3..0l10.474333.478520..478744...0.0..0.86.1104.16......0....1..gws-wiz-img.......35i39j0i67j0i30j0i8i30j0i24.YCWftYOhTGs&ved=0ahUKEwjlyeXlrq3lAhWXbisKHdu4DGkQ4dUDCAc&uact=5#imgrc=W2AYfzvXji_35M:
เล่มนี้คือดีมากค่ะ รู้สึกว่าตอบโจทย์ ครบครัน เหมาะสำหรับคนที่พอได้ภาษา แต่ไม่รู้ว่า IELTs คืออะไร ในบทจะค่อย ๆ ทำให้เราเข้าใจ ค่อย ๆ อ่านไล่ไปจะเริ่มจับจุดได้ มีทวนสิ่งที่รู้แต่ลืม มีบอกเทคนิคไว้ด้วยเรื่อย ๆ ตลอดเล่ม ไล่อ่านจากแรกจนจบ คือเข้าใจภาพรวมทั้งหมด มีโจทย์สลับไป ที่เหลือก็อยู่ที่การฝึกเองต่อแล้วค่ะ
เทคนิคส่วนตัวของเราคือ ไฮไลท์ไปเรื่อย ๆ เฉพาะส่วนที่ไม่รู้จริง ๆ ค่ะ แล้วจดสรุปอันที่สำคัญอีกลงสมุดโน้ตอีกรอบ สมุดนี้เรากะไว้อ่านแบบ สามวันก่อนสอบ ฉันต้องจำสิ่งที่อยู่ในนี้ได้หมด เพราะฉะนั้น จะจด Tips วิธีว่าตอบแบบไหนรอด และคำศัพท์ใหม่ ๆ ตัวอย่างประโยค สำนวน ที่สำคัญ ใช้ได้จริง + และกะจะใช้จริง ไว้ค่ะ
**เน้นนะคะ เนื่องจากก่อนสอบจะ Panic เพราะงั้น จดแต่สิ่งที่จำเป็นค่ะ เอาให้แบบเนื้อ ๆ 1-3 วันก่อนสอบ ฉันอ่านเล่มอันนี้อย่างเดียวฉันต้องรอดค่ะ***
3. หนังสือแบบฝึกหัดข้อสอบเก่า Cambridge สีดำ ขอบม่วง/น้ำเงิน บาง ๆ เล่มนี้แพงหน่อยค่ะ แต่เรายืมเพื่อนมา ทำไปทั้งหมด 4 เล่ม (เล่ม 6-9) ตอนนี้น่าจะมีถึง 12 มั้งคะ ไม่แน่ใจ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.google.com/search?biw=1366&bih=657&tbm=isch&sxsrf=ACYBGNTKWPyshqy1J8y8hnTGf__Kb5lKuQ%3A1571661354203&sa=1&ei=KqatXeWMDJfdrQHb8bLIBg&q=ielts+cambridge&oq=ielts+cambridge&gs_l=img.3..0l10.474333.478520..478744...0.0..0.86.1104.16......0....1..gws-wiz-img.......35i39j0i67j0i30j0i8i30j0i24.YCWftYOhTGs&ved=0ahUKEwjlyeXlrq3lAhWXbisKHdu4DGkQ4dUDCAc&uact=5#imgrc=Opr-cuL4QI1nnM:
หนังสือพวกนี้ เป็นแบบฝึกหัดค่ะ คือทำไปเลย ทำเยอะ ๆ แล้วจะเข้าใจว่าจะแบ่งเวลาจริงยังไง ทำไปจับเวลาไปค่ะ เราเริ่มทำหลังจากอ่านเล่มในข้อ 2) จบ
เล่มนึงมี 4 ชุดข้อสอบ เราทำวันละ 1 ชุด หรือครึ่งชุดค่ะ แต่ก็เหนื่อยแหละ เลยแบ่งเป็นส่วน ๆ เช่น ทำพาร์ทฟัง แล้วไปพัก แล้วค่อยกลับมาทำส่วนอื่น
จนใกล้ ๆ สอบจริง ถึงทำรวดเดียว ค่ะ ฝึกความถึก
***แต่ที่สำคัญคือ จับเวลาในการทำค่ะ****
>> Listening : 40 ข้อ
-หลากหลาย มีทั้งช้อยส์ เติมคำ เติมตาราง เติมแผนที่
- มีหลายสำเนียง ก็แล้วแต่ดวงด้วย หลัก ๆ เลยคือระหว่างเทปอธิบายโจทย์ก่อนเริ่ม และ หลังจบแต่ละ Section จะมีช่วงเว้นว่างให้ทบทวน ให้เราอ่านก่อนล่วงหน้าให้มากที่สุด ขีด วง คำสำคัญ วงตัวเลขหน้าข้อไว้ด้วย เพราะบางทีเราจะงงว่าข้อถัดไปอยู่ไหน เดี๋ยวหลุด
- บาง Section ให้เขียน NO MORE THAN
TWO WORDS คือ ตอบได้ ไม่เกิน 2 คำ ไม่งั้นผิด ให้เราเขียนเลข 2 บนหัวกระดาษตัวใหญ่ ๆ ไว้เลย เตือนตัวเองว่าอย่าเกิน 2 นะ !
บางข้อ NO MORE THAN TWO WORDS AND/ OR A NUMBER ฉะนั้นคำตอบ เราจะได้แบบนี้ [1คำ] หรือ [2 คำ] หรือ [1 คำ+1 เลข] หรือ [2คำ+1 เลข] ก็ได้
นอกนั้นยังมีกฎยิบย่อยค่ะ มันจะมีทริคเล็ก ๆ อยู่ ในหนังสือมีสอนค่ะว่าอะไรนับเป็น 1 คำ หรือ 1 ตัวเลขบ้าง
เช่น 423 = 1 ตัวเลข , four hundred twenty three = 1 ตัวเลข, 423 cars = 1 คำ+ 1ตัวเลข, four hundred twenty three cars = 1 คำ+ 1ตัวเลข , left-hand = 1 คำ
NO MORE THAN ONE WORD AND/ OR A NUMBER
แต่เราต้องตอบ "23 August 2019" = 1 คำ + 2 ตัวเลข ตอบแบบนี้ไม่ได้พราะมี เลข 2 ตัว >>> แก้เป็น 23.08.2019 ตอบแบบนี้ได้ ถือเป็น 1 ตัวเลข
งงไหมคะ ลองไปอ่านในหนังสือดีดี จะรู้ว่ามันนับยังไง ^^ หรือลองดูจากเฉลยเวลาทำโจทย์นะคะ
-เวลาฟัง เทปเปิดครั้งเดียว เนื้อหาจะไล่ตามโจทย์ไปเลยค่ะ ไม่กระโดด เพราะฉะนั้น อันไหนฟังไม่ทัน เดาและข้ามไปค่ะ
-ระหว่างเทปเล่น ให้ทำในกระดาษข้อสอบไปก่อนเลยค่ะ ตอนเทปจบ จะมีให้เรา 10 นาที เอามากรอกลงกระดาษคำตอบ ทันแน่นอนค่ะ
-ระวังการสะกดคำค่ะ -s -es ชื่อเฉพาะ เว้นวรรค Capital Letter ต่าง ๆ ผิดคือผิดเลย 0 ทันทีนะคะ ไม่มีครึ่งคะแนนใด ๆ
>>> Reading : 60 นาที 40 ข้อ
แบ่งเป็น 3 บทความค่ะ อันนี้เราเองทำพอดีเวลาเป๊ะ ๆ ไม่มีเวลาทวนเลยค่ะ แล้วแต่ดวงว่าเจอหัวข้ออะไร ถนัดหรือไม่ค่ะ ทั้ง 3 หัวข้อ เรารู้สึกว่ายากระดับเดียวกันนะคะ เริ่มทำอันไหนก่อนก็ไม่น่าต่าง
-ให้จับเวลาในการทำ พยายามให้ได้ 15-18 นาที ต่อบทความ
-เวลาทำเสร็จ พยายามจดศัพท์ที่ไมรู้ออกมาใส่สมุดไว้ เพราะหลายคำมาก ออกซ้ำในบทความอื่น ถ้าเรารู้ก็ช่วยให้ทำโจทย์ง่ายขึ้นมากค่ะ
-อ่านโจทย์คร่าว ๆ ก่อนจะเริ่มอ่านบทความค่ะ เราจะได้รู้ไอเดียว่าจะจับประเด็นตรงไหน โจทย์มีหลากหลาย ทั้ง ช้อยส์ T/F ถามว่าแต่ละย่อหน้าควรมี heading อะไร ถามชื่อคนในบทความ ว่าเขามีความเห็นว่าอะไร มีบทความแบบย่อ ให้หาศัพท์จากบทความมาเติมคำในช่องว่าง
-เวลาจริง จะบีบมาก จขกท.เองเป็นคนอ่านเร็ว เลยได้เปรียบพอสมควร แต่ข้อเสียของเราคือ อ่านแสกน ไม่เป็น เราอ่านทุกบรรทัด TT ซึ่งเสียเวลามากค่ะ
-เราใช้วิธีอ่านไปทำโจทย์ไป สะดุดคำไหนคุ้นว่าอ่านโจทย์แล้วเจอ ก็จะวนไปทำก่อน อันนี้แล้วแต่ความถนัดค่ะ
-พอบอกหมดเวลา วางปากกาทันทีนะคะ ห้ามเนียนเขียนต่อเลย ไม่ว่าพาร์ทไหน เสี่ยงมากค่ะ ทำให้ถูกระเบียบดีกว่าเน้อ
>> Writing : 60 นาที แบ่งเป็น 2 ส่วนค่ะ
อันนี้เราขอไม่คอมเม้นมาก เพราะคะแนนน้อยที่สุดค่ะ เรายังทำได้ไม่ดี
หลายคนบอกว่าให้ไปเรียนเฉพาะพาร์ทนี้ค่ะ แต่เราเองก็ไม่ได้ไป อาศัยอ่านตัวอย่าง แล้วลองเขียนตาม ถ้าจะเรียนจริง ๆ Writing ควรเรียนสุดค่ะ
หนังสือมีตัวอย่างเฉยให้ค่ะ แต่พอเขียนเอง ก็...นะ ไม่รู้ว่าดีไม่ดี ต้องลองหาคนช่วยตรวจแก้ ค่ะ
Task 1 : 150 คำ
-มีโจทย์หลากหลายค่ะ ให้เขียนรายงานสิ่งที่ให้มา โดยไม่มีความเห็นส่วนตัวค่ะ อธิบาย เปรียบเทียบ
มีทั้ง Chart (กราฟแท่ง กราฟเส้น pie chart) / ตาราง/ ผสม/ แผนที่ / process
-หลักการคือ เขียน overview ด้วยค่ะ อย่าลืม นอกนั้นก็ใช้แกรมม่าให้ถูก มีคำเชื่อมที่ดี ไม่ต้องเขียนทุกอย่าง แต่รายงานจุดที่มันเด่นให้ครบ
-จำนวนคำให้กะเอาค่ะ เขียนให้เกินไว้ก่อน นับคำเองคงไม่ไหว ดูว่าปกติเราเขียนบรรทัดละกี่คำ แล้วจำเลยว่าต้องเขียนอย่างน้อยกี่บรรทัด
-เอาจริง ๆ เฉพาะ Task 1 นี้ ถ้าคิดเองในห้องสอบไม่ไหว เราว่าลองหาแพทเทิร์นการเขียน จำไปเป็นโครงคร่าว ๆ ก็พอช่วยได้นะคะ
Task 2 : 250 คำ
-เป็นให้เขียนเรียงความ หัวข้อทั่วไป แต่เราต้องเขียนเชิงวิเคราะห์ แสดงความเห็นค่ะ
- อธิบายโดยมีความเห็นเรา ยกตัวอย่างด้วยค่ะ บางครั้งต้องเลือกข้างให้ชัด แล้วแต่โจทย์สั่งเลยว่าให้ทำอะไร อย่านอกเรื่องไปไกลนะคะ เค้าให้อธิบายอะไรก็ตอบเรื่องนั้น ใส่เหตุผลประกอบทุกครั้ง มีบทนำ เนื้อหา สรุป ต้องครบนะคะ ไม่งั้น Task Acheivement คะแนนจะโดนตัด สะกดคำให้ถูกต้องด้วยค่ะ
-คำเชื่อม ลำดับเหตุการณ์ต้องสมูทค่ะ แล้วแกรมม่าอีกแหละค่ะ
>> Speaking : 11-14 นาที
-อันนี้ชิลมากค่ะ ดีสุดแล้ว ถ้าไม่มีคนให้พูดด้วย หัดพูดกับตัวเองวนไปค่ะ ดูสำเนียง ความลื่นไหล แกรมม่า หรือเปิดยูทูปแล้วลองพูดตาม
-อย่าแข็งทื่อเป็นหุ่นยนต์ ทำตัวธรรมชาติ ร่าเริง เสียงขึ้นลงให้มีชิจิตชีวาค่ะ สบตา พยายามอธิบายไป คิดศัพท์ไม่ออก ก็อธิบายวนไปค่ะ
-โจทย์ก็เป็นเรื่องทั่วไปมากเลย บางอันเตรียมตัวได้ด้วยซ้ำ เช่นเรื่อง ว่าทำอาชีพอะไร วันนึงทำอะไร บ้านและบริเวณรอบ ๆ เป็นยังไง
-มีอันที่พูดยาว ๆ 2 นาที ตามโจทย์ที่เขาให้ ณ ตอนนั้น จะมีเวลาเตรียมตัว 1 นาทีค่ะ อันนั้นตื่นเต้นนิดหน่อย แต่ก็พยายามตอบให้ครบที่เขาถามก่อน เวลาที่เหลือก็แถไปค่ะ ให้ครบเวลาก็จะรอด
-ตอบโกหกไปก็ได้ค่ะ เขาดูแค่การตอบของเรา ไม่ได้สนว่ามันจะจริงมั้ยเนอะ เพราะฉะนั้น ตอบอะไรก็ได้ให้เราสะดวก ที่เรารู้ศัพท์เยอะ พูดได้ยาวสุด โม้ไปเลยค่ะ รู้ไม่รู้ก็โม้ไปค่ะ
เนื่องจากเราทำพาร์ท Writing ไม่ดี เลยลองสอบใหม่ เน้นติวพาร์ทนี้ค่ะ แต่เอาจริงไม่ได้รู้สึกดีขึ้นมาก ตอนนี้รอลุ้นผลรอบ 2 อยู่ค่ะ ไว้มาอัปเดตอีกทีนะคะ
เราไปซื้อสองเล่มนี้มาค่ะ
ก็ช่วยได้ระดับนึงนะคะ
4. Collins Writing for IELTs
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.google.com/search?q=ielts+collin&sxsrf=ACYBGNTxSvkCkQLCi7DSf-HVHInixz8wMQ:1571665085641&source=lnms&tbm=isch&sa=X&ved=0ahUKEwjfrIrZvK3lAhX16nMBHY7tDbMQ_AUIEigB&biw=1366&bih=657#imgrc=u8n9TTGZ0kqkVM:
5. เล่มของคนไทย สีเหลือง พิชิต IELTs ชื่อประมาณนี้ค่ะ
แต่เท่าที่ดูก็มีหลายเล่มนะคะ ขอไม่การันตีละกัน เพราะคะแนนยังไม่ออกเลย ไม่รู้จะดีขึ้นไหมนะคะ T-----T
นอกจากหนังสือที่กล่าวมา เราก็พยายามเปิดวิทยุฟังข่าวภาษาอังกฤษ แล้วพูดตามเป็นคำ ๆ ไป ให้ได้สำเนียง และผ่านหูค่ะ
เปลี่ยนเพลงเป็นเพลงฝรั่ง ทั้งที่ปกติไม่ชอบเลย ดูหนัง ปกติเราฟัง Soundtrack อยู่แล้วค่ะ แต่พยายามอ่านซับน้อยลง
เดี๋ยวมารีวิวการสอบวันจริงต่อในคอมเม้นนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้คะแนนเรารอบแรกนะคะ : Overall 8 Listening 8.5 Reading 9 Writing 6 Speaking 8
สำหรับเราแล้วเกินคาดมากจริง ๆ ค่ะคือดีใจมาก แต่เราต้องสอบใหม่ เพราะมหาวิทยาลัยที่ฝัน ต้องได้แต่ละแบนด์ 6.5 ขึ้นไปค่ะ ...เศร้า T_T
[IELTs Review] : สอบ IELTs 2019 ขอมาเล่าให้ฟัง แถมเทคนิคการเตรียมตัวสอบ แบบอ่านเองค่ะ
(เดี๋ยวมีต่อเรื่องการสอบที่เจ้า B และ I ตามต่อได้ในคอมเม้นนะคะ)
*หากผิดพลาดประการใด ขออภัยล่วงหน้านะคะ เตือนกันได้จ้า ยินดีแก้ไข*
>>>>เรื่องแรก : พื้นฐานเดิมของจขกท. และการเตรียมตัว
ขอเล่าเรื่องตัวเองก่อนเนอะ ....
>> เราเรียนโรงเรียนไทยตลอดค่ะ แต่เป็นโรงเรียนเอกชนที่วิชาภาษาอังกฤษเรียนยาก (มาก) อ่าน-ฟังพอได้ แต่พูด-เขียนอยู่ระดับน้อย กลัวฝรั่งแบบเจอแล้ววิ่งหนี แถมไม่ชอบดูหนังฟังเพลงภาษาอังกฤษเลยค่ะ
>> มหาวิทยาลัยเลือกเรียนภาคอินเตอร์ คือสอบเข้าได้ค่ะ เข้าใจแกรมม่า ทำโจทย์ตามตำราได้ แต่ใช้จริงไม่ได้ (เชื่อว่าหลายคนอาจเป็นเหมือนเรานะ) สามเดือนแรกเป็นใบ้เลยค่ะ ฟังไม่ออก พรีเซ้นไม่ได้ แต่อยู่ ๆ พอเริ่มชินเพราะสถานการณ์บังคับให้ใช้ทั้งฟังพูดอ่านเขียน มันก็เหมือนได้เองระดับหนึ่ง ผ่านหูมาแล้วเข้าใจเอง ฟัง-อ่านดีขึ้นมาก แต่พูดกับเขียน ถือว่าดี แต่ถ้าเทียบกับเพื่อนที่จบอินเตอร์ หรือเคยไปแลกเปลี่ยนมา ก็เทียบไม่ได้เลยค่ะ
>> จบทำงานบริษัทต่างชาติค่ะ ใช้ภาษาอังกฤษพื้นฐาน เขียนอีเมล กับคุย Skype กะฝรั่งบ้างนาน ๆ ที นอกนั้นคนในออฟฟิศคนไทยหมดเลยค่ะ ถือว่าพัฒนามาระดับหนึ่ง
โอเค ทีนี้อยากไปต่อโทเมืองนอกค่ะ แต่ไม่อยากเสียเงินเรียนติว เพราะเป็นคนถนัดการอ่านเอง รู้สึกว่าเข้าหัว จำได้มากกว่า และที่สำคัญคือ...งกค่ะ >< มันแพง
ระยะเวลาเตรียมตัวก่อนสอบครั้งแรก : 1.5 เดือน ค่ะ แบบอ่านวันละ 2-3.5 ชั่วโมง หยุดพัก 2 ครั้งต่อสัปดาห์ เพราะเบื่อค่ะ อ่านทุกวันมันเครียดไป ระหว่างนั้นทำงานประจำด้วยค่ะ ก็มีเหนื่อยบ้างเลยต้องแอบอู้ ก็อ่านตอนค่ำ ๆ หรือเสาร์อาทิตย์ค่ะ ตามสะดวก
หนังสือที่ใช้ คือ
1. Barron's IELTs เล่มขาว-แดงเลือดหมูค่ะ
เล่มนี้เป็นพื้นฐานเบสิกมาก ๆ เหมาะสำหรับคนที่เริ่มต้นเลย แต่ถ้ามีพื้นฐานอยู่บ้าง เราคิดว่าออกจะง่ายไปเล็กน้อยนะคะ ถ้าภาษา แกรมม่า Vocab พอได้อยู่แล้ว แนะนำว่าข้ามได้จ้า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
2. Official Guide Cambridge เล่มสีขาว ๆ ขอบบน-ล่าง สีน้ำเงินค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เล่มนี้คือดีมากค่ะ รู้สึกว่าตอบโจทย์ ครบครัน เหมาะสำหรับคนที่พอได้ภาษา แต่ไม่รู้ว่า IELTs คืออะไร ในบทจะค่อย ๆ ทำให้เราเข้าใจ ค่อย ๆ อ่านไล่ไปจะเริ่มจับจุดได้ มีทวนสิ่งที่รู้แต่ลืม มีบอกเทคนิคไว้ด้วยเรื่อย ๆ ตลอดเล่ม ไล่อ่านจากแรกจนจบ คือเข้าใจภาพรวมทั้งหมด มีโจทย์สลับไป ที่เหลือก็อยู่ที่การฝึกเองต่อแล้วค่ะ
เทคนิคส่วนตัวของเราคือ ไฮไลท์ไปเรื่อย ๆ เฉพาะส่วนที่ไม่รู้จริง ๆ ค่ะ แล้วจดสรุปอันที่สำคัญอีกลงสมุดโน้ตอีกรอบ สมุดนี้เรากะไว้อ่านแบบ สามวันก่อนสอบ ฉันต้องจำสิ่งที่อยู่ในนี้ได้หมด เพราะฉะนั้น จะจด Tips วิธีว่าตอบแบบไหนรอด และคำศัพท์ใหม่ ๆ ตัวอย่างประโยค สำนวน ที่สำคัญ ใช้ได้จริง + และกะจะใช้จริง ไว้ค่ะ
**เน้นนะคะ เนื่องจากก่อนสอบจะ Panic เพราะงั้น จดแต่สิ่งที่จำเป็นค่ะ เอาให้แบบเนื้อ ๆ 1-3 วันก่อนสอบ ฉันอ่านเล่มอันนี้อย่างเดียวฉันต้องรอดค่ะ***
3. หนังสือแบบฝึกหัดข้อสอบเก่า Cambridge สีดำ ขอบม่วง/น้ำเงิน บาง ๆ เล่มนี้แพงหน่อยค่ะ แต่เรายืมเพื่อนมา ทำไปทั้งหมด 4 เล่ม (เล่ม 6-9) ตอนนี้น่าจะมีถึง 12 มั้งคะ ไม่แน่ใจ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หนังสือพวกนี้ เป็นแบบฝึกหัดค่ะ คือทำไปเลย ทำเยอะ ๆ แล้วจะเข้าใจว่าจะแบ่งเวลาจริงยังไง ทำไปจับเวลาไปค่ะ เราเริ่มทำหลังจากอ่านเล่มในข้อ 2) จบ
เล่มนึงมี 4 ชุดข้อสอบ เราทำวันละ 1 ชุด หรือครึ่งชุดค่ะ แต่ก็เหนื่อยแหละ เลยแบ่งเป็นส่วน ๆ เช่น ทำพาร์ทฟัง แล้วไปพัก แล้วค่อยกลับมาทำส่วนอื่น
จนใกล้ ๆ สอบจริง ถึงทำรวดเดียว ค่ะ ฝึกความถึก
***แต่ที่สำคัญคือ จับเวลาในการทำค่ะ****
>> Listening : 40 ข้อ
-หลากหลาย มีทั้งช้อยส์ เติมคำ เติมตาราง เติมแผนที่
- มีหลายสำเนียง ก็แล้วแต่ดวงด้วย หลัก ๆ เลยคือระหว่างเทปอธิบายโจทย์ก่อนเริ่ม และ หลังจบแต่ละ Section จะมีช่วงเว้นว่างให้ทบทวน ให้เราอ่านก่อนล่วงหน้าให้มากที่สุด ขีด วง คำสำคัญ วงตัวเลขหน้าข้อไว้ด้วย เพราะบางทีเราจะงงว่าข้อถัดไปอยู่ไหน เดี๋ยวหลุด
- บาง Section ให้เขียน NO MORE THAN TWO WORDS คือ ตอบได้ ไม่เกิน 2 คำ ไม่งั้นผิด ให้เราเขียนเลข 2 บนหัวกระดาษตัวใหญ่ ๆ ไว้เลย เตือนตัวเองว่าอย่าเกิน 2 นะ !
บางข้อ NO MORE THAN TWO WORDS AND/ OR A NUMBER ฉะนั้นคำตอบ เราจะได้แบบนี้ [1คำ] หรือ [2 คำ] หรือ [1 คำ+1 เลข] หรือ [2คำ+1 เลข] ก็ได้
นอกนั้นยังมีกฎยิบย่อยค่ะ มันจะมีทริคเล็ก ๆ อยู่ ในหนังสือมีสอนค่ะว่าอะไรนับเป็น 1 คำ หรือ 1 ตัวเลขบ้าง
เช่น 423 = 1 ตัวเลข , four hundred twenty three = 1 ตัวเลข, 423 cars = 1 คำ+ 1ตัวเลข, four hundred twenty three cars = 1 คำ+ 1ตัวเลข , left-hand = 1 คำ
NO MORE THAN ONE WORD AND/ OR A NUMBER
แต่เราต้องตอบ "23 August 2019" = 1 คำ + 2 ตัวเลข ตอบแบบนี้ไม่ได้พราะมี เลข 2 ตัว >>> แก้เป็น 23.08.2019 ตอบแบบนี้ได้ ถือเป็น 1 ตัวเลข
งงไหมคะ ลองไปอ่านในหนังสือดีดี จะรู้ว่ามันนับยังไง ^^ หรือลองดูจากเฉลยเวลาทำโจทย์นะคะ
-เวลาฟัง เทปเปิดครั้งเดียว เนื้อหาจะไล่ตามโจทย์ไปเลยค่ะ ไม่กระโดด เพราะฉะนั้น อันไหนฟังไม่ทัน เดาและข้ามไปค่ะ
-ระหว่างเทปเล่น ให้ทำในกระดาษข้อสอบไปก่อนเลยค่ะ ตอนเทปจบ จะมีให้เรา 10 นาที เอามากรอกลงกระดาษคำตอบ ทันแน่นอนค่ะ
-ระวังการสะกดคำค่ะ -s -es ชื่อเฉพาะ เว้นวรรค Capital Letter ต่าง ๆ ผิดคือผิดเลย 0 ทันทีนะคะ ไม่มีครึ่งคะแนนใด ๆ
>>> Reading : 60 นาที 40 ข้อ
แบ่งเป็น 3 บทความค่ะ อันนี้เราเองทำพอดีเวลาเป๊ะ ๆ ไม่มีเวลาทวนเลยค่ะ แล้วแต่ดวงว่าเจอหัวข้ออะไร ถนัดหรือไม่ค่ะ ทั้ง 3 หัวข้อ เรารู้สึกว่ายากระดับเดียวกันนะคะ เริ่มทำอันไหนก่อนก็ไม่น่าต่าง
-ให้จับเวลาในการทำ พยายามให้ได้ 15-18 นาที ต่อบทความ
-เวลาทำเสร็จ พยายามจดศัพท์ที่ไมรู้ออกมาใส่สมุดไว้ เพราะหลายคำมาก ออกซ้ำในบทความอื่น ถ้าเรารู้ก็ช่วยให้ทำโจทย์ง่ายขึ้นมากค่ะ
-อ่านโจทย์คร่าว ๆ ก่อนจะเริ่มอ่านบทความค่ะ เราจะได้รู้ไอเดียว่าจะจับประเด็นตรงไหน โจทย์มีหลากหลาย ทั้ง ช้อยส์ T/F ถามว่าแต่ละย่อหน้าควรมี heading อะไร ถามชื่อคนในบทความ ว่าเขามีความเห็นว่าอะไร มีบทความแบบย่อ ให้หาศัพท์จากบทความมาเติมคำในช่องว่าง
-เวลาจริง จะบีบมาก จขกท.เองเป็นคนอ่านเร็ว เลยได้เปรียบพอสมควร แต่ข้อเสียของเราคือ อ่านแสกน ไม่เป็น เราอ่านทุกบรรทัด TT ซึ่งเสียเวลามากค่ะ
-เราใช้วิธีอ่านไปทำโจทย์ไป สะดุดคำไหนคุ้นว่าอ่านโจทย์แล้วเจอ ก็จะวนไปทำก่อน อันนี้แล้วแต่ความถนัดค่ะ
-พอบอกหมดเวลา วางปากกาทันทีนะคะ ห้ามเนียนเขียนต่อเลย ไม่ว่าพาร์ทไหน เสี่ยงมากค่ะ ทำให้ถูกระเบียบดีกว่าเน้อ
>> Writing : 60 นาที แบ่งเป็น 2 ส่วนค่ะ
อันนี้เราขอไม่คอมเม้นมาก เพราะคะแนนน้อยที่สุดค่ะ เรายังทำได้ไม่ดี
หลายคนบอกว่าให้ไปเรียนเฉพาะพาร์ทนี้ค่ะ แต่เราเองก็ไม่ได้ไป อาศัยอ่านตัวอย่าง แล้วลองเขียนตาม ถ้าจะเรียนจริง ๆ Writing ควรเรียนสุดค่ะ
หนังสือมีตัวอย่างเฉยให้ค่ะ แต่พอเขียนเอง ก็...นะ ไม่รู้ว่าดีไม่ดี ต้องลองหาคนช่วยตรวจแก้ ค่ะ
Task 1 : 150 คำ
-มีโจทย์หลากหลายค่ะ ให้เขียนรายงานสิ่งที่ให้มา โดยไม่มีความเห็นส่วนตัวค่ะ อธิบาย เปรียบเทียบ
มีทั้ง Chart (กราฟแท่ง กราฟเส้น pie chart) / ตาราง/ ผสม/ แผนที่ / process
-หลักการคือ เขียน overview ด้วยค่ะ อย่าลืม นอกนั้นก็ใช้แกรมม่าให้ถูก มีคำเชื่อมที่ดี ไม่ต้องเขียนทุกอย่าง แต่รายงานจุดที่มันเด่นให้ครบ
-จำนวนคำให้กะเอาค่ะ เขียนให้เกินไว้ก่อน นับคำเองคงไม่ไหว ดูว่าปกติเราเขียนบรรทัดละกี่คำ แล้วจำเลยว่าต้องเขียนอย่างน้อยกี่บรรทัด
-เอาจริง ๆ เฉพาะ Task 1 นี้ ถ้าคิดเองในห้องสอบไม่ไหว เราว่าลองหาแพทเทิร์นการเขียน จำไปเป็นโครงคร่าว ๆ ก็พอช่วยได้นะคะ
Task 2 : 250 คำ
-เป็นให้เขียนเรียงความ หัวข้อทั่วไป แต่เราต้องเขียนเชิงวิเคราะห์ แสดงความเห็นค่ะ
- อธิบายโดยมีความเห็นเรา ยกตัวอย่างด้วยค่ะ บางครั้งต้องเลือกข้างให้ชัด แล้วแต่โจทย์สั่งเลยว่าให้ทำอะไร อย่านอกเรื่องไปไกลนะคะ เค้าให้อธิบายอะไรก็ตอบเรื่องนั้น ใส่เหตุผลประกอบทุกครั้ง มีบทนำ เนื้อหา สรุป ต้องครบนะคะ ไม่งั้น Task Acheivement คะแนนจะโดนตัด สะกดคำให้ถูกต้องด้วยค่ะ
-คำเชื่อม ลำดับเหตุการณ์ต้องสมูทค่ะ แล้วแกรมม่าอีกแหละค่ะ
>> Speaking : 11-14 นาที
-อันนี้ชิลมากค่ะ ดีสุดแล้ว ถ้าไม่มีคนให้พูดด้วย หัดพูดกับตัวเองวนไปค่ะ ดูสำเนียง ความลื่นไหล แกรมม่า หรือเปิดยูทูปแล้วลองพูดตาม
-อย่าแข็งทื่อเป็นหุ่นยนต์ ทำตัวธรรมชาติ ร่าเริง เสียงขึ้นลงให้มีชิจิตชีวาค่ะ สบตา พยายามอธิบายไป คิดศัพท์ไม่ออก ก็อธิบายวนไปค่ะ
-โจทย์ก็เป็นเรื่องทั่วไปมากเลย บางอันเตรียมตัวได้ด้วยซ้ำ เช่นเรื่อง ว่าทำอาชีพอะไร วันนึงทำอะไร บ้านและบริเวณรอบ ๆ เป็นยังไง
-มีอันที่พูดยาว ๆ 2 นาที ตามโจทย์ที่เขาให้ ณ ตอนนั้น จะมีเวลาเตรียมตัว 1 นาทีค่ะ อันนั้นตื่นเต้นนิดหน่อย แต่ก็พยายามตอบให้ครบที่เขาถามก่อน เวลาที่เหลือก็แถไปค่ะ ให้ครบเวลาก็จะรอด
-ตอบโกหกไปก็ได้ค่ะ เขาดูแค่การตอบของเรา ไม่ได้สนว่ามันจะจริงมั้ยเนอะ เพราะฉะนั้น ตอบอะไรก็ได้ให้เราสะดวก ที่เรารู้ศัพท์เยอะ พูดได้ยาวสุด โม้ไปเลยค่ะ รู้ไม่รู้ก็โม้ไปค่ะ
เนื่องจากเราทำพาร์ท Writing ไม่ดี เลยลองสอบใหม่ เน้นติวพาร์ทนี้ค่ะ แต่เอาจริงไม่ได้รู้สึกดีขึ้นมาก ตอนนี้รอลุ้นผลรอบ 2 อยู่ค่ะ ไว้มาอัปเดตอีกทีนะคะ
เราไปซื้อสองเล่มนี้มาค่ะ
ก็ช่วยได้ระดับนึงนะคะ
4. Collins Writing for IELTs
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
5. เล่มของคนไทย สีเหลือง พิชิต IELTs ชื่อประมาณนี้ค่ะ
แต่เท่าที่ดูก็มีหลายเล่มนะคะ ขอไม่การันตีละกัน เพราะคะแนนยังไม่ออกเลย ไม่รู้จะดีขึ้นไหมนะคะ T-----T
นอกจากหนังสือที่กล่าวมา เราก็พยายามเปิดวิทยุฟังข่าวภาษาอังกฤษ แล้วพูดตามเป็นคำ ๆ ไป ให้ได้สำเนียง และผ่านหูค่ะ
เปลี่ยนเพลงเป็นเพลงฝรั่ง ทั้งที่ปกติไม่ชอบเลย ดูหนัง ปกติเราฟัง Soundtrack อยู่แล้วค่ะ แต่พยายามอ่านซับน้อยลง
เดี๋ยวมารีวิวการสอบวันจริงต่อในคอมเม้นนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้