สวัสดีค่ะ หลายๆคนที่เข้าโหมดชีวิตของคนเป็นแม่ มีอะไรในหัวที่เตรียมให้ลูกมากมาย และยุคนี้เรื่ิองภาษาก็ยิ่งสำคัญ ตัวเราเองพูดได้สี่ภาษา ไทย - จีน - เกาหลี - อังกฤษ เป็นคุณแม่ฟูลไทม์เลี้ยงลูกอย่างเดียว หาข้อมูลเรื่องนี้เยอะมาก และได้ข้อสรุปว่าการสร้างเด็กสองสามสี่ห้าภาษาที่ได้ผลที่สุดคือ "One person One language" 1 คน 1 ภาษา
แต่ทำยังไงล่ะคะ? เลี้ยงลูกอยู่บ้านคนเดียว สามีไปทำงานแต่เช้ากว่าจะกลับก็เหลือเวลาเล่นกับลูกนิดหน่อย เลยพยายามเน้นอังกฤษเป็นหลัก เพราะยังไงเขาอยู่ประเทศไทยเขาได้ใช้มากกว่าภาษาอื่นแน่นอน
ด้วยความไม่เก่งภาษาอังกฤษ ก็ได้แต่พูดศัพท์และประโยคง่ายๆ ไม่ต้องถามถึงแกรมม่าค่ะ มั่วมากบอกเลย เราเริ่มสับแฟลชการ์ดให้ลูกตอน 5 เดือน คือแค่อยากลองดูว่าเขาสนใจมั้ย เค้าชอบมั้ย เค้าพร้อมรับมั้ย ปรากฎว่าชอบทั้งภาษาไทยทั้งอังกฤษ สับได้ครั้งละ 5-6 รอบกว่าเขาจะเบื่อ และการสับของเราคือไม่ช้าไม่เร็วสายฟ้าแลบ เอาแบบกลางๆ
แต่การเลี้ยงและเล่นกับลูกคนเดียวอยู่บ้านทั้งวัน เชื่อว่าคนเป็นแม่อ่านอยู่ต้องเข้าใจสถานการณ์แบบนี้ หลังกินข้าว เล่นๆๆๆๆๆ ลูกหลับ พอลูกตื่นเริ่มนั่งมองของเล่นสำเร็จรูปที่กองเต็มบ้านและคำถามในใจ "เล่นไรดีวะ" คือมันวน มันซ้ำ คนเป็นแม่มันก็เบื่อเป็นเด้อออออ
เลยมองหาตัวช่วย ก็ไปพบ Toddler class ของสถาบันแห่งหนึ่ง เลยลองเข้าไปทดสอบ เข้าไปก็เล่น ร้องเพลง ในช่วงร้องเพลงเปิดโทรทัศน์อีก (เลี้ยงลูกไม่ดูจอเหนื่อยแทบตาย) พามาเข้าคลาสเปิดจอซะงั้น อยู่ในห้องเรียนครึ่งชั่วโมง ปล่อยเล่นห้องเล่นแบบบ้านบอลอีกครึ่งชั่วโมง ค่าเรียนเดือนเกือบหมื่น ไม่รวมค่าแรกเข้าอีกหมื่นเท่าไหร่นะ โอ้วโหววววววววว อยากจ่ายอยู่นะคะถ้าไม่เปิดจอและไม่ปล่อยเล่นบ้านบอล ชั่วโมงละเกือบพันนะคะคู๊ณณณณ
เลยมาบวกลบคูณหารนั่งคำนวนกับสามี แถมมีแนวร่วมดี๊ดีย์เป็นเพื่อนบ้านที่มีลูกวัยเตาะแตะเหมือนกัน เลยเอาก็เอาตัดสินใจจ้างครูฟิลิปปินส์มาสอนลูกเลยนี่แหละ
และแล้วเราก็เริ่มทำคลาสภาษาอังกฤษเล็กๆในหมู่บ้าน โดยมีเพื่อนๆมาร่วมแชร์ค่าครู เก็บคนละ 3,500 บาทต่อเดือน เล่นกันจันทร์ - ศุกร์ วันละ 1 ชั่วโมง (ประมาณ 20 ชั่วโมงต่อวัน) ซึ่งปัจจุบันก็ยังไม่พอค่าครู ฮ่าๆๆๆๆ คุณพ่อคุณแม่เข้าไปดูกิจกรรมที่เราทำกันได้ที่ Facebook fanpage @funfriendsthailand ค่ะเผื่อได้ไอเดียไปเล่นกับลูกๆนะคะ เราเล่นกิจกรรมง่ายๆเน้นมาเล่นให้ลูกและเพื่อนๆลูกสนุก ซึมซับภาษาอังกฤษผ่านการเล่น และของเล่น อุปกรณ์จากรีไซเคิลเพื่อให้เด็กๆมีความคิดสร้างสรรค์ เล่น Outdoor เดินเท้าเปล่า Sensory Intregration (SI) ครบทุกด้าน
ลูกชายและเพื่อนเข้าคลาสกันมาเข้า 10 เดือน (ตอนนี้ลูกชาย 1 ขวบ 10 เดือน) เขาเข้าใจทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย ด้านการพูดเขาเรื่มพูดเป็นคำตอน 1 ขวบ 5 เดือนตอนแรกกังวลว่าเขาจะพูดช้า แต่ก็คิดในใจว่าเอาหน่ะ เด็กสองภาษาค่อยตัดสินว่าช้าไม่ช้าตอนสองขวบแล้วกัน ตอนนี้กัน 1 ขวบ 10 เดือนแล้วค่ะ ต่อยหอยมากทั้งไทยและอังกฤษกำลังหัดเรียงประโยคเองแล้ว จิ้มและอ่าน A-Z ได้เกือบทุกตัว
ในใจอยากเปลี่ยนพูดภาษาจีนกับลูกแล้ว แต่ก็คิดว่าพัฒนาการลูกกำลังดี กลัวสะดุด เลยจะหาครูจีนมาเสริมแทน จะพาไปเข้าคอร์สในห้างแม่ก็จ่ายไม่ไหวค่ะ ชั่วโมงเป็นพัน ยอม
ที่มาเล่าคือคิดว่าคงมีแม่หลายคนที่น่าจะไม่เก่งอังกฤษเหมือนกัน ไม่กล้าพูดกับลูก กังวลนู่นนี่เยอะ(เหมือนอย่างที่เรากังวลมาก่อน) อยากให้ลองหาคลาสภาษาอังกฤษเด็กเล็กใกล้ๆบ้านดูค่ะ นอกจากพัฒนาการด้านภาษาดี ด้านกล้ามเนื้อมัดเล็กมัดใหญ่ สมงสมองดีกว่าอยู่บ้านแน่นอน เพราะลำพังเราเลี้ยงลูกคนเดียวอยู่บ้าน แค่หุงหาอาหาร งานบ้าน เลี้ยงลูก ก็หมดเวลาเตรียมอุปกรณ์สิ่งประดิษฐ์ต่างๆนานามาเล่นกับลูกแล้วค่ะ
ขอเป็นกำลังใจให้คุณแม่ที่ไม่เก่งภาษาอังกฤษทุกคนค่ะ Fighting!!!
ปั้นลูกสองภาษา เวอร์ชั่นแม่ไม่เก่งภาษาอังกฤษ
แต่ทำยังไงล่ะคะ? เลี้ยงลูกอยู่บ้านคนเดียว สามีไปทำงานแต่เช้ากว่าจะกลับก็เหลือเวลาเล่นกับลูกนิดหน่อย เลยพยายามเน้นอังกฤษเป็นหลัก เพราะยังไงเขาอยู่ประเทศไทยเขาได้ใช้มากกว่าภาษาอื่นแน่นอน
ด้วยความไม่เก่งภาษาอังกฤษ ก็ได้แต่พูดศัพท์และประโยคง่ายๆ ไม่ต้องถามถึงแกรมม่าค่ะ มั่วมากบอกเลย เราเริ่มสับแฟลชการ์ดให้ลูกตอน 5 เดือน คือแค่อยากลองดูว่าเขาสนใจมั้ย เค้าชอบมั้ย เค้าพร้อมรับมั้ย ปรากฎว่าชอบทั้งภาษาไทยทั้งอังกฤษ สับได้ครั้งละ 5-6 รอบกว่าเขาจะเบื่อ และการสับของเราคือไม่ช้าไม่เร็วสายฟ้าแลบ เอาแบบกลางๆ
แต่การเลี้ยงและเล่นกับลูกคนเดียวอยู่บ้านทั้งวัน เชื่อว่าคนเป็นแม่อ่านอยู่ต้องเข้าใจสถานการณ์แบบนี้ หลังกินข้าว เล่นๆๆๆๆๆ ลูกหลับ พอลูกตื่นเริ่มนั่งมองของเล่นสำเร็จรูปที่กองเต็มบ้านและคำถามในใจ "เล่นไรดีวะ" คือมันวน มันซ้ำ คนเป็นแม่มันก็เบื่อเป็นเด้อออออ
เลยมองหาตัวช่วย ก็ไปพบ Toddler class ของสถาบันแห่งหนึ่ง เลยลองเข้าไปทดสอบ เข้าไปก็เล่น ร้องเพลง ในช่วงร้องเพลงเปิดโทรทัศน์อีก (เลี้ยงลูกไม่ดูจอเหนื่อยแทบตาย) พามาเข้าคลาสเปิดจอซะงั้น อยู่ในห้องเรียนครึ่งชั่วโมง ปล่อยเล่นห้องเล่นแบบบ้านบอลอีกครึ่งชั่วโมง ค่าเรียนเดือนเกือบหมื่น ไม่รวมค่าแรกเข้าอีกหมื่นเท่าไหร่นะ โอ้วโหววววววววว อยากจ่ายอยู่นะคะถ้าไม่เปิดจอและไม่ปล่อยเล่นบ้านบอล ชั่วโมงละเกือบพันนะคะคู๊ณณณณ
เลยมาบวกลบคูณหารนั่งคำนวนกับสามี แถมมีแนวร่วมดี๊ดีย์เป็นเพื่อนบ้านที่มีลูกวัยเตาะแตะเหมือนกัน เลยเอาก็เอาตัดสินใจจ้างครูฟิลิปปินส์มาสอนลูกเลยนี่แหละ
และแล้วเราก็เริ่มทำคลาสภาษาอังกฤษเล็กๆในหมู่บ้าน โดยมีเพื่อนๆมาร่วมแชร์ค่าครู เก็บคนละ 3,500 บาทต่อเดือน เล่นกันจันทร์ - ศุกร์ วันละ 1 ชั่วโมง (ประมาณ 20 ชั่วโมงต่อวัน) ซึ่งปัจจุบันก็ยังไม่พอค่าครู ฮ่าๆๆๆๆ คุณพ่อคุณแม่เข้าไปดูกิจกรรมที่เราทำกันได้ที่ Facebook fanpage @funfriendsthailand ค่ะเผื่อได้ไอเดียไปเล่นกับลูกๆนะคะ เราเล่นกิจกรรมง่ายๆเน้นมาเล่นให้ลูกและเพื่อนๆลูกสนุก ซึมซับภาษาอังกฤษผ่านการเล่น และของเล่น อุปกรณ์จากรีไซเคิลเพื่อให้เด็กๆมีความคิดสร้างสรรค์ เล่น Outdoor เดินเท้าเปล่า Sensory Intregration (SI) ครบทุกด้าน
ลูกชายและเพื่อนเข้าคลาสกันมาเข้า 10 เดือน (ตอนนี้ลูกชาย 1 ขวบ 10 เดือน) เขาเข้าใจทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย ด้านการพูดเขาเรื่มพูดเป็นคำตอน 1 ขวบ 5 เดือนตอนแรกกังวลว่าเขาจะพูดช้า แต่ก็คิดในใจว่าเอาหน่ะ เด็กสองภาษาค่อยตัดสินว่าช้าไม่ช้าตอนสองขวบแล้วกัน ตอนนี้กัน 1 ขวบ 10 เดือนแล้วค่ะ ต่อยหอยมากทั้งไทยและอังกฤษกำลังหัดเรียงประโยคเองแล้ว จิ้มและอ่าน A-Z ได้เกือบทุกตัว
ในใจอยากเปลี่ยนพูดภาษาจีนกับลูกแล้ว แต่ก็คิดว่าพัฒนาการลูกกำลังดี กลัวสะดุด เลยจะหาครูจีนมาเสริมแทน จะพาไปเข้าคอร์สในห้างแม่ก็จ่ายไม่ไหวค่ะ ชั่วโมงเป็นพัน ยอม
ที่มาเล่าคือคิดว่าคงมีแม่หลายคนที่น่าจะไม่เก่งอังกฤษเหมือนกัน ไม่กล้าพูดกับลูก กังวลนู่นนี่เยอะ(เหมือนอย่างที่เรากังวลมาก่อน) อยากให้ลองหาคลาสภาษาอังกฤษเด็กเล็กใกล้ๆบ้านดูค่ะ นอกจากพัฒนาการด้านภาษาดี ด้านกล้ามเนื้อมัดเล็กมัดใหญ่ สมงสมองดีกว่าอยู่บ้านแน่นอน เพราะลำพังเราเลี้ยงลูกคนเดียวอยู่บ้าน แค่หุงหาอาหาร งานบ้าน เลี้ยงลูก ก็หมดเวลาเตรียมอุปกรณ์สิ่งประดิษฐ์ต่างๆนานามาเล่นกับลูกแล้วค่ะ
ขอเป็นกำลังใจให้คุณแม่ที่ไม่เก่งภาษาอังกฤษทุกคนค่ะ Fighting!!!