[IELTs Review] : สอบ IELTs 2019 ขอมาเล่าให้ฟัง แถมเทคนิคการเตรียมตัวสอบ แบบอ่านเองค่ะ

สวัสดีค่ะ พอดีเราเพิ่งสอบ IELTs มา 2 รอบ ในช่วง สามเดือน เลยอยากมาแบ่งปันเล็ก ๆ สำหรับคนที่กำลังเตรียมตัวค่ะ

(เดี๋ยวมีต่อเรื่องการสอบที่เจ้า B และ I ตามต่อได้ในคอมเม้นนะคะ)

*หากผิดพลาดประการใด ขออภัยล่วงหน้านะคะ  เตือนกันได้จ้า ยินดีแก้ไข*

>>>>เรื่องแรก : พื้นฐานเดิมของจขกท. และการเตรียมตัว

ขอเล่าเรื่องตัวเองก่อนเนอะ ....

>> เราเรียนโรงเรียนไทยตลอดค่ะ แต่เป็นโรงเรียนเอกชนที่วิชาภาษาอังกฤษเรียนยาก (มาก)  อ่าน-ฟังพอได้ แต่พูด-เขียนอยู่ระดับน้อย กลัวฝรั่งแบบเจอแล้ววิ่งหนี  แถมไม่ชอบดูหนังฟังเพลงภาษาอังกฤษเลยค่ะ 

>> มหาวิทยาลัยเลือกเรียนภาคอินเตอร์ คือสอบเข้าได้ค่ะ เข้าใจแกรมม่า ทำโจทย์ตามตำราได้ แต่ใช้จริงไม่ได้ (เชื่อว่าหลายคนอาจเป็นเหมือนเรานะ) สามเดือนแรกเป็นใบ้เลยค่ะ ฟังไม่ออก พรีเซ้นไม่ได้ แต่อยู่ ๆ พอเริ่มชินเพราะสถานการณ์บังคับให้ใช้ทั้งฟังพูดอ่านเขียน มันก็เหมือนได้เองระดับหนึ่ง ผ่านหูมาแล้วเข้าใจเอง ฟัง-อ่านดีขึ้นมาก แต่พูดกับเขียน ถือว่าดี แต่ถ้าเทียบกับเพื่อนที่จบอินเตอร์ หรือเคยไปแลกเปลี่ยนมา ก็เทียบไม่ได้เลยค่ะ

 >> จบทำงานบริษัทต่างชาติค่ะ ใช้ภาษาอังกฤษพื้นฐาน เขียนอีเมล กับคุย Skype กะฝรั่งบ้างนาน ๆ ที นอกนั้นคนในออฟฟิศคนไทยหมดเลยค่ะ ถือว่าพัฒนามาระดับหนึ่ง

โอเค ทีนี้อยากไปต่อโทเมืองนอกค่ะ แต่ไม่อยากเสียเงินเรียนติว เพราะเป็นคนถนัดการอ่านเอง รู้สึกว่าเข้าหัว จำได้มากกว่า และที่สำคัญคือ...งกค่ะ >< มันแพง

ระยะเวลาเตรียมตัวก่อนสอบครั้งแรก : 1.5 เดือน ค่ะ แบบอ่านวันละ 2-3.5 ชั่วโมง หยุดพัก 2 ครั้งต่อสัปดาห์ เพราะเบื่อค่ะ อ่านทุกวันมันเครียดไป ระหว่างนั้นทำงานประจำด้วยค่ะ ก็มีเหนื่อยบ้างเลยต้องแอบอู้ ก็อ่านตอนค่ำ ๆ หรือเสาร์อาทิตย์ค่ะ ตามสะดวก

 
หนังสือที่ใช้ คือ
1. Barron's IELTs เล่มขาว-แดงเลือดหมูค่ะ 

เล่มนี้เป็นพื้นฐานเบสิกมาก ๆ เหมาะสำหรับคนที่เริ่มต้นเลย แต่ถ้ามีพื้นฐานอยู่บ้าง เราคิดว่าออกจะง่ายไปเล็กน้อยนะคะ ถ้าภาษา แกรมม่า Vocab พอได้อยู่แล้ว แนะนำว่าข้ามได้จ้า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

2. Official Guide Cambridge เล่มสีขาว ๆ ขอบบน-ล่าง สีน้ำเงินค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

เล่มนี้คือดีมากค่ะ รู้สึกว่าตอบโจทย์ ครบครัน เหมาะสำหรับคนที่พอได้ภาษา แต่ไม่รู้ว่า IELTs คืออะไร ในบทจะค่อย ๆ ทำให้เราเข้าใจ ค่อย ๆ อ่านไล่ไปจะเริ่มจับจุดได้ มีทวนสิ่งที่รู้แต่ลืม มีบอกเทคนิคไว้ด้วยเรื่อย ๆ ตลอดเล่ม ไล่อ่านจากแรกจนจบ คือเข้าใจภาพรวมทั้งหมด มีโจทย์สลับไป ที่เหลือก็อยู่ที่การฝึกเองต่อแล้วค่ะ

เทคนิคส่วนตัวของเราคือ ไฮไลท์ไปเรื่อย ๆ เฉพาะส่วนที่ไม่รู้จริง ๆ ค่ะ แล้วจดสรุปอันที่สำคัญอีกลงสมุดโน้ตอีกรอบ สมุดนี้เรากะไว้อ่านแบบ สามวันก่อนสอบ ฉันต้องจำสิ่งที่อยู่ในนี้ได้หมด เพราะฉะนั้น จะจด Tips วิธีว่าตอบแบบไหนรอด และคำศัพท์ใหม่ ๆ ตัวอย่างประโยค สำนวน ที่สำคัญ ใช้ได้จริง + และกะจะใช้จริง ไว้ค่ะ
**เน้นนะคะ เนื่องจากก่อนสอบจะ Panic เพราะงั้น จดแต่สิ่งที่จำเป็นค่ะ เอาให้แบบเนื้อ ๆ 1-3 วันก่อนสอบ ฉันอ่านเล่มอันนี้อย่างเดียวฉันต้องรอดค่ะ***

3. หนังสือแบบฝึกหัดข้อสอบเก่า Cambridge สีดำ ขอบม่วง/น้ำเงิน บาง ๆ เล่มนี้แพงหน่อยค่ะ แต่เรายืมเพื่อนมา ทำไปทั้งหมด 4 เล่ม (เล่ม 6-9) ตอนนี้น่าจะมีถึง 12 มั้งคะ ไม่แน่ใจ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
 
หนังสือพวกนี้ เป็นแบบฝึกหัดค่ะ คือทำไปเลย ทำเยอะ ๆ แล้วจะเข้าใจว่าจะแบ่งเวลาจริงยังไง ทำไปจับเวลาไปค่ะ เราเริ่มทำหลังจากอ่านเล่มในข้อ 2) จบ

เล่มนึงมี 4 ชุดข้อสอบ เราทำวันละ 1 ชุด หรือครึ่งชุดค่ะ  แต่ก็เหนื่อยแหละ เลยแบ่งเป็นส่วน ๆ เช่น ทำพาร์ทฟัง  แล้วไปพัก  แล้วค่อยกลับมาทำส่วนอื่น

จนใกล้ ๆ สอบจริง ถึงทำรวดเดียว ค่ะ ฝึกความถึก

***แต่ที่สำคัญคือ จับเวลาในการทำค่ะ**** 

>> Listening : 40 ข้อ
-หลากหลาย มีทั้งช้อยส์ เติมคำ เติมตาราง เติมแผนที่ 

- มีหลายสำเนียง ก็แล้วแต่ดวงด้วย หลัก ๆ เลยคือระหว่างเทปอธิบายโจทย์ก่อนเริ่ม  และ หลังจบแต่ละ Section จะมีช่วงเว้นว่างให้ทบทวน ให้เราอ่านก่อนล่วงหน้าให้มากที่สุด ขีด วง คำสำคัญ  วงตัวเลขหน้าข้อไว้ด้วย เพราะบางทีเราจะงงว่าข้อถัดไปอยู่ไหน เดี๋ยวหลุด

- บาง Section ให้เขียน NO MORE THAN TWO WORDS  คือ ตอบได้ ไม่เกิน 2 คำ ไม่งั้นผิด  ให้เราเขียนเลข 2 บนหัวกระดาษตัวใหญ่ ๆ ไว้เลย เตือนตัวเองว่าอย่าเกิน 2 นะ ! 

บางข้อ NO MORE THAN TWO WORDS AND/ OR A NUMBER  ฉะนั้นคำตอบ เราจะได้แบบนี้  [1คำ] หรือ [2 คำ] หรือ [1 คำ+1 เลข]  หรือ [2คำ+1 เลข] ก็ได้ 

นอกนั้นยังมีกฎยิบย่อยค่ะ มันจะมีทริคเล็ก ๆ อยู่ ในหนังสือมีสอนค่ะว่าอะไรนับเป็น 1 คำ หรือ 1 ตัวเลขบ้าง 
เช่น 423 = 1 ตัวเลข ,  four hundred twenty three = 1 ตัวเลข,  423 cars = 1 คำ+ 1ตัวเลข,   four hundred twenty three cars = 1 คำ+ 1ตัวเลข  ,   left-hand =  1 คำ  

NO MORE THAN ONE WORD AND/ OR A NUMBER
แต่เราต้องตอบ "23 August 2019" = 1 คำ + 2 ตัวเลข  ตอบแบบนี้ไม่ได้พราะมี เลข 2 ตัว   >>> แก้เป็น 23.08.2019  ตอบแบบนี้ได้ ถือเป็น 1 ตัวเลข

งงไหมคะ ลองไปอ่านในหนังสือดีดี จะรู้ว่ามันนับยังไง ^^ หรือลองดูจากเฉลยเวลาทำโจทย์นะคะ 

-เวลาฟัง เทปเปิดครั้งเดียว เนื้อหาจะไล่ตามโจทย์ไปเลยค่ะ ไม่กระโดด เพราะฉะนั้น อันไหนฟังไม่ทัน เดาและข้ามไปค่ะ 
-ระหว่างเทปเล่น ให้ทำในกระดาษข้อสอบไปก่อนเลยค่ะ ตอนเทปจบ จะมีให้เรา 10 นาที เอามากรอกลงกระดาษคำตอบ ทันแน่นอนค่ะ
-ระวังการสะกดคำค่ะ  -s -es ชื่อเฉพาะ เว้นวรรค Capital Letter ต่าง ๆ ผิดคือผิดเลย 0 ทันทีนะคะ ไม่มีครึ่งคะแนนใด ๆ 

>>> Reading  : 60 นาที 40 ข้อ
แบ่งเป็น 3 บทความค่ะ อันนี้เราเองทำพอดีเวลาเป๊ะ ๆ ไม่มีเวลาทวนเลยค่ะ  แล้วแต่ดวงว่าเจอหัวข้ออะไร ถนัดหรือไม่ค่ะ ทั้ง 3 หัวข้อ เรารู้สึกว่ายากระดับเดียวกันนะคะ เริ่มทำอันไหนก่อนก็ไม่น่าต่าง

-ให้จับเวลาในการทำ พยายามให้ได้ 15-18 นาที ต่อบทความ

-เวลาทำเสร็จ พยายามจดศัพท์ที่ไมรู้ออกมาใส่สมุดไว้ เพราะหลายคำมาก ออกซ้ำในบทความอื่น ถ้าเรารู้ก็ช่วยให้ทำโจทย์ง่ายขึ้นมากค่ะ

-อ่านโจทย์คร่าว ๆ ก่อนจะเริ่มอ่านบทความค่ะ เราจะได้รู้ไอเดียว่าจะจับประเด็นตรงไหน โจทย์มีหลากหลาย ทั้ง ช้อยส์ T/F ถามว่าแต่ละย่อหน้าควรมี heading อะไร ถามชื่อคนในบทความ ว่าเขามีความเห็นว่าอะไร มีบทความแบบย่อ ให้หาศัพท์จากบทความมาเติมคำในช่องว่าง

-เวลาจริง จะบีบมาก จขกท.เองเป็นคนอ่านเร็ว เลยได้เปรียบพอสมควร แต่ข้อเสียของเราคือ อ่านแสกน ไม่เป็น เราอ่านทุกบรรทัด TT ซึ่งเสียเวลามากค่ะ 

-เราใช้วิธีอ่านไปทำโจทย์ไป  สะดุดคำไหนคุ้นว่าอ่านโจทย์แล้วเจอ ก็จะวนไปทำก่อน  อันนี้แล้วแต่ความถนัดค่ะ

-พอบอกหมดเวลา วางปากกาทันทีนะคะ ห้ามเนียนเขียนต่อเลย ไม่ว่าพาร์ทไหน เสี่ยงมากค่ะ ทำให้ถูกระเบียบดีกว่าเน้อ

>> Writing : 60 นาที  แบ่งเป็น 2 ส่วนค่ะ 
อันนี้เราขอไม่คอมเม้นมาก เพราะคะแนนน้อยที่สุดค่ะ เรายังทำได้ไม่ดี
หลายคนบอกว่าให้ไปเรียนเฉพาะพาร์ทนี้ค่ะ แต่เราเองก็ไม่ได้ไป อาศัยอ่านตัวอย่าง แล้วลองเขียนตาม ถ้าจะเรียนจริง ๆ Writing ควรเรียนสุดค่ะ
หนังสือมีตัวอย่างเฉยให้ค่ะ แต่พอเขียนเอง ก็...นะ ไม่รู้ว่าดีไม่ดี ต้องลองหาคนช่วยตรวจแก้ ค่ะ

 Task 1 : 150 คำ
-มีโจทย์หลากหลายค่ะ ให้เขียนรายงานสิ่งที่ให้มา โดยไม่มีความเห็นส่วนตัวค่ะ อธิบาย เปรียบเทียบ
มีทั้ง Chart (กราฟแท่ง กราฟเส้น pie chart) / ตาราง/ ผสม/ แผนที่ / process 

-หลักการคือ เขียน overview ด้วยค่ะ อย่าลืม  นอกนั้นก็ใช้แกรมม่าให้ถูก มีคำเชื่อมที่ดี ไม่ต้องเขียนทุกอย่าง แต่รายงานจุดที่มันเด่นให้ครบ

-จำนวนคำให้กะเอาค่ะ เขียนให้เกินไว้ก่อน นับคำเองคงไม่ไหว ดูว่าปกติเราเขียนบรรทัดละกี่คำ แล้วจำเลยว่าต้องเขียนอย่างน้อยกี่บรรทัด

-เอาจริง ๆ เฉพาะ Task 1 นี้ ถ้าคิดเองในห้องสอบไม่ไหว เราว่าลองหาแพทเทิร์นการเขียน จำไปเป็นโครงคร่าว ๆ ก็พอช่วยได้นะคะ 

Task 2 : 250 คำ  
-เป็นให้เขียนเรียงความ หัวข้อทั่วไป  แต่เราต้องเขียนเชิงวิเคราะห์ แสดงความเห็นค่ะ

- อธิบายโดยมีความเห็นเรา ยกตัวอย่างด้วยค่ะ บางครั้งต้องเลือกข้างให้ชัด แล้วแต่โจทย์สั่งเลยว่าให้ทำอะไร อย่านอกเรื่องไปไกลนะคะ เค้าให้อธิบายอะไรก็ตอบเรื่องนั้น ใส่เหตุผลประกอบทุกครั้ง มีบทนำ เนื้อหา สรุป ต้องครบนะคะ ไม่งั้น Task Acheivement คะแนนจะโดนตัด สะกดคำให้ถูกต้องด้วยค่ะ

-คำเชื่อม ลำดับเหตุการณ์ต้องสมูทค่ะ แล้วแกรมม่าอีกแหละค่ะ 

>> Speaking : 11-14 นาที

-อันนี้ชิลมากค่ะ ดีสุดแล้ว ถ้าไม่มีคนให้พูดด้วย หัดพูดกับตัวเองวนไปค่ะ ดูสำเนียง ความลื่นไหล แกรมม่า หรือเปิดยูทูปแล้วลองพูดตาม

-อย่าแข็งทื่อเป็นหุ่นยนต์ ทำตัวธรรมชาติ ร่าเริง เสียงขึ้นลงให้มีชิจิตชีวาค่ะ สบตา พยายามอธิบายไป คิดศัพท์ไม่ออก ก็อธิบายวนไปค่ะ 

-โจทย์ก็เป็นเรื่องทั่วไปมากเลย บางอันเตรียมตัวได้ด้วยซ้ำ เช่นเรื่อง ว่าทำอาชีพอะไร วันนึงทำอะไร บ้านและบริเวณรอบ ๆ เป็นยังไง

-มีอันที่พูดยาว ๆ 2 นาที ตามโจทย์ที่เขาให้ ณ ตอนนั้น จะมีเวลาเตรียมตัว 1 นาทีค่ะ อันนั้นตื่นเต้นนิดหน่อย แต่ก็พยายามตอบให้ครบที่เขาถามก่อน  เวลาที่เหลือก็แถไปค่ะ ให้ครบเวลาก็จะรอด

-ตอบโกหกไปก็ได้ค่ะ เขาดูแค่การตอบของเรา ไม่ได้สนว่ามันจะจริงมั้ยเนอะ เพราะฉะนั้น ตอบอะไรก็ได้ให้เราสะดวก ที่เรารู้ศัพท์เยอะ พูดได้ยาวสุด โม้ไปเลยค่ะ รู้ไม่รู้ก็โม้ไปค่ะ

เนื่องจากเราทำพาร์ท Writing ไม่ดี เลยลองสอบใหม่ เน้นติวพาร์ทนี้ค่ะ แต่เอาจริงไม่ได้รู้สึกดีขึ้นมาก  ตอนนี้รอลุ้นผลรอบ 2 อยู่ค่ะ ไว้มาอัปเดตอีกทีนะคะ

เราไปซื้อสองเล่มนี้มาค่ะ
 
ก็ช่วยได้ระดับนึงนะคะ 

4. Collins Writing for IELTs
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
 
5. เล่มของคนไทย สีเหลือง พิชิต IELTs ชื่อประมาณนี้ค่ะ

แต่เท่าที่ดูก็มีหลายเล่มนะคะ ขอไม่การันตีละกัน เพราะคะแนนยังไม่ออกเลย ไม่รู้จะดีขึ้นไหมนะคะ T-----T

นอกจากหนังสือที่กล่าวมา เราก็พยายามเปิดวิทยุฟังข่าวภาษาอังกฤษ แล้วพูดตามเป็นคำ ๆ ไป ให้ได้สำเนียง และผ่านหูค่ะ
เปลี่ยนเพลงเป็นเพลงฝรั่ง ทั้งที่ปกติไม่ชอบเลย  ดูหนัง ปกติเราฟัง Soundtrack อยู่แล้วค่ะ แต่พยายามอ่านซับน้อยลง

 
เดี๋ยวมารีวิวการสอบวันจริงต่อในคอมเม้นนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

 
 
 
  

 
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่