คุณคิดว่า "สินสอด" กลายเป็นหัญหาต้นตอการกดขี่ จริงหรือไม่ครับ??

      ตามประเพณีการแต่งงานมี สินสอด คือการให้เกียรติ ครอบครัวฝ่ายหญิง ก็เป็นเรื่องที่ดีครับ แต่ทุกวันนี้ มันกลับกลายเป็นอุปสรรค หรือเครื่องมือที่ใช้ในการกดขี่ไปแล้ว?? 
      ในยุคเศรฐกิจทุกวันนี้ การทำงานได้มีเงินเหลือเก็บในแต่ละเดือน 5,000 บาทขึ้นไปก็เป็นการยากแล้วสำหรับคนทั่วๆไป แล้วจากที่ผมพบเจอ เรื่องราวๆคนอื่นๆมากมายที่ผมได้รับรู้ มันช่างเป็นเรื่องที่น่าตลก
      ทุกวันนี้ หากครอบครัวฝ่ายหญิงเป็นคนที่ได้รับการพัฒนาทางความคิดที่ดีแล้วมันก็เป็นเรื่องที่ดีครับ แต่ส่วนใหญ่มันไม่ใช่ ด้วยประโยคที่ว่า สินสอด คือการให้เกียรติ ครอบครัวฝ่ายหญิง
ครอบครัวฝ่ายหญิง หรือแม้กระทั่งตัวผู้หญิงเองเลยเข้าใจว่า การที่ได้แต่งงานมีหน้ามีตาในสังคม สินสอดเยอะๆ สมฐานะการงาน นั้นคือการให้เกียรติ แล้วคำว่าเหมาะสมล่ะ มันคือเท่าไหร่?? จากที่ผมเห็นเขาตั้งกันไว้ยังงี้ครับ

พนักงาน,ลูกจ้าง (จบ ป.ตรี) 0.5 - 1.0 ล้าน ทอง 3-9 บาท 
สาธารณสุข,พยาบาล,ครู 0.5 - 1.5 ล้าน ทอง 5-9 บาท
เภสัชกร,หมอ 1.5 - 3.0 ล้าน ทอง 9-19 บาท
พนักงานธนาคาร 1 - 2 ล้าน ทอง 5 - 9 บาท
เจ้าของธุรกจิส่วนตัว (ขึ้นกับขนาดธุรกิจ) โดยปกติที่ผมเห็น 0.5 - 10 ล้าน
ดารา 10 - 500 ล้านหรืออาจจะมากกว่านั้น ทองกองเต็มพาน
และอื่นๆอีกมากมาย(จบ ป.ตรี) ไม่ต่ำกว่า 0.3 ล้าน ทอง 3 บาทขึ้นไป 


นี่มันคือ สังคมที่เป็นอยู่ ณ ปัจจุบัน ไม่รู้ว่าใครกำหนดขึ้นมา ลองสมมุติว่า ผู้ชาย เป็น วิศวกร รายได้ 20k ต่อเดือน เหลือเก็บ เดือนละ 5k ต่อเดือน มีแฟนเป็นพยาบาล ต้องแต่งงาน 0.5 ล้านเขาต้องเก็บเงิน 8 ปี ซึ่งมันก็นาน และใน 8 ปีอุบัติเหตุทางการเงินก็เกิดขึ้นได้เสมอ เมื่อฝ่ายชายรู้สึกว่าคงหาไม่ไหว ครอบครัวทางฝ่ายหญิงก็จะมองว่า ฝ่ายชายไม่คู่ควร บางคู่ต้องกู้เงิน สุดท้ายกลายเป็นปัญหาครอบครัวไปในที่สุด

       และคุณเชื่อไหมครับว่า มีผู้หญิงส่วนหนึ่งจะบอกว่า นี่คือการคัดสรรโดยธรรมชาติ  คุณคิดว่ามันธรรมชาติไหมครับ??

ชีวิตคู่หลายคนต้องล้มเหลวและจบลงด้วยคำว่า สินสอน  

        จนผมเริ่มตั้งคำถามแล้วว่า สินสอด คือต้นตอของการกดขี่?? หรือยังเป็นขนบทำเนียมที่ดีงามอยู่ 





แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่